บทที่ 7 หลานชายรุ่นที่ 17 ซูหลินเหยียน

ระบบจำลองบรรพบุรุษ

บทที่ 7 : หลานชายรุ่นที่ 17 ซูหลินเหยียน

หลานชายรุ่นที่ 18 ของซูม้อ คุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดคือคุณสมบัติการฝึกตน นี่นับเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด แม้ว่าอันอื่นจะเป็นคุณสมบัติทางธุรกิจก็ตาม

อันที่จริง ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ ต้นกล้าที่ดีในการฝึกตนเพื่อความเป็นอมตะโดยธรรมชาติแล้ว ไหนเลยจะวิ่งเพื่อไปทำธุรกิจได้

นอกจากนี้ สิ่งที่แสดงให้เห็นในตอนนี้เป็นเพียงคุณสมบัติพื้นฐานเท่านั้น มีความเป็นไปได้ที่คุณสมบัติใหม่จะปรากฏขึ้นเมื่อเขาเติบโตขึ้น

ตอนนี้ ซูม้อมียันต์เพิ่มประสิทธิภาพคุณสมบัติ หากใช้กับซูฉางเสิ่น สามารถทำให้คุณสมบัติการฝึกตนของเขาเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับเป็นระดับ ‘อัจฉริยะ’ ได้ แต่เขายังเด็กมากอยู่ ไม่จำเป็นต้องใช้ทันที

ทรัพยากรมีน้อยในช่วงแรก ควรนำไปใช้ในที่ที่จำเป็นมากที่สุดดีกว่า

ซูม้อดูคุณสมบัติของซูฉางเสิ่นเสร็จแล้ว ก็กลับไปที่หน้าลำดับวงศ์ตระกูลทั่วไป และเริ่มค้นหาข้อมูลของสมาชิกในตระกูลทีละคนอย่างช้าๆ

ตระกูลซูตอนนี้ รุ่นที่อาวุโสสุดคือรุ่นที่ 15 ของซูเฉิงซาน ผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน ระดับขอบเขตร่างกายขั้นที่แปด

ผู้นำคนที่สองคือน้องชายคนเล็กของซูเฉิงซาน ซูเฉิงเหอ ระดับขอบเขตร่างกายขั้นที่เจ็ด

ตามมาด้วย ห้าคนในรุ่นที่ 16 ลูกสามคนของซูเฉิงซาน ซูฮุ่ยเหริน ซูฮุ่ยอี้และซูฮุ่ยหมิน และลูกสองคนของซูเฉิงเหอ ซูฮุ่ยลี่กับซูฮุ่ยฮุ่ย

รุ่นที่ 17 มีสมาชิกแปดคน ซึ่งมีตัวแทนของหลานชายคนโตของตระกูลที่โตสุดคือซูหลินซง

สุดท้ายรุ่นที่ 18 มีคนเพียงคนเดียว นั่นคือซูฉางเสิ่นที่เพิ่งจะเกิด

ผู้ที่มีสายเลือดของตระกูลซูคือคนสิบหกคน ถ้ารวมทั้งภรรยาหรือลูกสะใภ้ที่ถือว่าเป็นสมาชิกในตระกูลซูด้วยแล้ว ทั้งหมดก็เป็นยี่สิบเจ็ดคนพอดี

สำหรับตระกูลการฝึกตนอมตะที่เคยรุ่งโรจน์ จุดนี้ของนับว่าค่อนข้างเสื่อมโทรมลงมาก

เทียบไม่ได้กับตระกูลใหญ่อีกสองตระกูลในเมืองสือหวง ซึ่งมีผู้คนหลายร้อยคนและมีตระกูลสาขาที่เจริญรุ่งเรือง

ย่อมเป็นเช่นนี้ ตระกูลซูย้ายมาที่นี่เมื่อ 50 ปีที่แล้ว เพียงเพื่อสร้างรากฐาน ในการทำงานหนักมากมาย ประกอบเผชิญกับโชคร้าย สมาชิกจึงไม่เจริญรุ่งเรือง

อย่างไรก็ตาม ระบบรวบรวมสิ่งเหล่านี้ มาจากบันทึกลำดับวงศ์ตระกูลซูในหนังสือเท่านั้น ไม่ได้นับกรณีที่มีการหลงทางและไม่ได้อยู่ในลำดับวงศ์ตระกูลของตระกูล มันจึงไม่ได้ปรากฏ

ถ้าวันหนึ่งพวกคนในตระกูลเหล่านั้น สามารถกลับมาหาตระกูลซูได้ เพื่อระลึกถึงบรรพบุรุษของพวกเขาก็อาจจะได้รับการยอมรับจากระบบ พวกเขาถึงจะถูกเพิ่มลงในบันทึกระบบ

“คุณสมบัติฝึกตนชั้นล่าง… คุณสมบัติฝึกตนชั้นล่าง……คุณสมบัติฝึกตนชั้นล่าง…. อนิจจา…”

ซูม้อดูที่ข้อมูลของคนในตระกูลเหล่านี้ทีละคนจากคนโตที่สุดไปหาน้องคนสุดท้องโดยเน้นที่คุณสมบัติฝึกตนที่สำคัญที่สุดเป็นหลัก และจบลงด้วยการถอนหายใจขณะมองดูพวกเขา

มันแย่มากจริงๆ

“หืม?!”

เมื่อดูคนสุดท้าย ซูม้อก็พบสถานการณ์พิเศษ

[ชื่อ : ซูหลินเหยียน]

[เพศ : ชาย]

[อายุ : 18 ปี]

[ตัวตน : ทายาทรุ่นที่ 17]

[พื้นฐานการฝึกตน : ไม่มี (ขอบเขตร่างกายขั้นที่ห้า) “คลิกเพื่อดูรายละเอียด”

[คุณสมบัติทั้งหมด : กลางระดับล่าง (ชั้นยอด) “คลิกเพื่อดูรายละเอียด”

[โชคลาภ : กลางระดับสูง]

[ประวัติชีวิต (คลิกเพื่อดูรายละเอียด)]

พื้นฐานการฝึกตนและคุณสมบัติทั้งสองอย่าง มีสองข้อมูล?

ด้วยความประหลาดใจซูม้อได้ดูรายละเอียดโปรไฟล์ของซูหลินเหยียนอย่างละเอียด

หลังจากอ่านแล้ว เขาก็เข้าใจ พื้นฐานการฝึกตนดั้งเดิมและคุณสมบัติของที่แสดงข้อมูลพิเศษทั้งสองในวงเล็บนั้นคือ ‘ข้อมูลดั้งเดิม’ ของเขา

กล่าวอีกนัยหนึ่ง : พื้นฐานการฝึกตนของซูหลินเหยียนนั้น เดิมเป็นขอบเขตร่างกายขั้นห้า แต่ตอนนี้มันหายไปแล้ว เพราะพื้นฐานการฝึกตนถูกทำลาย!

และคุณสมบัติทั้งหมดของเขา ซึ่งเดิมเป็นชั้นยอด ตอนนี้กลายเป็นกลางระดับต่ำไปแล้วเช่นกัน เพราะตันเถียนถูกทำลาย มันส่งผลให้เขาได้สูญเสียคุณสมบัติฝึกตนของเขาไป!

สำหรับสาเหตุของสถานการณ์นี้ มันถูกบันทึกไว้ในประวัติชีวิตของซูหลินเหยียน

ครั้งหนึ่งซูหลินเหยียน เนื่องจากคุณสมบัติฝึกตนที่โดดเด่น ตระกูลซูมองเขาเป็นความหวัง อายุสิบห้าปีก็มาถึงขอบเขตร่างกายขั้นที่ห้า

แม้แต่ในเมืองสือหวงทั้งหมดก็เป็นหนึ่งในกลุ่มรุ่นเยาว์อันดับต้น ๆ ครั้งหนึ่งเคยถูกยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะของเหล่าผู้เยาว์วัย

ซูหลินเหยียนยังได้รับการสนับสนุนให้เข้าร่วมนิกายหลานเย่ว เพื่อยกระดับเวทีการฝึกตนและเพื่อฟื้นฟูตระกูลของเขา

นิกายหลานเย่ว หนึ่งในสี่นิกายฝึกตนที่ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรต้าเซี่ย จะมีคนลงจากภูเขามารับสมัครลูกศิษย์ทุกๆ ห้าปี

ถ้าเขาสามารถเข้าร่วมนิกายหลานเย่วได้ ไม่เพียงแต่ซูหลินเหยียน จะมีอนาคตที่ดีกว่าเดิม แต่ตระกูลซูก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกัน

ในเวลานั้นความหวังของตระกูลซูทั้งหมดถูกวางไว้บนบ่าของซูหลินเหยียน

สามปีที่แล้ว เมื่อซูหลินเหยียนอายุสิบห้าปี ผู้คนจากนิกายหลานเย่วมาที่เมืองสือหวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์ จัดการแข่งขันประลองที่ผู้สมัครทั้งหมดต้องเข้าร่วม และผู้ที่ทำได้ดีที่สุด สามารถเข้าร่วมนิกายหลานเย่วได้

ผลลัพธ์คือ ซูหลินเหยียนพ่ายแพ้โดยศัตรูในลานประลอง และไม่เพียงแต่เขาล้มเหลวในการเข้าร่วมนิกายนิกายหลานเย่วเท่านั้น แม้แต่ตันเถียนของเขาก็พังทลาย พื้นฐานการฝึกตนของเขาเป็นอันสูญหาย

จบบทที่ 7