บทที่ 210 ศิลาแห่งการรู้แจ้งฉันต้องการมัน!

Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์

บทที่ 210 ศิลาแห่งการรู้แจ้งฉันต้องการมัน!

บนภูเขาอุกกาบาตมังกร

ตี้หลิงอสูรกลืนนภาและบรรพบุรุษของสัตว์อสูรกิเลนสวรรค์กําลังเผชิญหน้ากัน

“ตี๋ หลิงเจ้าเป็นเพียงชนรุ่นหลังที่เปลี่ยนแปลงสายเลือดได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้นแต่เจ้ากลับ

กล้าที่จะวางแผนขโมยสมบัติของเผ่าข้า!”

บรรพบุรุษสัตว์อสูรกิเลนสวรรค์กล่าวอย่างเย็นชา

“ท่านบรรพบุรุษเทียนหลินหยุดพูดไร้สาระได้แล้วใครแข็งแกร่งที่สุดต่างหากที่จะมีสิทธิ์กล่าวเหตุผล”เห็นได้ชัดว่าตี้หลิงไม่ต้องการพูดอะไรอีก”งั้นก็เข้ามา!”

บรรพบุรุษสัตว์อสูรกิเลนสวรรค์เอ่ยขึ้น

สัตว์อสูรที่อยู่โดยรอบต่างถอยออกไปเพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการต่อสู้

การต่อสู้เริ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับบรรพบุรุษของเผ่ากิเลนสวรรค์ตี้หลิงไม่กล้าที่จะประมาท มันใช้พลังทั้งหมดออกมาทันที

“เคลื่อนย้ายพริบตา!”

“กักขังมิติ!”

“คมดาบมิติ!”

ตี้ หลิง ได้แสดงความสามารถของพรสวรรค์ด้านมิติระดับสูงสุดของมันออกมาแต่บรรพบุรุษของเผ่ากิเลนสวรรค์นั้นแข็งแกร่งมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านพลังป้องกันความเร็วหรือพละกําลังของมันนั้นก็ล้วนเหนือกว่าตี๋หลิง

บรรพบุรุษของเผ่ากิเลนสวรรค์มีพรสวรรค์ด้านพละกําลังระดับลึกลับ

ตี้หลิงจึงไม่กล้าที่จะปล่อยให้บรรพบุรุษของสัตว์อสูรกิเลนสวรรค์โจมตีมัน มิฉะนั้นมันจะต้อง

บาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน

ส่วนบรรพบุรุษของสัตว์อสูรกิเลนสวรรค์เองก็กลัวดาบมิติของตี้ หลิงเช่นกัน

ตูม!!!!

การโจมตีอันรุนแรงอย่างต่อเนื่องบนภูเขาอุกกาบาตมังกร ส่งผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบแต่

ไม่ได้ทําลายสิ่งต่างๆบนภูเขา

ทั้งหินและพื้นดินในที่แห่งนี้เกิดจากซากศพของมังกรปฐพีไม่ใช่ดินหรือหินธรรมดาดังนั้นจึง

ยากที่จะทําลาย

แม้แต่เย่เทียนเองก็ยังต้องใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อขุดหลุมสําหรับเก็บตัวฝึกฝนก่อนหน้านี้

“บรรพบุรุษของเผ่าสัตว์อสูรกิเลนสวรรค์ได้เปลี่ยนแปลงสายเลือดเป็นครั้งที่ 4 แล้วและยังมีพรสวรรค์ด้านพละกําลังระดับลึกลับอีก ในทางตรงกันข้ามตี้หลิงเป็นเพียงสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิที่เปลี่ยนแปลงสายเลือดเพียงสองครั้งเท่านั้นแม้ว่ามันจะมีพรสวรรค์ด้านมิติระดับสูงสุดแต่พรสวรรค์ของมันน้อยเกินไปคงจะไม่สามารถต่อสู้ได้นานนักท้ายที่สุดมันคงหนีไปหรือไม่ก็ถอดใจยอมแพ้!”

เย่เทียนแอบประเมิน

ทันใดนั้น

เนตรแห่งความเข้าใจของเย่เทียนก็สังเกตเห็นสัตว์อสูรมายาที่ซ่อนตัวอยู่

ประเภท: อสูรมายา

พรสวรรค์ทางสายเลือด:ดารา

พรสวรรค์ด้านการปลอมตัว: สูงสุด

พรสวรรค์ล่องหน: สูงสุด

พรสวรรค์หอกวิญญาณ:สูง

“มันคืออสูรมายา!”

เย่เทียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

เขาเคยฆ่าสัตว์อสูรมายาไปหนึ่งตัวซึ่งส่งผลให้สัตว์อสูรระดับจักรพรรดิหลายตัวลงมือกําจัดเขาหนึ่งในนั้นก็คือสัตว์อสูรกลืนนภา

“เจ้าสัตว์ร้ายมายาตนนี้คงจะไม่ใช่ผู้อาวุโสของสัตว์อสูรมายาตัวนั้นหรอกนะ?”
เย่เทียนพึมพ่า

เรื่องนี้มีความเป็นไปได้สูงเพราะสัตว์อสูรมายานั้นหายากมาก เพราะมันเป็นสัตว์อสูรที่มี

พรสวรรค์ด้านการปลอมตัวและล่องหนไม่อย่างนั้นมันคงไม่ได้รับการเคารพนับถือจากสัตว์อสูรในโลกของสัตว์อสูรนี้

สัตว์อสูรมายาตัวนี้และสัตว์อสูรกลืนนภาจะต้องรู้จักกันอย่างแน่นอนและความสัมพันธ์ของ

พวกมันก็คงจะใกล้ชิดกันมาก

“สัตว์อสูรมายาตัวนี้น่าจะมาพร้อมตี้หลิงมันใช้พรสวรรค์ล่องหนซ่อนตัวและค่อยๆเข้าใกล้

ภูเขาอุกกาบาตมังกรเป็นไปได้ว่ามันจะแอบใช้หอกวิญญาณโจมตีบรรพบุรุษของเผ่ากิเลนสวรรค์”

เย่เทียนคาดเดา

สัตว์อสูรมายาตัวนี้มีพรสวรรค์ในการโจมตีวิญญาณที่หาได้ยาก แม้ว่ามันจะเป็นเพียงพรสวรรค์

หอกวิญญาณระดับสูงแต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะสามารถทําร้ายบรรพบุรุษของเผ่ากิเลนสวรรค์ได้ภายใต้การลอบโจมตีนี้ บรรพบุรุษของสัตว์อสูรกิเลนสวรรค์จะต้องมึนงงไปชั่วขณะและถ้า

อสูรกลืนนภาโจมตีออกไปด้วยคมดาบมิติบรรพบุรุษของเผ่ากิเลนสวรรค์จะต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน

สัตว์อสูรกิเลนสวรรค์นั้นพึ่งพาบรรพบุรุษของพวกมันหากบรรพบุรุษของพวกมันพ่ายแพ้

แน่นอนว่าสัตว์อสูรกิเลนสวรรค์ทั้งหมดไม่มีทางที่จะรับมือกับอสูรกลืนนภาได้

“น่าสนใจ ระหว่างสัตว์อสูรก็มีการวางแผนการเช่นนี้ด้วย!”

เย่เทียนแอบหัวเราะ

“ก่อนอื่นเราต้องคัดลอกพรสวรรค์หอกวิญญาณก่อนเนื่องจากมันเป็นพรสวรรค์ในการโจมตีวิญญาณการคัดลอกมันจะมีประโยชน์ในอนาคตอย่างแน่นอนและหากเราสามารถยกระดับมันให้

กลายเป็นระดับลึกลับได้ในอนาคตเราอาจจะได้ผสานมันกับพรสวรรค์บางอย่างที่เข้ากันได้และ

ยกระดับมันให้กลายเป็นพรสวรรค์ระดับพระเจ้า!”

เย่เทียนที่วางแผนจะคัดลอกพรสวรรค์หอกวิญญาณระดับสูงของอสูรมายา

น่าเสียดายที่ตอนนี้เขาไม่สามารถผสานพรสวรรค์ด้านการปลอมตัวระดับสูงสุดกับพรสวรรค์ล่องหนได้หากเขาต้องการประสานมันเขาต้องทําให้พรสวรรค์ทั้งสองกลายเป็นระดับลึกลับเท่านั้นและถ้าต้องการทําให้มันเป็นระดับลึกลับมี 2 วิธีพี่เขาจะทําได้ 1 คือคัดลอกพรสวรรค์ของคนอื่น 2 คือท่าความเข้าใจความลึกลับของพรสวรรค์ทั้งสองด้วยตนเอง

การต่อสู้ยังคงดําเนินต่อไปและหากอสูรมายาต้องการลอบโจมตีบรรพบุรุษของเอากิเลนสวรรค์จริงเย่เทียนก็ไม่คิดที่จะหยุดมัน

มันไม่มีประโยชน์อะไรต่อเขาเพราะยังไงพวกมันก็เป็นสัตว์อสูร แม้ว่าบรรพบุรุษของเผ่ากิเลน

สวรรค์จะถูกสังหารเขาก็จะไม่แม้แต่ขมวดคิ้ว

เป็นดังที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่นานสัตว์อสูรมายาก็เคลื่อนไหว

วู๊ซซ!

หอกวิญญาณที่มองไม่เห็นพุ่งผ่านอากาศทะลุผ่านศีรษะของบรรพบุรุษเผ่ากิเลนสวรรค์

เมื่อกิเลนสวรรค์ระดับจักรพรรดิบางตัวที่มีพรสวรรค์ด้านวิญญาณพบว่าบรรพบุรุษของพวกมัน

ถูกลอบโจมตีโดยหอกวิญญาณพวกมันก็โกรธเกรี้ยวในทันทีมัน

“หมิงคง เจ้ารนหาที่ตาย!”

สัตว์อสูรกิเลนสวรรค์ระดับจักรพรรดิคํารามอย่างเกรี้ยวกราด เห็นได้ชัดว่ามันรู้จักหมิงคงโฮกกกกกก!!!

กิเลนสวรรค์ระดับจักรพรรดิเข้าร่วมสนามรบเพื่อเตรียมพร้อมที่จะช่วยเหลือบรรพบุรุษของพวกแต่โชคร้ายที่ตอนนี้มันสายไปแล้ว!

ตี้ หลิง คว้าโอกาสนี้ปลดปล่อยคมดาบมิติโจมตีไปยังบรรพบุรุษกิเลนสวรรค์ในขณะที่จิต

วิญญาณของมันได้รับความเสียหาย

พรูดดดด

คมดาบมิติฟันไปที่หัวใจของบรรพบุรุษกิเลนสวรรค์

ทันใดนั้นพลังป้องกันตรงหัวใจของบรรพบุรุษกิเลนสวรรค์แตกกระจายพลังแห่งมิติพุ่งผ่าน

ทะลุหัวใจของมัน ทําให้มันได้รับบาดเจ็บสาหัส

“โฮกกก!!!!”

บรรพบุรุษกิเลนสวรรค์ที่เพิ่งได้สติคํารามด้วยความโกรธแต่ภายในใจของมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“ฆ่ามันซะ!”

เหล่าวานรสามตาก็ลงมือเช่นกัน

สงครามครั้งใหญ่เปิดฉากขึ้นทันที

เย่เทียนซ่อนตัวอยู่ในเงามืดและเฝ้าดูการต่อสู้ของทั้งสองฝ่าย
ครึ่งชั่วโมงต่อมา

สัตว์อสูรกิเลนสวรรค์ที่รอดชีวิตต่างโลกนี้ไปมีสัตว์อสูรกิเลนสวรรค์ระดับจักรพรรดิตายไปถึง

5 ตัวรวมไปถึงระดับศักดิ์สิทธิ์อีกเป็นจํานวนมากและบรรพบุรุษของเผ่ากิเลนสวรรค์ก็บาดเจ็บสาหัสจนหมดสติและถูกสัตว์กิเลนสวรรค์ช่วยกันพาหลบหนีแน่นอน

ตี้ หลิง อสูรกลืนนภางก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเช่นกันเผ่าวานรสามตาก็ตายไปไม่น้อย

การต่อสู้ในครั้งนี้ถือได้ว่าทั้งสองฝ่ายสูญเสียอย่างแสนสาหัส!

หมิงคงสัตว์อสูรมายาปลดปล่อยสถานะล่องหนเห็นได้ชัดว่ามันก็ได้รับบาดเจ็บที่เกิดจากการ

โจมตีเป็นวงกว้างมิฉะนั้นด้วยพรสวรรค์ล่องหนมันคงจะไม่ได้รับบาดเจ็บง่ายๆ

“ตี้ หลิง ครั้งนี้ข้าช่วยเจ้าเจ้าติดหนี้ข้าแล้ว!”

หมิงคงกล่าว

“วางใจเถอะวันหน้าเจ้ามีปัญหาข้าจะช่วยเจ้าแน่นอน!”

ตี๋ หลิงให้ค่ามั่น

“ถ้ามีค่าขอหนึ่ง ข้าต้องการยืมแผ่นศิลาแห่งการรู้แจ้งเพื่อเข้าใจพรสวรรค์ทางสายเลือดรวมไปถึงใช้ศิลาแห่งการรู้แจ้งทําการเปลี่ยนแปลงสายเลือดและเลื่อนขั้นเป็นระดับจักรพรรดิหวังว่าเจ้าจะไม่ผิดสัญญา!”อารมณ์ของหมิงคงผันผวนเล็กน้อยและรีบกล่าว

“วางใจเถอะข้าจะไม่กลับคำแม้ว่าบรรพบุรุษเผ่ากิเลนสวรรค์จะหนีไปได้แต่มันคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานตอนนี้ไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับพวกมันแล้วไปเถอะข้าจะพาเจ้าไปยังศิลาแห่งการรู้แจ้ง!”

อสูรกลืนนภากล่าว

“ตกลง!”

หมิงคงกล่าวด้วยความตื่นเต้น

พรีบ!!

ตี้หลิงอสูรกลืนนภาหมิงคงและวานรสามตาที่เหลือจะไปในทันที แต่ด้านหลังพวกมันมีชาย

เย่เทียนอยู่ในสถานะล่องหนและเปิดใช้พรสวรรค์ความเร็วขั้นสูงสุดในการบินโดยไม่มีความคนหนึ่งติดตามพวกมันไปซึ่งก็คือเย่เทียน

ผันผวนของพลังปราณเลยแม้แต่น้อยอีกทั้งพวกมันไม่ได้ใช้จิตสํานึกในการสังเกตสถานการณ์ด้านหลังพวกมันย่อมไม่พบว่าเย่เทียนกําลังแอบตามหลังพวกมันอยู่

หลังจากบินไปไม่กี่ชั่วโมงจักรพรรดิอสูรกลืนนภาก็มาถึงภูเขาลูกหนึ่ง

บนยอดเขามีถ้ำที่ม่านน้ำกั้นอยู่นี่คือรังของสัตว์อสูรกลืนนภา

“ภูเขาลูกนี้ไม่เลวเลยเลยคล้ายกับภูเขาฮวยก๊วยแต่น่าเสียดายที่มันไม่ใช่ภูเขาฮวยก๊วยเพราะที่นี่ไม่มีซุนหงอคง!”

เย่เทียนพึมพําาในใจ

ถ้ำหลังม่านน้านี้ซับซ้อนเป็นอย่างมากสัตว์อสูรกลืนนภานําทางเดินเข้าไปในส่วนลึกของถ้ำ

ด้านในมีมิติขนาดใหญ่และศิลาแห่งการรู้แจ้งก็วางอยู่ที่นั้น

“ศิลาแห่งการรู้แจ้งมีข่าวลือว่าสัตว์อสูรกิเลนสวรรค์อาศัยศิลาแห่งการรู้แจ้งนี้ทําให้พวกมันกลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งสัตว์อสูรตัวอื่นๆต่างหวาดกลัวสัตว์อสูรกิเลนสวรรค์ไม่กล้าเผชิญหน้ากับพวกมัน แต่ท้ายที่สุดศิลาแห่งการรู้แจ้งนี้ก็ตกมาอยู่ในมือของพี่ตี้หลิง ! ” เมื่อหมิงคงสัมผัสแผ่นศิลาแห่งการรู้แจ้งก็กล่าวด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย

“หมิงคงพวกเรามาทําความเข้าใจพร้อมกัน ข้าหวังว่าท่านจะสามารถทําลายขีดจํากัดทาง

สายเลือดของท่านด้วยศิลาแห่งการรู้แจ้งและก้าวไปสู่สัตว์อสูรระดับจักรพรรดิในคราวเดียวและตัวข้าเองก็จะใช้ศิลาแห่งการรู้แจ้งทําความเข้าใจความลึกลับของพรสวรรค์ด้านมิติหากทําเช่น

นั้นได้ในอนาคตข้าจะกลายเป็นสัตว์อสูรที่ทรงพลังยิ่งขึ้น!”

อสูรกลืนนภากล่าวออกมาด้วยความคาดหวัง

ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“ต้องขอโทษด้วยความปรารถนาของพวกแกคงไม่สามารถเป็นจริงได้เพราะศิลาแห่งการรู้แจ้งนี้เป็นสิ่งที่ฉันต้องการ!”

ฉันต้องการ!

สามคํานี้ดังกึกก้องสะท้อนทั่วทั้งถ้ำอย่างต่อเนื่อง