Ch.234 – กลับสู่เฟิงหลี

Provider : Muntra

 

เสาร์อาทิตย์ลง 2 ตอน วันนี้ลง 234 235

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.234 – กลับสู่เฟิงหลี

 

ไม่นาน ชิหลงก็ส่งข้อความมา บอกว่าขอแลกเปลี่ยนสินสงครามที่ได้รับเป็นเงินโดยตรง ทางฮั่นเจียนเดิมกำลังเฝ้ารอฉินเฟิงอยูที่เมืองไห่ แต่ไม่คาดคิดว่าฉินเฟิงจะชิงกลับไปก่อน

 

และฮั่นเจียนก็ยังแนะนำเขาในทำนองเดียวกัน ว่ามันจะเป็นการดีที่สุดหากแจกจ่ายเป็นเงินโดยตรง

 

เพราะทั้งสองคนนี้ต่างก็ตกหลุมพรางของเล่ยเฉิน ทำให้ไม่มีเงินไว้ใช้จ่ายหมุนเวียนอีกต่อไป

 

ต่อให้พวกเขาใช้ทรัพยากรที่ได้รับมาไถ่ถอนตัว แต่เล่ยเฉินต้องกดราคาจนต่ำ ไม่ให้ถึง 200 ล้านอย่างแน่นอน

 

ในขณะที่ฉินเฟิงได้รับทรัพยากรจนรวยมือเติบ เพราะท้ายที่สุดแล้ว เล่ยเฉินวางกับดักทุกคน ส่งทั้งหมดไปติดเกาะ ทั้งยังให้นักฆ่าจากองค์กรมืดแฝงตัวเข้าไป แต่ทั้ง 7 กลับถูกฉินเฟิงสังหารซะเองในลมหายใจเดียว และทุกคนต่างถูกเขาโด้ของจนเกลี้ยง หากเปรียบกับเลือดคงบอกได้ว่าโดนสูบจนแห้ง

 

“สินสงครามจากราชันย์จระเข้บวกกับทรัพยากรอื่นๆที่เก็บเกี่ยวมาได้ น่าจะราวๆ 3,000 ล้านเหรียญ และในเมื่อพวกคุณต้องการแค่ 1/10 ฉะนั้นผมจะโอนให้คนละ 300 ล้าน หวังว่าพวกเราจะได้ร่วมมือกันอีก!”

 

“เช่นกัน! ฉินเฟิง คุณนี่มันสุดยอดไปเลย!” ฮั่นเจียนตอบกลับ

 

“ฉินเฟิง หวังว่าคราวหน้าจะได้ร่วมทีมกันอีก” ชิหลงเองก็มีความสุข รางวัลที่ได้รับในครั้งนี้ มันคุ้มค่ามากจริงๆ

 

“ตกลง ถ้ามีโอกาสเหมาะๆ ผมจะติดต่อไป” ฉินเฟิงตอบกลับทั้งสอง จากนั้นก็โอนเงิน 300 ล้านให้แก่หลิงหวูยี่ ส่วนที่เหลือ ทั้งหมดคือของเขา!

 

หลังจากกลับไปคำนวณยอดทรัพยากรที่ได้รับจากฉินเฟิง ซูซิงฝูก็เรียกผู้คนจำนวนมากมาช่วยเหลือ กระทั่งผู้บริหารระดับสูงก็ยังร่วมคำนวณกับเขา และหลังจากทำบัญชีออกมาจนเสร็จสิ้น มูลค่าของมัน กระทั่งฉินเฟิงก็ยังตกใจ

 

“3.4หมื่นล้าน?”

 

“ถูกต้อง นั่นคือเม็ดเงินที่คำนวณได้!” เมื่อมองมายังตัวเลขเหล่านี้ ซูซิงฝูแทบหลับตาไม่ลงเลยทั้งคืน แต่นั่นก็ไม่น่าแปลกอะไร เพราะขนาดในสถานชุมชนเฉิงเป่ย แม้เขาจะเคยทำธุรกรรมใหญ่อยู่บ้าง แต่มันก็แค่หลักสิบล้าน และหากเป็นเม็ดเงินที่มากเกินไป ก็จะเหมือนอย่างคราวตอนทำธุรกิจกับฉินเฟิงในช่วงแรกๆ ที่เขาต้องนำอสังหาออกมาแลกเปลี่ยนหรือไปจำนอง!

 

แต่ตอนนี้ เมื่อได้นับเงินหลักหมื่นล้านกับตาตัวเอง ในหัวใจของซูซิงฝูก็สั่นไหว

 

—การติดตามฉินเฟิง เป็นสิ่งที่ถูกต้องจริงๆ!

 

สักพักหนึ่งฉินเฟิงจะได้สติกลับคืน

 

เพราะพอมาลองคิดดูแล้ว ตัวเลขเหล่านี้นับว่าไม่แปลกอะไร บนเกาะต่างมิติ เขาได้รับอุปกรณ์รูนมามากกว่า 40 ชิ้น แค่พวกมันชิ้นเดียวก็ขายได้ราคาดีแล้ว ไหนจะตัวกุญแจมิติที่ฉินเฟิงได้รับอีก

 

อันที่จริง เงินหมื่นล้านนี่ยังไม่นับรวมพวกสมุนไพรที่ถูกเก็บรวบรวมโดยผู้ใช้พลัง แล้วถูกชิงมาอีกทีโดยฉินเฟิงอีกนะ (ปัจจุบันถูกจับยัดลงแปลงสวนโดยมิสไป๋ชาวไร่เป็นที่เรียบร้อย) แน่นอนว่ากล่องเหรียญเงินพลังงานอีกหลายกล่องก็เช่นกัน

 

ในหลายๆกล่อง ลองเขย่าๆก็พอจะสามารถกะจำนวนของเหรียญเงินพลังงานได้ แม้วิธีนี้จะไม่สามารถคำนวณได้เป๊ะๆ แต่ฉินเฟิงพอจะสามารถประมาณการคร่าวๆได้ ว่าหากคิดเป็นเม็ดเงิน มันน่าจะมีค่าราวๆ 1 หมื่นล้าน!

 

ด้วยประสบการณ์ข้ามผ่านมิติในคราวเดียว ฉินเฟิงสามารถฟันกำไรอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยได้เป็นราวๆกว่า 5 หมื่นล้านเหรียญ!

 

นี่นับเป็นความมั่งคั่งอันน่าตื่นตะลึง

 

‘อย่างน้อยเงินจำนวนนี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว สำหรับการเลื่อนขั้นสู่ระดับจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล D ของไป๋หลี’

 

การปรนเปรอแฟนสาวแบบไม่ยั้งนี่ … ต้องใช้เงินเยอะซะจริง!

 

“ลูกพี่ ทุกอย่างพร้อมแล้ว ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำคือการโฆษณา ว่าตลาดมืดของพวกเขาพร้อมเปิดทำการแล้ว!” ซูซิงฝูกล่าวด้วยความตื่นเต้น

 

โฆษณางั้นหรือ?

 

ฉินเฟิงพอได้ยินคำนี้ สีหน้าก็กลายเป็นดำคล้ำทันที เขาย้อนคิดไปถึงตอนโฆษณาสถานชุมชนเฟิงหลี ที่ซูซิงฝูแอบนำเรื่องของตนไปใส่ในวิดีโอ

 

อย่างไรก็ตาม พอนึกถึงผลลัพธ์ที่ตามมาของมัน ฉินเฟิงก็คิดว่าดีเหมือนกัน

 

“ระหว่างที่อยู่บนเกาะต่างมิติ ฉันฆ่าคนขององค์กรมืดไปหลายคน ไม่ว่าจะเป็นหมาป่าสาว หรือสมาชิกกลุ่มชิเซี่ย อ้อ แน่นอนว่าฉันเก็บหัวของพวกมันมาด้วย และว่าจะไปหาสมาคมนักล่าเพื่อแลกเงินรางวัลอยู่พอดี รบกวนคุณช่วยดึงวิดีโอเก่าๆของพวกเขาออกมาดัดแปลงเป็นโฆษณา แล้วตัดแต่งให้เห็นว่าผมเป็นคนฆ่าคนเหล่านี้ให้หน่อยสิ พอทุกคนรู้ว่าในตลาดมืดเฟิงหลีมีของจากหมาป่าสาวและสมาชิกชิเซี่ยขาย หลายคนคงสนใจและมาทำธุรกิจกับพวกเรา”

 

ที่จริงแล้ว ฉินเฟิงไม่ได้ฆ่าแค่คนจากองค์กรมืดเท่านั้น แต่ยังฆ่าคนจากเมืองเฉิงหยางไปอีกคนหนึ่งในระหว่างการต่อสู้ชุลมุนด้วยเช่นกัน แต่เพื่อไม่ให้ใครมาสร้างปัญหาให้แก่ตนในภายหลัง ฉินเฟิงเลยไม่บอกมันออกไป

 

เพราะกำปั้นใหญ่น่ะคือตัวแทนของกฏเกณฑ์ และยามนี้เขายังมิใช่กำปั้นที่ใหญ่ที่สุด!

 

ในวันเดียวกัน ฉินเฟิงขับรถอออกจากเฟิงหลี มุ่งหน้าสู่ฐานสมาคมนักล่าเงินรางวัลประจำเฉิงเป่ย

 

นี่คือหนึ่งในองค์กรที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ตึกของสมาคมนักล่ามีขนาดใหญ่มาก มันเปล่งประกายเจิดจรัส บ่งบอกกลายๆว่าหากท่านทำงานร่วมกับที่นี่ จะได้รับผลประโยชน์มหาศาล

 

แต่ในทำนองเดียวกัน ผู้คนเกือบทั้งหมดไม่กล้าที่จะทำมัน เพราะการที่ตนจะเป็นฝ่ายถูกสังหารซะเองมันก็ง่ายเช่นกัน

 

ฉินเฟิงลงจากรถ ผู้คนโดยรอบพอเห็นเขา ต่างก็สูดหายใจลึก

 

“นั่นเลเวล E !”

 

“เขา .. เขาคือฉินเฟิง! ไม่ใช่สิ ควรจะเรียกว่าผู้ว่าการฉินต่างหาก!”

 

“เขาดูเด็กกว่าในวิดีโอโฆษณาซะอีก นี่ใช่ไหมคือสิ่งที่เรียกกันว่าอัจฉริยะ? เขาอายุแค่ 17 ปีเท่านั้นเอง!”

 

ฝูงชนกระซิบกระซาบ ทุกสายตาตรึงอยู่บนร่างของฉินเฟิงด้วยความยกย่อง เฝ้ามองจนกระทั่งแผ่นหลังของฉินเฟิงหายเข้าสู่โถงนักล่าเงินรางวัล

 

เพียงแต่ … พวกเขาต่างก็เกิดความสงสัย ว่าเหตุใดกันหนอ ฉินเฟิงถึงมาที่นี่?

 

เวลานี้ จางฮั่วหยางที่ออกมาต้อนรับฉินเฟิงเองก็อยากรู้เหมือนกัน

 

“ผู้ว่าการฉิน ลมอะไรหอบคุณมา? หรือว่าจับคนร้ายได้อีกแล้วใช่ไหมครับ?” จางฮั่วหยางรินน้ำชาให้ฉินเฟิงด้วยทัศนคติที่แสดงออกถึงความนับถือ นั่นเพราะฉินเฟิงในปัจจุบัน ไม่ใช่วัยรุ่นคนเดียวกันกับที่เขารู้จักเมื่อหลายเดือนก่อนอีกต่อไป!

 

อีกฝ่ายเป็นทั้งผู้ใช้อบิลิตี้ , ผู้ใช้วรยุทธโบราณ และบางทีอาจเป็นมือปืนด้วย

 

ชื่อเสียงของเขาช่างโดดเด่นโด่งดัง ไม่ว่าจะในฐานะผู้ว่าการสถานชุมชนเฟิงหลี , ชักนำตระกูลซินสู่ความล่มสลาย กระทั่งบางคนยังเอ่ยปากว่า ฉินเฟิงนี่แหละ คืออัจฉริยะที่จะก้าวขึ้นสู่เลเวล D เป็นคนต่อไป

 

ข่าวเกี่ยวกับวัยรุ่นคนนี้ยังคงมีรายงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนบางครั้งจางฮั่วหยางยังเกิดข้อสงสัย ว่านี่ใช่คนๆเดียวกันกับที่เขารู้จักจริงๆน่ะหรือ?

 

และตอนนี้ พอได้เจอกับฉินเฟิงอีกครั้ง จางฮั่วหยางยังรู้สึกว่ามันคล้ายไม่ใช่เรื่องจริง

 

“อ่า ผมบังเอิญล่าเหยื่อมาได้ เลยอยากจะให้คุณช่วยระบุตัวบุคคล”

 

ว่าจบ ฉินเฟิงก็ทยอยหยิบหัวคนออกมาทีละหัว ทีละหัว ใบหน้าของจางฮั่วหยางกลายเป็นแข็งค้าง คล้ายสมองเขาได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง

 

“นี่มันหมาป่าสาว!”

 

“นี่หยวนฮัน”

 

“นั่นกั๋วซิง!”

 

“ … ”

 

แต่ละหัวล้วนเป็นที่รู้จัก แต่บางคนฉินเฟิงไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ทว่าแน่นอน ทุกหัวล้วนเป็นกำลังรบสุดแกร่งขององค์กรมืด เพราะท้ายที่สุดแล้วทั้งหมดอยู่ในเลเวล E ดังนั้นยากนักที่จะไม่มีใครรู้จัก นอกไปจากหมาป่าสาวกับกลุ่มชิเซี่ยแล้ว ฉินเฟิงยังหยิบออกมาอีก 5 หัว และสามในห้าเป็นคนที่ถูกออกหมายจับ

 

ด้วยเหตุนี้เอง รางวัลค่าหัวทั้งหมดทั้งสิ้นกว่า 8.7 พันล้านเหรียญเลยมาตกลงสู่กระเป๋าของฉินเฟิง

 

นี่นับว่าเป็นการฟันกำไรอย่างแท้จริง!

 

“ผู้ว่าการฉิน คุณ … คุณไปทำอะไรมา?”

 

ฉินเฟิงยิ้มมุมปาก

 

“ก็ไม่ได้ทำอะไรหรอก แค่ไปงานประมูลของกลุ่มหวันซ่ง แล้วพวกมันดันอยู่ที่นั่นพอดี เลยได้ทักทายกันนิดๆหน่อยๆ”

 

จางฮั่วหยางไร้คำจะกล่าว เพราะในทุกๆปี กลุ่มหวันซ่งจะมีการจัดงานประมูล และผู้คนจากเหล่าองค์กรมืดมักจะแวะไปสังเกตการณ์ เพื่อลอบเชือดแกะอ้วน เรื่องนี้เป็นที่ฉาวโฉ่มานานมากแล้ว

 

แต่ไม่คาดคิดเลย ว่าในปีนี้ กลับกลายเป็นพวกเขาซะเองที่เป็นแกะอ้วนให้ถูกเชือด

 

“กรุณารอสักครู่ ฉันขอทำการตรวจสอบยืนยันก่อน แล้วจะรีบดำเนินการให้ทันที!”

 

ใช้เวลาไม่นาน ผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมง ทางเครือข่ายนักล่าเงินรางวัลก็รับทราบการยืนยันจากภายใน เพราะยังไงซะ ยังมีอีกหลายคนที่สามารถรอดชีวิตมาได้จากเกาะต่างมิติ เลยพอจะทราบอยู่บ้างว่าใครเป็นคนสังหารคนเหล่านี้

 

ไม่นาน จางฮั่วหยางก็ดำเนินเรื่อง ทางเครือข่ายนักล่าเงินรางวัลโอนเงินเข้าบัญชีฉินเฟิงทันที อีกทั้งยังมีจดหมายแจ้งเตือน

 

“ขอแสดงความยินดีด้วย คุณสามารถขึ้นเป็นนักล่าเงินรางวัลระดับ E ได้แล้ว เนื่องจากผลงานที่โดดเด่นของคุณ สามารถเรียกคืนความสงบจากวังวนอันสับสนวุ่นวายที่มีแต่การทำลายล้าง ดังนั้นทางเราขอมอบสิทธิพิเศษ ‘นักล่าเหรียญทอง’ ให้แก่คุณ”

 

“ส่งผลให้นับจากนี้ไป หากคุณสามารถเจ็บเป็นหรือตายผู้ร้ายในประกาศจับ คุณจะได้รับรางวัลเพิ่มเติมอีกมากถึง 10% !”

 

“ทางเราหวังว่าคุณจะทุ่มเทพยายามเพื่อความสงบสุขของสถานชุมชนต่อไป!”

 

นี่ถือว่าเป็นสิทธิพิเศษที่ไม่เลว ฉินเฟิงพยักหน้าด้วยความพอใจ และกล่าวอำลาจางฮั่วหยาง

 

และในวันเดียวกัน ข่าวที่ว่าหมาป่าสาวและคนอื่นๆถูกนำไปขึ้นเงินรางวัลก็แพร่กระจายไปทั้งสามเฉิงอย่างรวดเร็ว

 

เพราะทั้งนี้ทั้งนี้ แต่ละคนล้วนมีรางวัลนำจับนับพันล้านเหรียญ เป็นตัวแทนแสดงถึงความมั่งคั่ง

 

อีกทั้งในวันเดียวกัน ยังมีอีกข่าวหนึ่งที่น่าตกใจตามมา …