บทที่ 182 ยังคงเป็นข้า ‘ทอม’ ที่ฉลาดกว่า

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

บทที่ 182 ยังคงเป็นข้า ‘ทอม’ ที่ฉลาดกว่า

ตอนที่ฟางหนิงกำลังมองประเมินสมบัติล้ำค่าชิ้นนั้นก็ไม่ได้หลงใหลไปกับมัน ในเมื่อของล้ำค่าชิ้นนี้ทั้งใหญ่ทั้งดีก็จริง แต่เขาจะไม่ได้ใช้มันในอนาคต แค่ได้มองเป็นบุญตาเท่านั้น

เพราะฟางหนิงมีสติค่อนข้างแจ่มชัด เพราะฉะนั้นเมื่อเขาดูๆ ไปก็คิดเรื่องหนึ่งได้ พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เขาจึงพูดกับระบบ “แกดูสิว่าเจ้าหมอนั่นมีของล้ำค่าที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ดูๆ ไปแล้วอานุภาพเทพแห่งการสร้างสรรค์ทรงพลังไม่น้อยเลย พื้นที่ระบบของแกมีช่องโหว่ คราวก่อนแอนเดอร์สันก็บอกว่า เจ้าทอมแมวดำล้วงข้อมูลที่นี่ผ่านทางการติดต่อจิตวิญญาณ ก่อนหน้านี้เจ้าเมลัมก็ใช้การสวดภาวนา สื่อสารกับเทพของเขาได้จากที่นี่ ถ้าเจ้าหมอนี่มันสื่อสารกับสิ่งที่สุดยอดกว่านี้ได้ ทำให้ข้อมูลที่นี่รั่วไหลออกไปเรื่อย…”

ระบบ “นั่นไม่ยิ่งดีเหรอ ฉันยังได้รับค่าประสบการณ์เยอะแยะมาง่ายๆ…ดีที่สุดคือเอาเจ้าของล้ำค่าเข้ามาอีก”

ฟางหนิงพูดไม่ออก “ยอมแล้ว ระบบ แกสุดยอด แต่แกน่ะไร้เดียงสาอ่อนต่อโลกเกินไป มันเคยหลงกลมาแล้วครั้งหนึ่ง ยังจะเข้ามาอีกงั้นเหรอ อัศวิน A จะต้องนั่งเฉยๆ อยู่ข้างนอก แบบนั้นดีไหม”

ระบบ “ที่คุณพูดน่ะไม่มีประโยชน์ ต่อให้จะตัดขาดการติดต่อภายในเรือนจำกับภายนอก เขาถูกเราขังไว้ที่นี่ พอขังไว้นานแล้ว ไม่ช้าก็เร็วคนที่หนุนหลังเขาจะต้องมาหาอัศวิน A อยู่ดี”

ฟางหนิงตบศีรษะ “ฉันลืมเรื่องพวกนี้อีกแล้ว…ฉันต้องเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำแน่ๆ ระวังมากเกินไป แกพูดถูกแล้ว แทนที่จะปล่อยให้พวกนั้นเป็นฝ่ายมาหาอัศวิน A มันจะดีกว่าถ้าใช้ ‘เรือนจำพลังมังกร’ ดึงความสนใจของศัตรูและร่วมมือกับพันธมิตร ฝึกฝนกำลังภายในอย่างลึกซึ้งจึงจะเป็นวิถีของราชา”

ระบบ “โฮสต์นี่ไม่ใช่การระมัดระวังและไม่ใช่โรคย้ำคิดย้ำทำด้วย คุณแค่กลัวตายจนเกินไป แต่ฉันชอบคุณในจุดนี้มากที่สุด…”

ฟางหนิงตอบอย่างจนปัญญา “ขอบใจที่ชมนะท่านเทพ แต่ว่าก็ยังต้องสร้างห้องขังเดี่ยวในเรือนจำ ทำให้ห้องขังนั้นตัดขาดจากภายนอกโดยสิ้นเชิง ขังพวกที่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าแยกต่างหาก เช่นผู้ศรัทธาอย่างเมลัม ตราบใดที่มันยังสามารถสื่อสารกับเทพได้ก็จะไม่มีทางยอมศิโรราบ”

ระบบ “อืม คุณพูดถูก แต่ฟังก์ชันที่คุณพูดถึงนั้น ตอนนี้ฉันใช้เธรดเฉพาะคอยจับตาดู เหมือนกับการตัดการเชื่อมต่อรูปแบบเกมพลังจิตของคุณ สัตว์ประหลาดหนึ่งหรือสองตัวยังพอไหว แต่ถ้ามากกว่านี้ ตอนนี้ฉันเปิดเพิ่มได้อีกห้าเธรด และมันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำเฉพาะเรื่องนี้”

ฟางหนิงได้ฟังก็เห็นด้วย รีบถามว่า “งั้นไม่ได้แน่นอน มันคล้ายกับสิ่งที่แอนเดอร์สันทำตอนนี้ ยังมีวิธีอื่นอีกไหม”

ระบบ “งั้นต้องอัปเกรดพื้นที่คุกของระบบถึงจะทำได้ จริงสิ ฉันจะบอกคุณอีกเรื่องหนึ่ง อาคารของระบบที่คุณเห็นก็มีการจัดระดับเช่นกัน ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นถึงระดับปรมาจารย์ ตั้งแต่ระดับตำนานถึงระดับเทพนิยาย ยิ่งระดับสูงขึ้นเอฟเฟกต์เพิ่มเติมก็จะปรากฏมากขึ้น”

ฟางหนิง “ต้องเลื่อนระดับอีกแล้ว แกเป็นเกมต่อสู้ออโต้ด้านจอมยุทธ์จริงๆ…เพียงแต่ แกช่วยอธิบายฟังก์ชันทั้งหมดให้ชัดเจนหน่อยได้ไหม ทุกครั้งมักจะบอกฉันตอนที่เรื่องมาถึงตัวแล้ว ทำให้ฉันคิดจนปวดหัวไปหมด”

ระบบ “อ๋อ เรื่องนี้ ยังบอกคุณไม่ได้จริงๆ คุณอยากจะรู้ฟังก์ชันไหนแค่ถามฉันก็พอ ถ้ารู้ฉันจะบอกคุณ แต่ถ้าไม่ฉันจะดูว่าทำความเข้าใจได้ไหมหรือไม่ก็เลื่อนระดับ”

ฟางหนิงหัวหมุนติ้ว นึกขึ้นมาได้เรื่องหนึ่งก็เร่งเร้า “แบบนั้นมันยุ่งยากเกินไป แกบอกฉันสักครั้งเถอะ ตอนนี้สมองของฉันใช้การได้ดี แป๊ปเดียวก็จำได้แล้ว”

ระบบ “ก็เป็นเพราะสมองของคุณทำงานได้ดีเกินไปจึงไม่สามารถบอกคุณได้ทั้งหมด…เพราะคุณหลอกฉันบ่อยๆ แถมอู้งานเป็นประจำ ถ้าให้คุณรับรู้ฟังก์ชันของฉันทั้งหมดในตอนนี้ คุณจะต้องพบช่องโหว่ของฉันอีกแน่ๆ”

ฟางหนิงพูดไม่ออก มันพูดตรงเผงกับที่เขาเพิ่งคิดได้ อยากจะลองหาช่องโหว่ฟังก์ชันของระบบ ลองดูหน่อยอยากครองร่างก็ทำ หรืออยากจะพักผ่อนก็พักได้หรือไม่ อย่างนั้นชีวิตของตัวเองก็จะสมบูรณ์แบบ…

แน่นอนเป็นคนจะเอาแต่หลอกไม่ได้ ดูสิขนาดระบบงี่เง่ายังระมัดระวังตัวมากขึ้น…

เขาไม่มีเหตุผลหนักแน่นที่จะโต้แย้ง จึงทำได้เพียงบอกไปตามตรง “งั้นแกก็รีบอัปเกรดพื้นที่คุกของระบบแล้วโยนนักโทษที่เพิ่งมาใหม่เข้าไปในห้องขังเดี่ยว เรื่องนี้สำคัญมาก เจ้าสัตว์ประหลาดงูสี่หัวนั่นไม่ยอมก้มหัวง่ายๆ หรอก และเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกวิธีใช้อาวุธวิเศษ ต้องสร้างสามห้องคราวเดียว”

ระบบ “เรื่องแบบนี้ฉันยังเชื่อคุณ”

การแจ้งเตือนของระบบ (ระบบใช้ค่าประสบการณ์ 1 ล้านคะแนนคะแนนเพื่ออัปเกรดคุกของระบบ ‘เรือนจำพลังมังกร’ เป็นระดับกลาง ฟังก์ชันเสริมของสิ่งปลูกสร้างถูกเปิดใช้งานได้แก่ห้องขังเดี่ยว ผลลัพธ์ก็คือคนชั่วที่ถูกขังไว้ที่นี่จะถูกตัดการเชื่อมต่อกับภายนอกโดยสิ้นเชิง

ระบบใช้ค่าประสบการณ์ 300,000 คะแนน ใช้วัสดุก่อสร้างที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างห้องขังเดี่ยวสามห้องใน ‘เรือนจำพลังมังกร’)

ระบบ “โอเคแล้ว มีห้องขังแล้วนะ อยากจะขังใครล่ะ”

ฟางหนิงจึงรู้สึกโล่งอก ระบบเชื่อฟังตัวเองในเรื่องใหญ่ๆ ก็ดีแล้ว “ถามได้ หนึ่งคือเจ้าสัตว์ประหลาดสี่หัวนั่น แล้วก็เจ้าเมลัม เหลืออีกห้องหนึ่งปล่อยให้แอนเดอร์สันจัดการเอง ใช่แล้ว ให้อำนาจแอนเดอร์สันเข้าออกได้ตามใจ ให้เขาเข้าไปเค้นถามคนชั่วได้สะดวก”

แอนเดอร์สันถูกสั่งให้ไปยังห้องขังเดี่ยวที่สร้างใหม่ทันทีเพื่อเค้นถามเจ้าสัตว์ประหลาดสี่หัว

ฟางหนิงทำเรื่องนี้เสร็จแล้วถึงค่อยมองคทาอัญมณีนั่นอีกครั้ง ผ่านไปครู่หนึ่ง ระบบก็พูดกับเขาอีกครั้ง

ระบบ “โฮสต์ เมื่อกี้มีข่าวมาจากรูปเหมือนนกอินทรี”

ฟางหนิงนึกถึงอินทรีสวรรรค์ที่ไม่รู้ว่าโบยบินไปอยู่ไหนขึ้นมาทันที ไม่แปลกใจเลยที่ตอนนั้นมันบินจากไปโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ ที่จริงแล้วก็สามารถสื่อสารกันผ่านภาพวาดได้นี่เอง

จากนั้นระบบก็บอกต่อ “เนื้อหาในข้อความเป็นอย่างนี้ ‘พี่มังกร ข้าอยู่บนท้องฟ้าที่พวกมนุษย์เรียกว่ามหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ ที่นี่ข้าได้เจอผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งที่ทรงพลังมาก ข้ากับพี่ไม่อาจเทียบชั้นได้ หวังว่าพี่จะไม่ผ่านมาแถวนี้ ยังมีแมวดำที่ดูอ่อนแอตัวหนึ่งอยู่กับเขาด้วย เมื่อครู่ผู้แข็งแกร่งคนนั้นจู่ๆ ก็อ่อนแอลง ราวกับวิญญาณออกจากร่าง แต่ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาเมื่อไหร่ ข้าจะดูอีกสักพักค่อยจากไป’”

ฟางหนิงรู้สึกซึ้งใจหลังจากที่ได้ฟัง เจ้าน้องอินทรีสวรรค์นี้เป็นอินทรีที่ไม่เลวเลย จงรักภักดีจริงๆ ไม่น่าแปลกใจเลยที่กฎเกณฑ์ของระบบจะจัดให้เป็นตัวละครด้านความยุติธรรม

ตอนนี้เขาเอ่ยว่า “งั้นแกบอกเขาไปว่าพวกเราจับวิญญาณผู้แข็งแกร่งนั่นได้แล้ว เขาจะได้ไม่ต้องกังวล”

ระบบ “ฉันจะไม่บอกมันเรื่องนี้…มันคือนกอินทรี ถ้ามันรู้ว่าข่าวคราวนี้จะต้องไปจับตัวสัตว์ประหลาดงูสี่หัวกินแน่ๆ ครั้งก่อนตอนที่ฆ่าเจ้างูจงอางเชส คุณไม่ได้สังเกต แต่ฉันสังเกตเห็นแววตาของมันเปล่งประกายมาก เพียงแต่มันจะต้องอยากตอบแทนเราที่ช่วยมันเปลี่ยนเป็นเทพเจ้า ถึงได้ไม่ลงมือทำอะไร ตอนนี้ฉันจะต้องบอกมันอย่าทำอะไรบุ่มบ่าม ค่อยถามรายละเอียดมันอยู่ที่ไหนกันแน่”

ฟางหนิงอึ้งถึงกับพูดไม่ออก “เฮ้ย แกมันหน้าไม่อาย คนเขาเตือนด้วยความหวังดี…เห็นแกเป็นสหายร่วมรบ โชคร้ายจริงๆ ฉันจะบอกให้นะ เมื่อถึงเวลานั้นถ้าจับได้แล้วจะต้องมีส่วนแบ่งให้อินทรีสวรรค์บ้าง ถ้าไม่มีมัน แกก็หาร่างจริงของไอ้งูสี่หัวนั่นไม่เจอหรอก”

ครู่หนึ่งระบบก็เอ่ยขึ้น “แบ่งสักหน่อยก็ได้ สร้างแรงจูงใจให้มันหาสัตว์ประหลาดตัวใหญ่แบบนี้อีกก็ดี…มันตอบกลับมาแล้ว บอกว่าตอนนี้ยืนยันได้แค่อยู่บนท้องฟ้าด้านเหนือของมหาสมุทรแปซิก แต่อธิบายตำแหน่งโดยละเอียดยากมันเคยได้ยินจากสำนักสัจธรรมว่ามนุษย์อาศัยละติจูดและลองจิจูดระบุพิกัด แต่ก็ยากเกินไปที่มันจะเรียนรู้ได้

“ตอนนี้มันบอกฉันได้แค่ว่า ‘ข้างปีกมีเมฆที่รูปร่างคล้ายลูกช้าง’ และ ‘เบื้องล่างเป็นทะเลที่มีคลื่นลมแรง’ นั่นมันคือที่ไหนล่ะ โฮสต์ คุณเดาได้ไหมล่ะ”

ฟางหนิงได้ยินดังนั้นก็จนใจ “ฉันก็เดาไม่ออก มันเป็นพวกเด็กเรียนห่วยจริงๆ เหลือเชื่ออธิบายตำแหน่งกับเราแบบนี้ ไม่ต้องสนเจ้านกซื่อบื้อ แผนที่ระบบของแกน่าจะแสดงตำแหน่งของสหายร่วมรบสิ

“แม้ว่ามหาสมุทรแปซิฟิกควรจะเป็นสีดำ แต่แผนที่ก็เป็นสีดำ บินเหมือนกัน สองจุดหนึ่งเส้น พวกเราเป็นสีน้ำเงิน และมันเป็นจุดสีเขียวเพียงจุดเดียวในเขตมหาสมุทรแปซิฟิก จะต้องแก้ไขทิศทางการบินพหุภาคี ใช่แล้ว ไม่งั้นเรียกเซวียเฟิงมาสิ บอกทิศทางกับเขา อีกนิดเดียวก็จะถึงแล้ว”

ระบบ “ไม่ได้ สัตว์ประหลาดตัวนี้หายากมาก เนื้องูเป็นสิ่งล้ำค่า เด็ดหัวไปแล้วก็คือร่างงูกินได้เหมือนกัน คราวก่อนเจ้างูจงอางนั่นก็คือวัตถุดิบอาหารชั้นเลิศ รอยาสมุนไพรพลังชีวิตระดับพรีเมียมผลิตออกมา ฉันใช้ทักษะการทำอาหารระดับปรมาจารย์สามารถทำอาหารตุ๋นยาจีนระดับพรีเมียมออกมาได้มากมาย ร่างงูตัวนี้ต้องเจ๋งกว่าแน่ๆ ไม่รู้อีกกี่ปีถึงจะปรากฏอีก เราจะให้สำนักสัจธรรมรู้เรื่องนี้ไม่ได้”

ฟางหนิง “แกพูดซะฉันหนาวเลย…ตอนนี้รีบบินขึ้น ไม่ทันแล้ว เจ้าแมวดำตัวนั้นต้องพบความผิดปกติแล้วแน่ๆ จะต้องพามันไปด้วย กำชับอีกครั้งให้อินทรีสวรรค์จับตาดูทอมให้ดี”

ระบบ “วางใจเถอะ ฉันจะบอกมันทันที”

อินทรีสวรรค์นึกถึงข้อความที่ตราประทับเทพอินทรีส่งกลับมาก็ตกตะลึงพรึงเพริด

พี่มังกรบอกว่าพวกมันสองคนคือปีศาจ ตอนนี้มันรับรู้ถึงตำแหน่งของตัวเอง อีกไม่นานก็จะได้ลงโทษเจ้าสองตัวนี้

แต่ตัวเองรับรู้ได้ชัดๆ ว่าเจ้าสัตว์ประหลาดงูสี่หัวนั่นแข็งแกร่งสูง แม้ว่าคู่ต่อสู้จะอยู่ในสภาวะที่วิญญาณออกจากร่างกาย กายเนื้อนั่นไม่มีพลังที่จะสู้กลับ

แต่ข้างกายมีแมวดำเฝ้าอยู่ ถึงแม้ว่ามันจะไม่แข็งแกร่งเท่าตัวเอง แต่เมื่อมีพี่มังกรเพิ่มขึ้นมา ก็ยังไม่สามารถล้มมันได้ในเวลาอันสั้น

ถ้าเสียเวลาออกไปอย่างนี้ รอจนวิญญาณของผู้แข็งแกร่งกลับเข้าร่างก็จะเป็นหายนะ

ดูเหมือนว่าพี่มังกรจะมาจากตระกูลสูงศักดิ์ในสวรรค์ มีความแข็งแกร่งที่แฝงอยู่มากกว่าเมื่อเทียบกับตัวเองที่มาจากตระกูลต่ำต้อย จะต้องมีไพ่ตายแน่ๆ ถึงได้มั่นใจอย่างนี้

อินทรีสวรรค์เป็นถึงหัวหน้าเผ่า แม้ว่าจะเรียนไม่เก่ง แต่ก็ยังมีไอคิว ไม่นานก็คิดออกแล้ว จากนั้นยังคงใช้เอฟเฟกต์ ‘นัยน์ตาอินทรี’ ต่อไป จับตาดูก้อนเมฆที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตรโดยละเอียด

เมื่อเวลาค่อยๆ ผ่านไป ทอมแมวดำที่อยู่บนก้อนเมฆก็นั่งไม่ติดแล้ว มันจ้องมองชายสี่หัวที่อยู่ตรงข้าม ตอนนี้อีกฝ่ายหลับตาแน่นไม่เคลื่อนไหวใดๆ

“นี่มันผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว ไม่ใช่บอกว่าแป๊บเดียวก็จัดการได้เหรอ แม้ว่าจะทำลายคุกนั่นไม่ได้ในกระบวนท่าเดียว ไม่ว่ายังไงผู้ส่งสารก็ควรที่จะสื่อสารกับเทพแห่งการสร้างสรรค์แล้วส่งข่าวกลับมาบ้าง ท่านมีชาติกำเนิดที่สูงส่ง ข้าไม่กล้าเชื่อมโยงจิตวิญญาณกับท่าน เกิดเรื่องหรือเปล่าก็ไม่อาจรู้ได้ กลุ้มใจชะมัด”

แมวดำพูดพึมพำกับตัวเอง แต่ก็ยังไม่เคลื่อนย้ายร่างของชายสี่เศียรโดยพละการ

มันรู้จักอีกฝ่ายดีจึงไม่อยากที่จะยั่วโมโหผู้ส่งสารของเทพที่หยิ่งผยองผู้นี้โดยไม่มีเหตุผล

“รออีกสักครึ่งชั่วโมงแล้วกัน นานขนาดนี้ถ้าวิญญาณยังไม่กลับเข้าร่างจะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ ฉันก็จะพาร่างของท่านกลับบ้าน”

หลังจากทอมแมวดำตัดสินใจ เวลาครึ่งชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าโดยรอบยังคงเงียบสงบ มีเพียงกระแสลมในอากาศที่พัดหวิวๆ เป็นระยะ

ตอนนี้มันเข้าใจแล้ว วิญญาณผู้ส่งสารไม่มีวันกลับคืนร่างได้แน่นอนแล้ว

แต่ตอนนี้ทอมแมวดำไม่กังวล ตรงข้ามมันนึกดีใจมาก ‘เรือนจำพลังมังกร’ แปลกประหลาดจริงๆ

ก่อนหน้านี้แอนเดอร์สันทรยศหักหลังก็ตัดขาดการติดต่อทางจิตวิญญาณกับตัวเอง ตอนนั้นตัวเองก็สัมผัสได้ผ่านแอนเดอร์สันว่าในเรือนจำแห่งนั้นมีร่างเด็กของมังกรแท้อยู่ เพียงแต่อ่อนแออย่างมาก ไม่ต่างกับคนธรรมดา เมื่อกี้จึงบอกข่าวนี้กับผู้ส่งสาร

พละกำลังและลมปราณของเขาคลับคล้ายคลับคลาว่าถึงระดับ S แล้ว นับเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดอันดับหนึ่งในโลกนี้จริงๆ เขาถูกขังในนั้น หรือว่าที่นั่นอาจมีมังกรแท้ที่โตเต็มวัยแล้ว แต่ความเป็นไปได้น้อยมาก เพราะมันยากเกินไปที่มังกรแท้โตเต็มวัยจะมาจุติในเวลานี้

หรือว่า ‘เรือนจำพลังมังกรนี้’ จะเป็นมิติลับที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่ามังกร แข็งแกร่งจนผู้ส่งสารของเทพแห่งการสร้างสรรค์ก็ยังไม่มีหนทางหลบหนีออกมาได้ แบบนี้มีความเป็นไปได้มากที่สุด

เมื่อดูจากปัญญาของมังกรสามารถใช้มิติลับที่แข็งแกร่งเพื่อที่จะตั้งมั่นล่วงหน้าในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลไม่มีที่สิ้นสุดได้

ใช้วิถีแห่งเทพจริงๆ เร็วและดีก็จริง แต่มีกับดักใหญ่ นั่นคือผู้ที่มีจิตศรัทธาสูงสุดและยังเป็นผู้สืบทอดของเทพเจ้าเข้าไปในคุก งั้นแกก็ควรจะไปช่วยสิ ถ้าแกไม่ช่วยผู้ศรัทธานี้จะต้องเป็นบ้าแน่ๆ ถ้าไปช่วยก็จำเป็นต้องเหยียบกับดักนะ…

เทพแห่งความตายที่อยู่เบื้องหลังตัวเองไม่ได้ต้องการผู้ศรัทธาบูชาแต่อย่างใด เพียงแค่มีคนตายเทพแห่งความตายก็สามารถรวบรวมพลังอย่างลับๆ ผ่านแท่นบูชาที่ตนเองตั้งขึ้นได้ ทำอย่างนี้จะได้ไม่ถูกผู้ศรัทธาหลอก

แต่เพราะจุดประสงค์นี้ ตัวเองต้องกังวลเกี่ยวกับการดำเนินงานของสมาคมดุลอำนาจ ถ้าไม่ใช่เพราะนิสัยตัวเองระวังตัวก็เกือบจะถูกไอ้ทึ่มแอนเดอร์สันหลอก…

หรือว่าพวกผู้ฝึกฝนแต่ละคนจะไม่กังวล แม้ว่าพลังจะก้าวหน้าไปอย่างเชื่องช้า แต่ถ้าได้กินอิ่มก็ไม่ต้องกังวลถึงความเป็นความตายของคนอื่น อย่างน้อยก็ตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ทอมแมวดำก็ไม่รอช้าอีกต่อไป ร่างของมันพลันขยายใหญ่ขึ้นในทันทีจนดูราวกับเสือดำ จากนั้นก็ก้าวไปคว้าร่างของชายสี่เศียรขึ้นมาแล้วบินลงไปข้างล่าง

……………………………………………………..