บทที่ 283 วิธีการอันน่าตกใจเซียนต้นกําเนิดผู้เป็นอมตะ!
“อ่า ผู้ที่แสร้งท่าเป็นภูตผี ข้าเจอเจ้าแล้ว!”
เซียนต้นกําเนิดผู้ลึกลับซึ่งอาศัยอยู่ในร่างของจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์แห่งความมืดมองไปยังจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีที่ยืนหันหลังให้ในภาพด้วยดวงตาที่เย็นชา
สัญชาตญาณของเซียนต้นกําเนิดนั้นอยู่ในวิถี
ตามสัญชาตญาณของเขาตัวตนอันลึกลับที่ปรากฏในภาพ ณ ตอนนี้เป็นผู้ชี้นําให้ผู้โดดเดี่ยวบรรลุความสําเร็จในวันนี้และทําลายแผนการของเขา!
“จ้าวแห่งเกาะสุขาวดี!”
ในพิภพ ด้านนอกจากภาพโบราณของ ยอดฝีมือแดนนิรันดร์จํานวนมาก หลังจากได้เห็นฉากนี้ก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
ความเป็นไปเหล่านี้ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ชวนเวียนหัวยิ่งนัก
เดิมที หลังจากที่ผู้โดดเดี่ยวกําราบจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์แห่งความมืดแล้ว เรื่องทั้งหมดนี้ควรจะจบลง
แต่ใครจะรู้ว่าจะมีเซียนต้นกําเนิดผู้ลึกลับซึ่งแข็งแกร่งยิ่งกว่าจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์แห่งความมืดโผล่ออกมาเหตุการณ์ต่อไปนั้นคาดการณ์ใดๆไม่ได้เลยและตอนนี้เขาได้ตามหาจ้าวแห่งเกาะสุขาววดีผู้ที่ทําให้เขาเกิดความรู้สึกคุกคาม
ในตอนนี้ในใจของทุกคนเปี่ยมไปด้วยความสงสัยและสับสนพวกเขาเริ่มสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีมากขึ้น
ในประวัติศาสตร์ไร้ซึ่งการบันทึกเกี่ยวกับบุคคลนี้แม้แต่น้อยแต่เขาได้ชี้แนะผู้โดดเดี่ยวและบอกถึงเขตแดนต่างๆเหนือแดนนิรันดร์
พฤติกรรมเช่นนี้เพียงพอที่จะพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของบุคคลนี้ว่าไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนไม่เช่นนั้นเขาจะไม่รู้ความลับของเขตแดนเหล่านี้
แต่ด้วยเหตุใดก็ตามเมื่อจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์แห่งความมืดเป็นภัยพิบัติต่อพิภพจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีก็ไม่เคยเคลื่อนไหว ราวกับเขาไม่มีตัวตน
การที่ผู้โดดเดี่ยวสามารถมาถึงจุดนี้ได้เกี่ยวข้องกับจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีใช่หรือไม่?
อย่างไรก็ตามในภาพโบราณนี้ทุกคนต่างก็ได้เห็นว่าเขาเคยแก้ปัญหาปัดเป่าความสับสน
ของจอมจักรพรรดิผู้โดดเดี่ยวและบอกเขาเกี่ยวกับเขตแดนเหนือแดนนิรันดร์
ส่วนเรื่องอื่นๆนั้นยอดฝีมือแดนนิรันดร์นั้นไม่อาจรู้ได้
เมื่อเปรียบเทียบกับยอกฝีมือแดนนิรันดร์เหล่านี้แล้วผู้ที่ให้ความสําคัญกับสิ่งเหล่านี้มากไม่ใช่ใครอื่นนอกเหนือไปจากจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญแม้ว่าตอนนี้นางจะเหมือนกับราชันเฉียน ราชันดอกบัวและราชันบรรพบุรุษ หลับตาเพื่อฝึกฝนด้วยความรู้สึก
แต่สัมผัสวิญญาณของนางก็ยังตื่นตัวอยู่และคอยสังเกตทุกอย่างที่เกิดขึ้นในม้วนภาพเสมอ
และเมื่อเซียนต้นกําเนิดนี้ปรากฏขึ้นและหมายตาจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีด้วยเหตุบางอย่าง
จิตใจของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญก็เริ่มกระวนกระวาย
ตัวตนเซียนต้นกําเนิดนี้ มีส่วนในอํานาจแห่งกรรมเรียกได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงอํานาจที่สุดที่นางเคยพบเจอ
“จ้าวแห่งเกาะสุขาวดีถูกหมายตา เขาจะต่อต้านได้รึไม่?”
จิตใจที่สงบและไม่สั่นคลอนของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญเกิดระลอกคลื่น และให้ความใส่ใจกับการเปลี่ยนแปลงในภาพโบราณ
ในภาพ หลังจากสิ่งมีชีวิตลึกลับหมายตาไปที่จ้าวแห่งเกาะสุขาวดี แสงทมิฬอันไร้ที่สุดก็ปรากฏที่ดวงตาของคนผู้นั้น
และแสงอันมืดมิดนั้นก็ผสานกันในอากาศก่อตัวขึ้นเป็นอักขระแปลกประหลาดที่เปี่ยมไปด้วยกระแสพลังแห่งความมืดและความเสื่อมโทรม
“ดูหน่อยซิว่าเจ้าเป็นใครกันถึงตั้งตัวเป็นศัตรูทําลายแผนการของข้า…”
เซียนต้นกําเนิดผู้ลึกลับพึมพํากับตนเองอักขระโบราณสีดําสองตัวที่ออกจากดวงตาของเขาก็ได้กลายเป็นแสงบริสุทธิ์สองดวงใน ทันใดทะลวงผ่านชั่วนิรันดร์ข้ามมิติห้วงเวลายิงตรงไปยังภาพจากพิภพในปัจจุบันสู่ที่ซึ่งจ้าวแห่งเกาะสุขาวดียืนอยู่!
ในเวลาเดียวกันในความคิดของผู้โดดเดี่ยวความทรงจํานี้ก็ปรากฏขึ้นด้วย
ในอดีตเมื่อจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีชี้แนะแก่เขามีแสงสองดวง พุ่งผ่านชั่วนิรันดร์ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่ายิงใส่จ้าวแห่งเกาะสุขาวดี!
นี่คือเซียนต้นกําเนิด!
แม้แต่ตัวตนเช่นผู้กุมชะตาก็จะต้องกําหนดช่วงเวลาของตนทั้งหมดจึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ผ่านใจได้โดยไม่กระทบต่อตนเอง!
แต่ตัวตนอย่างเซียนต้นกําเนิดนี้สิ่งที่เขาทําในตอนนี้คือค้นประวัติของผู้โดดเดี่ยวตรวจหาตัวตนของจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีจากนั้นก็ลงมือ!
ตัวตนเช่นเซียนต้นกําเนิดนี้ไม่ต้องคิดอะไรมากนักลงมือทําาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
อันที่จริงในภาพโบราณนี้อีกฝ่ายไม่ได้รับรู้ถึงภัยคุกคามแม้แต่น้อย
ตัวตนเซียนต้นกําเนิด หากมีภัยคุกคามแม้แต่น้อยนิดในทุกย่างก้าว เขาต้องรับรู้ได้อย่างแน่นอน
แต่คนผู้นี้กลับไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด
เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่าบุคคลนี้ไม่เป็นภัยสําหรับเขา
อย่างมากที่สุด ก็คงเป็นเซียนต้นกําเนิดเช่นเดียวกับเขา
แต่แล้วยังไง?
ผู้ที่เป็นเซียนต้นกําเนิดนั้นมีวิถีที่ครอบงําสวรรค์ มีวิถีแห่งเต๋าของตัวเองอยู่ในพิภพอันมากมายนับไม่ถ้วน
ตราบใดที่ยังมีวิถีหนึ่งในพิภพไม่ถูกทําลายเขาก็จะไม่พินาศ
แม้ว่าจะเป็นเซียนต้นกําเนิดเหมือนกันมีเพียงทางเดียวเท่านั้นในการสังหารเขา
นั่นคือพิสูจน์ตนและเข้ามาแทนที่เขา!
มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะสามารถจัดการเขาได้
มิฉะนั้นเซียนต้นกําเนิดก็เหมือนกับเป็นอมตะ
และถึงจะเป็นตัวตนเซียนต้นกําเนิดอยู่จะยากแค่ไหนถ้าต้องการพิสูจน์ตนอีกครั้ง
อาจกล่าวได้ว่าตัวตนเซียนต้นกําเนิดนั้นยิ่งวิถีของตนเองลึกล้ําเท่าใดการจะพิสูจน์มันอีกครั้งก็ยากขึ้นเท่านั้นและสําหรับสิ่งมีชีวิตที่อยู่ภายใต้เซียนต้นกําเนิดนั้นยากยิ่งกว่า
หลายพันล้านปีที่วุ่นวายผ่านไปสรรพสิ่งกําเนิดขึ้นใหม่อีกครั้งจบลงที่เซียนต้นกําเนิด
ดังนั้น สําหรับตัวตนอย่างเซียนต้นกําเนิดอย่างมากที่สุดก็เพียงพ่ายแพ้ต่อเขตแดนเซียนต้นเดียวกันและส่วนใหญ่ก็เป็นเพียงการสูญเสียวิถีของตัวเองเท่านั้น
สําหรับการสิ้นชีพนั้นยากมากและแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ด้วยเหตุนี้ ตัวตนเซียนต้นกําเนิดจึงไม่ได้มีความระแวดระวังอยู่ในใจทําการตรวจสอบจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีอย่างเต็มรูปแบบ!