บทที่ 39 ปิดฉากความรู้
“ส่วนผสมระดับไฮเอนด์ มักจะต้องใช้วิธีง่ายๆในการปรุงอาหาร
นี่เป็นประโยคที่คุ้นเคยที่สุดที่ มู่เฟิง คิดอยู่ในใจ
ไก่,ต้นหอมป่า,หน่อไม้,เห็ดดอกไม้,เป็นส่วนผสมที่สดใหม่ที่สุด
สิ่งที่เขาต้องการทําในตอนนี้ก็คือการใส่เกลือลงไปในโถหินเพื่อแยกลําดับก่อนหลังที่จะใส่หน่อไม้ลงไป และตามด้วยเห็ด
ชั่วเฟิง ที่ลิ้มรสซุปไก่มาเมื่อเช้าเงยหน้ามองในหม้ออย่างใจจดใจจอ
คนอื่นๆอดไม่ได้ที่จะสูดดมกลิ่นที่โชยมาทั่วทั้ง
“พี่มู่เพิ่งนี้คือซุปไก่ที่ท่านพูดถึงเหรอ?” ดวงตาของ ไป๋หยา เป็นประกาย นางอดไม่ได้ที่จะขยับเข้าไปใกล้ โถหิน
“นี่มันหอมมาก”
มู่เฟิง พยักหน้า “น้ําซุปไก่นี้เดี๋ยวปรุงสุกจะหอมขึ้นไปอีก!”
คนอื่นๆต่างตั้งตารอ พวกเขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาที่หม้อหิน พวกเขาสูดดมกลิ่นหอมด้วยสีหน้ามึนเมาและ ไม่ยอมถอยออกไป มู่เฟิง ไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้ดี
“หัวหน้าเผ่า!” หลี่หอดที่จะพูดขึ้นมาไม่ได้
“ไก่สามารถนํามาต้มเช่นนี้หรอ? พวกเราจะกินแบบนี้กันในอนาคตใช่หรือไม่?”
มู่เฟิง กลั้นหัวเราะไว้ “จะเป็นไปได้ยังไง นี่เป็นเพียงแค่ซุปไก่ที่ดีที่สุด ต่อไป คนที่อ่อนแอ คนที่บาดเจ็บ คน ที่คลอดลูกสามารถต้มซุปไก่กินได้”
“นอกจากการต้มตุ๋นไก่นี้ยังมีวิธีกินอื่นๆแต่ต้องรอหน่อยยังไงเสียการย่างไก่ในตอนนี้ทําให้อาหารรสชาติแย่ ที่สุด!”
มู่เฟิง อยากจะบอกว่าการย่างเนื้อไก่ของเผ่าให้รสชาติแย่อะไรทํานองนั้น ปัญหาก็คือเขากลัวว่าเขาพูดไป แล้วมีหลายคนไม่เข้าใจจึงไม่อยากอธิบายก็เท่านั้น
แม้แต่การตื่นไก่นี้ก็ทําลายการรับรู้ของคนมาหลายคนแล้ว
ตอนนี้น้ําซุปในหม้อหินขนาดใหญ่มีความเข้มข้นมากขึ้น กลิ่นหอมโชยออกมาอย่างสมบูรณ์ หลายคนอดไม่ ได้ที่จะน้ําลายไหล
“หัวหน้าเผ่า ตอนนี้ข้ากินมันได้หรือยัง?” ชั่วเฟิง ที่อยู่ด้านข้างอดใจไม่ไหวเขาถือชามหินรอซุปไก่
“ยัง รอก่อน!” มู่เฟิงยิ้มและใส่เห็ดดอกไม้ลงไป
“เมื่อเห็ดสุกก็กินได้แล้ว!”
หมิงกวง ที่ดูแลเนื้อย่างหันกลับมาพูดว่า “เนื้อย่างปลาย่างพร้อมแล้ว”
“ดี!” มู่เฟิง ส่งสัญญาณให้ทุกคนนั่งบนแผ่นหินที่พวกเขาย้ายมาจากด้านนอก
“ไม่มีทางอื่นจริงๆ! ถ้าข้ารู้ตั้งแต่เนิ่นๆควรที่จะทําโต๊ะและเก้าอี้ก่อน!” มู่เฟิง ลอบถอนหายใจ
แต่ใบหน้าของเขาไม่ได้แสดงออกมา เขาส่งตะเกียบคู่หนึ่งที่ทําจากไม้ไผ่ให้กับพวกเขา และทําให้เกิด ความสงสัยขึ้นมาอีกครั้ง
“นี่มันคืออะไร?” หลีหูถาม
“นี่คือตะเกียบ!” มุมปากของ ไป๋หยา ยกขึ้นใบหน้าที่งดงามใช้ไปด้วยความภาคภูมิใจ
“ค่ากับพี่ มู่เฟิง เป็นคนทําด้วยกัน!”
“มันใช้ทําอะไร?”
“เอาไว้กินข้าวน่ะสิ!” มู่เฟิง หัวเราะและพูดกับคนอื่นๆ
“เอาชามหินมาให้ข้าข้าจะดักน้ําแกงให้พวกเจ้าเอง!”
“หืม? ให้ไป๋หยาไปทําเถอะ!” หลี่หลุกขึ้นถึง มู่เฟิง เอาไว้
“หัวหน้าเผ่านั่งลงเถอะ!”
“ก็ได้!” มู่เฟิง ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนั่งลง
“ทุกชามให้มีหน่อไม้และเห็ดดอกไม้สําหรับไก่ ให้พวกเขาดึงมันออกมาแล้ววางไว้ตรงนี้!” มู่เฟิง สัง ไห
ดังนั้นบนโต๊ะจึงมีย่า ปลาย่าง,เนื้อแกะย่าง,ไก่ตุ้นและซุปไก่
8 คนของ 5 อย่าง
อาหารที่เรียบง่ายในยุคปัจจุบันกลายเป็นอาหารที่หรูหราที่สุดในยุคดึกดําบรรพ์หลังจากที่ มู่เฟิง ข้ามมิติมา ทุกคนถือตะเกียบด้วยมือเดียวมองไปที่ มู่เฟิง ด้วยดวงตาเบิกกว้าง เพราะพวกเขาพบว่านอกเหนือจากเนื้อแกะ ย่างและปลาย่างพวกเขาไม่รู้วิธีที่จะกินของเหล่านี้
“เอิ่ม…” มู่เฟิง ตกใจ รีบหยิบตะเกียบคู่หนึ่งขึ้นมาทันทีแล้วสาธิตวิธีกิน
“นี่คือตะเกียบ สามารถใช้คีบอาหารได้!”
พูดจบ มู่เฟิง ก็คบผักชีฝรั่งใส่ปาก หลังจากเข้าปากเคี้ยวเบาๆรสชาติไม่เลว
โดยเมื่อเทียบกับเนื้อย่างรมควันไม่กี่วันก่อน มันช่างอร่อยเหลือเกิน! การเคลื่อนไหวที่เรียบง่ายเช่นนี้เป็น เรื่องยากสําหรับคนอื่นๆราวกับเป็นการปีนขึ้นสวรรค์ ไม่ใช่ว่าพวกเขาถือตะเกียบไม่ได้หรือคีบอาหารไม่ได้
แต่ถ้าให้พูดก็คือพวกเขาไม่เคยพบเห็นการกินอาหารแบบนี้มาก่อน หลังจากนั้นพวกเขาเริ่มใช้มือหนึ่งถือตะ เกียบและคืบผักชีฝรั่งเข้าปาก
หลังจากได้ลองชิมลงไปแล้วสีหน้าของทุกคนแสดงออกถึงความประหลาดใจจากนั้นพวกเขาก็หัวเราะเสียง
“นี่มันอะไรกันรสชาติไม่เหมือนเนื้อเลยแต่รสชาติอร่อยมาก!”
ไป๋หยา หัวเราะและพูดว่า
“ข้ารู้ ข้ารู้ มันคือผักชีฝรั่งป่า
พี่ มู่เฟิง บอกว่ามันเป็นผักป่าชนิดหนึ่ง สามารถกินได้!”
พวกเขามองไปที่ไป๋หยาด้วยความประหลาดใจและใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจเห็นได้ชัด ว่า มู่เฟิง สนิทกับ ไป๋หยา ในฐานะบิดาเขาย่อมรู้สึกว่า เขาได้หน้า
“ลองชิมน้ําซุปตอนร้อนๆสิ” มู่เฟิง ยกชามหินขึ้นมาและสาธิตให้ดูอีกครั้ง
“พวกเจ้าสามารถดื่มน้ําซุปก่อนแล้วค่อยกินหน่อไม้กับเห็ด!”
“หน่อไม้ เห็ด?”
ไม่รอให้ มู่เฟิง อธิบาย ชั่วเฟิง ที่อยู่ด้านข้างก็อดทนไม่ไหวเขายกชามหินขึ้นดื่มและกินเข้าไปอย่างมูมมาม
มู่เฟิง รู้สึกหมดหนทางและอยากจะพูดอะไรออกมาแต่พอคิดว่ามันไม่สมควรพูดในตอนนี้เขาจึงไม่ได้ให้ ความสนใจกับมันอีก เมื่อคนอื่นๆเห็น ชั่วเฟิง กินอย่างตะกละตะกลามและดื่มน้ําแกงเข้าไป ดังนั้นพวกเขาจึง มองชามหินในมือของตัวเอง ยางไม่อยากจะเชื่อ
“นี่คือซุปไก่งั้นหรอ?”หลี่หดื่มลงไป
“ข้าขออีกถามได้ไหม”
“ดื่มเถอะ!” มู่เฟิง ถือชามหินแล้วยกขึ้นดื่ม บอกตรงๆ ไก่ เห็ด หน่อไม้ เป็นวัตถุดิบชั้นยอดรสชาติของซุป ไก่ไม่ต้องพูดถึง ซุปไก่นี้รสชาติดีกว่าซุปที่เขาเคยดื่มในโรงแรมระดับ 5 ดาวเมื่อชาติก่อนเสียอีก
แต่ถ้าจะให้พูดจริงๆความหรูหราและความสวยงามของการได้ดื่มซุปไก่นั้นขาดหายไปเพราะการใช้ชามหิน หนักหนัก แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ปัญหาสําหรับคนอื่นๆ นอกจากซุปไก่แล้วพวกเขายังคงซึมซับรสชาติของหน่อไม้ และเห็ดแสนอร่อยทันที