ตอนที่ 269: พิษ !

“เจ้าไม่ใช่สีเฉียวฟู เจ้าคือคนที่ฆ่าสีเฉียวฟูและจากนั้นเจ้าก็ปลอมตัวเป็นเขาเพื่อวางยาพิษในน้ำของเรา”

“เจ้าเป็นใครและทำไมเจ้าถึงใส่พิษในน้ำของเรา เราไปทำอะไรเจ้าถึงเกลียดชังขนาดนั้น ? “

ผู้บังคับบัญชาการพยายามถ่วงเวลาเพื่อขับพิษภายในตัวพวกเขา

เจี้ยนเฉินหัวเราะเบา ๆ ขณะที่เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก ตอนนี้แผนของเขาเสร็จสมบูรณ์ เขาเดินไปที่ที่ชายทั้งสี่นั่งอยู่ซึ่งห่างออกไป 20 เมตร เขายิ้มพลางเอ่ยว่า ผู้บัญชาการ พวกท่านรู้สึกอย่างไรบ้างตอนนี้ ?

ผู้บัญชาการทั้งสี่ก็โล่งใจชั่วคราวเมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินเข้ามาจัดการกับพวกเขา เนื่องจากพวกเขาถูกวางพิษ เพื่อที่จะขับพิษพวกเขาจะต้องหลีกเลี่ยงการต่อสู้ หากพวกเขาต่อสู้ พิษภายในจะยากต่อการควบคุมและจะแพร่กระจายไปทั่วร่างกายในอัตราที่เร็วขึ้นทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิต

“เจ้าเป็นใครและทำไมเจ้าถึงวางยาพิษพวกเรา ? เจ้าเป็นศัตรูของอาณาจักรวายุครามหรือ ? ” ผู้บัญชาการคนหนึ่งเอ่ยถามออกมาอย่างโกรธแค้น

เจี้ยนเฉินหัวเราะเบา ๆ อย่างไม่ใยดี “การเป็นศัตรูของอาณาจักรวายุครามก็เป็นปัญหาหนึ่ง แกนอสูรจำนวนมหาศาลที่พวกเจ้าจัดหามาเพื่อใช้ในสงครามกับอาณาจักรเกอซุนใช่หรือไม่ ? “

“เจ้าเป็นสายลับจากอาณาจักรเกอซุนส่งเข้ามาแทรกซึมในอาณาจักรของเราหรือ ? ” ผู้บัญชาการจ้องเจี้ยนเฉินด้วยท่าทางที่ทำให้เขาดูคล้ายกับหมาป่ากระหายเลือดที่พร้อมจะกัดเขา

“ฮ่าฮ่า ทหารผู้นี้ฉลาดมาก จากข้อความประโยคเดียวเขาก็รู้ว่าข้ามาจากอาณาจักรเกอซุน อย่างไรก็ตามคำพูดของเจ้ามีข้อบกพร่องร้ายแรง ในขณะที่ข้าเป็นชนพื้นเมืองของอาณาจักรเกอซุน ข้าไม่ได้ตั้งใจที่จะย้ายเข้ามาอยู่ในอาณาจักรวายุครามเพื่อเป็นสายลับ เรื่องนี้ในวันนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องบังเอิญ” เจี้ยนเฉินหัวเราะอย่างมีความสุข ตอนนี้ผู้บังคับบัญชาการที่แข็งแกร่งล้วนแต่ถูกพิษ ความกดดันที่เขาได้รับจึงหมดไป

“หืมม ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่ดี ทำไมเจ้าไม่ถอดหน้ากากออกและเปิดเผยให้เราเห็นตัวตนที่แท้จริงล่ะ ? หรือว่าเจ้าเป็นคนขี้ขลาด เจ้าเลยปฏิเสธที่จะเผยโฉมหน้าให้เราเห็น ? ” ผู้บัญชาการหัวเราะเยาะ

“ข้ามีความสุขมากกับสถานการณ์นี้ การได้เห็นว่าพวกเจ้ากำลังจะตายทำไมเจ้าถึงขออะไรมากมาย การได้เห็นหน้าข้าหรือไม่ มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย” เจี้ยนเฉินหัวเราะ

“อย่างนี้นี่เอง คนของอาณาจักรเกอซุนเป็นคนขี้ขลาดที่ไม่กล้าเปิดเผยตัวตน วันนี้ข้ารู้แล้ว” ผู้บัญชาการทำเสียงฮึดฮัด

“แค่ก ! ” ทันใดนั้นผู้บัญชาการคนหนึ่งได้กระอักเลือดออกมาเต็มปาก ทำให้ใบหน้าที่ขาวซีดนั้นเปื้อนเลือดบางส่วน ตอนนี้ใบหน้าของเขาซีดเหมือนกระดาษในขณะที่เขาร้องออกมาด้วยความตกใจ “พิษชนิดนี้ทำไมมันรุนแรงได้ถึงเพียงนี้ ! “

หลังจากนั้นผู้บัญชาการสามคนที่เหลือก็ส่งเสียงคร่ำครวญเล็กน้อยเมื่อใบหน้าของพวกเขาซีดมากขึ้นเช่นกัน เลือดเริ่มไหลออกมาจากมุมปากของพวกเขา

“เกิดอะไรขึ้น? เป็นไปได้ไหมที่พิษกำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ? ไม่ว่าข้าจะพยายามใช้พลังเซียนอย่างไร พิษก็ไม่ถูกยับยั้ง เมื่อเห็นสภาพที่น่าสังเวชของผู้บัญชาการทั้งสี่ ดวงตาของเจี้ยนเฉินก็สว่างขึ้นก่อนที่จะเดินอย่างกล้าหาญเข้าไปอีก 10 เมตร

“เจ้าเป็นใครถึงมีพิษที่ร้ายแรงเช่นนี้ ? ” ผู้บัญชาการคำราม

“ข้าคิดว่าคงไม่มีอันตรายใดหากข้าจะบอกเจ้า เจ้าเคยได้ยินชื่ออสรพิษทองริ้วเงินมาก่อนหรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินถาม

อะไรนะ ? ! อสรพิษทองริ้วเงิน.. .. “

” เราถูกพิษจากอสรพิษทองริ้วเงินเช่นนั้นหรือ ? ! “

“เป็นไปไม่ได้ ! อสรพิษทองริ้วเงินนั้นหายากและล้ำค่าในทวีปเทียนหยวน ! เจ้าไปเอาพิษของมันมาได้อย่างไร ? ! “

เมื่อผู้บัญชาการได้ยินชื่ออสรพิษทองริ้วเงิน พวกเขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ไว้ได้อีกต่อไป แต่ละคนมีใบหน้าที่ดูหวาดกลัวก่อนที่จะยอมแพ้

พิษของอสรพิษทองริ้วเงินเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีพิษมากที่สุดในทวีป พิษของมันรุนแรงมากจนแม้แต่พลังเซียนก็ไม่สามารถควบคุมมันได้ โอสถหรือสมุนไพรก็ไม่มีประโยชน์เช่นกัน มีเพียงเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่อาจสามารถควบคุมและรักษาพิษของอสรพิษทองริ้วเงินให้หายขาดได้

ขณะที่ผู้บัญชาการเหล่านี้สิ้นหวัง เจี้ยนเฉินพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับกระบี่วายุโปรยพร้อมที่จะแทง ทันใดนั้นกระบี่ก็แทงเข้าไปหนึ่งในลำคอของผู้บัญชาการและฆ่าเขา เจี้ยนเฉินดึงกระบี่ออกมาแล้วพุ่งไปหาอีกคนโดยไม่ลังเล

“ทุกคนระวัง ! “

ผู้บัญชาการที่เหลืออีกสามคนตอบสนองทันที พวกเขากลับมามีสติในขณะที่ผู้บัญชาการที่ถูกเจี้ยนเฉินแทงก็ล้มลงกับพื้น ผู้บัญชาการผู้หนึ่งเหวี่ยงกระบี่ยาวเข้าใส่เจี้ยนเฉินทันทีในขณะที่อีกสองคนนำอาวุธเซียนของพวกเขาออกมาก่อนจะโจมตีใส่

เจี้ยนเฉินเผยให้เห็นรอยยิ้มเย็นชา เขาไม่กลัวเซียนปฐพีทั้งสามคนอีกต่อไป กระบี่วายุโปรยส่องแสงสามครั้ง มันปะทะกับอาวุธเซียนชิ้นอื่นพร้อมกัน

เสียงของอาวุธสามชิ้นดังกังวาน กระบี่ของเจี้ยนเฉินปะทะกับอาวุธเซียนของผู้บัญชาการทั้งสาม ทันใดนั้นอาวุธเซียนทั้งสามของเซียนปฐพีก็มีรอยบิ่นขนาดใหญ่เท่านิ้วมือ

เซียนปฐพีทั้งสามต่างพากันกระอักเลือดออกจากปาก สีหน้าของพวกเขาเจ็บปวดอย่างมาก เมื่ออาวุธเซียนของพวกเขาเสียหาย พวกเขาก็รู้สึกถึงความเสียหายเช่นกัน

” เป็นไปได้อย่างไร ? เราสามารถสัมผัสได้ว่าเจ้าไม่ใช่เซียนปฐพี เจ้าจะทำลายอาวุธเซียนของเราได้อย่างไร ? ! ” ผู้บัญชาการร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว ผู้บัญชาการอีกสองคนที่อยู่ข้างเขาต่างก็สับสนกับสถานการณ์นี้

“ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก ระวังอาวุธเซียนของเขาไว้ให้ดี มันมีพลังที่แตกต่างออกไป ! ” ผู้บัญชาการคนหนึ่งสามารถตรวจจับแสงสีม่วง-ฟ้าจาง ๆ จากกระบี่

“ตอนนี้ระวัง อย่าปล่อยให้อาวุธเซียนของเขาโจมตีเราได้ ไม่เช่นนั้นเราจะตกที่นั่งลำบาก ! ” ผู้บัญชาการแข็งแกร่งกว่าหัวหน้าตระกูลเซีย พวกเขาสามารถสรุปได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นและกระโจนใส่เจี้ยนเฉินอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

การโจมตีของเจี้ยนเฉินครอบคลุมพื้นที่มากกว่าครั้งก่อน การโจมตีแต่ละครั้งมุ่งเป้าไปที่อาวุธเซียนในมือของทั้งสามของผู้บัญชาการหรือที่คอของพวกเขา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้บัญชาการทั้งสามคนกลัวปราณกระบี่สีม่วง-ฟ้า ดังนั้นพวกเขาจึงถูกจำกัดการเคลื่อนไหว ทำให้ไม่สามารถใช้ฝีมือของพวกเขาได้เต็มที่

ทั้งสองฝ่ายยังคงต่อสู้กันด้วยความรวดเร็วสักพัก ก่อนที่เลือดจะไหลออกมาอย่างฉับพลันจากคอของผู้บัญชาการผู้หนึ่ง กระบี่ของเจี้ยนเฉินตัดเข้าที่คอของผู้บัญชาการคนนั้นจนศีรษะของเขาหลุดออกมา ทำให้คนอื่นหวาดกลัว

“เต้าจี !”

ผู้บัญชาการสองคนที่เหลือต่างเบิ่งตาโพลงจนตาแทบจะถลนออกมาขณะที่พวกเขาร้องเรียกชื่อสหายอย่างปวดร้าวใจ เจี้ยนเฉินไม่ปล่อยให้พวกเขาได้พักหายใจ เขาพุ่งเข้าใส่พวกเขาทันทีก่อนที่จะแทงผู้บัญชาการอีกคนหนึ่ง