ตอนที่ 29 การกลับมาของบรรพชน

สวรรค์ลิขิตข้าให้เป็นตัวร้าย I Am the Fated Villain

กู่ฉางเกอตัดสินใจไม่คิดมากเกินไปในเรื่องนี้ ยังไงซะ เขาก็ยังแข็งแกร่งและไม่ใช่คนโง่ ไม่ว่าบุตรฟ้าประทานที่เขาเจอจะเป็นคนแบบไหน เขาก็จะจัดการได้

เหมือนเย่เฉิน ถึงแม้สวรรค์จะปกป้องเขา เขาก็ยังโดนเขาเล่นจนเกือบตาย แม้กระทั่งซูชิงเกอ เทพธิดาที่เขารักและชื่นชมก็ยังทำลายความสัมพันธ์กับเขา(เย่เฉิน)และกลายเป็นผู้หญิงของเขา(กู่ฉางเกอ)

ยังมีแย่กว่าอีก?ที่พึ่งสุดท้ายของเย่เฉิน อาจารย์ของเขาหยานจีก็จะเป็นของเขาในไม่ช้าด้วย

ความรู้สึกของการที่ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมช่างวิเศษ!

กู่ฉางเกออดยิ้มไม่ได้พอคิดถึงเรื่องนี้ และกระโดดลงไปชั้นล่างของเรือบิน

ที่นี่มีชีวิตชีวากว่าชั้นบน

อัจฉริยะหลายคนของแดนบูรพารวมตัวกันและแลกเปลี่ยนความรู้กัน บ้างถกเถียงกันเรื่องเต๋า บ้างประลองกัน

“คุณชาย วันนี้อะไรที่ทำให้ท่านสดใสถึงเพียงนี้?”

ซูชิงเกอตามกู่ฉางเกอมาติดๆ ดวงตาคล้ายอัญมณีคู่งามของนางกะพริบด้วยความแปลกใจพอเห็นรอยยิ้มของกู่ฉางเกอ

กู่ฉางเกอแทบไม่แสดงรอยยิ้มเป็นธรรมชาติแบบนี้ ในวันปกติ ไม่เพียงจะสุขุมและเต็มไปด้วยความคิด แต่เขายังเย้าหยอกนางอย่างชั่วร้าย มันกลายเป็นเรื่องปกติที่นางจะโดนกู่ฉางเกอหยอกล้อ

เขาไม่ใช่ลูกผู้ชายเลย!

“ก็ย่อมต้องมีเรื่องดีสิ!”

กู่ฉางเกอตอบ“ช่วยบอกข้าถึงขุมอำนาจในแคว้นกลางที่ควรสนใจหน่อยได้ไหม?”

หลายวันต่อมา กู่ฉางเกอพบว่าค่าโชคของซูชิงเกอเพิ่มขึ้นมาก และนางก็เกือบข้ามสี่ร้อยแต้มไปแล้ว เป็นผลให้ค่าโชคเขาเพิ่มขึ้นตาม

การได้รับค่าโชคโดยไม่ต้องทำอะไรเป็นเรื่องดีจริงๆ

การค้นพบนี้ทำให้กู่ฉางเกอครุ่นคิดอยู่นาน สุดท้าย เขาก็สรุปว่าซูชิงเกอยังปิดบังอะไรจากเขา และนั่นก็ทำให้ค่าโชคนางเพิ่ม

เหนือสิ่งอื่นใด คนจะสามารถเพิ่มค่าโชคได้โดยไม่ต้องทำอะไรจริงเหรอ?

แต่กู่ฉางเกอก็ยังไม่คิดถามหาเหตุผลเพราะมันไม่เกี่ยวกับเขา ใครบ้างที่จะไม่มีความลับ?

ซูชิงเกอพัยกหน้าตอนนางได้ยินคำถาม นางตั้งใจรวบรวมข้อมูลของแคว้นกลางมาแล้ว และกำลังรอให้กู่ฉางเกอถาม

“แคว้นกลางแบ่งเป็นแปดเมือง โดยมีเมืองสวรรค์กลางเป็นเมืองที่เจริญสุด งานที่เจ้าชายสามแห่งราชวงศ์เซี่ยจัดจะจัดขึ้นในเมืองสวรรค์กลาง..”

“ระดับการรวมเต๋าครั้งนี้ยังไม่อาจเทียบเคียงบารมีของคุณชายได้ ดังนั้นคุณชายจึงสามารถไปแค่ดูเล่นได้!”

ฉู่เสวียนพูดเสริมจากด้านข้าง เขารีบวิ่งมาทันทีที่เห็นกู่ฉางเกอลงมาจากชั้นบน

อัจฉริยะหลายคนในระยะไกลหัวเราะแห้งตอนได้ยินคำพูดเขา พวกเขารองานนี้มานานแล้ว ปรารถนาที่จะกลายเป็นคนชื่อดังโดยการอวดพรสวรรค์ตัวเอง

“ข้าไม่สนใจงานรวมเต๋านี้”

กู่ฉางเกอไม่ปิดบัง เขามาแคว้นกลางเพราะเรื่องส่วนตัว..เพื่อตัดกระเทียมหอมอีกต้น บุตรฟ้าประทานคนใหม่

สำหรับการดูกลุ่มเด็กน้อยจากอาณาจักรเบื้องล่างถกเถียงเต๋า?เขาไม่สนใจ

[แคว้นกลาง เมืองสวรรค์กลาง ตระกูลหลินโบราณ]

ในฐานะหนึ่งในตระกูลโบราณของแคว้นกลาง ตระกูลหลินโบราณยืนอยู่สูงในเมืองสวรรค์กลางมากว่าหมื่นปีแล้ว

ตะรกูลหลินโบราณกำเนิดเมื่อสามหมื่นปีก่อน ในมือของบรรพบุรุษพวกเขาที่ฝ่าโลก ทะยานขึ้นสู่อาณาจักรเบื้องบนได้สำเร็จ

มันเพราะภูมิหลังนี้ที่ทำให้ตระกูลหลินสามารถเป็นหนึ่งในตระกูลโบราณที่แข็งแกร่งสุดของแคว้นกลางได้ มากจนถึงขั้นที่ราชวงศ์กับดินแดนศักดิ์สิทธิ์บางแห่งยังอิจฉามรดกของพวกเขา

ตอนนี้ ในโถงบรรพชนที่อยู่ลึกของตระกูลหลิน แสงเทียนไหววูบและไฟในห้องก็สลัว ในเวลเดียวกัน เสียงเอะอะโวยวายก็ดัง

“เกิดอะไรขึ้น?”

“ทำไมจู่ๆผู้อาวุโสใหญ่ถึงเรียกเรามาโถงบรรพชน?”

กลุ่มคนชรามารวมกันด้วยสีหน้าจริงจังและสงสัย ผู้นำปัจจุบันของตระกูลหลินก็ไม่เว้น

ทั้งหมดคือพวกระดับสูงสุดของตระกูลหลิน มีฐานบ่มเพาะแข็งแกร่งและมีอำนาจสูงสุด แค่การเหยียบเดียวจากพวกเขาก็สามารถทำให้โลกภายนอกสั่นสะเทือนได้

แต่ตอนนี้ ทั้งหมดยืนเหมือนคนโง่ในโถงบรรพชน พวกเขาตกใจกับการเรียกรวมอย่างฉับพลันของผู้อาวุโสใหญ่ที่ปิดด่านบ่มเพาะไปนาน

ผู้อาวุโสใหญ่ไม่แสดงตัวมาเกือบหมื่นปีแล้ว และเขาก็มีฐานบ่มเพาะยากจะหยั่งถึง หลายคนยังคิดว่าเขาลาลับไปแล้วด้วยซ้ำ

พวกเขาอดคิดไม่ได้ว่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้ผู้อาวุโสใหญ่ตื่นขึ้นและเรียกพวกเขา

สถานการณ์นี้ทำให้ทุกคนสับสน และก็จ้องมองชายชราคล้ายเด็กตรงหน้าพวกเขา

ชายชรานั้นไม่ใช่ใครนอกจากผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลหลิน!

“ทำความเคารพผู้อาวุโสใหญ่!’

“เราสงสัยว่าทำไมผู้อาวุโสใหญ่ถึงเรียกเรามาที่นี่?’

ทุกคนแสดงความสับสน

โดยทั่วไป เว้นแต่จะมีเหตุการณ์สะเทือนฟ้าดิน พวกเขาจะไม่รวมตัวกัน หรือว่าฐานบ่มเพาะของผู้อาวุโสใหญ่กำลังทะลวงผ่านและเขาก็อยากลองทะยานขึ้นฟ้า

พอเห็นทุกคนมาถึง สุดท้ายผู้อาวุโสใหญ่ก็เปิดปากด้วยใบหน้าแปลกๆ

เขาดูตื่นเต้นมาก จนถึงจุดที่ตัวสั่นไม่หยุด แต่ไม่ช้า เขาก็บังคับให้ตัวเองสงบและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“วันนี้….ข้ารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของบรรพชน..”

“มันเป็นไปได้ว่าบรรพชนได้หวนกลับมาแล้ว!”

ทั้งโถงบรรพชนตกอยู่ในความเงียบทันทีที่สิ้นเสียง

[ว่าไงนะ?!]

ทุกคนอึ้ง แต่จากนั้นความตกใจก็ปกคลุมใบหน้าพวกเขาทันที พวกเขาไม่อยากจะเชื่อ

พวกเขาสงสัยว่าตัวเองหูฝาดไปหรือเปล่า?

บรรพชนพวกเขา ผู้ที่ทะยานขึ้นไปอาณาจักรเบื้องบนเมื่อสามหมื่นปีก่อนกำลังกลับมา?

เป็นไปได้ไง?

ต้องรู้ว่าการทะยานขึ้นนั้นยาก แต่การลงมานั้นแทบเป็นไปไม่ได้!มันยากกว่าการทะยานขึ้นเป็นหมื่นเท่า

หรือบรรพชนพวกเขามีฐานบ่มเพาะน่าเหลือเชื่อแล้วในอาณาจักรเบื้องบน?จนถึงจุดที่สามารถท่องผ่านมิติได้ตามใจชอบและลงมาเพื่อพาพวกเขาขึ้นไปอาณาจักรเบื้องบน?

พอความคิดนี้แวบผ่านหัวพวกเขา ความตื่นเต้นของพวกเขาก็พุ่งทะยานและใบหน้าก็แดงก่ำไปหมด

บรรพชนพวกเขาคือตำนานจากเมื่อสามหมื่นปีก่อน!

ความรุ่งโรจน์กับอำนาจของตระกูลหลินทุกวันนี้ล้วนสั่งสมมาจากบรรพชน!

พวกเขาไม่กังขาในสิ่งที่ได้ยิน-เหนือสิ่งอื่นใด ผู้อาวุโสใหญ่ได้พูดเอง ไม่มีใครที่จะระงับความสุขไว้ได้อีก

“ดี!เยี่ยม!สุดยอด!ด้วยการกลับมาของบรรพชน ตระกูลหลินเราจะยิ่งใหญ่ขึ้น..”

“ฮ่าๆๆ!ข้าต้องให้พวกคนอื่นในแคว้นกลางรู้ว่าบรรพชนเรากลับมาแล้ว!”

“พอถึงตอนนั้น ราชวงศ์เซี่ยกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์เจียโหลวกับขุมอำนาจอื่นทั้งหมดจะต้องมาแสดงความเคารพ!อำนาจของตระกูลหลินเราจะสะเทือนทั้งแคว้นกลาง จะไม่มีใครกล้ายุ่งกับเราอีก!’

คำพูดของพวกเขาทำให้ผู้อาวุโสใหญ่พอใจ เขาพยักหน้าขณะลูบเครา“ดี ดี ดี!แจ้งคนอื่นในตระกูลให้เตรียมงานต้อนรับการกลับมาของบรรพชนเรา!”

“ตระกูลหลินเราจะมีช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ยิ่งกว่าเดิม!”