ตอนที่ 388 หลี่เฉิงเจี๋ยอ้อนวอน!

เมื่อเห็นท่าทางเศร้าสร้อยของลูกสาว น้ำตาของเย่เฉินก็ไหลลงจากดวงตาเขาหยดลงบนเรือนผมดำขลับของลูกสาว

เย่เฉินเคยผ่านประสบการณ์สงครามมาก่อน แล้วได้เห็นการตายมาจำนวนนับไม่ถ้วน แถมยังเคยเป็นเขยแต่งเข้าถึงสามปี หนำซ้ำเคยโดนหวังเจียเหยาทรยศหลายครั้ง

ทั้งการตายและทรยศ เย่เฉินก็ยังไม่เคยร้องไห้เสียใจอีกครั้ง

แต่พอเห็นท่าทางของลูกสาวเย่เฉินก็หลั่งน้ำตา!

มือสองข้างของเย่เฉินปาดน้ำตาซือซือ เขาก็พบว่าลูกสาวไร้เรี่ยวแรง เขาจัดการถอดถุงเท้าสีแดงลายโดราเอม่อนคู่นั้นที่ลูกสาวสวมใส่ พบว่าขาของหล่อนบวมและฟกช้ำดำเขียว

เย่เฉินมองซือซืออย่างอ่อนหวาน “คนดี บอกพ่อมา เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”

ซือซือร้องไห้พลางกล่าว “คุณอาหลี่ให้หนูฝึกวิชาค่ะ บอกให้หนูทำท่าเก้าอี้ลมให้หนูยืนแบบนั้นครึ่งชั่วโมง หนูยืนได้พักหนึ่ง ปวดขามาก ก็เลยยืนไม่ไหวค่ะ เขาก็เลยพูดว่าพ่อเป็นขยะ ลูกสาวที่เกิดมาเป็นขยะ พ่อไม่ใช่ขยะ พ่อไม่ใช่ขยะ!”

เย่เฉินกำหมัดแน่น เขาอยากจะแล่เนื้อหลี่เฉิงเจี๋ยเป็นชิ้นๆ!

เย่เฉินกล่าวกับซือซือ “ลูกเลยพยายามยืนเก้าอี้ลมเพราะไม่อยากให้เขาว่าลูก ขาหนูเลยเป็นตระคริวใช่ไหม?”

ซือซือพยักหน้ารับ “หนูจะไม่ยอมให้คนมาดูถูกพ่อ!”

ไม่ว่าอย่างไรเย่เฉินเองก็คิดไม่ถึงว่า เหตุการณ์ที่ทำให้ซือซือต้องตกอยู่ในสภาพนี้จะเป็นเพราะเด็กหญิงอยากจะพิสูจน์ให้หลี่เฉิงเจี๋ยเห็นเย่เฉินพ่อของหล่อนไม่ได้เป็นขยะ!

ซือซือยอมรับความเจ็บปวดแบบนี้เพื่อเย่เฉิน!

“ซือซือ!”

เย่เฉินคว้าซือซือเข้ามาในอ้อมกอด น้ำตาของเขาไหลพรั่งพรูเหมือนสายฝน

ตนเองยังเพิ่งจะเริ่มดูแลซือซือมาแค่ครึ่งเดือนนี้เอง สามปีที่ผ่านมาเขาหายไป!

เขามีบุญมาจากไหนกันถึงได้รับความรักเช่นนี้จากซือซือ?

ซือซือกล่าวกับเย่เฉิน “คุณพ่อคะ หนูอยากกลับบ้าน หนูไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว คนที่นี่น่ากลัวมาก พ่อพาหนูกับแม่ออกไปจากที่นี่ได้ไหมคะ?”

เย่เฉินพยักหน้ารับ “เราจะไปหาคุณแม่เดี๋ยวนี้ เราจะกลับบ้านเราเดี๋ยวนี้”

เย่เฉินอุ้มซือซือเดินไปนอกประตู ได้ยินเสียงตะโกนของซูมู่ชิงดังมาจากชั้นบน เขาจึงอุ้มซือซือเดินขึ้นไปบนตึก

คิดไม่ถึงว่าบนชั้นสามยังมีบอดี้การ์ดของตระกูลหลี่เฝ้าอยู่

“ใคร?”

เย่เฉินเพิ่งจะปรากฏตัวขึ้นมา บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่เดินขึ้นมาด้านบน

เย่เฉินเพิ่งจะเอาชนะคนสิบคนได้โดยตัวเองลำพัง ถึงแม้ว่าจะใช้เรี่ยวแรงไปมากแล้ว แต่พอตอนนี้เห็นลูกสาวโดนรังแก เรี่ยวแรงทั้งหมดก็กลับมา

เย่เฉินเตะพวกเขา โดยที่ไม่วางตัวซือซือลงออกจากอ้อมกอดด้วยซ้ำ เขาเตะทั้งสองคนจนล้มพับไป!

จากนั้นเย่เฉินก็ผลักประตูเดินเข้าไปแล้วพบว่ามารดาของหลี่เฉิงเจี๋ย กำลังดึงทึ้งเสื้อผ้าและเรือนผมของซูมู่ชิง!

“แกมันเด็กบ้า ยังไม่ได้แต่งเข้าตระกูลหลี่เรา คิดไม่ถึงว่าแกจะเรียกผู้ชายเถื่อนๆ มาบุกบ้านเรา นังสารเลวที่ไม่ช่วยคนกันเองแต่กลับไปช่วยคนนอก วันนี้ฉันต้องสั่งสอนเธอให้ดีๆ!”

แม่ของหลี่เฉิงเจี๋ยตัวใหญ่ อีกทั้งก็ยังเป็นคนตัวสูงมากด้วย น่าสูง 175 ซม. ไม่อย่างนั้นคงจะไม่สามารถคลอดลูกตัวสูง 190 ซม.อย่างหลี่เฉิงเจี๋ยได้

ซูมู่ชิงที่ดูอ่อนแอบอบบางไม่มีทางสู้กับหญิงวัยกลางคนที่โหดเหี้ยม เรือนผมยาวสลวยของหล่อน ถูกมารดาหลี่เฉิงเจี๋ยดึงทึ้งจนหมดสภาพ เสื้อผ้าของหล่อนก็เช่นกัน

“รนหาที่ตาย!”

เย่เฉินวางซือซือลงบนเก้าอี้ จากนั้นก็เดินตรงลิ่วไป แล้วกระชากแม่หลี่เฉิงเจี๋ยที่กำลังทึ้งผมของซูมู่ชิงอยู่

เขาอยากจะช่วยล้างแค้นแทนซูมู่ชิง แต่เขาก็ไม่อยากจะทำร้ายใครต่อหน้าลูก

และนี่เป็นผลจากการอบรมจากปู่ของเย่เฉิน ถ้าหากว่าเขาอยากจะให้ซือซือเติบโตได้เป็นอย่างดี ในตอนที่หล่อนยังเด็ก ก็ไม่ควรให้หล่อนต้องมาเจอภาพเหตุการณ์ที่ผู้ใหญ่ที่ตบตีด่าทอกัน

เย่เฉินลากแม่ของหลี่เฉิงเจี๋ยออกมาจากห้องแล้วปิดประตู

มารดาของหลี่เฉิงเจี๋ยกำลังซวยอยู่แล้วแต่ยังทำใจกล้า “ไอ้คนสารเลว เย่เฉิน แกมันผู้ชายชั่ว ใครอนุญาตให้แกเข้ามาในบ้านเรา!”

เย่เฉินฟาดฝ่ามือใส่หน้าอีกฝ่าย!

“แกกล้าซ้อมฉันเหรอ?”

หญิงที่สูงวัยกว่าตกใจ

เพี้ยะ!

เย่เฉินฟาดฝ่ามือใส่หน้าหล่อน!

“ลูกแม่ ช่วยแม่ด้วย!”

เพี้ยะ!

เย่เฉินฟาดฝ่ามือลงไปอีกครั้ง ฝ่ามือนี้รุนแรงจนทำให้หล่อนหมดสติ

จากนั้นเย่เฉินก็เปิดประตูออกเดินเข้ามาในห้อง แล้วเห็นซูมู่ชิงอุ้มซือซือเดินออกมาหาเขา

“เย่เฉิน คุณมาได้ยังไง?”

ซูมู่ชิงถามอย่างประหลาดใจ เพราะหล่อนไม่ได้โทรหาเขา

เย่เฉินไม่มีเวลาอธิบายเรื่องนี้ เขากล่าวว่า “มู่ชิง คุณอยู่ในห้องกับลูกไปก่อนนะ ผมขอไปจัดการอะไรก่อน อีกเดี๋ยวจะมารับคุณจากที่นี่อีกที”

ซูมู่ชิงเห็นแววตาเย่เฉินเต็มไปด้วยไอสังหารรู้ว่าที่เย่เฉินบุกตะลุยเข้าไปที่นี่ เพื่อพิสูจน์ว่าเขาเองก็มีโอกาสจะชนะ

ซูมู่ชิงยื่นมือเรียวยาวลากเย่เฉินมากล่าว “เย่เฉิน อย่าทำเรื่องโง่ๆ พาฉันออกไปก็พอแล้ว อย่าไปแตะต้องคนตระกูลหลี่เลยนะ”

ในเมื่อหลี่เฉิงเจี๋ยเป็นคนที่ครู่ควรกับซูมู่ชิงได้ นั่นก็แปลว่าตระกูลหลี่เองก็มีอิทธิพลอย่างมากในเมืองหลวง

ซูมู่ชิงกังวลว่าถ้าเย่เฉินเผลอไปแตะต้องหลี่เฉิงเจี๋ย ต่อไปในอนาคตก็อาจจะลำบาก

เย่เฉินกล่าวเสียงเรียบ“คุณสบายใจเถอะ ผมรู้ว่าผมทำอะไร”

น้ำเสียงเย่เฉินเต็มไปด้วยความเคียดแค้น เขาค่อยๆ เดินลงมาด้านล่าง ตอนที่เขากำลังจะมาถึงห้องรับแขกชั้นหนึ่ง ลูกน้องจำนวน 800 คนของเขา จัดการคนของตระกูลหลี่สองพันคนจนราบคาบไปแล้ว!

ตอนนี้คนตระกูลหลี่ยังเหลือสิบกว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าหลี่เฉิงเจี๋ย

หลี่เฉิงเจี๋ย พ่อของเขาและเฉียนช่วนจื่อยืนขดตัวอยู่ที่กำแพง พวกเขาสามคนตกใจจนเหงื่อตก

“นายท่าน! จะให้จัดการสามคนยังไงครับ?”

ซีกวาเดินถาม ตอนนี้ฝั่งตรงข้ามก็มีกันแค่สิบกว่าคน แต่ฝั่งเย่เฉิน 800 คนกลับไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย สถานการณ์ที่เห็นตอนนี้น่าจะรู้ขาดแล้ว

เย่เฉินเดินไปหาพวกเย่เฉิน แล้วชี้ไปที่เฉียนช่วนจื่อที่ท่าทางดูหื่นกามพลางกล่าว “จัดการโยนไอ้คนสารเลวนั่นออกไป ต่อไปฉันไม่อยากเห็นหน้าหมอนี่อีก”

“ครับ!”

ซีกวาลงมือทันที คนสิบกว่าคนนี้ต่างก็นอนแผ่หราบนพื้นไปในเวลาเพียงไม่กี่วินาที

ส่วนเฉียนช่วนจื่ออ้อนวอนเย่เฉินไม่หยุด “คุณชายเย่! ผมผิดไปแล้ว! จอมยุทธ์เย่! คุณชายเห็นผมเป็นแค่ลมตด ปล่อยผมไปเถอะครับ! คราวหน้าผมไม่กล้าทำแบบนี้อีกแล้วครับ!”

ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ สุนัขรับใช้ของเฉียนช่วนจื่อตัวนี้พูดจาดูหมิ่นเหยียบหยามเย่เฉินเอาไว้มาก เย่เฉินอยากจะให้เขาหายตัวไปเสียตั้งนานแล้ว !

หลังจากเฉียนช่วนจื่อโดนหามไปแล้ว หลี่เฉิงเจี๋ยก็ตัวสั่นเทิ้ม “เย่เฉินที่ผ่านมาฉันอาจจะทำผิดกับนาย แต่ไม่ว่าอย่างไรเราก็ดวงสมพงศ์กันนะ เพราะคู่หมั้นฉันเป็นแฟนเก่านาย ต่อไปถ้าฉันแต่งงานกับซูมู่ชิง ฉันจะดีกับหล่อนให้มากๆ จะแยกห้องกันนอนกับหลอน ส่วนลูกสาวนายฉันจะดีกับแกเหมือนแกเป็นลูกในไส้ของฉันเลย!

หลังจากที่ฉันแต่งงานกับซูมู่ชิงแล้ว นายจะมาที่บ้านฉันทุกอาทิตย์ก็ได้นะ นายมาทุกวันก็ได้ นายอยากค้างคืนก็ได้! ฉันออกไปทำงานนอกบ้านบ่อยๆ คงจะดูแลสองคนแม่ลูกไม่ได้ ถ้านายยินดี นายมาอยู่เป็นเพื่อนสองคนนั้นที่บ้านฉันได้ตลอดเวลาเลย”