บทที่ 2 นักเรียนชายซุกซน

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

เดินออกจากโรงแรม เชอร์รีนพันผ้าพันคอ พ่นลมหายใจยาวควันขาวออกจากปาก

ปรากฏว่าเป็นช่วงปีที่เลวร้ายจริงๆ ชีวิตโชคร้ายไม่ราบรื่น ร่วมงานแต่งงานของเพื่อน แต่ความบริสุทธิ์ของตัวเองกลับถูกทำลาย!

ร่วมงานแต่งงาน เจอชายขี้เมา!

ใครจะโชคร้ายเท่าเธอ

เงยหน้าขึ้น สายตาของเธอไปสะดุดบนหน้าจอทีวีกลางแจ้งขนาดใหญ่โดยบังเอิญ

“เรียนถามคุณชายออกัสที่กลับมาแผ่นดินใหญ่ครั้งนี้คือเตรียมการเปิดตลาดใหม่ใช่หรือไม่”

“คุณชายออกัส บริษัทที่อเมริกากำลังเฟื่องฟู ทำไมคุณถึงเลือกกลับแผ่นดินใหญ่เวลานี้ล่ะ”

“คุณชายออกัส เรียนถามว่าเมื่อไรจะตอบรับการสัมภาษณ์พิเศษกับนิตยสารของเรา”

“…..…”

นักข่าวกลุ่มใหญ่ถือกล้องในมือ ล้อมชายหนุ่มไว้ตรงกลาง ทุกคนต่างต้องการคำตอบ

ชายหนุ่มไม่มีคำพูด บนใบหน้าหล่อเหลาเจือรอยยิ้มเฉยเมย แค่พยักหน้าอย่างสุภาพให้ทุกคน ถือเป็นการทักทาย

เย่อหยิ่ง เปิดเผย เฉยชา สง่างาม แต่กลับไม่มีร่องรอยที่พาให้คนรู้สึกว่าหยาบคาย……

เหอะ นั่นมันหมาป่าตัวนั้น!

หลังจากเชอร์รีนเหลือบมองชายบนหน้าจอด้วยความขยะแขยง แล้วจึงโบกรถ รีบไปทำงานที่โรงเรียน

กระทั่งเธอรีบมาถึงห้องพักครูก็เป็นเวลาบ่ายสองครึ่ง ระยะห่างสิบนาทีก่อนเธอเข้าชั้นเรียน อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจโล่งอก

โรงเรียนมัธยมปลายของเธอคือโรงเรียนมัธยมปลายแห่งแรกของเมืองS และเป็นโรงเรียนมัธยมปลายที่ดีที่สุดในเมืองด้วย ทุกปีมีนักเรียนจำนวนมากมุ่งมั่นสอบเข้า เพราะโรงเรียนดีเยี่ยม ดังนั้นสวัสดิการและการดูแลก็ดีตามไปด้วย และแน่นอนว่ากฎก็เข้มงาดมากเช่นกัน

เชอร์รีนสอนภาษาจีนระดับม.4กับม.5 และเป็นครูประจำชั้นระดับม.5ด้วย

“นักเรียนกรุณาเปิดหนังสือไปที่หน้า85 วันนี้เราจะวิเคราะห์บทกวีโบราณ ครูจะอ่านก่อนรอบนึง พวกคุณดูหมายเหตุด้านล่างแล้วอธิบาย”

ยืนตรงแท่น เชอร์รีนเปล่งเสียงใส่เอ่ยพูดบางเบา “นกจูจิวขันคู อยู่บนเกาะแก่งกลางแม่น้ำ–”

“คุณครูงดงามอ่อนหวาน นักเรียนต่างรื่นรมย์…..” เด็กชายหน้าตาดีคนหนึ่งจู่ๆ ก็แทรกขึ้นมา

แทบจะในทันที ทั้งชั้นหัวเราะลั่น จึงหันไปมองยังต้นเสียง

เลอแปงเท้าแขนบนโต๊ะอย่างเกียจคร้าน แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างทำให้ดวงตาที่ดูดีของเขาหรี่ลง และยังออกเสียงทีละคำทีละประโยค “นกจูจิวขันคู อยู่บนเกาะแก่งกลางแม่น้ำ คุณครูงดงามอ่อนหวาน นักเรียนต่างรื่นรมย์……”

เสียงหัวเราะในชั้นเรียนดังขึ้นอีก เชอร์รีนหมดความอดทน ร้อยยิ้มอ่อนใจปรากฏขึ้นบนแก้มสวย เรียกเสียงกดต่ำ “เลอแปง!”

“ครูมีอะไรให้ช่วยครับ” เขาหรี่ตา ยิ้มมุมปาก

เชอร์รีนเดินเข้าไปและหยุดยืนข้างเขา บิดหูเขาเบาๆ เป็นการลงโทษ “หลังเลิกเรียนมาที่ห้องพักครูด้วย”

ห้องพักครู

เชอร์รีนพูดอย่างอ่อนใจ “เลอแปง เวลาอยู่ในชั้นเธอหยุดสร้างปัญหาได้ไหม”

“ครูครับ ผมคิดว่าผมเฉียบแหลมมากเลยนะ……” เลอแปงยิ้มเล็กน้อยและเลิกคิ้วไม่เห็นด้วย “ชีวิตของผมน่าเบื่อเกินไป มันต้องสนุกสนานบ้าง แล้วของขวัญคริสต์มาสที่ครูสัญญาไว้กับผมล่ะครับ”

“เธอความจำดีกว่าใครจริงๆ ที่สัญญาว่าจะให้ของขวัญคริสต์มาสกับเธอครูเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ต้องตกลงทำตามคำขอของครูข้อหนึ่งก่อน”

“คำขออะไร”

เชอร์รีนนั่งลงที่โต๊ะทำงาน “ครูเป็นครูประจำชั้นม.5มาหนึ่งปีแล้ว ทุกครั้งที่มีการประชุมผู้ปกครองไม่เคยเห็นครอบครัวของเธอมาเลย การประชุมผู้ปกครองในวันพรุ่งนี้ต้องมา ต้องมา!”

เธอเน้นยำคำว่าต้องมาซ้ำๆ

ร่างสูงของเลอแปงพิงโต๊ะ ยกมือขึ้นเขี่ยจมูก “ครูครับ มันค่อนข้างยาก……”

“ในเมื่อยากนักงั้นก็ช่างเถอะ เธอกลับห้องไปเตรียมบทเรียนไป ของขวัญคริสต์มาสก็งดไปแล้วกัน” ระหว่างที่พูด เธอหยิบปากกาขึ้นมาเริ่มเตรียมบทเรียน

“ได้ ผมสัญญา ครูครับ ของขวัญ……” เลอแปงประนีประนอม

เชอร์รีนเผยยิ้มเล็กน้อยด้วยความพอใจ นำถุงมือที่เตรียมไว้ล่วงหน้าออกจากกระเป๋าแล้วมอบให้ “อ้ะให้จ้ะ สุขสันต์วันคริสต์มาสนะ”

เลอแปงยื่นมือรับมา มองถุงมือขนสัตว์สีขาวในมือ คิ้วขมวดอย่างค่อนข้างไม่พอใจ

โดยธรรมชาติแล้วก็มองความไม่พอใจของเขาออก เธอจึงยื่นมือออกไปหาเขา “ไม่อยากได้ก็คืนมา เพื่อถักถุงมือให้เธอ ครูอดหลับอดนอนสองคืนเลยนะ!”

ได้ยินดังนั้น มุมปากของเด็กหนุ่มพลันยกยิ้มโดยทันที แล้วก้าวเท้าเข้าหา

แม้เธอจะเป็นครู แต่ยืนอยู่ต่อหน้าเขากลับเตี้ยกว่ามาก แค่ระดับขากรรไกรของเขาเท่านั้น

เด็กหนุ่มโน้มตัวลง ดึงมือของเชอร์รีนไปโดยไม่ทันตั้งตัว เธอชะงัก ยังไม่ทันได้สติกลับมา ริมฝีปากอ่อนนุ่มของเขาก็จรดลงมาที่ฝ่ามือของเธอ ทั้งร้อนและจั๊กจี้

“นี่เป็นของขวัญตอบแทนครูครับ……”

เลอแปงทำตัวเป็นสุภาพบุรุษฝรั่งเศสก่อนจะปล่อยมือของเธอ แล้วเดินออกจากห้องพักครูด้วยดวงตาสดใส

กระทั่งเงาของเขาหายลับไป เชอร์รีนถึงเพิ่งได้สติกลับมา สัมผัสของฝ่ามือยังคงอยู่ โชคดีที่ในห้องพักครูไม่มีครูคนอื่น ไม่อย่างนั้นเป็นเรื่องแน่!

ยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย แต่เรียนรู้การกระทำอย่างที่สุภาพบุรุษทำ แก่แดดจริงๆ!

สายตามองไปที่ถุงมือในมือ หลังจากเดินถึงหัวมุม เลอแปงก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วพูดเสียงดังอย่างร่าเริง

“พ่อบ้านชัชผมเองครับ คุณบอกให้พรุ่งนี้นายท่านหรือนายหญิงมาโรงเรียนด้วยนะครับ”

“คุณชายรอง นายท่านกับนายหญิงไม่อยู่ครับ”

“พี่ใหญ่ของผมกลับมาจากอเมริกาแล้วไม่ใช่เหรอครับ ให้พี่ใหญ่มาแล้วกัน ยังไงฝากข้อความถึงพี่ใหญ่ว่า ถ้าเขาไม่มา ผมจะก่อเรื่องวุ่นวายให้ถึงที่สุดและจะตายให้ดู……”

***

เช้าวันรุ่งขึ้น

เพราะต้องเตรียมการเกี่ยวกับการประชุมผู้ปกครอง ดังนั้นเชอร์รีนจึงตื่นตอนหกโมง

เพราะมันเป็นฤดูหนาว ดังนั้นจึงยังคงมืด มองออกไปนอกหน้าต่าง กิ่งไม้กระพือไหวท่ามกลางลมหนาว ราวกับภูมิอากาศกำลังจะเปลี่ยน!

อีกสองวันจะเป็นวันคริสต์มาส แต่ปีนี้ยังไม่ได้เห็นหิมะเลย ภูมิอากาศก็สมควรแล้วที่จะเปลี่ยน ฝ่ามือถือน้ำอุ่น เชอร์รีนยืนอยู่ตรงหน้าต่าง ในใจคิดคำนึง

ในเวลานี้ เสียงฝีเท้าดังมา เห็นทับทิมที่แต่งหน้าจัดเดินโงนเงนเข้ามา บนตัวมีกลิ่นเหล้า

เห็นดังนั้นแล้ว เชอร์รีนพลันคิ้วขมวด พูดเสียงต่ำว่า “พี่สะไภ้ทำไมคุณดื่มเหล้าเมาขนาดนี้ ไปเล่นการพนันมาอีกแล้วใช่ไหม”

ได้ยินดังนั้น ทับทิมเงยหน้าขึ้นทันที “ใครบอกว่าฉันแพ้พนันอีกแล้ว ใครกล้าบอกว่าฉันแพ้พนันอีกแล้ว! ฉันแค่โชคร้ายมากไปหน่อยก็เท่านั้น อีกสองวันต้องพลิกกลับมาได้แน่!”

ไม่มีคำพูดอีก เชอร์รีนมองเธอสักพัก ก่อนจะหยิบผ้าพันคอและกระเป๋าเดินออกไปจากห้อง

กระทั่งถึงโรงเรียน ก็ให้พอดีว่าไม่นานจะถึงเวลาของการประชุมผู้ปกครองแล้ว

เหล่าผู้ปกครองนั่งกันเรียบร้อย มีแค่ที่เดียวที่ว่าง เชอร์รีนกัดริมฝีปากเล็กน้อย พ่อแม่ของเลอแปงยังมาไม่ถึงอีกเหรอ

เธอเตรียมจะไปหาเลอแปง แต่เมื่อหันไป ก็เห็นผู้ชายที่คุ้นๆ อยู่ตรงหน้า ทำให้ตกใจอย่างหนัก……

เป็นเขาได้ยังไง! โลกมันกลมขนาดนี้เลยเหรอ!