ตอนที่ 129 อับอายขายหน้าเร็วเกินไป

Mars เจ้าสงครามครองโลก

คุณท่านฟางไม่หายใจแล้ว

“พ่อค่ะ”

ฟางหยวนนิ่งอึ้ง น้ำตาไหลไหลอาบแก้ม

แม้ว่าเธอรู้ว่าหลายปีมานี้ พ่อเหมือนตายทั้งเป็น และเจ็บปวดเป็นอย่างมาก

แต่เขามีชีวิตอยู่ ตัวเองยังมีพ่อนะ

“แกฆ่าไอ้ฟาง แกรนหาที่ตาย แกรนหาที่ตาย!”

หัวเวิ่นยีตกตะลึงพรึงเพริดก่อน ต่อจากนั้นแสดงท่าทางหงุดหงิดไม่พอใจ

หลายปีมานี้ คุณท่านฟางภายใต้การปรับความสมดุลของเขา ถึงได้รักษาชีวิตไว้ได้

ตอนนี้ กลับถูกเด็กกะโปโลฆ่าตาย!

นี่เป็นการท้าทายเขา เป็นการดูถูกเขา!!

“ร้องไห้ทำไม พ่อของคุณยังมีชีวิตอยู่”

เย่เซิ่งเทียนทั้งโกรธทั้งตลก มองดูหัวเวิ่นยีแวบหนึ่งและพูดว่า: “ตาแก่ เห็นแก่ที่นายดูแลคุณท่านฟางด้วยความจริงใจ ฉันจะให้นายดูว่าเข็มสุดท้ายนี้จะใช้ยังไง”

ฟางหยวนนิ่งอึ้ง

พ่อไม่ได้ตาย?

แต่ทั้งที่เขาไม่ได้หายใจแล้วนะ

ร่างกายก็แข็งทื่อแล้ว

จะไม่ตายได้อย่างไร?

หัวเวิ่นยีกลับพูดอย่างเอาจริงเอาจังอย่างออกนอกหน้า: “ฉันไม่สนใจว่าแกเป็นใคร ฉันไม่สนว่าแกมีภูมิหลังอย่างไร วันนี้ ถ้าไอ้ฟางตาย ฉันจะจัดการแกอย่างแน่นอน!!”

เย่เซิ่งเทียนไม่ได้สนใจ หยิบเข็มเงินขนาดเก้านิ้วอันที่สามขึ้นมา ฝั่งลงในจุดเทียนฝู่ของคุณท่านฟาง

[จุดเทียนฝู่ เส้นลมปราณมือไท่อินปอด คือจุดฝังเข็มบริเวณต้นแขนด้านใน อยู่ตรงขอบด้านเรเดียลของกล้ามเนื้อไบเซ็ปส์]

“ก่อกวน ก่อกวนชัดๆ ยังบอกว่าแกไม่ใช่ฆาตกรอีก!!!”

และพูดอย่างเยือกเย็นว่า: “ใช้เข็มกับจุดเสินถิงและจุดเสินฉาง ก็คือฆ่าคนแล้ว ตอนนี้แกยังใช้เข็มกับจุดเทียนฝู่ของไอ้ฟาง แกกลัวว่าไอ้ฟางจะไม่ตายเหรอ!!! แกปล่อยฉัน วันนี้ ฉันต้องสั่งสอนแกด้วยตัวเอง

เย่เซิ่งเทียนหลับตาลง นิ้วชี้และนิ้วโป้งของมือขวาเริ่มปั่นเข็มเงินที่ฝั่งเข้าไปในจุดเทียนฝู่

อาการป่วยของคุณท่านฟางไม่ได้ธรรมดาเพียงแค่รู้สึกเจ็บปวดเส้นประสาทขยายกว้างอย่างไม่สิ้นสุด แต่เป็นเกิดปัญหากับความมีชีวิตชีวาทั้งหมด

และในขณะที่หัวเวิ่นยีโกรธ เดิมทีคุณท่านฟางที่”ตาย”แล้ว ก็ลืมตาขึ้นทันใด สูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดว่า: “คราวนี้สบายดีแล้ว”

อะไรน่ะ!!!

หัวเวิ่นยีตกตะลึง!

ฟางหยวนมึนงง!

“ไอ้ฟางดีแล้วเหรอ?”

“พ่อไม่ตายเหรอ?”

นี่มันเกิดอะไรขึ้น!

ทั้งที่เมื่อกี้นี้ก็ตายไปแล้ว ทำไมถึงกลับมามีชีวิตอีก?

แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจยิ่งกว่านั้นก็คือ คุณท่านฟาง ไม่นึกเลยว่าจะนั่งอยู่บนเตียง มองดูฟางหยวนและหัวเวิ่นยีอย่างประหลาดแล้วถามว่า: “หยวนหยวน ไอ้หัว นี่ท่าทางอะไรของพวกเธอ หรือว่าฉันหายดีพวกเธอไม่ดีใจเหรอ?”

“พ่อค่ะ พี่ พี่ไม่เป็นไรจริงๆเหรอ?”

ฟางหยวนถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ

คุณท่านฟางพูดอย่างทุกข์ใจว่า: “เด็กโง่ พ่อไม่เป็นไรจริงๆ ก็แค่หิวนิดหน่อย หลายปีมานี้ ลำบากลูกแล้ว พ่อก็รู้”

“ฉันดูหน่อย”

หัวเวิ่นยีหลุดพ้นจากมือของเย่เซิ่งเทียนในทันที พุ่งเข้าไปรีบตรวจชีพจรของคุณท่านฟาง

“นี่ นี่ นี่……นี่มันเป็นไปได้ยังไง จะรักษาให้หายขาดได้อย่างไร?”

หัวเวิ่นยีเหมือนกับเห็นผี และร้องอุทานว่า: “จุดเสินถิงจุดเสินฉางและจุดเทียนฝู่ จุดฝังเข็มทั้งสามจุดใช้การฝังเข็ม เป็นจุดตายของไอ้ฟาง จะรักษาให้หายได้อย่างไร? นาย นายทำได้ยังไงกัน?”

เขามองไปทางเย่เซิ่งเทียนอย่างสยองขวัญ: “นาย นาย นายรู้จักการปรับจิตด้วยพลังชี่เหรอ? นายเป็นลูกศิษย์ของใครกันแน่ ยุคปัจจุบันจะรู้เรื่องปรับจิตด้วยพลังชี่ได้ยังไง? นายเป็นใครกันแน่!!!”

“นายไม่คู่ควรที่จะรู้”

เย่เซิ่งเทียนตอบกลับอย่างเยือกเย็น

เมื่อกี้นี้หัวเวิ่นยีร้องโวยวายอยู่ตลอด บอกว่าจะจัดการกับตัวเอง และยังจะฆ่าตัวเองให้ตายด้วย

ถ้าไม่ใช่ว่าเห็นแก่ที่เขาดีกับฟางหยวนจริงๆ จะหายโกรธเขาได้อย่างง่ายดายได้ยังไง

“มะ ไม่คู่ควรเหรอ?”

ใบหน้าของหัวเวิ่นยีซีดเผือด และรู้สึกเสียใจอย่างที่สุด