บทที่ 43 จับหัวหน้าเผ่า มังกรเหมิง

ฉันเป็นหัวหน้าเผ่าดึกดำบรรพ์

หลังจากพายุหอกครั้งที่ 1 ถูกยิงออกไป เผ่ามังกรเหมิง ก็ล้มลงมากกว่า 30 คน ขวัญและกําลังใจของเผ่าต้าเจียงเพิ่มมากขึ้น ไม่รอให้คนของเผ่า มังกรเหมิง ได้ทันได้ตอบสนอง มู่เฟิง ก็โบกมือแล้วตะโกนว่า

“ขว้างหอก!”

หอกบินออกไปอีกครั้ง ในที่สุดคนของเผ่ามังกรเหมิง ก็เริ่มวิ่งหลบซ้ายขวา แต่ เนื่องจากพวกเขายืนเบียดเสียดกันมากขณะที่พวกเขาหลบหอกอย่างลนลานก็ไม่มีใครสนใจคนรอบข้าง พวกเขาชนกันจนล้มลงกับพื้น เพราะเหตุการณ์นี้ทําให้มีคน 20 คนถูกแทงด้วยหอก และ 1 ใน 3 เท่านั้นที่สามารถหลบหอกได้

ตอนนี้คนของเผ่าต้าเจียงไม่จําเป็นต้องรอให้ มู่เฟิง สั่งการ พายุหอกครั้งที่ 3 พุ่ง มาทันทีเมื่อพายุหอกรอบที่ 2 ตกสู่พื้น ก่อนที่เผ่า มังกรเหมิง จะล้มไปกองกับพื้น ก็ถูกพายุหอกที่ตกลงมาจากฟากฟ้าแทงซ้ําอีกครั้ง

คราวนี้มีมากกว่า 30 คนที่โดนแทง!และเหตุผลสําคัญที่สุดสําหรับผลลัพธ์นี้ก็คือ ตําแหน่งผู้คนของเผ่า มังกรเหมิง นั้นยืนอยู่กันหนาแน่นเกินไป ในที่สุดหัวหน้าเผ่า มังกรเหมิง ก็ตระหนักถึงปัญหาและตะโกนขึ้นว่า

“แยกย้ายกันออกไป!”

คนรอบข้างรีบหลบไปรอบๆ

ในขณะที่พายุหอกครั้งที่ 4 กําลังโยนออกมา มู่เฟิงก็ตะโกนอย่างเด็ดเดี่ยวว่า

“เปลี่ยนเป็นหินทั้งหมด!”

ดังนั้นหินกว่า 120 ก้อนก็ถูกขว้างใส่คนเผ่า มังกรเหมิง หินเป็นสิ่งที่ไม่ต้องจัดทํา และหาได้ทุกที่ ดังนั้นเผ่าต้าเจียงจึงเตรียมการมาอย่างดี ในสายตาของคนในเผ่า มังกรเหมิง ท้องฟ้าในครั้งนี้มีพายุหินโปรยปรายลงมา

“อ๊ากกกกก”

“อ๊ากกกก”

เสียงร้องโหยหวนของผู้คนเผ่า มังกรเหมิง ดังพวกเขาถูกหินกระแทกจนได้รับ บาดเจ็บอีกหลายสิบคน เพียงแค่เวลาผ่านไปไม่นาน เผ่ามังกรเหมิง ในตอนนี้เหลือเพียงครึ่งเดียว

“เยี่ยม!” หลี่หูคํารามออกมาอย่างตื่นเต้น

เขาไม่เคยมีความสุขขนาดนี้มาก่อนเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายมีประชากรมากกว่าเขาครึ่งหนึ่ง แต่ก่อนที่พวกเขาจะเผชิญหน้ากันอีกฝ่ายกลับมีคนล้มตายมากกว่าครึ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่า สงครามที่ได้เปรียบนั้นเป็นเช่นไร

“หัวหน้าเผ่า!”หลี่หูหน้าแดง

“พวกเขาล้มลงไปกว่าครึ่งแล้วตอนนี้พวกเราออกไปต่อสู้กับพวกเขากันเถอะ!”

“หา?” มู่เฟิง มองเขาด้วยความสงสัย

“ทําไมต้องทําอย่างนั้น?”

“ตอนนี้พวกเขากําลังได้รับบาดเจ็บ และจํานวนที่เหลือก็เท่ากับพวกเรา พวกเรา สามารถต่อสู้กับพวกเขาได้!” แววตาของหลี่หูเต็มไปด้วยเจตนารมณ์ของสงคราม

“โปรดนําพาพวกเราออกไปสู้ในสนามรบเถิด!”

มู่เฟิง ตกตะลึงชั่วขนาด เขารู้สึกว่าสมองของหลี่หูอาจมีปัญหา เขาส่ายหัวและพูดว่า

“มันไม่จําเป็นต้องทําในตอนนี้!”

“ทําไม?”หลี่หู รู้สึกประหลาดใจ

“ในตอนนี้พวกเขามีผู้เสียชีวิตจํานวนมากและเป็นเวลาที่พวกเขาอยู่ในอารมณ์โกรธ ถ้าพวกเจ้าวิ่งออกไป พวกเขาต้องหน้ามืดตามัวและจัดการกับพวกเราอย่างแน่นอน!”

มู่เฟิงส่ายหัวและกล่าวต่อ “ตอนนี้พวกเรามีจํานวนน้อยและสามารถหลบเลี่ยงกา รบาดเจ็บล้มตายได้ก็พยายามหลบเลี่ยงเถอะการมีชีวิตอยู่เป็นสิ่งที่สําคัญที่สุด!”

“ข้าเข้าใจแล้ว!”หลี่หูพยักหน้า

“ข้าหุ้นหันพลันแล่นไปหน่อย!”

“วางใจเถอะ เมื่อพวกเขาเริ่มหนีพวกเราค่อยโจมตี” มู่เฟิง กําหมัดแน่นและทุบในอากาศ

“เราจะให้เผ่า มังกรเหมิง ต้องชดใช้!”

“อุกะอุกะ!” หลี่หรีบพยักหน้าอย่างตื่นเต้นและตะโกนสั่งการ

หัวหน้าเผ่า มังกรเหมิง กําลังโกรธจากที่เสียกําลังรบของเผ่า เดิมที่เขาพาคนมาไกลเป็นร้อยล์เพื่อที่จะมาปล้นเผ่าต้าเจียง เดิมที่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ง่ายดายนัก แต่คิดไม่ถึงว่าแม้แต่คนของเผ่าต้าเจียงที่พวกเขาก็ไม่ได้สัมผัสซักเส้นผมเดียว แต่นักรบของตัวเองกลับล้มตายไปร้อยกว่าคน!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาวุธที่อีกฝ่ายใช้มันคืออะไร มันสามารถพุ่งออกมาจากท้องฟ้าแทงคนได้

“คาถา มันต้องเป็นคาถาแน่ๆ!” หัวหน้าเผ่า มังกรเหมิง รู้สึกหนาวสั่น เขาหยิบมีดกระดูกขึ้นมาแล้วกางแขนออกจากนั้นตะโกนว่า

“เร็วเข้า ถอยออกไป!”

คนของเผ่า มังกรเหมิง ได้รับคําสั่งต่างกรีดร้องและช่วยกันพยุงสหายของพวก เขาโดยไม่สนใจอาวุธที่ถือมาในตอนแรกพากันวิ่งหนีออกไปอย่างทุลักทุเล

“ตอนนี้ล่ะ!” มู่เฟิง โบกมือ

“จับหัวหน้าเผ่า มังกรเหมิง เอาไว้!”

นักรบจากเผ่าใต้เตียงเสียงดังพร้อมเพียงกัน “จับหัวหน้าเผ่า มังกรเหมิง!” จากนั้นแต่ละคนก็หยิบหอกไม้ไผ่ขึ้นมาแล้วออกไปจากกําแพงเพื่อพุ่งเข้าหาเผ่า มังกรเหมิง ที่กําลังหลบหนี

คนของเผ่า มังกรเหมิง ใจสลายพวกเขาไม่เคยเห็นการต่อสู้แบบนี้?

หลี่หวิ่งนําหน้า ความโกรธที่อัดอั้นมานานระเบิดออกมาเขาถือกระบองไม้ขนาดใหญ่ไล่ตามหัวหน้าเผ่า มังกรเหมิง ไปและต่อสู้กันอย่างดุเดือด

หัวหน้าเผ่า มังกรเหมิง ต้องการที่จะหลบหนีอย่างรวดเร็วจึงไม่สนใจที่จะตอบโต้ ผลที่ตามมาก็คือเผ่าต้าเจียงด้านหลังได้ใช้หอกไม้ไผ่กดดันเขาให้หยุด

หลี่หโกรธมากจนพุ่งเข้าไปเพื่อที่จะสังหารเขาแต่ได้ยินเสียง มู่เฟิง ตะโกนขึ้นว่า

“หยุดก่อนอย่าฆ่าเขา!”

“หัวหน้าเผ่า! พวกเขาพาคนมาแย่งเพลิงศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราและยังปล้นขนสัตว์ของเผ่าเราไป” หลี่หูพูดอย่างเครียดแค้น

มู่เฟิง ส่ายหัว “ข้ารู้ แต่ถ้าเก็บเขาไว้จะมีประโยชน์มากกว่า!”

ไม่เพียงแต่ หลี่หู เท่านั้นแม้แต่หัวหน้าเผ่า มังกรเหมิง ที่ถูกจับก็ตกตะลึงและมองไปที่หัวหน้าเผ่าตาเจียงที่เป็นเพียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งตรงหน้าอย่างประหม่า

“เจ้า เจ้าคิดจะทําอะไร?” ต้าหยาถามอย่างสั่นเทา มีทั้งความกลัวตาย และความ หวาดกลัวตามธรรมชาติต่อการเผชิญหน้าของหัวหน้าเผ่าตรงข้าม

“วางใจเถอะ!” มู่เฟิง ยิ้มและย่อตัวลงเขาเอื้อมมือไปตบไหลต้าหยาราวกับผู้อาวุโสกําลังตบหน้าผู้เยาว์

“ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า แต่ข้าจะปล่อยเจ้าไป!” มู่เฟิง มีสีหน้าสงบ

“อะไรนะ!”

ไม่เพียงแต่ต้าหยาเท่านั้นที่อุทาน รวมทั้งหลี่หูและ หมิงกวง ก็ตกใจเช่นกัน

“เจ้า …จะไม่ฆ่าข้าจริงๆหรอ?” เห็นได้ชัดว่าหัวหน้าเผ่า มังกรเหมิง ยังไม่เชื่อและ ต้องการถามให้ชัดเจน

“แน่นอน!” มู่เฟิง ยังคงยิ้มและพูดต่อไป เขาโบกมือเพื่อขัดจังหวะหลี่หูและคน อื่นๆแล้วเปิดปากพูดว่า

“ข้าสามารถปล่อยพวกเจ้ากลับไปได้แต่เจ้าต้องยอมรับเงื่อนไขของข้าก่อน?”

“เงื่อนไข?”ทุกคนตกตะลึง

“ใช่!” มู่เฟิง ยิ้มและกล่าวว่า

“ข้าสามารถปล่อยพวกเจ้าหลายคนกลับไปได้ หลังจากที่พวกเจ้ากลับไปถึงเผ่าแล้ว พวกเจ้าต้องนําขนสัตว์และเกลือ มาแลกเปลี่ยนกับคน ที่เผ่าของเรา! หากเจ้าไม่ต้องการพวกเราก็เพียงสังหารพวกเจ้า แล้วจากนั้นคนจากเผ่าต้าเจียงของข้าสามารถไปปล้นสะดมที่เผ่าของเจ้าโดยตรงได้!”

“เจ้ายอมรับเงื่อนไขหรือไม่!”