บทที่ 1223+1224 โดย Ink Stone_Romance
บทที่ 1223 เจ้าเก็บใจเอาไว้เถิด
ดังนั้นเธอยิ้มจึงออกมา “มนุษย์มีเรื่องที่ต้องทำมากมายในชีวิต ต่อให้เป็นหญิงก็เหมือนกัน ผู้หญิงเราไม่อาจมีชีวิตอยู่เพื่อความรักเท่านั้น โดยเฉพาะ ต้องไม่นำทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองยึดติดไว้กับความรัก แบบนั้นเหี่ยวแห้งเกินไป เจ้าว่าใช่หรือไม่? โลกนี้แสนกว้างใหญ่ เจ้าควรจะออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง”
สนมนางนั้นเกือบคิดไม่ถึงว่ากู้ซีจิ่วจะใจกว้างได้ขนาดนี้ ตะลึงงันไปครู่หนึ่ง ทอดถอนใจพลางเอ่ย “ดูเหมือนแม่นางยังไม่ได้รักคุณชายหวงอย่างจริงจัง หากเจ้ารักเขาจริงจะต้องเดือดเนื้อร้อนใจเป็นพิเศษ เจ้ารอดูเจ้าอีกหนึ่งร้อยปีข้างหน้า และเขายังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ เขาอาจจะพบเจอหญิงสาวคนอื่นอีก อาจจะรักหญิงสาวคนอื่นอีก ไม่แน่อาจจะแต่งงานกับหญิงสาวคนอื่นอีกก็เป็นได้ เมื่อคิดถึงสิ่งเหล่านี้ ในใจของเจ้าจะไม่สมดุลยิ่งนัก…”
กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าสนมนางนี้มีความคิดเช่นดอกฝอยทอง[1] และกังวลเรื่องไม่เป็นเรื่องมากเกินไปแล้ว!
เธอในอีกหนึ่งร้อยปีข้างหน้า…
เธอในอีกหนึ่งร้อยปีข้างหน้าตายไปก็เพียงแค่สังขารนี้เท่านั้น กายจิตของเธอไม่ควรแตกดับ
บางทีตี้ฝูอีอาจสร้างร่างออกมาให้เธออีกครั้ง ยังคงสวยปังเป็นเงาตามตัวเขา เป็นคู่รักสามีภรรยาคู่หนึ่ง
หากมีข้อผิดพลาดประการใดทำให้กายจิตเธอต้องแตกดับ เช่นนั้น เธอก็ไม่รู้ไม่เห็นอันใดแล้ว ถึงตอนนั้นเขาจะรักใคร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วยเล่า? เธอยังไม่รู้ถึงความเสียใจด้วยซ้ำ?
กู้ซีจิ่วคิดว่าสนมนางนี้กังวลมากเกินไปจนกลายเป็นคนโง่งม ประหนึ่งเศรษฐีเพิ่งหาเงินก้อนโตมาได้ แต่กลับไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มัวแต่เป็นกังวลว่าเงินก้อนโตนี้ต่อไปใครจะเป็นผู้สืบทอด…
กู้ซีจิ่วกระแอมคราหนึ่ง จัดการลำคอให้เรียบร้อย สอนบทเรียนให้นางบทหนึ่ง พูดถึงทัศนคตินี้หนึ่งรอบอย่างมีเหตุมีผล
สนมนางนั้นฟังแล้วตกตะลึงอ้าปากค้าง นางมีนิสัยเหมือนดอกฝอยทอง ชอบฝากชีวิตไว้กับผู้ชายอันเป็นที่รัก ไม่ค่อยเข้าใจวิธีการคิดเช่นนี้ของกู้ซีจิ่ว แต่ก็หาคำพูดมาโต้เถียงนางไม่ได้ชั่วขณะ
ห่างไปไม่ไกลมีคนหัวเราะ ‘คิกคัก’ “ความคิดนี้ของแม่นางกู้ช่างสดใหม่และผิดแผก ข้าเพิ่งเคยได้ยินครั้งแรก”
กู้ซีจิ่วเงยหน้า มองเห็นแม่นางเขียวขจีท่านหนึ่งเดินเยื้องย่างออกมาจากพุ่มไม้คล้ายกอสาหร่ายที่อยู่ห่างไปไม่ไกล
แม่นางท่านนี้ย่อมเป็นชาวเงือก รูปลักษณ์ค่อนข้างคล้ายคลึงหลานเหยากวง
แต่ที่น่าผิดหวังคือ รูปลักษณ์ของนางไม่ได้มีเสน่ห์เท่าหลานเหยากวง ขนคิ้วและริมฝีปากค่อนข้างหนา ดวงตากลมโตคู่หนึ่ง หากไม่เปรียบเทียบกับหลานเหยากวง นางก็คือหญิงงามผู้หนึ่งจริงๆ
ทว่ากู้ซีจิ่วเพิ่งได้เห็นความงามพราวเสน่ห์ของหลานเหยากวงมาก่อน จึงค่อยมาเห็นหญิงสาวผู้นี้ราวกับได้เห็นฉบับปลอมแปลง ย่อมไม่มีเสน่ห์น่าดึงดูด
หญิงสาวผู้นี้สวมเสื้อคลุมสีเขียวพลิ้วไหว ยามเยื้องย่างมาดังหัวผักกาดเบ่งบานในลมวสันต์
องค์หญิงท่านนี้ต้องเกี่ยวข้องกับหลานเหยากวง แต่ไม่รู้ว่าเป็นน้องสาวหรือว่าลูกสาวของเขา ดังนั้น กู้ซีจิ่วจึงไม่เอื้อนเอ่ยอันใด
“จิ้งอี๋ เจ้ากลับมาแล้ว พี่ชายเจ้าช่วงนี้เอาแต่พูดถึงเจ้า” สนมนางนั้นเอ่ยปาก
“เอาแต่พูดถึงข้าเรื่องอันใด? ต้องการหาสามีให้ข้าใช่หรือไม่? ข้าไม่ต้องการนี่! นอกจากจะเป็นคนแบบพี่เขยแล้ว ไม่เช่นนั้นแล้ว ผู้อื่นก็อย่าได้คิด!” หลานจิ้งอี๋เบ้ปาก ไม่สนใจไยดี
ชอบพี่เขย?
กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าเรื่องซุบซิบนินทานี้ไม่เล็ก
สนมนางนั้นทอดถอนใจเบาๆ “จิ้งอี๋ คุณชายหวงมีแม่นางกู้อยู่แล้วทั้งคน ไม่ช้าก็จะออกเรือน เจ้าเก็บใจเอาไว้เถิด”
กู้ซีจิ่วนิ่งอึ้ง
ช้าก่อน พี่เขยที่พวกนางพูดถึงก็คือ…
“อาซ้อ ข้ารู้ว่าข้าไม่มีบุญวาสนาต่อพี่เขย แต่ข้าชอบพี่เขยที่เป็นแบบนั้น…”
————————————————————————–
บทที่ 1224 อีกฝ่ายยอมตายเพื่อเขา?
“อาซ้อ ข้ารู้ว่าข้าไม่มีบุญวาสนาต่อพี่เขย แต่ข้าชอบพี่เขยที่เป็นแบบนั้น…” สายตาของหลานจิ้งอี๋ร่อนลงบนร่างกู้ซีจิ่ว จ้องมองดูเธอหัวจรดเท้า นัยน์ตาฉายแววไม่พอใจ “ข้ายังดูไม่ออกจริงๆ ว่าแม่นางกู้ท่านนี้มีอะไรดี ไม่คู่ควรกับพี่เขยเลยสักนิด!”
แม่นางผู้นี้พูดจาขวานผ่าซาก ช่างทำร้ายจิตใจคน แต่กู้ซีจิ่วจับใจความสำคัญได้จากคำพูดที่นางใช้จู่โจมนั้น “พี่สาวของเจ้าคือ?”
หลานจิ้งอี๋พูดอย่างภาคภูมิใจ “พี่สาวของข้าคืออดีตประมุขเงือก นางกับพี่เขยเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก โตมาด้วยกัน หากไม่ใช่นางเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยพี่เขย ฉไนเลยจะมีเจ้า?”
คำพูดนี้ของนางมีข้อมูลค่อนข้างมาก กู้ซีจิ่วขมวดคิ้วเล็กน้อย
ตี้ฝูอีมีชีวิตอยู่มานานมากแล้ว เขารู้จักและเป็นเพื่อนสนิทของหลานเหยากวงมาหกพันปี นั่นทำให้รู้ว่าเขามีชีวิตมาแล้วอย่างน้อยหกพันปี เขาไม่เคยเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้เธอฟัง และเธอเองก็ไม่เคยเอ่ยถาม
หรือว่าตี้ฝูอีเคยมีความรักในวัยเยาว์? และยังเป็นถึงประมุขเงือก อีกฝ่ายยอมตายเพื่อเขา?
ฟังดูแล้วเรื่องนี้ต้องมีกลิ่นคาวโลหิตอันคละคลุ้งเป็นอย่างมาก
หลานจิ้งอี๋มองดูนางหัวจรดเท้าอีกหลายครั้ง “เป็นหญิงงามก็จริง ทว่าแค่มองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นคนธรรมดานี่ คงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หรือว่าพี่เขยอ้างว้างมาเนิ่นนาน รอคอยพี่สาวข้าที่ยังมิอาจหวนคืน ดังนั้น จึงหามนุษย์ต่ำต้อยผู้หนึ่งมารักกันเพื่อตอบโต้พี่สาวข้า?”
นางเดินวนรอบตัวกู้ซีจิ่วอีกครั้ง เหมือนเจออะไรใหม่แล้ว “เอ๊ะ ด้านหลังของเจ้าเหมือนพี่สาวข้าเลยนี่! หรือว่าเพราะแบบนี้พี่เขยถึงได้ชอบเจ้า?”
กู้ซีจิ่วนิ่งอึ้ง
ถึงแม้ในใจจะเกิดข้อสงสัยมากมาย แต่เธอไม่อยากให้หญิงสาวที่เหมือนหัวผักกาดเขียวผู้นี้เดินวนรอบตัวเธอ วิพากษ์วิจารณ์ไปเรื่อยอีก โดยเฉพาะคำพูดที่มีลักษณะจู่โจมเช่นนี้ “แผ่นหลังของหญิงงามใต้หล้านี้ ความจริงแล้วละม้ายคล้ายกันมาก ไม่เพียงแต่แผ่นหลังที่คล้ายกัน ขนาดรูปลักษณ์ยังมีที่เหมือนกันตั้งมากมาย ดังนั้น แผ่นหลังของข้ากับพี่สาวเจ้าเหมือนกันก็มิแปลก แต่น่าจะเป็นองค์หญิงจิ้งอี๋ที่ไม่เหมือนกับพี่สาวท่านเลย แต่ก็ไม่ต้องกังวลว่าคนอื่นจะจำพวกเจ้าผิดไป…”
หลานจิ้งอี๋กล่าวอันใดไม่ออก
คำพูดนี้ของกู้ซีจิ่วบ่งบอกได้ชัดเจนว่าติรูปโฉมนางงดงามไม่พอ…
และนี่คือความเจ็บปวดที่ไม่อาจบรรยายได้มากที่สุดของหลานจิ้งอี๋!
นางเป็นน้องสาวของหลานเหยากวง ทั้งที่เป็นหนึ่งในสาวงาม แต่เมื่ออยู่ภายใต้ความโดนเด่นของพี่ชายและพี่สาว นางกลับกลายเป็นขี้เหร่…
ผู้คนล้วนถูกสะกดด้วยเสน่ห์ของพี่ชายและพี่สาวของนาง เมื่อใดมองมาที่นาง ราวกับมองเห็นฉบับปลอมแปลง ทำให้นางรู้สึกว่าตัวเองเป็นเป็ดขี้เหร่
และเห็นได้ชัดว่า คำพูดเหล่านี้ของกู้ซีจิ่วเหยียบไปโดนเท้าที่บาดเจ็บของนาง ใบหน้าอันงดงามพลันแปรเปลี่ยน “เจ้า…เจ้าพูดอะไร?”
กู้ซีจิ่วอมยิ้มมองนาง “ฟังไม่เข้าใจงั้นรึ? ต้องการให้ข้าพูดซ้ำอีกครั้งเพื่อเพิ่มความประทับใจงั้นรึ?”
หลานจิ้งอี๋นิ่งอึ้ง ในที่สุดนางก็รู้ว่าหญิงสาวผู้นี้ที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่เล่นๆ ความสามารถทำให้ผู้อื่นโกรธได้ไม่ด้อยไปกว่าผู้ใด
เมื่อสักครู่ที่ไม่ได้มีปากเสียงอันใดกลับมาตอนฟังนางพูดมากมายขนาดนั้น คงเป็นเพราะตกใจในบางเรื่องที่นางพูด ทำให้จิตใจล่องลอยไปครู่หนึ่ง
หลานจิ้งอี๋เป็นพวกดูแคลนมนุษย์ ในสายตานาง มนุษย์ก็เป็นเหมือนแพลงก์ตอนในน้ำ เกิดเช้าตายเย็น ไม่คู่ควรแก่การพูดถึง คาดไม่ถึงว่าวันนี้กลับถูกมนุษย์สาวตัวน้อยทำให้ตะลึงงัน อับอายขายหน้าอยู่ตรงนี้
สีหน้านางเดี๋ยวเขียวคล้ำเดี๋ยวซีดขาวอยู่ครู่หนึ่ง นิ้วมือกระชับแน่น เดินหน้าไปหนึ่งก้าว ราวกับจะลงมือสั่งสอนนาง เพียงแต่ถูกสนมนางนั้นหยุดยั้งไว้ “องค์หญิง ไม่โกรธเจ้าค่ะ ไม่โกรธ นางคือผู้ที่คุณชายหวงพามา เป็นแขกผู้มีเกียรติ เสียมารยาทไม่ได้นะเจ้าคะ”
————————————————————————
[1] ดอกฝอยทอง จัดเป็นพืชกาฝาก มักเจริญเติบโตโดยการพาดพันไปกับต้นไม้อื่นและดูดน้ำกินจากต้นไม้อื่น