บทที่ 254 ปรากฏโฉมหน้าแท้จริง ตะลึงทั้งงาน (2)

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

บทที่ 254 ปรากฏโฉมหน้าแท้จริง ตะลึงทั้งงาน (2)
“เสด็จอาสะใภ้ ท่านดีจริงๆ เพคะ” องค์หญิงตังตังยิ้มบริสุทธิ์ สั่งให้คนเอาน้ำชามา ตนจะรินน้ำชาให้นางด้วยตัวเอง

“เสด็จอาสะใภ้ ตังตังขอใช้ชาแทนสุรา ถือเป็นการขอขมาท่านเพคะ”

ดวงตาเย็นชาเย่จิ่งหานแวบจิตสังหารหนึ่ง

ผู้ที่คุ้นเคยกับเขาต่างรู้ หากชาจอกนี้วางยาอะไร วันนี้ก็คือวันตายของตังตัง เพราะเขามีความคิดที่จะสังหารจริงแล้ว

ไม่รู้เจี่ยงเสวียปรากฏตัวขึ้นเมื่อไร กระซิบข้างเย่จิ่งหาน “ท่านอ๋อง ในชาขององค์หญิงตังตังไม่มีพิษพ่ะย่ะค่ะ”

ไม่มีพิษ?

เช่นนี้ยกชานางให้นางทำไม?

“ความปรารถนาดีขององค์หญิงตังตัง ชายาของข้ารับด้วยใจแล้ว วันนี้เป็นคืนวันเข้าหอของข้า อภัยที่ข้าไม่อาจอยู่เป็นเพื่อน”

แต่กู้ชูหน่วนกลับใจกว้าง ครุ่นคิดอย่างมีเหตุผลและหนักแน่น “ท่านอ๋อง ความจริงใจขององค์หญิงตังตัง เราจะปัดความปรารถนาดีของนางได้อย่างไร เกิดทำร้ายถูกวิญญาณเด็กน้อยของนางจะทำเช่นไรเล่า?”

เย่จิ่งหานเลิกคิ้ว

ชายาของเขาคิดจะเล่นอะไรอีก?

“องค์หญิงตังตังเรียกเสด็จอาสะใภ้ๆ ข้าฟังแล้วอารมณ์รื่นรมย์ยิ่งนัก ต่อไปก็รักษาเอาไว้แล้วกัน” กู้ชูหน่วนกล่าวไปก็เอาชาที่นางมาคารวะไป ดวงตาขาวดำแบ่งชัดมีอารมณ์เล่นสนุกอยู่นิดหนึ่ง

องค์หญิงตังตังแค้นจนกัดฟันกรอด

กู้ชูหน่วนฉวยโอกาสเอาเปรียบนาง

แม้ขุ่นเคือง ใบหน้านางยังคงเป็นรอยยิ้มเรียบร้อย “ย่อมเป็นเช่นนั้นเพคะ”

กู้ชูหน่วนดื่มชาเสร็จ อาการสักนิดก็ไม่มี กระทั่งเอ่ยอย่างหวนรำลึกไม่หยุด “ชาดี รสดีมาก องค์หญิงจะยินดีรินให้ข้าอีกจอกไหม?”

คนในที่นั้นจำนวนมากพากันงุนงง

องค์หญิงตังตังไม่ใช่เป็นคู่ปรับของพระชายาหานหรือ?

ไยนางจึงไม่วางยาในน้ำชาเล่า?

เวลานี้วางยาพิษในน้ำชาเป็นโอกาสดีมากทีเดียว

ระหว่างที่ทุกคนสับสน องค์หญิงตังตังรับจอกชาจากกู้ชูหน่วนมา พร้อมกันนั้นก็กระชากผ้าคลุมหน้าของกู้ชูหน่วนอย่างฉับพลัน

ก็ขณะที่องค์หญิงตังตังยื่นมือออกมา เรือนร่างเย่จิ่งหานก็ปกคลุมไปด้วยน้ำค้างแข็งชั้นหนึ่งแล้ว เขายกมือขึ้นอยากทำลายองค์หญิงตังตัง แต่กู้ชูหน่วนถลึงตามาทีหนึ่ง เป็นการบอกห้ามเขากระทำการโดยพลการ

ในน้ำชาไม่มียาพิษ ก็คืออยากให้นางขายหน้าต่อธารกำนัลเป็นแน่ เผยโฉมหน้าอัปลักษณ์หลุมๆ บ่อๆ เต็มไปด้วยน้ำหนอง

กู้ชูหน่วนมิได้ขัดขวาง ตามการกระชากของนาง ปรากฏโฉมหน้างามควรเมืองแห่งยุค จากนั้นก็มองอารมณ์บนใบหน้าขององค์หญิงตังตังด้วยดวงตาเย็นชา

องค์หญิงตังตังเต็มไปด้วยความสะใจที่ได้ชำระความแค้น

นางนึกว่าขอเพียงกระชากผ้าคลุมหน้าของกู้ชูหน่วน ก็จะทำลายชื่อเสียงของนาง ต่อไปไม่กล้ายโสอีก

ทั้งงานล้วนเป็นเสียงซีดพร้อมกัน ทุกคนมองทางกู้ชูหน่วนอย่างเหลือเชื่อ แม้แต่ลมหายใจของเย่จิ่งหานยังเฮือกหนัก นัยน์ตาเย็นชาคู่หนึ่งสะท้อนกู้ชูหน่วนจนหมด

องค์หญิงตังตังมองอารมณ์ของพวกเขาด้วยความพึงพอใจ นึกว่าพวกเขาถูกกู้ชูหน่วนทำให้ตกใจแล้ว

ครั้นนางหันกลับไปมองหน้าตาอัปลักษณ์ของกู้ชูหน่วน ในชั่วขณะที่หันตัว ก็ต้องตะลึงตาค้าง

นี่ๆๆ…

นี่มันอะไรกัน?

ใบหน้ากู้ชูหน่วนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ เต็มไปด้วยน้ำหนองและแผลเป็นเล่า? หญิงที่อยู่ตรงหน้าเป็นใครกัน?

เห็นเพียงหญิงตรงหน้าเครื่องหน้างามล่มเมือง โฉมหน้าที่สมบูรณ์แบบหาตำหนิไม่ได้สักนิด

นางรูปร่างอรชร ผิวพรรณยิ่งกว่าหิมะ กลิ่นรสราวกล้วยไม้ ริมฝีปากแดงระเรื่อ นัยน์ตาเป็นประกายคู่หนึ่ง แวมวับสีสันเป็นประกาย ขณะที่มองไปโดยรอบ มีบุคลิกสง่างามเหนือแดนดิน ชวนให้คนละอายขวยเขิน ไม่กล้าล่วงเกิน เพียงแวบตาเดียวก็ไม่อาจลืมเลือน

นี่เป็นพิไลลักษณ์โดยแท้ ทุกการขมวดคิ้วและการยิ้ม ทุกอิริยาบถราวกับเทพธิดาในภาพวาด งามจนทำให้หัวใจสั่นระรัว หญิงอัปลักษณ์ที่มีหลุมบ่อเต็มใบหน้าไหนเลยจะเทียบเทียมได้

“องค์หญิง หากอยากยลโฉมข้าก็บอกมาตรงๆ ก็ได้ ไยต้องกระชากผ้าคลุมหน้าข้าด้วย ผ้าคลุมนี้หน้าของข้าชิวเอ๋อร์เป็นคนทำให้กับมือ มีค่านัก”

กู้ชูหน่วนมองสายตาตะลึงทุกงานอย่างพอใจ

เดิมทีนางไม่คิดโอ้อวดเช่นนี้ เป็นพวกเขาที่กินอิ่มไม่มีงานทำ บีบให้นางเผยโฉมหน้าที่แท้จริง

องค์หญิงตังตังเอ่ยยังติดอ่าง “เจ้า…เจ้าเป็นใคร?”

“เมื่อครู่องค์หญิงมิใช่เรียกข้าเสด็จอาสะใภ้หรือ? ตอนนี้กลับกลับคำมิรู้จักแล้ว?”

“เจ้า…เจ้าคือกู้ชูหน่วน? เป็นไปได้อย่างไร? หน้าเจ้าไม่ใช่ว่าน่าเกลียดมากหรือ? เป็นไปได้อย่างไร…” ทำไมถึงงามเช่นนี้ได้?

เมื่อก่อนนางคิดว่ากู้ชูหยุนสวย บัดนี้เมื่อเทียบดู นางรู้สึกว่ากู้ชูหยุนไม่นับเป็นอะไร

“คำพูดนี้ขององค์หญิงช่างแปลกนัก ป่วยก็รักษาได้ หน้าตาข้าก่อนหน้านี้แย่ไปหน่อย ตอนนี้รักษาหายแล้ว มีอะไรแปลกหรือ?”

องค์หญิงตังตังสะอึก

ใบหน้านี้ดีดเป่าก็แตกได้ ผิวพรรณนุ่มเนียน ราวกับทารกแรกเกิด ชวนให้อิจฉายิ่ง

สีหน้ากู้ชูหยุนแย่ไป สั่นพั่บทั้งตัว

นางเสียแรงมากมายถึงยุแยงให้องค์หญิงตังตังไปเปิดผ้าคลุมหน้าของกู้ชูหน่วนได้ เดิมต้องการให้กู้ชูหน่วนขายหน้า คิดไม่ถึงกลับเป็นโอกาสให้กู้ชูหน่วนทำให้ทุกคนในงานตะลึง

โฉมหน้าของกู้ชูหน่วนฟื้นคืนตั้งแต่เมื่อไร?

เหตุใดจึงไม่มีข่าวมาก่อนเลย?

ออกเรือนกับเทพสงครามยังพอทำเนา แล้วยังมีโฉมหน้างามล่มเมืองเช่นนี้อีก กู้ชูหน่วนไม่ตาย ต่อไปยังมีที่ให้นางยืนอีกหรือ?

หลิวเยว่เกือบกัดลิ้นตัวเอง “สวรรค์! สาวงามผู้นั้นใช่ลูกพี่เราจริงหรือ? ข้าไม่ได้ฝันไปกระมัง?”

อวี่ฮุยกล่าวอย่างตื่นเต้น “ไม่ เป็นลูกพี่ของเราจริงๆ สวรรค์ ลูกพี่สวมผ้าคลุมหน้าตลอดเวลา ข้านึกว่านางน่าเกลียดเกินไป ไม่กล้าเผยโฉม ที่แท้ก็งามเกินไปนี่เอง ไม่อยากทำให้ทุกคนสะเทือนใจถึงได้ใส่ผ้าคลุมหน้าไว้ ลูกพี่จะดีไปหน่อยแล้วกระมัง”

“หากเฮียใหญ่เซียวหยู่เซวียนก็อยู่นี่ด้วย เขาต้องตะลึงแน่”

นัยน์ตากู้เฉิงเซี่ยงหดเล็ก มองใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ใบหน้านั้น เหมือนกับแม่ของนางเหลือเกิน โดยเฉพาะแววตานั้น แทบจะออกมาจากเบ้าเดียวกัน เพียงดวงตานางสะดุดตาและเจ้าเล่ห์มากกว่า

นางให้กำเนิดจริงๆ แม้แต่เครื่องหน้ายังคล้ายขนาดนี้

นึกถึงแม่ที่เสียชีวิตของกู้ชูหน่วน สีหน้าของกู้เฉิงเซี่ยงก็ราวผ้าเปื้อนสีอย่างนั้น เปลี่ยนแปลงไม่หยุด

ซ่างกวนฉู่ก็ถูกทำให้ทึ่งด้วย

เขารู้มาตลอดว่าบางทีหน้าตากู้ชูหน่วนอาจไม่อัปลักษณ์เหมือนอย่างที่ได้ยิน แต่เขาคิดไม่ถึง ที่แท้กู้ชูหน่วนจะงามถึงเพียงนี้

ตะลึงทั้งงาน สายตาทุกคนอยู่นานก็ไม่เคลื่อนจาก ไม่รู้ว่านานเพียงใด ฝูงคนถึงเริ่มแตกตื่น

“สวรรค์! ใครบอกว่าคุณหนูสามของจวนเฉิงเซี่ยงเป็นหญิงอัปลักษณ์ เหลวไหลสิ้นดี หากข้ารู้ว่านางงามเพียงนี้ ข้าจะไปเข้าแถวสู่ขอที่จวนเฉิงเซี่ยงทั้งคืน”

“ก็นั่นนะสิ นี่ราวกับนางฟ้ามาจุติ งามเหลือเกิน หญิงงามอันดับหนึ่งแคว้นเย่ก็ยังไม่งามเท่านาง”

“หญิงงามอันดับหนึ่งแคว้นเย่ก็มิใช่กู้ชูหยุนหรือ? เมื่อก่อนคิดว่านางงามมากจริง แต่ตอนนี้เมื่อเทียบเคียงกับพระชายาหาน ก็สลัดไปเป็นโยดทันที”

“เป็นข้าที่โง่เกินไป นึกว่านางสวมหน้ากากเพราะขี้ริ้วขี้เหร่ ไหนเลยจะรู้ว่าที่สวมหน้ากากเพราะงามเกินไปนี่เอง น่าขันเมื่อก่อนข้ายังเยาะเย้ยนาง น่าอายจริงๆ”

“อ๋องเจ๋อกลับเพราะนางอัปลักษณ์ พยายามสุดกำลังที่จะถอนหมั้น หากเขารู้ว่าพระชายาหานงดงามเพียงนี้ ไม่รู้ว่าจะโมโหจนตายหรือไม่”

ดวงตาหงส์เรียวยาวของเย่จิ่งหานจับจดอยู่กับกู้ชูหน่วนตลอด แทบอยากโอบนางเข้าหัวใจ

หญิงคนนี้…

มีใบหน้างดงามแห่งยุคเพียงนี้ กลับยังหลอกเขา

“พี่สาว ท่านเคยบอกว่าจะรับผิดชอบต่อข้า จะแต่งกับไอ้ขาพิการนั่นไม่ได้นะ” เสียงชั่วร้ายหนึ่งดังมาชัดเจน ทุกคนอดตื่นตระหนกเป็นไม่ได้