ซูฉิงรีบเร่งให้หลินหนานออกจากโรงพยาบาล
“ยวี๋น่า ไม่ต้องห่วงนะ อู๋เทียนเหออารมณ์ไม่ดีคงเพราะได้รับบาดเจ็บน่ะ เดี๋ยวรอคุณอาฉีรักษาขาเขาหาย พวกเธอค่อยคุยกันดีๆ อีกทีนะ” ซูฉิงปลอบยวี๋น่า
เบ้าตายวี๋น่าแดงก่อนจะพยักหน้า “อื้ม”
“ฉันจะโทรไปถามว่าคุณอาฉีจะมาถึงเมื่อไหร่นะ” ซูฉิงพูดก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดหมายเลขของฉียวี่ชู
“ฮัลโหล? คุณอาฉีคะ เมื่อไรจะถึงเมือง A เอ๋?…ค่ะ เพิ่งมาถึงกับยวี๋น่าค่ะ ถ้าถึงแล้วโทรมานะคะ เดี๋ยวฉันจะไปรับค่ะ”
ฉียวี่ชูเพิ่งใส่เสื้อผ้าอีกชิ้นลงกระเป๋าเดินทาง “ฉันซื้อตั๋วแล้ว พรุ่งนี้บ่ายโมงก็ถึงเมือง A ก็รักษาเขาได้เลย เธอส่งที่อยู่โรงพยาบาลให้ฉันก่อนแล้วกัน”
“ได้ค่ะ” ซูฉิงพูดสั้นๆ และหลังจากวางสายก็แสดงท่าทีผ่อนคลาย
ยวี๋น่ามองเธออย่างประหม่า “เป็นไงบ้าง?”
“ไม่ต้องห่วงนะ” ซูฉิงยิ้ม “คุณอาฉีจะมาถึงเมือง A พรุ่งนี้บ่ายแล้วก็รักษาขาของเทียนเหอได้เลย”
“เยี่ยมไปเลย!” ในที่สุดยวี๋น่าก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและเผยรอยยิ้มจางๆ
ซูฉิงพูดถูก ถ้าขาของเทียนเหอดีขึ้น อารมณ์ของเขาคงก็จะดีขึ้นด้วยใช่ไหม?
ถึงเวลานั้นเธอจะได้คุยกับเขาดีๆ
ยวี๋น่าไม่มีทางเชื่อว่าอู๋เทียนเหอไปรักผู้หญิงคนอื่น เป็นไปไม่ได้แน่นอน!
มองไปที่ซูฉิงที่มีใบหน้าเหนื่อยล้า ยวี๋น่าจึงตบไหล่เธอเบาๆ “ซูฉิง เธอกลับไปพักก่อนเถอะ เธอคอยตามเรื่องฉันกับเทียนเหอตลอดสองวันแล้ว ฉันว่าเธอร่างใกล้พังแล้ว”
“ก็ได้ งั้นฉันกลับก่อนนะ” ซูฉิงแตะใบหน้าตัวเองทันทีที่ได้ยินยวี๋น่าพูดอย่างนั้น
เธอยุ่งอยู่กับการช่วยเหลือคนในพื้นที่ภัยพิบัติในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั้งยังไปโรงพยาบาลหลายครั้งติดต่อกัน จนตอนนี้เธอรู้สึกเหนื่อยมากจริงๆ
ซูฉิงมองสถานการณ์ในห้องอีกครั้ง ก่อนจะมองยวี๋น่าอย่างกังวล “แต่เธอเฝ้าเขาคนเดียวตามลำพังจะได้เหรอ?”
ยวี๋น่ายิ้มบางก่อนจะส่ายหัว “ฉันไม่เป็นไร เธอไม่ต้องห่วงหรอกน่า เอาล่ะ รีบกลับได้แล้ว”
เมื่อเห็นเธอเด็ดเดี่ยวขนาดนี้ ซูฉิงจึงไม่พูดอะไรอีก เพียงแต่ยกมือทำท่าทางโทรศัพท์แนบหูก่อนจะหันหลังเดินจากไป
ตอนที่เธอกลับถึงบ้าน ซูฉิงรู้สึกว่าร่างกายของเธอผ่อนคลายลง ก่อนจะเดินตรงไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนถึงได้รู้สึกสบายตัวมาก
ครั้งนี้เธอเหนื่อยมากจริงๆ
ซูฉิงนอนอยู่บนเตียง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมา และเปิดดูหน้าเว็บ แต่ทันใดนั้นเธอก็เห็นข่าวเกี่ยวกับฮ่อหยุนเฉิงไปที่พื้นที่ภัยพิบัติในเมือง Y ด้วยตนเอง
【ลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง! ประธานตระกูลฮ่อกรุ๊ปได้เดินทางไปยังพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวเพื่อบรรเทาสาธารณภัยด้วยตัวเอง!】
ในตอนท้ายฉบับยังมีวิดีโอของฮ่อหยุนเฉิงในพื้นที่ภัยพิบัติอีกด้วย ในวิดีโอเขายังคงเข้มงวดและไม่อนุญาตให้คนแปลกหน้าได้เข้าไป แต่พอตอนเจอกับผู้สูงอายุและเด็กๆ ในพื้นที่ภัยพิบัติของเขา สายตาและน้ำเสียงการพูดจาก็อ่อนลง
ซูฉิงที่ดูวิดีโอนี้ก็ยกยิ้มโดยไม่รู้ตัว
ไม่รู้ทำไม ถึงเพิ่งห่างกันไม่ถึงวัน แต่จู่ๆ ก็คิดถึงเขาขึ้นเสียแล้ว
ทันทีที่ความคิดผุดขึ้น โทรศัพท์มือถือของซูฉิงก็ดังขึ้นในวินาทีต่อมา และก็เป็นฮ่อหยุนเฉิงนี่เอง
หัวใจของซูฉิงเต้นเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เธอกดรับสาย
“ซูฉิงเธอถึงบ้านหรือยัง?” เสียงกังวลของฮ่อหยุนเฉิงดังมาจากปลายสาย
“ฉันเพิ่งกลับถึงบ้านอาบน้ำเสร็จ ตอนนี้นอนอยู่บนเตียง กำลังดูข่าวการเดินทางของนายไปพื้นที่ภัยพิบัติอยู่น่ะ” ริมฝีปากของซูฉิงยกยิ้มอย่างมีความสุขโดยไม่รู้ตัว “หน้ากล้องนายหล่อนะเนี่ย จริงสิ สถานการณ์พื้นที่ภัยพิบัติเป็นยังไงบ้าง?”
“หล่อแล้วได้อะไรล่ะ…” เสียงของฮ่อหยุนเฉิงเบาลงเล็กน้อยพร้อมความรู้สึกน้อยใจ “ไม่มีภรรยาอยู่ข้างๆ ฉันจะหล่อให้ใครดูล่ะ?”
ผู้ชายคนนี้นี่!
ปากมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!
ฟังเขาพูดจาเลี่ยนใส่ จู่ ๆ ซูฉิงก็รู้สึกหูร้อนก่อนอดพูดไม่ได้ว่า “อย่าน่า ใครภรรยานายกัน ฉันจริงจังนะ”
“สถานการณ์ในพื้นที่ภัยพิบัติก็โอเคแล้ว ตอนนี้สิ่งสำคัญคือต้องจัดการผู้รอดชีวิต เธอไม่ต้องกังวลหรอก”
หลังจากที่ฮ่อหยุนเฉิงรายงานสถานการณ์กับซูฉิง เขาก็หยุดไปชั่วครู่ และเสียงน่าดึงดูของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้น
“แต่ว่านะซูฉิง ฉันก็จริงจังนะ ฉันคิดถึงเธอมาก อยากเจอเธอเดี๋ยวนี้เลย”
เขาเคยพูดคำหวานมากมาย แต่พอได้ยินแบบยี้ หัวใจซูฉิงก็เกิดระลอกคลื่น
…
เสียงพูดเบาลงเรื่อยๆ ซูฉิงที่รู้สึกเหนื่อยมาก เธอลืมไปด้วยซ้ำว่าสายตัดไปเมื่อไร เธอแค่หลับตาหัวถึงหมอน ก่อนจะผล็อยหลับไป
ในความฝัน เธอเห็นฮ่อหยุนเฉิง
ทั้งสองอยู่ในห้องนอน เขาเดินเข้ามาก่อนที่สองมือจะโอบเอวเธอไว้ และพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาคลุมเครือข้างใบหูเธอ “ซูฉิง ฉันคิดถึงเธอมากเลย อยาก…อยากจูบเธอจัง”
ลมหายใจร้อนของชายคนนั้นพัดเข้ามาในใบหูของเธอ ซูฉิงที่ได้ยินก็หน้าแดง จากนั้นริมฝีปากบางของชายคนนั้นก็ประทับบนริมฝีปากเธอ
“อื้ม…” ซูฉิงอดส่งดสียงไม่ได้ มือเธอโอบรัดคอฮ่อหยุนเฉิงไว้ก่อนที่ทั้งสองจะพัวพันกันไปมา
ทันใดนั้นเอง เสียงนาฬิกาปลุกก็ดังขึ้น
ซูฉิงขมวดคิ้ว และลืมตาตื่นขึ้นทันที
เธอนั่งอยู่บนเตียง อดไม่ได้ที่จะกุมหน้าผาก ถึงได้รู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ทั้งหมดเป็นแค่ความฝัน
ในใจได้เกิดความรู้สึกใจเสีย
ฉากในฝันผุดขึ้นมาในหัวเธออีกครั้ง
ใบหน้าของซูฉิงร้อนขึ้นเล็กน้อย ทำไมเธอถึงฝันแบบนี้ได้ล่ะ?
ทั้งหมดต้องโทษที่ฮ่อหยุนเฉิงพูดเมื่อวานนั่นแหละ ผู้ชายคนนี้หยอกล้อขนาดนั้นเป็นเมื่อไรเนี่ย!
หลังจากที่ซูฉิงตื่น เธอก็ไปที่สตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์
เธอจากไปนานมาก แม้แต่ภาพยนตร์เรื่อง “พ่าหวังเปี๋ยจี” จะถูกส่งต่อให้เฉินจุนเหยียนคัดเลือกนักแสดง ตอนนี้เธอกลับมาแล้ว สิ่งแรกแน่นอนว่าต้องเป็นการดูว่าเฉินจุนเหยียนจัดการเป็นยังไงบ้าง
เธอมาถึงประตูห้องทำงานของเฉินจุนเหยียนก่อนจะเคาะประตู
“เข้ามาได้” เสียงทุ้มของเฉินจุนเหยียนดังขึ้น
ซูฉิงผลักประตูเข้าไป
เฉินจุนเหยียนเชยตาขึ้นมองก่อนจะเห็นคนที่ปรากฏตัวตรงหน้าเขาคือผู้หญิงที่เขานึกถึง
เฉินจุนเหยียนรีบลุกขึ้นยืนด้วยความประหลาดใจ “ซูฉิง เธอกลับมาแล้วเหรอ?”
“อื้ม” ซูฉิงยิ้มบาง
“ไปตั้งนาน ฉันนึกว่ายังต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะกลับมา สถานการณ์ในพื้นที่ภัยพิบัติเป็นยังไงบ้าง เธอไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรใช่ไหม?”
ทันทีที่ซูฉิงนั่งลง เธอได้รับการต้อนรับเป็นคำถามเป็นชุดของเฉินจุนเหยียน
ซูฉิงจิบน้ำจากแก้วน้ำตรงหน้าก่อนจะวางกระเป๋าไว้ข้างๆ “ไม่เป็นอะไร ตอนนี้ฮ่อหยุนเฉิงอยู่ที่นั่น สถานการณ์ดีขึ้นมาก ฉันเพิ่งกลับมาเมื่อวานนี้เอง วันนี้เลยมาบริษัทดูว่าซุปเปอร์สตาร์อย่างนายเตรียมการเรียบร้อยหรือยังน่ะ เลือกนักแสดงคนอื่นๆ ของเรื่อง “พ่าหวังเปี๋ยจี” ไว้หรือยัง? มีข้อมูลอะไรให้ฉันดูไหม?”
เมื่อเห็นว่าซูฉิงกำลังพูดถึงเรื่องงาน ดวงตาของเฉินจุนเหยียนก็หรี่ลงเล็กน้อย