บทที่ 349 ผู้กล้าพงไพร องค์หญิงหลิงหลง

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 349 ผู้กล้าพงไพร องค์หญิงหลิงหลง

การวิวาทกันระหว่างคนใหญ่คนโตนี้ เสิ่นเทียนไม่ได้บอกต่อใครอย่างชาญฉลาด

ถึงอย่างไร อาจารย์ก็เป็นผู้นำสายตรงของข้า การนินทาผู้นำลับหลังไม่ใช่นิสัยที่ดีอะไร

ไม่รู้ว่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์ฟ้าครามแห่งเผ่าอสรพิษดำทะเลมรกตจะประกาศจับอาจารย์ลุงบัวมรกตไปมีเป้าหมายอะไรกันแน่ เป็นเพราะความแค้นที่เกิดจากความรักหรือถ่านไฟเก่าลุกขึ้นมาอีกครั้งกัน

เพราะอย่างไรภาษิตก็ว่าไว้ว่าไม่พบกันหนึ่งวันเหมือนห่างกันสามฤดูใบไม้ร่วง

ก่อนหน้านี้เสิ่นเทียนได้รู้เรื่องเกี่ยวกับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ฟ้าครามจากคุณชายหมึกยักษ์มาไม่น้อย พวกเขาไม่ใช่แค่…วันเดียว

แค่กๆ ไม่ใช่แค่ไม่พบกันวันเดียว แต่ไม่ได้เจอกันมาแปดร้อยปีถึงพันปีแล้ว

ด้วยธรรมชาติของงู น่าจะมีความต้องการในด้านนั้นค่อนข้างน่ากลัวเลย

หากผู้สูงศักดิ์สวรรค์ฟ้าครามไม่มีความรู้สึกอะไรกับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตแล้ว ก็ยังคุยกันได้ อย่างมากก็แค่ทำสักรอบ

แต่ถ้าผู้สูงศักดิ์สวรรค์ฟ้าครามคิดเช่นนั้นกับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต มองจากความเหงาที่อดทนมาแปดร้อยปีแล้ว…

ซี้ด นี่ไม่ใช่แค่รอบเดียวแล้ว เกรงว่าคงต้องถูกตักตวงไปจนหมด!

ผู้กล้าแห่งพงไพร ผู้กล้าแห่งพงไพร น่ากลัว!

……..

เสิ่นเทียนแอบยกนิ้วโป้งให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเงียบๆ ในใจ ก่อนจะนำพวกศิษย์พี่ศิษย์น้องเริ่มออกเดินทางบนเกาะมหานที

มีเสิ่นเทียนร่วมด้วย ศิษย์สายตรงของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พวกนี้เหมือนกับได้สูบเลือดไก่ อย่างอื่นไม่ว่า แต่กำลังรบได้รับการเสริมพลังขึ้นอย่างเลือดร้อน!

ถึงอย่างไรทุกการผจญภัยครั้งก่อน แทบทุกคนมั่นใจได้แล้วว่าเสิ่นเทียนคือบุตรแห่งโชค ในสถานฝึกบำเพ็ญของมหาจักรพรรดิเช่นนี้ การได้ผจญภัยไปพร้อมกับเสิ่นเทียน นี่คือมหาโชคลิขิตระดับใด

แล้วยังจะไม่ปลุกใจสู้ตาย ทำให้บุตรศักดิ์สิทธิ์ได้รู้สึกถึงความทุ่มเทของตนอีกรึ

เกิดผจญภัยครั้งหน้า บุตรศักดิ์สิทธิ์ไม่พาตนไปด้วยจะทำอย่างไร

กลุ่มเล็กสิบกว่าคนเดินทางบุกเบิกสี่ทิศบนเกาะมหานที ผ่านไปที่ใด ปีศาจเพลิงมากมายจะถูกกวาดล้าง ถูกชิงก้อนผลึกมา

เสิ่นเทียนบีบเหยี่ยวเทพเพลิงที่รวมขึ้นจากพลังวิญญาณธาตุไฟตัวหนึ่งแตกกระจายสบายๆ ก่อนจะนำผลึกก้อนหนึ่งออกมาจากในตัวมัน

ต้องบอกว่าพลังงานในก้อนผลึกเปลวเพลิงพวกนี้บริสุทธิ์มากจริงๆ กระทั่งบริสุทธิ์ยิ่งกว่าพลังงานในตัวผู้สูงศักดิ์ส่วนใหญ่กระทั่งผู้สูงศักดิ์สวรรค์ส่วนหนึ่ง

น่าเสียดายที่ไม่ได้มีประโยชน์กับเสิ่นเทียนมากนัก ได้แต่เป็นสารอาหารให้อัคคีอรุณใต้ในกายเสิ่นเทียน มีส่วนช่วยแค่เล็กน้อย

เหนือศีรษะพวกฟางฉางกับจางอวิ๋นถิงปรากฏภาพโชคลิขิตโอสถวิญญาณไม่น้อย แต่บางทีอาจจะยังไม่ถึงเวลา โชคลิขิตโอสถวิญญาณพวกนั้นจึงมีคุณภาพธรรมดาอยู่

แน่นอน คุณภาพธรรมดานี้หมายถึงไม่มีแรงดึงดูดต่อเสิ่นเทียนในตอนนี้ ถึงอย่างไรเขาก็เคยพบชาตระหนักรู้มาแล้ว

แต่สำหรับผู้สูงศักดิ์ส่วนใหญ่กระทั่งผู้สูงศักดิ์สวรรค์ โอสถวิญญาณพวกนั้นค่อนข้างล้ำค่าแล้ว

พวกฟางฉางได้โอสถวิญญาณพวกนี้มา ทำให้คลังสมบัติของพวกเขาเต็มขึ้นไม่น้อย เพียงพอสำหรับการฝึกบำเพ็ญในเวลาปกติ

และหลังจากเสิ่นเทียนช่วยพวกเขาตามหาสมุนไพรพวกนี้ ดวงชะตาของเขาก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น

ความเร็วในการเพิ่มขึ้นช้าจนน่าทรมานจริงๆ

พบโอสถวิญญาณหลายครั้งติดต่อกันยังทำได้แค่ให้วงรัศมีเหนือศีรษะเสิ่นเทียนมีจุดสีทองเพิ่มมาสองจุดเท่านั้น

ถ้าเป็นไปตามความเร็วระดับนี้ เมื่อไรถึงจะกลายเป็นวงรัศมีสีม่วงอย่างของฉีเซ่าเสวียนกัน!

เสิ่นเทียนยังอยากจะเป็นบุตรแห่งโชคให้ไว แล้วไปเที่ยวเล่นในทุกแห่งหนอยู่นะ!

………

ไม่ได้การ จะต้องหามหาโชคลิขิต!

เมื่อพบในจุดนี้แล้ว เสิ่นเทียนก็เบื่อขึ้นมาเล็กน้อย

เขาหลับตาลงช้าๆ เหมือนกำลังสัมผัสอะไรบางอย่าง ก่อนจะหันไปมองทางตะวันตก

เขาพลันลืมตาขึ้น เผยรอยยิ้มในดวงตา “ข้ารู้สึกว่าทางตะวันตกของเกาะนี้น่าจะมีมหาโชคลิขิตอยู่”

มาแล้ว!

‘ลางสังหรณ์ของท่านปรมาจารย์สวรรค์’ ในตำนาน!

เถ้าแก่ซ่งกับหลิวไท่อี่มองหน้ากัน แววตามีความตื่นเต้นดีใจ

เหตุผลง่ายมาก เพราะทุกครั้งที่ท่านปรมาจารย์สวรรค์บุตรศักดิ์สิทธิ์สัมผัสได้ถึงโชคลิขิต ล้วนเป็นมหาโชคลิขิตสะท้านฟ้า

จากจี้หยกมังกรพยัคฆ์เทพสวรรค์ไปจนถึงไม้วิญญาณเถากลืนกินเซียน จากอาวุธเตรียมเซียนกระบี่ฟ้าสังหารไปจนถึงอาวุธสูงสุดหอคอยเทพสงคราม ก็ไม่เคยทำให้ใครผิดหวังเลย

และทุกคนที่ตามหลังเสิ่นเทียนมาตลอดก็ไม่เคยได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ต่อให้แค่เกาะผลประโยชน์มาได้บ้าง ก็มากพอจะทำให้ได้กินจนน้ำมันไหลย้อยเต็มปาก

“ในเมื่อท่านปรมาจารย์สวรรค์บุตรศักดิ์สิทธิ์สัมผัสได้ว่ามีมหาโชคลิขิต เช่นนั้นก็ต้องมีมหาโชคลิขิต!”

“ศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์นำทางเถอะ! พวกเราจะตามหลังท่านไม่โยกเยก!”

“องค์ชาย ถึงการตามหาโชคลิขิตจะสำคัญ แต่ความปลอดภัยของท่านสำคัญในสำคัญกว่า จะต้องระวังตัวไว้”

“ศิษย์น้อง ให้เราไปด้วยเถอะ! ศิษย์พี่ใหญ่กับพี่รวมดรุณแล้ว ศักยภาพของข้าก็สังหารผู้แข็งแกร่งจุดสูงสุดดวงจิตดรุณได้ คงจะช่วยได้ไม่น้อย!”

“อืม ถ้ามีใครคิดร้ายกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ ก็ต้องข้ามศพข้าฟางฉางไปก่อน!”

ทุกคนตัดสินใจจะตามเสิ่นเทียน นี่ทำให้เสิ่นเทียนรู้สึกอบอุ่นในใจ

ความรู้สึกที่มีคนเชื่อใจนี่มันดีจริงๆ!

เสิ่นเทียนชำเลืองตามองวงรัศมีเหนือศีรษะจ้าวเฮ่า ก่อนจะนำหน้าพุ่งทะยานไปทางตะวันตกของเกาะมหานที

เขาไม่ได้ใช้ความเร็วสูงสุด เพราะหากใช้ความเร็วเต็มที่ พวกคนข้างหลังจะถูกทิ้งห่างไปทันที ไม่ได้กลิ่นกระทั่งควันหลังของเขา

เพราะอย่างไรตอนนี้เสิ่นเทียนก็ดันความคิด ‘บุรุษก็ต้องเร็ว’ ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดแล้ว

ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ส่วนใหญ่ก็ยังไม่เร็วเท่าเขา!

……..

เกาะมหานทีถูกผนึกมาหมื่นปี ทุกที่บนเกาะมีแต่ปีศาจเพลิง

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์และผู้อริยะพวกนั้น ปกติจะไม่ลงมือกับปีศาจเพลิงระดับผู้สูงศักดิ์พวกนั้นเพื่อเป็นการฝึกฝนศิษย์ในสำนักและชนรุ่นหลัง

นี่ทำให้ตอนที่เสิ่นเทียนนำทุกคนข้ามเกาะมหานทีจึงเจอกับปีศาจเพลิงขวางทางไม่น้อย แต่ละตัวพุ่งเข้าชนใส่เสิ่นเทียนเหมือนกับถวายตัวให้

จนกระทั่งบีบมือสังหารปีศาจเพลิงไปสิบกว่าตัว เสิ่นเทียนถึงพบสาเหตุ เป็นเพราะเขาหล่อเกินไป…

แค่กๆ ล้อเล่น

เหตุผลจริงๆ คือหลังจากเสิ่นเทียนฝึกกายทองเก้ารอบเบิกฟ้าสำเร็จในขั้นต้น กลิ่นอายพลังรอบตัวจะเก็บเข้าไปเอง ปกติจะมองไม่เห็นความตื้นลึกหนาบาง

ปีศาจเพลิงพวกนั้นมีสติปัญญาสู้ผู้ฝึกบำเพ็ญไม่ได้อยู่แล้ว เกรงว่าคงมองเขาเป็นไก่อ่อนที่รังแกได้ง่ายๆ

‘จริงๆ เลย หรือว่าข้าดูไม่น่าเกรงขามพอกัน’

เสิ่นเทียนส่ายหน้ายิ้มแห้งๆ เขาทำตัวจืดจางไปหรือไม่ แม้แต่ปีศาจที่ยังไม่บรรลุระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์พวกนี้ยังกล้าดีดเท้าใส่เขา

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนจึงแผ่กลิ่นอายพลังที่เก็บไว้มาตลอดออกไปเล็กน้อย

เปรี้ยง~

ทันใดนั้น ปรากฏการณ์ไร้ที่สิ้นสุดได้ลอยขึ้นมาข้างหลังเสิ่นเทียน

ประกายสายฟ้าสีทองพลันแผ่คลุมมวลอากาศพันจั้ง ในนั้นยังมีเงามายาสัตว์เทพสิบทิศลอยขึ้นมา

ร่างเงายิ่งใหญ่ที่เห็นใบหน้าไม่ชัดร่างหนึ่งยืนอย่างโอหังอยู่ตรงกลางสัตว์เทพสิบทิศ ประหนึ่งจักรพรรดิสายฟ้าสูงสุดที่ควบคุมสัตว์เทพสิบทิศ คุมกฎการลงทัณฑ์จากสวรรค์ได้!

นี่คือปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นเมื่อฝึกเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมในคัมภีร์จักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์ถึงขั้นสมบูรณ์เท่านั้น อยู่สูงส่งยิ่ง

ตอนนี้เสิ่นเทียนหลอมรวมสิ่งมหัศจรรย์ปัญจธาตุครบ กระทั่งยังหลอมรวมมันไปอีกขั้น

เวลานี้หากเสิ่นเทียนยินดี อัสนีเทพกำเนิดฟ้าในกายก็จะพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นได้ เปลี่ยนเป็น ‘อัสนีเทพกำเนิดฟ้า’ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

และเพราะเหตุนี้เอง ปรากฏการณ์สายฟ้าข้างหลังเขาถึงไม่เคยพานพบมาก่อน

ต่อให้จักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์ในตอนนั้นกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง อยู่ในระดับพลังเดียวกัน ก็ไม่มีทางทัดเทียมกับเสิ่นเทียนในตอนนี้ได้

……

อานุภาพสวรรค์สายฟ้าน่าสะพรึงยิ่งหมุนม้วนไปไกลหมื่นจั้ง เวลานี้พวกปีศาจเพลิงที่คิดจะเข้ามาใกล้พากันตกใจกลัวหนีไปหมด

ขณะเดียวกัน ทางตะวันตกของเกาะมหานที เด็กสาวงดงามยิ่งในอาภรณ์สีขาวคนหนึ่งเดินทางเข้ามาช้าๆ

นางนั่งบนหงส์ตัวหนึ่ง บนตักวางกระบี่ล้ำค่าหยกขาวเล่มหนึ่ง

ทั้งตัวแผ่กลิ่นอายวิถีกระบี่แหลมคม

ตอนนี้นางเหมือนสัมผัสอะไรได้ กระบี่เทพบนตักสั่นไหวเบาๆ

นางลืมตาขึ้นช้าๆ มองไปในทิศทางที่เสิ่นเทียนอยู่ ดวงตาขยับประกายตื่นกลัวอย่างไม่ชัดเจนเสี้ยวหนึ่ง

นางพึมพำกับตัวเอง “นอกดินแดนกลางมีโอรสสวรรค์เช่นนี้ด้วยรึ ปรากฏการณ์น่ากลัวเช่นนี้ไม่ธรรมดาเลย เกรงว่าคงมีแค่พี่เทียนจื่อที่ปราบเขาได้กระมัง!

ท่านพ่อพูดไว้ถูกจริงๆ จะดูถูกโอรสสวรรค์ห้าดินแดนไม่ได้!”

…………………..