เชอร์รีนก้าวเตาะแตะถอยหลังไปหลายก้าว ประหลาดใจจนพูดไม่ออก
ทะ……ทำไม…..เป็นเขาอีกแล้ว
ประตูรถเปิดออก เลอแปงลงรถมา ใบหน้าเผยรอยยิ้มเล็กน้อย ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษกับเธอ “ครูครับขึ้นรถสิ พี่ใหญ่ของผมมีเรื่องอยากคุยกับครูครับ”
เขากับเธอมีเรื่องอะไรต้องคุย?
เชอร์รีนใจเต้นตึกตัก มองเข้าไปยังชายหนุ่มที่อยู่ในรถ ถามอย่างระแวงระวัง “เรื่องอะไร”
เลอแปงยิ้มเจี๋ยมเจี้ยมทันที กระแอไอเบาๆ “เกี่ยวกับเรื่องการเรียนของผมครับ”
เมื่อสิ้นเสียง ก็ไม่ยอมให้เชอร์รีนได้พูด เลอแปงเปิดประตูเบาะหลัง จับไหล่ของเธอยัดเข้าไป ส่วนตัวเองนั่งที่เบาะข้างคนขับ
“พี่ใหญ่ ไปที่ไหนครับ” เลอแปงเอียงศีรษะถาม
“ฉันหิวแล้ว” ออกัสเสียงอู้อี้และแหบแห้งเล็กน้อย เอนหลังพิงเบาะ หลับตาพักผ่อน สายตาคลับคล้ายคลับคลาว่าจะกวาดมาที่ตัวเธอ
ความรู้สึกกดดันจากด้านข้างหนักหน่วงมาก เชอร์รีนขมวดคิ้ว นั่งอย่างอึดอัด ไม่กล้าแม้แต่ขยับ
ยังดีที่ไม่นานรถก็จอดด้านหน้าร้านอาหารตะวันตกร้านหนึ่ง
หลังจากอาหารมาเสิร์ฟ เชอร์รีนก็ทำลายบรรยากาศที่เงียบเชียบ ตรงเข้าประเด็น “เกี่ยวกับการเรียนของเลอแปง คุณออกัสมีเรื่องอะไรอยากคุยกับฉันเหรอคะ”
ทันทีที่ได้ยินการพูดถึงตัวเอง เลอแปงที่แม้แต่ไวน์แดงในแก้วก็ไม่ทันได้ดื่ม แต่ยังหาข้ออ้างว่า “ผมไปเข้าห้องน้ำนะครับ”
ตอนที่จะออกจากห้องไป ยังจงใจขยิบตาให้ออกัสด้วย……
ออกัสหั่นสเต็กด้วยท่วงท่าสง่างาม เมื่อได้ยิน สายตาก็ตกมาที่ตัวเธอ “คุณครูเชอร์รีนคิดยังไงกับการเชิญครูสอนพิเศษมาสอน”
เห็นเขาทำท่าทางเป็นงานเป็นการ ใจเชอร์รีนที่กำลังระแวงระวังพลันคลายลง แสดงการสนับสนุน “ฉันคิดว่าเป็นความคิดหนึ่งที่ดีมาก”
“ดูเหมือนคุณครูเชอร์รีนจะตกลงกับการเป็นครูสอนพิเศษให้เลอแปง”
ได้ยินดังนั้น เชอร์รีนพลันเบิกตากว้างอย่างช่วยไม่ได้ ยืดตัวนั่งตรง “ฉันตกลงกับคุณเมื่อไร”
ออกัสวางมีดและส้อมในมือลง หยิบไวน์แดงขึ้นมาจิบเบาๆ “แล้วคำตอบของคุณครูเชอร์รีนตอนนี้ล่ะ”
“ขอโทษด้วย ฉันไม่มีเวลา” เชอร์รีนปฏิเสธโดยไม่คิด
“ไม่ต้องใช้เวลานานมากหรอกนะครับคุณครูเชอร์รีน แค่สองชั่วโมงต่อวันเท่านั้น……”
“คุณออกัส ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เวลานานเท่าไร แต่ฉันไม่มีเวลาจริงๆ”
เธอรวบรวมความกล้ามองสบตาเขา
แต่ออกัสหลับเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของเธอ ยังพูดเองเออเองต่อไป “ค่าจ้างสองเท่า……”
น้ำเสียงของเชอร์รีนค่อนข้างเย็นชา “ปัญหาไม่ใช่เงิน คุณออกัสควรหาคนอื่นค่ะ”
อยากลบความทรงจำในคืนนั้นให้หมดสิ้นไป ดังนั้นจึงไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีก
เพราะตราบใดที่เห็นเขา ความทรงจำในคืนนั้นจะหลั่งไหลพรั่งพรูออกมาราวกระแสน้ำ!
ส่ายโคลงแก้วไวน์เบาๆ เทียบกับความกระวนกระวายของเธอแล้ว เขาดูเฉยเมย พูดอย่างสบายๆ ว่า “คุณครูเชอร์รีนคิดยังไงถ้าผมเอาเรื่องนี้ไปคุยกับครูใหญ่ของโรงเรียนคุณ”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในประโยคนี้มีความหมายในเชิงข่มขู่ ด้วยอำนาจทางการเงินของตระกูลสิริไพบูรณ์ เธอมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ครูใหญ่จะมอบตัวเธอให้แน่นอน!
ในที่สุดความโกรธในจิตใจก็ถูกปลุกเร้าให้ระเบิด เชอร์รีนหน้าอกขยับขึ้นลงเล็กน้อย ลุกออกจากที่นั่ง “ทำไมคุณต้องการให้เป็นฉันให้ได้”
มีคนมากมายที่อยากเป็นครูสอนพิเศษ ทำไมต้องขู่เธอแบบนี้ เขามีเจตนาอะไรกันแน่
“คุณครูเชอร์รีนเข้าใจผิดแล้ว……” ออกัสหัวเราะเสียงต่ำ “ไม่ใช่ว่าผมต้องการให้เป็นคุณให้ได้ แต่มีคนต้องการให้เป็นคุณให้ได้”
เชอร์รีนชะงักอึ้ง จับจ้องมองเขา และเค้นออกจากปากมาสามคำ “เลอแปง?”
“อืม……” ออกัสตอบด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา
ที่แท้เธอคิดมากไป ความอับอายตีขึ้นจากก้นบึ้งหัวใจ หน้าของเชอร์รีนแดงเรื่อ “ขอโทษ เมื่อครู่ฉันตื่นเต้นเกินไป”