บทที่ 1227+1228 โดย Ink Stone_Romance
บทที่ 1227 นางก็…ก็หนีไปเองเลย…
คล้ายเกรงว่าเธอจะหลบหนีไป จึงล้อมเธอไว้กลายๆ
“ประมุขของพวกเราต้อนรับเจ้าอย่างมีไมตรี ทว่าเจ้ากลับทำร้ายองค์หญิงของพวกเรา!”
“พวกมนุษย์ล้วนเป็นไม่รู้ดีรู้ชั่วเช่นนี้กันหมดหรือ?”
“เหตุใดต้องทำร้ายองค์หญิงของพวกเราด้วย? เจ้ารู้ไหมว่าองค์หญิงของพวกเราไม่อาจบาดเจ็บได้?”
“จับนางไว้! อย่าให้นางหนีไปได้!”
กู้ซีจิ่วเอ่ยอย่างเยียบเย็น “วางใจเถอะ ข้าไม่หนีหรอก!” แล้วเหลือบมองสนมนางนั้นแวบหนึ่ง “เจ้าไม่คิดจะมอบคำอธิบายให้ชาวเผ่าของเจ้าหน่อยหรือ?”
สนมนางนั้นอ้าปากค้าง “อะ…อธิบายอะไร?”
กู้ซีจิ่วยิ้ม กล่าวอย่างเฉยชา “เจ้าไม่ต้องอธิบายก็ได้ แต่เรื่องนี้พอน้ำลดตอจะผุดขึ้นมาง่ายดายยิ่งนัก! วางใจเถอะ ข้าไม่หนีหรอก! อีกสองชั่วยามให้หลังข้าจะกลับมาทวงความเป็นธรรม!” ร่างกายสองแส่งวาบ หายไปจากจุดเดิม
ฝูงชนตกตะลึง
ผู้ใดก็นึกไม่ถึงว่ากู้ซีจิ่วจะมีทักษะเช่นนี้ด้วย มองอย่างโง่งมกันไปชั่วขณะ!
สนมนางนั้นร้อนรนแล้ว รีบออกคำสั่ง “นางหนีไปได้ไม่ไกลหรอก รีบไปตามหาเร็ว!”
ฝูงชนกระจายตัวออกไป พากันไปตามหา
สนมนางนั้นครุ่นคิดครู่หนึ่ง รีบไปตามหาเช่นกัน
ตามความคิดของชาวเงือกเหล่านี้ เหตุผลที่จู่ๆ กู้ซีจิ่วก็อันตรธานหายไปน่าจะเป็นเพราะใช้วิชาพรางกายหลบหนีไป ด้วยระดับการบำเพ็ญที่ต่ำต้อยถึงเพียงนั้นของนาง ต่อให้ใช้วิชาพรางกายก็ยืนหยัดได้ไม่นาน มากสุดก็หนึ่งเค่อ…
อีกอย่างภายในวังนี้ก็มีกลไกอยู่ทุกหนทุกแห่ง เส้นทางมากมายวกวนเสมือนเขาวงกต ถ้ามิใช่ผู้ที่อาศัยอยู่ที่นี่มานานหลายปีหากว่าไม่มีคนนำทาง ไม่มีทางหนีออกไปจากวังเงือกได้
สนมนางนี้ยังค่อนข้างมีอิทธิพลในตำหนักเงือกอยู่ สามารถเรียกระดมพลได้ไม่น้อย แต่ทุกคนค้นหาไปทั่ววังอย่างละเอียดปานร่อนด้วยตะแกรงแล้ว ก็ไม่เห็นแม้แต่มุมชุดของกู้ซีจิ่ว!
ไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวเวลาก็ผ่านไปหนึ่งชั่วยามแล้ว
สองมือของสนมนางนั้นยังคงว่างเปล่าเช่นเดิม คนทั้งหมดที่ออกไปค้นหาล้วนกลับมาแล้ว ไม่พบร่องรอยของสตรีผู้นั้นเลย
สนมนางนั้นตื่นตระหนกแล้ว ที่นี่คือใต้มหาสมุทรลึก หากว่ากู้ซีจิ่วทะเล่อทะล่าออกไปจากอาณาจักรเงือก เข้าไปในมหาสมุทร แรงดันน้ำมหาศาลสามารถบดขยี้นางได้อย่างสมบูรณ์!
นางไม่มีวิธีแล้ว ไม่กล้ากระทำโดยพลการอีก ตัดสินใจไปหาประมุขเงือกที่ตำหนักน้ำแข็ง…
เพิ่งจะวิ่งเข้าประตูไป ก็เกือบชนกับตี้ฝูอีที่ก้าวออกมาอย่างร้อนรนแล้ว เป็นตี้ฝูอีที่สะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง ทำให้นางยืนอยู่ที่เดิมอย่างมั่นคง ตี้ฝูอีถามเข้าประเด็นทันที “พระสนมจะวิ่งไปไหน? ซีจิ่วล่ะ?”
สนมนางนั้นตะลึงงัน ตอบอย่างตะกุกตะกัก “แม่นางกู้นาง…นางกลัวอาญาจึงหนีไปแล้ว…”
สีหน้าตี้ฝูอีแปรเปลี่ยนทันที “นางไปแล้ว?!”
“ช…ใช่เจ้าค่ะ พวกท่านจากมาได้ไม่นาน นางก็…ก็หนีไปเองเลย…”
“นางไม่ได้กลัวอาญาจึงหนีไป!” น้ำเสียงของตี้ฝูเยียบเย็นลง “หลังจากข้ามา พวกเจ้าเล่นงานนางใช่ไหม?!”
“มะ…ไม่ใช่เจ้าค่ะ…” อำนาจรอบกายตี้ฝูอีแข็งแกร่งเกินไป ทำให้สนมนางนั้นติดอ่างไปเสียดื้อๆ
“เกิดอะไรขึ้น?” หลานเหยากวงก็เดินอกมาจากในห้องแล้ว ขมวดคิ้วมองสนมรักของบ้านตน
สนมนางนั้นโผเข้าใส่อ้อมอกเขา “ฝ่าบาท!”
หลานเหยากวงพยุงนางให้ยืนตรงๆ “เจ้าว่าอะไรนะ? แม่นางกู้ไปแล้ว?”
สนมนางนั้นถึงได้เล่าเรื่องที่หลังจากพวกหลานเหยากวงจากไป กู้ซีจิ่วก็หายไปทันทีออกมา
แน่นอนว่านางไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่ข้าราชบริพารชาวเงือกล้อมกู้ซีจิ่วไว้ และถ้อยคำทั้งหมดที่กู้ซีจิ่วกล่าวไว้ ก็บอกเพียงว่ายามที่กู้ซีจิ่วจะจากไปได้พูดว่า ‘อีกสองชั่วยามให้หลังจะกลับมา’
หลานเหยากวงรู้สึกเพียงว่าเส้นเลือดที่หน้าเต้นตุบๆ แล้ว อดไม่ได้ที่จะมองไปทางตี้ฝูอีแวบหนึ่งอย่างขออภัย “พี่หวง ขออภัยด้วย ท่านพาคู่หมั้นมาที่นี่เป็นครั้งแรกก็…ผู้น้องจะส่งคนออกไปตามหาโดยขยายขอบเขตให้กว่าขึ้น จะต้องตามหานางกลับมาได้แน่นอน อันที่จริงนางไม่จำเป็นต้องหนีไปเพราะเกรงอาญาเลย…”
——————————————————————-
บทที่ 1228 ใครลงมือก่อน?
สีหน้าของตี้ฝูอีเยียบเย็นลง “ข้าบอกแล้วไง นางไม่ได้เกรงอาญาจนหนีไป!” สายตาเขาร่อนลงบนร่างของสนมนางนั้น “เอาความจริง! บอกความจริงของเรื่องราวก่อนหน้านี้มา!”
สนมนางนั้นสั่นสะท้าน กล่าวอย่างหลบเลี่ยงความรับผิดชอบ “ก็เป็น…ก็เป็นแบบที่คุณชายหวงเห็น แม่นางกู้กับองค์หญิงมีปากเสียงกันไม่กี่ประโยค จากนั้น…จากนั้นพวกนางก็ลงมือกัน…”
“มีปากเสียงกันด้วยเรื่องใด? ใครลงมือก่อน?”
สนมนางนั้นนิ่งงัน
….
กู้ซีจิ่วย่อมไม่ได้ไปจากอาณาจักรเงือกจริงๆ เธอยังไม่โง่ถึงขนาดนั้น ที่นี่คือใต้มหาสมุทรลึก ต่อให้เธอเคลื่อนย้ายออกไปสิบลี้ได้ ถ้าหากด้านนอกยังคงเป็นมหาสมุทรลึกอยู่จะทำยังไงล่ะ?
หลงทางอยู่ในมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ไพศาลไม่ใช่เรื่องสนุกเลย
ตอนนี้เธออยู่ที่งานชุมนุมบุปผา
วันนี้มีงานชุมนุมบุปผาของชาวเงือกที่จัดขึ้นปีละครั้ง เป็นงานที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ และเป็นตลาดนัดของเผ่าบาดาลด้วย ทุกคนที่เป็นชาวบาดาลล้วนเข้าร่วมได้ ของที่ขายที่นี่ในวันนี้จะครบครันเป็นที่สุด ของวิเศษล้ำค่าอันใดล้วนเป็นไปได้หมดว่าจะมี ไม่เพียงแต่มีข้าวของขายอย่างครบครันแล้ว ยังมีการแสดงสารพัดอย่างด้วย
อันที่จริงกู้ซีจิ่วไม่สนใจการแสดงมากนัก ก่อนหน้านี้ตอนที่เธอคุยกับสนมนางนั้น ได้ทราบว่างานชุมนุมบุปผานี้มีถนนสายโอสถด้วย จะขายสมุนไพรล้ำค่าบางส่วนของเผ่าบาดาล กู้ซีจิ่วตรวจสอบพบว่าในน้ำยาที่หลงซือเย่ผลิตขึ้นเพื่อเธอ มีสมุนไพรของเผ่าบาดาลชนิดหนึ่งอยู่ด้วย เรียกได้ว่าพบเห็นบนแผ่นดินได้ยากยิ่งนัก ยามนี้ยากนักกว่าจะได้มาเดินเล่นที่เผ่าบาดาลสักครั้ง เธอจึงคิดจะลองเสี่ยงโชคสักหน่อย ดูว่าจะซื้อหาได้หรือไม่
ถนนสายโอสถเส้นนี้มีแผงขายสมุนไพรไม่น้อยเลย แน่นอนว่าที่นี่ก็มีชาวเงือกเดินเตร่อยู่มากมายเช่นกัน แต่แทบจะไม่มีมนุษย์เลย
เธอพบว่าในแผงซึ่งไม่สะดุดตาแห่งหนึ่งที่อยู่ด้านหน้ามีสมุนไพรที่ตนต้องการอยู่จริงๆ ถึงขั้นที่อีกหลายชนิดที่เธอต้องการก็ แต่บนบกไม่อาจซื้อหาได้อยู่ด้วย แถมราคายังไม่แพง ราคาของสมุนไพรทั้งหมดที่เธออยากซื้อรวมกันแล้วก็เท่าราคาเสื้อผ้าสองชุดเท่านั้น
ที่น่าหดหู่ก็คือ สกุลเงินของชาวเงือกที่นี่ไม่ใช่เงินตรา แต่เป็นไข่มุกชนิดหนึ่ง
กู้ซีจิ่วย่อมไม่มีสกุลเงินชนิดนี้ สักเม็ดก็ไม่มีเลย
นี่กลับไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอ คนอย่างเธอไม่ว่าจะไปที่ไหน ไม่มีทางเดือดร้อนเรื่องเงินเด็ดขาด เธอมีลู่ทางหาเงิน
เธอตามหาบ่อนพนันก่อน ทักษะการพนันของเธอนั่นเป็นเลิศ ชนะเดิมพันที่บ่อนพนันเป็นช่องทางหาเงินที่เร็วที่สุดของเธอเสมอมา
นึกไม่ถึงว่าอาณาจักรเงือกแห่งนี้จะแตกต่างกับแดนมนุษย์ ที่นี่ไม่มีบ่อนพนันเลย เธอทำได้เพียงหาทางอื่นอีกครั้ง
เธอเดินวนบนถนนใหญ่ดูรอบหนึ่ง ในที่สุดเธอก็หาโอกาสทำการค้าพบแล้ว
สุดปลายถนนใหญ่ตั้งเวทีที่งดงามตระการตาหลังหนึ่งไว้ หน้าเวทีมีผู้คนคับคั่ง บนเวทีมีคนทำการแสดงอยู่
กู้ซีจิ่วสอบถามดู ทราบว่าที่นี่มีการแข่งขันร้องเพลงอยู่ กล่าวกันว่านักร้องที่แข่งได้จนจบจะได้รับของขวัญพระราชทานชิ้นหนึ่งจากประมุขเผ่าเงือก นั่นคือไข่มุกราตรีเม็ดหนึ่งที่มีขนาดใหญ่เท่าชาม ที่วางอยู่บนโต๊ะเล็กบนเวทีทอแสงเย้ายวนใจคน
ชาวเงือกชำนาญการร้องรำที่สุด ร่ำลือกันว่าในมหาสมุทรยามราตรี จะได้ยินเสียงเพลงของนางเงือกเป็นประจำ และเรือที่เดินทางอยู่นแถบนั้นก็จะถูกเสียงเพลงของนางเงือกดึงดูดให้ลุ่มหลง จนแล่นเข้าไปในตาพายุ ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมอันน่าสลดขึ้นกับคนทั้งเรือ…
อันนั้นในสายตาของมนุษย์บนบก นางเงือกคือพรายทะเล เสียงเพลงของพรายทะเลล่อลวงเอาชีวิตมนุษย์
กู้ซีจิ่วชมอยู่ด้านล่างเวทีพักหนึ่ง พบว่านางเงือกที่ร้องเพลงอยู่บนเวทีร้องได้ยอดเยี่ยมนัก และชาวเงือกที่อยู่ด้านล่างเวทีก็ใจกว้างต่อนางเงือกดาวเด่นที่ร้องเพลงอยู่เวทียิ่งนัก ถ้าร้องได้ดี ก็จะพากันโยนไข่มุกขึ้นไปบนเวทีเพื่อให้กำลังใจ
เมื่อนางเงือกที่ขับร้องอย่างยอดเยี่ยมเหล่านั้นร้องจบหนึ่งเพลง ไข่มุกที่ถูกโยนขึ้นไปบนเวทีก็เพียงพอให้เธอซื้อสมุนไพรเหล่านั้นได้แล้ว
กู้ซีจิ่วมั่นใจในการขับร้องของตนมาก…
————————————————————–