ภาคที่ 4 ตอนที่ 67 ทรายขาวกำลังปนเปื้อน

มรรคาสู่สวรรค์

ในเวลานี้นิ้วมือของจักรพรรดิแห่งหมิงได้จมลงไปในข้อมือของเขาจนหมดแล้ว ราวกับหลอมรวมเป็นร่างเดียวกัน

นิ้วมือของชายชรายกขึ้นมา เขาไม่อยากจะสัมผัสกับร่างกายของจักรพรรดิแห่งหมิง แต่ฝ่ามือของเขาไม่สามารถแยกออกมาได้ มันหลอมรวมเข้ากับข้อมือของจักรพรรดิแห่งหมิง มองดูคล้ายดอกไม้

หากปล่อยให้สถานการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ สุดท้ายเขาก็จะหลอมรวมเป็นร่างเดียวกับจักรพรรดิแห่งหมิง

เสียงคำรามอันดังสนั่นแผดร้องออกมาจากปากของชายชรา

แขนเสื้อเขาโบกสะบัดอย่างรุนแรง บึงน้ำสีเขียวคล้ำเกิดคลื่นยักษ์กระเพื่อมขึ้นมา กระแทกไปมากับผนังของสวรรค์ในกา ส่งเสียงตูมตามดังสนั่นราวเสียงกลองรบ

ร่างกายของจักรพรรดิแห่งหมิงลอยขึ้นมาจากน้ำในบึง คล้ายไร้ซึ่งน้ำหนัก

เมื่อดวงจิตของมังกรชางหลงโจมตีอย่างเต็มที่ เพลิงวิญญาณที่ห่อหุ้มร่างกายเขาอยู่ก็เกิดรอยแตกขึ้นมาเป็นจำนวนมาก น้ำในบึงไหลเข้าไปกัดกินร่างกายจนเกิดเป็นฟองอากาศและรอยเปื่อยยุ่ยเล็กๆ จำนวนมาก

แต่มือของเขายังคงจับข้อมือของชายชราเอาไว้แน่น พูดให้ถูกยิ่งกว่านั้นก็คือมือของเขาเหมือนงอกออกมาจากร่างกายของชายชรา

น้ำในบึงกระเพื่อมไปมา แขนเสื้อของทั้งสองคนค่อยๆ ฉีกขาด แขนหลอมรวมเข้าด้วยกัน กระดูกและเนื้อที่อยู่ด้านในก็รวมเข้าด้วยกัน ไม่สามารถแยกจากกันได้อีก

การหลอมรวมดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนก็หดสั้นลงเรื่อยๆ ใบหน้าแทบจะแนบชิดติดกัน

ชายชรามองเห็นความเฉยชาและความเยือกเย็นที่อยู่ในดวงตาสีดำของจักรพรรดิแห่งหมิงได้อย่างชัดเจน

จักรพรรดิแห่งหมิงเองก็มองเห็นความหวาดกลัวในดวงตาของชายชราได้อย่างชัดเจน นั่นคือความหวาดกลัวอย่างแท้จริง

ชายชราไม่สามารถแบกรับความหวาดกลัวที่จะถูกกลืนกินเอาไว้ได้อีก เขาคิดจะคลายสวรรค์ในกาออก

ถึงแม้จะคลายสวรรค์ในกา เขาก็ยังไม่สามารถแยกออกมาจากร่างกายของจักรพรรดิแห่งหมิงได้ แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องแช่อยู่ในน้ำสีเขียวที่เป็นเหมือนสุราแห่งนี้…..

ชายชราคิดถึงเรื่องเหล่านี้ ทันใดนั้นพลันรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง

คำศัพท์สำคัญบางอย่างผุดขึ้นมาในสมองของเขาอย่างรวดเร็ว

สวรรค์ในกาที่ไม่สามารถออกไปได้ บึงน้ำที่มีพิษรุนแรง การควบคุมดวงจิต…

“ฮ่าๆๆๆๆๆ!”

ชายชราพลันหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา หัวเราะจนเกือบจะน้ำตาไหล มองดูจักรพรรดิแห่งหมิงพลางกล่าวว่า “ฝ่าบาทช่างยอดเยี่ยมจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะเล่นงานดวงจิตของข้า จนข้าเกือบจะเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องจริง!”

จักรพรรดิแห่งหมิงมองดูเขาเงียบๆ พลางกล่าว “เดิมเรื่องเหล่านี้มันก็เป็นเรื่องจริงอยู่แล้ว”

ชายชราคำราม “ไม่! ทุกอย่างเป็นภาพลวงตา! เจ้าหลอกข้าไม่ได้หรอก!”

คำพูดเพิ่งพูดจบ ความคิดเขาพลันขยับ ทำให้น้ำภายในกาแห่งสวรรค์หมุนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว กลายเป็นน้ำวนสายหนึ่ง

ร่างกายของเขาและจักรพรรดิแห่งหมิงคล้ายก้อนหินที่อยู่ในน้ำวน ถูกกระแทกไปมาไม่หยุด

ผ่านไปไม่นานเท่าไร เพลิงวิญญาณที่ห่อหุ้มร่างกายจักรพรรดิแห่งหมิงก็ถูกกัดกร่อนไปจนหมด น้ำสีเขียวถาโถมเข้าไป

บนใบหน้าของจักรพรรดิแห่งหมิงมีรูเลือดเล็กๆ ปรากฏขึ้นมานับไม่ถ้วน จากนั้นค่อยๆ ลุกลามออกไป

ร่างกายของเขาเองก็ถูกกัดกร่อนด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เผยให้เห็นกระดูกที่เป็นเหมือนหยกสีขาว บนผิวกระดูกมีฟองอากาศเล็กๆ มากมาย

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร น้ำวนภายในบึงค่อยๆ สงบลง

กาแห่งสวรรค์ค่อยๆ เปิดออก บึงน้ำไหลกลับไปยังพื้นด้านล่าง ท้องฟ้าอันมืดมิดยกตัวกลับขึ้นไปด้านบน

ชายชรายืนอยู่ริมบึง มองดูน้ำในบึงเงียบๆ มิกล่าวกระไร

จอกแหนกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ปกปิดน้ำสีเขียวคล้ำ ภายในน้ำนอกจากโครงกระดูกที่ปีศาจยักษ์ตัวนั้นทิ้งเอาไว้เมื่อในอดีตแล้วก็ไม่มีร่องรอยใดๆ หลงเหลืออยู่อีก กระทั่งเศษซากก็ไม่มีเหลือ

ชายชรามองไปทั่วทุกที่ภายในคุกสะกดมาร

เพลิงวิญญาณที่หน้าตาเหมือนจักรพรรดิแห่งหมิงตัวเล็กๆ เหล่านั้นก็บินออกมาจากรอยแตกเหล่านนั้น ก่อนจะสลายหายไปอย่างช้าๆ

จักรพรรดิแห่งหมิงตายแล้ว

ชายชรามองดูแขนของตัวเอง

ข้างในไม่มีมือของจักรพรรดิแห่งหมิง ไม่มีบาดแผล ไม่มีร่องรอยแม้แต่นิดเดียว

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ล้วนแต่เป็นภาพลวงตาจริงๆ ด้วย

ชายชราครุ่นคิดถึงเหตุการณ์อันน่าตกใจและอันตรายก่อนหน้านี้ ก่อนจะบินขึ้นไปยังด้านบนหน้าผาด้วยความรู้สึกหวาดกลัว จากนั้นเดินออกไปทางด้านนอกคุกสะกดมาร

ที่นี่คือชั้นสองของคุกสะกดมาร ร้อนระอุเป็นอย่างยิ่ง เส้นลวดลายที่หมุนวนอยู่บนหน้าผาเหล่านั้นถูกทำลายลงจนหมด ห้องขังที่อยู่ในความมืดทั้งสองด้านเงียบสงัดไร้ซึ่งเสียงใดๆ

หลังเจอกับสวรรค์ในกา ภายในคุกสะกดมารก็ถูกทำลายไปไม่น้อย

นักโทษเหล่านั้นสวมใส่กุญแจพลังวิญญาณเอาไว้ ไม่สามารถทนรับต่อการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ว่างอันรุนแรงเช่นนี้ได้ ดูแล้วคงจะตายไปจนหมดแล้ว

เมื่อเดินไปเรื่อยๆ ชายชราก็ค่อยๆ สงบสติอารมณ์ลงไป ขณะเดียวกันก็เริ่มดูดซับพลังที่จักรพรรดิแห่งหมิงทิ้งเอาไว้ในบึงน้ำ

ทันใดนั้นเอง เขาพลันหยุดนิ่งอยู่บนที่โล่งกว้าง

เขารับรู้ได้ว่าในร่างกายของตัวเองมีพลังที่แข็งแกร่งและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตสายหนึ่งปรากฏขึ้นมา เขาคล้ายรู้สึกว่าตนเองได้บรรลุไปถึงสภาวะที่สูงส่งอย่างที่ไม่เคยได้พบเจอมาก่อน

พลังและสภาวะเช่นนี้ช่างมหัศจรรย์เป็นอย่างมาก คล้ายกับสุราชั้นเลิศที่แท้จริงอย่างไรอย่างนั้น ทำเอาเขารู้สึกลุ่มหลงเมามาย

หรือกำลังจะบรรลุกลายเป็นเซียน?

ชายชราคิดอย่างตกใจและยินดี ลางสังหรณ์ที่จะได้หลุดพ้นจากโลกมนุษย์เช่นนั้นยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำเอาเขาอดหัวเราะเสียงดังขึ้นมาไม่ได้

หากมิเป็นเพราะเขาไม่สามารถบรรลุเป็นเซียนและหวาดกลัวต่อความตาย ไหนเลยเขาจะยอมแปลงกลายเป็นคุกสะกดมารมาอยู่ใต้เมืองเจาเกอเป็นเวลานานขนาดนี้?

ในที่สุดตอนนี้เขาก็จะได้โบยบินกลายเป็นเซียน ในที่สุดเขาก็จะได้กลายเป็นเทพมังกรที่แท้จริง แล้วจะไม่ให้เขารู้สึกตื่นเต้นยินดีได้อย่างไร!

เสียงหัวเราะของชายชราดังสะท้อนไปมาในคุกสะกดมารอันเงียบสงัด กัมปนาทราวเสียงฟ้าคำราม

ทันใดนั้นเสียงหัวเราะพลันหยุดชะงักไป

ชายชรารู้สึกแปลกใจ

เห็นๆ อยู่ว่าในเวลานี้เขาอยู่ในอารมณ์ที่ยินดีเป็นอย่างมาก เขายังรู้สึกอยากจะหัวเราะเสียงดัง หางตาถึงขนาดยังมีรอยยิ้มอยู่ แต่เหตุใดเสียงหัวเราะกลับหยุดไป?

ราวกับมีใครหันหลังให้กับเจตจำนงของเขา ทำให้ปากของเขาต้องหุบลง

ทันใดนั้น เขาพลันอ้าปากเอ่ยออกมาว่า “ความยินดีของเจ้ามาจากไหนกัน?”

……

……

ใบหน้าของชายชราแปรเปลี่ยนเป็นขาวซีดเป็นอย่างมาก

เขาไม่ได้มีความคิดที่จะพูดเลย

คำพูดประโยคนี้ใครเป็นคนพูด?

คนที่อยู่ในคุกสะกดมารตายกันไปหมดแล้ว คำพูดประโยคนี้พูดให้ใครฟัง?

จากนั้นชายชราพลันรู้สึกว่าในร่างกายของตัวเขาองก็เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้น เขารู้สึกเหมือนร่างกายเตี้ยลง

เขามองดูมือของตัวเอง พบว่ามือทั้งสองข้างดูขาวและน่ารักขึ้น

ม่านตาของชายชราหดเล็กน้อย เขาจำมือสองข้างนี้ได้ เพราะก่อนหน้านี้ไม่นาน มือสองข้างนี้เคยคว้าจับอยู่ที่ข้อมือของเขา แล้วค่อยๆ จมลงไปในร่างกายเขา

ในจุดที่ชายชรามองไม่เห็น ยังมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างกำลังเกิดขึ้น

ขนคิ้วของเขาค่อยๆ จางลง จนกระทั่งหายไป ม่านตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นดำขึ้น ราวอัญมณีสีดำอย่างไรอย่างนั้น

“เจ้า….ยังมีชีวิตอยู่?”

ชายชรากล่าวเสียงสั่นขึ้นมา

“ถูกต้อง”

เสียงเสียงหนึ่งดังออกมาจากในปากเขา

นั่นคือเสียงของตัวชายชรา แต่เขารู้ว่านั่นเป็นอีกคนหนึ่ง

“เจ้าอยู่ในตัวข้า?”

“ข้าเคยบอกแล้ว เรื่องการควบคุมดวงจิต ข้าคือที่หนึ่งในใต้หล้า ยิ่งไปกว่านั้นทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้มิใช่การคิดไปเอง”

ร่างกายของชายชราสั่นเทิ้มขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุมได้

เขาถึงได้รู้ว่าพละกำลังที่ตนเองรับรู้ได้ก่อนหน้าที่มิใช่สิ่งที่ได้มาจากการกลืนกินจักรพรรดิแห่งหมิง

ความรู้สึกที่เหมือนจะได้บรรลุเป็นเซียนที่เขารับรู้ได้ก็ย่อมไม่ใช่การบรรลุเป็นเซียนเช่นกัน อย่างนั้นมันคืออะไร?

“นั่นคือความตาย”

“เจ้า…เจ้า…คิดจะทำอะไรกันแน่?”

“เจ้าน่าจะรับรู้ได้แล้วว่าข้ากำลังจะฆ่าเจ้า”

“ไม่! เจ้าทำเช่นนี้ไม่ได้! ดวงจิตของข้ากับเจ้าหลอมรวมเข้าด้วยกัน หากเจ้าฆ่าข้า เจ้าก็จะตายไปด้วย!”

“เจ้าไม่เคยคิดมาก่อนหรือว่าเหตุใดข้าถึงออกมาจากประตูพายุ แล้วทำให้เจ้าได้มีโอกาสกินข้า?”

“มีแต่แบบนั้นเจ้าถึงจะฆ่าข้าได้…แต่ว่า…หรือว่า….เจ้าไม่ได้อยากจะมีชีวิตอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว?”

“ถูกต้อง ข้าอยากตายตั้งแต่แรกแล้ว หากพาเจ้าตายไปด้วยได้ เช่นนั้นคงเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก”