ตอนที่ 180 ฉันไม่อร่อยหรอกนะ! / ตอนที่ 181 ฉันเป็นศพ ฉันจะขยับไม่ได้

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ตอนที่ 180 ฉันไม่อร่อยหรอกนะ! 

 

 

อากาศภายในรถดูเหมือนจะเพิ่มดีกรีความอุ่นขึ้นมาทันทีด้วยคำถามนั้น  

 

 

อันซย่าซย่าคิดว่าเขาจะตีเธอจึงรีบยกมือขึ้นป้องศีรษะเล็กๆ ของเธอด้วยฝ่ามือทั้งสอง พลางขอร้องด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร “อย่าตีหัวฉันนะ! ฉันจะโง่ลงจริงๆ แล้วนะถ้านายตีหัวฉันอีก!”  

 

 

ชายหนุ่มดึงตัวเธอเข้าสู่อ้อมแขน ท่าทางน่ากลัว “อันซย่าซย่า เธอเคยดูหนังเรื่องที่เขาเอาเนื้อคนมาทำหมูบดบาร์บีคิวไหม ไหนบอกซิ เธอชอบรสชาติไหน เนื้อพริกไทย หรือเราจะใส่เห็ดหรือหัวไชเท้าลงไปผสมด้วยดี…” 

 

 

หญิงสาวหน้าซีดเผือดและดิ้นขลุกขลัก “ฉัน…เนื้อฉันไม่อร่อยหรอก! นายจะกินฉันไม่ได้นะ! กินเนื้อคนอื่นมันผิดกฎหมายด้วย! พี่ชายฉันเป็นทนาย ฉันจะให้พี่ฟ้องนาย!” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อขู่เธอให้กลัวยิ่งขึ้นไปอีกพลางร้องหึ “เธอจะเอาไปฟ้องพี่ได้ยังไงในเมื่อเธอกลายเป็นหมูบดไปแล้ว” 

 

 

อันซย่าซย่าตาเบิกโพลงด้วยความสะพรึงกลัว เซิ่งอี่เจ๋อเชยคางเธอขึ้นด้วยนิ้วเรียวยาวของเขา “จุ๊ๆ หมูบด หมูบด หนังบางๆ แถมไส้กลวงๆ แบบนี้ กินคำเดียวก็หมดแล้ว…” 

 

 

“อย่านะ… เซิ่งอี่เจ๋อคนใจร้าย…” เสียงหวีดร้องของอันซย่าซย่าดังก้องภายในรถ และคนขับรถวัยกลางคืนก็ไม่สามารถกลั้นหัวเราะได้อีกต่อไป 

 

 

หลังจากขับรถรับใช้ครอบครัวเซิ่งมาหลายปีดีดัก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นนายน้อยทำตัวเป็นเด็กแบบนี้! 

 

 

เขาแสร้งทำเป็นไม่ชอบทั้งๆ ที่ชอบ และแสดงออกกับเธอตรงกันข้ามเมื่อเขาเป็นห่วงเป็นใยเธอ มีอะไรที่น่าดึงดูดใจนักหนากันนะในตัวเด็กสาวคนนี้ 

 

 

เมื่ออันซย่าซย่าคิดว่าเธอกำลังจะโดนสับเป็นชิ้นๆ แล้วนั้น รถก็หยุดลงและคนขับรถก็กระแอมในลำคอ เสี่ยงชีวิตด้วยการแจ้งเซิ่งอี่เจ๋อ “นายน้อยครับ เรามาถึงสถานที่ถ่ายทำแล้วครับ” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อกัดฟัน ปล่อยตัวเธอ แล้วก็ก้าวลงจากรถ เขาหันกลับมามองหลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าวพร้อมกับขมวดคิ้ว “นี่ มัวนั่งทำอะไรอยู่ตรงนั้นล่ะ มาสิ!” 

 

 

ด้วยความที่ยังสั่นไม่หาย อันซย่าซย่าตามเขาเข้าไปอย่างอิดออด 

 

 

เมื่อเห็นเซิ่งอี่เจ๋อ ผู้กำกับก็กวักมือเรียกให้เขาเข้าไปหา จากนั้นก็ตบหน้าผากตัวเองก่อนเอ่ยบอก “ใช่แล้ว เรามีฉากรวมนักแสดงที่ต้องถ่ายซ่อมใหม่ แล้วก็ขาดตัวประกอบนิดหน่อย ขอยืมตัวแฟน… เอ้ย ผู้ช่วยของเธอครู่หนึ่งได้ไหม” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มนิดๆ และพยักหน้า 

 

 

เขาเดินกลับมาหาอันซย่าซย่า ซึ่งกระโดดหนีไปอีกทางหนึ่งทันที ท่าทางตื่นตกใจ “เซิ่งอี่เจ๋อ ทำตัวดีๆ หน่อย! พวกเราอยู่ต่อหน้าสายตาคนอื่นมากมายเชียวนะ! นายไม่สามารถหนีไปได้หรอก ถ้าขืนเข้ามาใกล้กว่านี้ ฉันจะฟ้องนายข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ!” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มอย่างเหนือกว่า “เธอคิดว่าคนอื่นเขาจะเชื่อใครมากกว่า ถ้าเกิดการฟ้องล่วงละเมิดทางเพศ เธอหรือฉัน” 

 

 

อันซย่าซย่าพูดไม่ออกไปเลย 

 

 

T_T โลกนี้ตัดสินกันด้วยหน้าตาสินะ… 

 

 

“เธอจะเล่นเป็นศพในอีกหนึ่งนาทีข้างหน้า มีอะไรสั่งเสียไหม” เซิ่งอี่เจ๋อแกล้งตีสีหน้าที่เรียกได้ว่าอ่อนโยนที่สุด ซึ่งทำเอาอันซย่าซย่าขนลุกซู่ 

 

 

หลอนเป็นที่สุด! 

 

 

“ฉันจะกลับบ้าน! ปล่อยฉันกลับบ้านเถอะ!” อันซย่าซย่าร้องเสียงเล็กเสียงน้อย ดูท่าทางเหมือนกำลังจะร้องไห้ออกมาจริงๆ 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อไม่อาจกลั้นไหวอีกต่อไป เขาระเบิดหัวเราะออกมาในที่สุด 

 

 

“ใจเย็นๆ นะโอเคไหม จะให้เธอเล่นเป็นศพแค่นั้นเอง” 

 

 

อันซย่าซย่าเพิ่งซึ้งในคำพูดเขา 

 

 

เชอะ! เขาหลอกเธอเล่นอีกแล้ว! 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 181 ฉันเป็นศพ ฉันจะขยับไม่ได้ 

 

 

อย่างไรก็ตาม นี่ดูเหมือนว่าจะเป็นครั้งแรกที่เธอเคยเห็นเขาหัวเราะอย่างแท้จริง 

 

 

เธอเคยเห็นเขายิ้มมาหลายครั้ง ยิ้มเย้ยหยัน ยิ้มเย็นชา ยิ้มอย่างไม่พอใจ ว่ามาได้เลย ถึงแม้เธอจะยอมรับว่าเขาดูหล่อเหลาเอาการที่เดียวไม่ว่าจะยิ้มแบบไหน แต่รอยยิ้มที่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจนั้นช่างน่าทึ่งเป็นที่สุด 

 

 

และมันทำให้หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นส่ำ 

 

 

หญิงสาวกดฝ่ามือเข้ากับหน้าอกที่กำลังเต้นรัว เธอรีบเปลี่ยนหัวข้อเรื่อง “หมายความว่ายังไง”  

 

 

“เขาต้องการตัวประกอบ อยากเล่นบทนั้นไหมล่ะ เธอจะได้ค่าจ้างแถมยังได้กินข้าวกลางวันฟรีด้วยนะ” เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มให้เธอ 

 

 

อันซย่าซย่าพยักหน้ารับอย่างไว จากนั้นก็เดินไปยังแผนกคอสตูมตามที่ได้รับคำแนะนำ 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มอย่างรู้ทันตามหลังเธอไป และก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าของเขาเองด้วยเช่นกัน 

 

 

หลีฝานซิงเฝ้ามองเหตุการณ์ทั้งหมดจากระยะห่างออกไปไม่ไกลนัก ความประสงค์ร้ายฉายวาบขึ้นบนใบหน้าหล่อน 

 

 

หล่อนจิกเล็บซึ่งถูกตกแต่งไว้อย่างวิจิตรบรรจงเข้ากับชายเสื้อผ้า ราวกับว่ามันเป็นหนทางเดียวที่หล่อนจะใช้ระบายความคับข้องใจออกมา 

 

 

ทำไม ทำไมยัยโง่นั่นถึงได้รับความสนอกสนใจจากเซิ่งอี่เจ๋อ 

 

 

เมื่ออันซย่าซย่าเดินออกมาในชุดเสื้อผ้าโบราณ พวกคนที่อยู่ใกล้ๆ ก็พากันนิ่งงันไป 

 

 

เธอจะแสดงเป็นเทพธิดากระต่ายที่อยู่บนภูเขาอวิ๋นเซียน และแต่งกายในชุดสีขาวล้วน เรือนผมถูกรวบขึ้นเป็นก้อนกลมทั้งสองข้างเสมอกันซึ่งยิ่งส่งให้มันดูน่ารักเข้ากันกับกิ๊ฟหูกระต่าย เธอดูทั้งสวยและน่ารักในเวลาเดียวกัน 

 

 

นอกจากนั้นยังมีหางสีขาวอยู่ที่หลังด้านล่างอีกด้วย ซึ่งมันเป็นอะไรที่ดูน่ารักที่สุด 

 

 

เมื่อเซิ่งอี่เจ๋อออกมาจากห้องแต่งตัวของเขาและเห็นเธอเข้า ใบหน้าเขาก็ดูสดใสขึ้นเช่นเดียวกัน 

 

 

ไม่คิดมาก่อนว่าบทนี้จะเหมาะกับเธอมากขนาดนี้ 

 

 

มากเสียจนเขาเกือบจะถูกแรงกระตุ้นให้อุ้มเธอพากลับบ้านเสียเดี๋ยวนั้นเลย 

 

 

หลังจากที่นักแสดงนำและตัวประกอบทุกคนพร้อมแล้ว ผู้กำกับก็มาเกริ่นฉากนั้นให้กับทั้งหมดฟังคร่าวๆ 

 

 

ฉากนี้เป็นฉากที่เย่หวนละทิ้งความเป็นอมตะในฐานะเทพของเขา และกลายเป็นปีศาจร้าย เขาฆ่าทุกชีวิตซึ่งอยู่บนเขาอวิ๋นเซียนเพียงเพื่อจะขโมยเอาเห็ดหลินจืออมตะซึ่งทุกคนดูแลอยู่และนำมันไปให้คนรัก 

 

 

บทบาทเทพธิดากระต่ายที่อันซย่าซย่าแสดงนั้นเป็นหนึ่งในหน่วยกล้าตาย 

 

 

ตามคำสั่งของผู้คุมคิว อันซย่าซย่าจะได้นอนอย่างมีความสุขอยู่กับพื้น นอนหลับตา แล้วก็เล่นเป็นศพ 

 

 

เธอดูน่ารักมากเสียจนเซิ่งอี่เจ๋อถึงกับยิ้มออกมา 

 

 

เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าอะไรทำให้ยัยจิ๋วคนนี้มีความสุขมากๆ ในทุกๆ วันที่ผ่านไป—เธอดูร่าเริงแม้จะได้รับบทเป็นศพก็ตาม 

 

 

ผู้คุมคิวตีสเลต เซิ่งอี่เจ๋อก็เริ่มแสดงตามบทบาทและแสดงประกบกับหลีฝานซิง 

 

 

พอผ่านไปได้ครึ่งทาง หลีฝานซิงก็เกิดลืมบทพูดแล้วผู้กำกับก็สั่งคัทอย่างอารมณ์ไม่ดี 

 

 

หลีฝานซิงขอโทษซ้ำไปซ้ำมา แล้วผู้กำกับก็พูดขึ้นด้วยใบหน้าเคร่งเครียด “ทุกฝ่ายทำงานกันอย่างตั้งใจด้วย ฉากที่นักแสดงเยอะจะถ่ายทำยากเสมอเพราะจำนวนคนที่เราต้องกำหนดคิวขยับไปมามันเยอะ มาพยายามถ่ายให้สำเร็จในเทกหน้ากันเถอะ!” 

 

 

ระหว่างช่วงเวลาสั้นๆ นั้น เซิ่งอี่เจ๋อก็เอาฝักดาบจิ้มอันซย่าซย่า “นี่ พลิกตัวสิ” 

 

 

อันซย่าซย่าตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฉันเป็นศพ ขยับได้ที่ไหนล่ะ!” 

 

 

มุมปากของเซิ่งอี่เจ๋อกระตุก “หันหน้ามาหาฉัน กล้องจะได้ถ่ายหน้าเธอได้ไง ไม่อยากให้ลุงอันเห็นเธอในทีวีทีหลังหรอกเหรอ” 

 

 

นั่นโน้มน้าวเธอได้สำเร็จแล้วหญิงสาวก็รีบกลิ้งไปบนพื้นอย่างรวดเร็วเพื่อหันหน้ามาทางเซิ่งอี่เจ่อ จากนั้นก็แสดงเป็นศพอย่างขยันขันแข็ง 

 

 

หลีฝานซิงกระทืบเท้าอย่างโมโหเดือด เมื่อกล้องเริ่มถ่ายอีกครั้ง หล่อนก็ค่อยๆ ยกเท้าแล้วเหยียบลงไปบนมือของอันซย่าซย่า! 

 

 

เธอเกือบจะร้องออกมาด้วยความเจ็บ แต่ก็นึกได้ว่าผู้กำกับพูดอยู่เมื่อครู่นี้เองว่าการถ่ายทำฉากรวมนั้นยากลำบากขนาดไหน เธอไม่อยากเป็นตัวถ่วงคนอื่นจึงอดทนกับความเจ็บปวดนั้น 

 

 

ขณะที่หลีฝานซิงแสดงฉากของหล่อนด้วยความรู้สึกเต็มที่บนใบหน้า หล่อนก็บิดและพลิกข้อเท้าขยี้เท้าลงบนมือของอันซย่าซย่าอีก! 

 

 

ฉากนั้นมีความยาวเพียงแค่ไม่กี่นาที แต่สำหรับอันซย่าซย่าแล้ว เธอรู้สึกเหมือนยาวนานราวกับศตวรรษ 

 

 

เมื่อผู้กำกับสั่ง “คัต!” เธอก็รู้สึกเหมือนกับได้ยินเสียงระฆังช่วยชีวิต หญิงสาวค่อยๆ ลุกขึ้นและเป่าลมใส่มือ 

 

 

เจ็บชะมัดเลย! ฮือ… 

 

 

เธอจ้องหน้าหลีฝานซิง ซึ่งยังไม่ยอมขยับไปไหนและเอ่ยปากขอโทษอย่างไร้ความจริงใจ “ขอโทษนะซย่าซย่า เมื่อกี้ฉันเหยียบมือเธอหรือเปล่า”