ตอนที่ 91
ปิ่นปักผม
“คิกๆ องค์ชายเลยงั้นเหรอ”เสียงหัวเราะจากหญิงสาวโต๊ะข้างๆทำเอาไป๋จูเหวินไม่ทราบจะทำอย่างไรดี เพราะนี่ก็ผ่านมา 3 วันแล้วองค์ชาย 4 ยังให้มันพาเที่ยวชมเมืองอยู่เลยทั้งๆที่หงเยว่พาเดินชมรอบเมืองไป 2 รอบแล้วแท้ๆ
“ใช่แล้ว จริงๆแล้วข้าคือองค์ชายปลอมตัวมาเที่ยวเล่นยังไงล่ะ”องค์ชาย 4 พูดพลางหัวเราะสนุกสนานกับหญิงสาว 3 คนในโต๊ะข้างๆ แม้จะมีบางคนที่เจอองค์ชาย 4 เข้าไปทักแล้วปฏิเสธทันที แต่ก็มีบางคนที่ยอมคุยและเริ่มเข้ากันได้อย่างง่ายดายอยู่เช่นกัน นั่นเพราะหน้าตาขององค์ชายนั้นหล่อเหลาทีเดียว ทำให้มีหญิงสาวหลายคนยอมคุยด้วยแม้จะเจอประโยคอย่าง มาเป็นของข้าซะ เข้าไป
“เอาล่ะ ได้เวลากลับแล้ว”องค์ชาย 4 ว่าพลางลุกขึ้นยืนช้าๆ มันหันมาหาไป๋จูเหวินเพื่อบอกให้ไป๋จูเหวินเรียกเสี่ยวเอ้อมาคิดเงิน แน่นอนว่าองค์ชายเลี้ยงอาหารโต๊ะของสาวๆด้วยเพราะเงินที่รองหัวหน้าให้มามีเหลือเฟือ หรือต่อให้ไม่พอตัวไป๋จูเหวินและองค์ชายเองก็ไม่ได้กระเป๋าแห้งขนาดนั้น
“โถ่ กลับแล้วเหรอเจ้าคะองค์ชาย”หญิงสาวร่วมโต๊ะที่ยังคิดว่าองค์ชายเพียงแค่ล้อเล่นพากันบ่นด้วยความไม่พอใจที่อยู่ๆองค์ชายจะกลับไปเสียแล้วทั้งๆที่ยังคุยติดลมกันอยู่แท้ๆ
“พรุ่งนี้ข้ามีนักสำคัญ”องค์ชายว่าพลางยิ้มให้กับสาวๆ
“ถ้าต้องการพักผ่อนละก็ คืนนี้ที่ห้องข้ายังว่างนะ”หญิงสาวคนหนึ่งพูดพลางส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้องค์ชาย
“น่าเสียดายที่ธุระพรุ่งนี้สำคัญจริงๆ ไม่อย่างนั้นข้าไม่ปล่อยให้เจ้าได้นอนแน่ๆ”องค์ชายพูดยิ้มๆก่อนจะลาหญิงสาวทั้งสามลงไปจากเหลาอาหารอย่างอารมดี
“องค์ชาย พรุ่งนี้ท่านมีธุระอะไรด้วยงั้นหรือ”ไป๋จูเหวินถามพลางมององค์ชายที่เดินอยู่ข้างหน้า
“ก็ เที่ยวชมเมืองยังไงล่ะ”องค์ชายหัวเราะพลางเดินนำหน้าไป๋จูเหวินออกนอกร้านไป
แปลก… องค์ชายมักแสดงท่าทีเจ้าชู้ออกมาเสมอ แถมยังเดินไปทักทายพูดคุยกับคนในเมืองอย่างเป็นกันเองอีกต่างหาก ทำเอาชาวเมืองในเขต 7 เริ่มสนิทสนมกับเขามากขึ้นแล้ว แถมสาวๆยังพากันเรียกเขาองค์ชายๆด้วยท่าทีหยอกล้อกันอีกต่างหากทั้งๆที่ท่านเป็นองค์ชายจริงๆ แต่ก็อย่างว่าองค์ชายจริงๆส่วนใหญ่เขาไม่ทำแบบนี้ล่ะนะ
แต่ไม่ว่าอย่างไรสำหรับไป๋จูเหวินแล้ว องค์ชายค่อนข้างแปลกคนกว่าที่เห็นภายนอก แม้จะดูเหมือนเอาแต่หยอกล้อกับสาวๆในเมือง แต่มันกลับชอบเข้าไปถามและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเมืองร้อยแปดอสูรจากพวกนาง แถมมันยังฉลาดพูดคุยจนทำให้เหล่าสาวๆเล่าเรื่องในเมืองออกมาอย่างง่ายดาย ทำให้ไป๋จูเหวินเองก็ได้รับข้อมูลมาหลายๆอย่างเช่นกัน อย่างน้อยตอนนี้องค์ชายก็ได้ข้อมูลอสูรเฝ้ายามบนอากาศ เวลาเปลี่ยนกะยามเฝ้าประตู รวมถึงอำนาจหน้าที่ของแต่ละเขตไปแล้ว
“องค์ชาย”ขณะกำลังกลับมาที่ห้องซึ่งหน่วย 7 จัดต้อนรับเอาไว้ให้องค์ชายโดยเฉพาะ องครักษณ์คนหนึ่งขององค์ชายก็เข้ามาหาก่อนที่พวกมันจะเข้าห้องเสียอีก
“มีอะไร”องค์ชายถามพลางมององครักษณ์นิ่ง
“หวงหลงเดินทางมาถึงเมืองแล้วขอรับ ข้าได้ส่งเรื่องให้รองหัวหน้าแล้ว พรุ่งนี้กลุ่มนักล่าอสูรจะขอต้อนรับท่านที่วังมังกรขอรับ”ได้ยินรายงานองค์ชาย 4 ก็เปลี่ยนท่าทียิ้มระรื่นกลายเป็นนิ่งสงบในทันที
“ขอบใจ”สิ้นเสียงขององค์ชาย องครักษณ์ก็ประสานมือคารวะก่อนจะหายวับไปในพริบตา
“พรุ่งนี้ก็มีธุระจริงๆแล้วสิ”องค์ชาย 4 ว่าพลางหัวเราะออกมา เมื่อรู้ว่าหวงหลงกลับมาแล้วมันก็มีท่าทีเปลี่ยนไปราวกับคนละคน
“วันนี้เจ้าพักผ่อนซะ พรุ่งนี้เจ้าต้องไปกับข้าด้วย”องค์ชาย 4 ว่าพลางปิดประตูห้องช้าๆ ทำไมมันต้องพาไป๋จูเหหวินไปด้วย ในเมื่อหวงหลงกลับมาแล้วมันก็หมดหน้าที่พาองค์ชายชมเมืองแล้วไม่ใช่หรืออย่างไร
“พี่ไป๋ ท่านเป็นอะไรงั้นเหรอ”หลินหลินถามพลางมองไป๋จูเหวินที่กำลังเดินกลับไปที่ห้องของตนเองช้าๆ
“ไม่มีอะไร”ไป๋จูเหวินตอบพลางเข้าไปในห้องของตนเอง ก่อนจะเดินมานั่งที่เตียงอย่างเชื่องช้า ในหัวของมันยามนี้พยายามครุ่นคิดท่าทีแปลกๆขององค์ชายอยู่ตลอด เพียงแต่ไม่ว่าจะคิดเท่าไหร่ก็ยังไม่ทราบจุดประสงค์ขององค์ชายเลย
.
.
ในเช้าวันต่อมา ไป๋จูเหวินที่สวมเครื่องแบบกลุ่มนักล่าอสูรเต็มยศก็ถูกองค์ชายพาเข้าไปในวังมังกรของหวงหลงอย่างที่มันบอกเอาไว้เมื่อคืน
“องค์ชาย 4 มาถึงแล้ววว”เสียงประกาศจากภายในห้องประชุมดังขึ้นก่อนที่ประตูจะเปิดให้กับคณะเดินทางขององค์ชาย ยามนี้ภายในห้องประชุมมีทั้งเหล่าอาวุโสทั้ง 10 แม้แต่อาวุโส 7 ที่อู้อยู่จนถึงเมื่อวานยังต้องมาร่วมงานต้อนรับในครั้งนี้ ส่วนรองหัวหน้ากลุ่มทั้ง 2 ก็นั่งอยู่ประจำที่อย่างเคร่งขรึม แน่นอนว่าคนที่สะดุดตาที่สุดคงหนีไม่พ้น หวงหลง ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์
“ยินดีต้อนรับองค์ชาย”หวงหลงพูดพลางลุกขึ้นยืนในทันที ยามนี้แม้มันจะเป็นเจ้าเมือง แต่อีกฝ่ายเป็นองค์ชาย ตัวมันย่อมมีฐานะต่ำกว่า แถมองค์ชายยังพาองครักษณ์ระดับเทียนเซียนมาด้วย 2 คนเพื่อข่มมันอีกต่างหาก
“หวงหลง ในที่สุดเราก็ได้พบท่านเสียที”องค์ชาย 4 ยิ้มพลางเดินมายืนอยู่ตรงหน้าหวงหลง
“ชอรับองค์ชาย”หวงหลงว่าพลางคุกเข่าลงช้าๆ
“อืม..วันนี้ข้ามาเพื่อมอบรางวัลให้กับเจ้า หวงหลง หัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูร ผู้สามารถเข้าถึงระดับเทียนเซียนได้สำเร็จ”องค์ชา 4 ว่าพลางหยิบเสื้อเกราะสีเงินตัวหนี่งออกมา แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันคือเสื้อเกราะวิเศษอย่างไม่ต้องสงสัย
“นี่คือเกราะอ่อนไหมจันทร์ เป็นรางวัลจากองค์จักรพรรดิ”องค์ชายพูดจบก็ยื่นเกราะอ่อนให้หวงหลงรับอย่างรวดเร็ว ก่อนที่มันจะค่อยๆนำของอย่างอื่นออกมาทีละอย่างๆ ของรางวัลมที่หวงหลงได้รับมีทั้งเกราะ อาวุธ ยา แร่ หินวิญญาณ สมุนไพร ผ้าไหมจำนวนมาก เรียกได้ว่าเป็นรางวัลใหญ่เลยทีเดียว
“ขอบพระคุณองค์ชาย ข้าน้อยซึ้งใจกับน้ำพระทัยของท่านและองค์จักรพรรดิอย่างสุกซึ้ง”หวงหลงว่าพลางก้มหัวลงไปอีกเล็กน้อย แม้จริงๆแล้วของเหล่านี้ไม่ได้หายากอะไรมากมายนักก็ตาม
“จริงสิหวงหลง”หลังจากมอบของรางวัลให้จนหมดอย่างรวดเร็วแล้ว องค์ชาย 4 ก็เอ่ยปากขึ้นมาเบาๆ แต่เพียงเท่านั้นไป๋จูเหวินกลับทราบทันทีว่าองค์ชาย 4 จะพูดเรื่องอะไร
“ข้าได้ข่าวเรื่องบุตรสาวของท่านมาไม่น้อย ข้ามีของขวัญให้นางไม่ทราบจะให้นางออกมารับได้หรือไม่”ได้ยินเช่นนั้น เหล่าอาวุโสและรองหัวหน้าต่างก็นิ่งค้างไปตามๆกัน พวกมันต่างพยาบามคิดว่าวันก่อนองค์ชายเพียงถามเล่นๆเท่านั้นเสียอีก
“ขอรับ”หวงหลงว่าพลางส่งสายตาไปยังรองหัวหน้าที่ยืนอยู่ข้างๆบัลลังก์ มันพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินหายไปจากห้องพักหนึ่ง ไม่นานมันก็กลับมาพร้อมร่างของเหม่ยหลินที่สวมใส่เครื่องแบบของกลุ่มนักล่าอสูรอย่างเต็มยศ สวมแม้กระทั่งผ้าปิดหน้า
“คารวะองค์ชาย”เหม่ยหลินพูดด้วยท่าทีนอบน้อมก่อนจะคุกเข่าลงข้างๆพ่อของนาง เพียงแต่พ่อนางเงยหน้ามานางกลับพบว่าไป๋จูเหวินอยู่ในกลุ่มขององค์ชายด้วยทำเอานางประหลาดใจไม่น้อย
“อืม..เจ้าคือเหม่ยหลินสินะ”องค์ชาย 4 ว่าพลางหยิบของชิ้นหนึ่งออกมาจากแหวนมิติของมัน
“นี่คือของที่ข้าอยากจะมอบให้เจ้า”องค์ชาย 4 พูดพลางยื่นปิ่นปักผมเล่มหนึ่งออกมา พริบตานั้นดวงตาของไป๋จูเหวินก็เปลี่ยนเป็นสีทองทันทีเพราะมันคุ้นๆกับวัตถุที่นำมาสร้างปิ่นปักผมไม่น้อย
“นี่มัน…”เหล่าอาวุโสพากันตื่นตะลึงยิ่งกว่าของรางวัลที่หวงหลงได้มาจากการเลื่อนระดับเป็นระดับเทียนเซียนเสียอีก เพราะปิ่นปักผมสีฟ้าเล่มนี้คือปิ่นปักผมที่สร้างจากผลึกวารีทั้งก้อน ซึ่งมันไม่มีทางหาได้นอกจากในเขคอสูรเท่านั้น และมันก็หายากอย่างมาก แม้แต่ไป๋จูเหวินเองยังเห็นของแบบนี้ในเขตอสูรไม่มาก นับว่าของเช่านนี้หายากมากจริงๆ
“เหม่ยหลิน ขอบพระคุณองค์ชายเจ้าค่ะ”เหม่ยหลินก้มหัวให้องค์ชายพลางรับปิ่นปักผมมาแต่โดยดี เพียงแต่นางรับไว้อย่างเดียวเท่านั้นไม่ได้สวมใส่มันทันทีแต่อย่างไร
“เจ้าช่วยลองใช้มันหน่อยสิ”องค์ชาย 4 ยิ้มพลางมองผ้าปิดหน้าของเหม่ยหลิน การที่องค์ชาย 4 บอกให้ลองใช้ปิ่นปักผมก็แทบจะเหมือนเป็นการบอกแต่แรกแล้วว่าให้เหม่ยหลินเปิดผ้าปิดหน้าออก
“ทำตามที่ท่านบอก”หวงหลงว่าพลางกำหมัดแน่น
“เจ้าค่ะ”เหม่ยหลินลังเลวูบ ก่อนจะมองไปทางไป๋จูเหวินเล็กน้อย นางค่อยๆถอดผ้าคุลมหน้าออกจนเผยให้เห็นใบหน้างดงามที่ไป๋จูเหวินคุ้นเคย แต่สำหรับคณะเดินทางขององค์ชายแล้วมันสร้างความตื่นตกใจเป็นอย่างมาก ไม่น่าเชื่อเลยว่าไข่มุกงามเช่นนี้จะซ่อนอยู่ในรังอสูรของเมืองร้อยแปดอสูรได้
“อืม งดงามราวกับเวลาจะหยุดเดินจริงๆเสียด้วย”องค์ชาย 4 ว่าพลางหัวเราะออกมา
“หวงหลง เจ้าช่างโชคดีจริงๆที่มีบุตรสาวงดงามเช่นนี้ แถมนางก็ถึงวัยออกเรือนแล้ว เจ้าจะว่าอย่างไรหากข้าจะขอให้นางกลับไปเมืองหลวงพร้อมข้า”ได้ยินเช่นนั้นหวงหลงก็เบิกตากว้าง ไม่นึกเลยว่าองค์ชาย 4 จะเอ่ยปากขอกันง่ายๆเช่นนี้
“มิได้ขอรับ เหม่ยหลินยังเด็กและอ่อนประสบการณ์เกินไป เกรงว่าจะทำให้องค์ชายไม่พอใจเสียเปล่าๆ”หวงหลงปฏิเสธ แต่ก็เป็นคำปฏิเสธที่ค่อนข้างสุภาพทีเดียว
“ไม่เป็นไร ข้าถูกใจนางมาก หากไม่ได้นางกลับไปด้วยข้าคงจะพลอยเกลียดพวกนักล่าอสูรไปด้วยแน่ๆ”สิ้นเสียงขององค์ชายเหล่าอาวุโสและรองหัวหน้าต่างหน้าซีดเผือด เหม่ยหลินเป็นผลงานชิ้นเอกของหวงหลง มันไม่มีทางมอบเหม่ยหลินให้ใครอย่างแน่นอน แต่องค์ชายกลับพูดเช่นนั้นออกมาไม่ใช่ว่าองค์ชายจะยกเลิกการจ้างวานเหล่านักล่าอสูรไปด้วยงั้นหรือ
“องค์ชาย เกรงว่าอำนาจในการสั่งการพวกเราจะเป็นขององค์จักรพรรดินะขอรับ”หวงหลงว่าพลางยืนขึ้นช้าๆ พริบตานั้นพลังเซียนรอบๆตัวของมันก็ค่อยๆแผ่ออกมาถึงองครักษณ์ทั้งสอง ไม่ว่าจะอย่างไรมันก็ไม่ยอมให้เหม่ยหลินไปเป็นของใครแน่ๆ
“ท่านพ่อ…..”เหม่ยหลินมองหวงหลงที่เริ่มมีท่าทีคุกคามอย่างกังวล การมีเรื่องกับองค์ชายไม่ใช่ทางเลือกที่สมควร แม้มันจะไม่มีอำนาจแต่มันก็เป็นบุตรขององค์จักรพรรดิ การที่มันไม่ถูกใจก็ใช่ว่าจะไม่มีผลอะไรเลย
“เจ้าคิดจะต่อต้านราชวงก์อย่างนั้นหรือ”องค์ชาย 4 ว่าพลางยิ้มเหี้ยม พริบตานั้นองครักษณ์ทั้ง 2 ของมันก็ชักอาวุธออกมาเตรียมพร้อมแถมยังปล่อยพลังเซียนออกมาปะทะกับพลังของหวงหลงโดยตรงอีกต่างหาก
“น่าเสียดายที่ข้าไม่คิดจะมอบบุตรสาวให้ใคร”หวงหลงกัดฟันแน่นอย่างเจ็บใจ เหม่ยหลินเป็นผลงานของมัน หากนางยังสามารถฝึกฝนแบบนี้ต่อไปได้เรื่อยๆ นางจะกลายเป็นมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย หากนางยังสามารถรักษาพลังอสูรเอาไว้ได้ตอนก้าวขึ้นสู่ระดับเทียนเซียน ในเวลาที่นางก้าวขึ้นสู่ขั้น 10 ของระดับเทียนเซียนยามนั้นจะไม่มีใครสู้นางได้อีก มันเดิมพันทุกอย่างกับบุตรสาวคนนี้ ลงแรงหาของวิเศษมามากมายเพื่อเลี้ยงดูนาง ไม่มีทางมาให้ใครชิงตัวไปเด็ดขาด
“ท่านพ่อใจเย็นๆก่อนค่ะ”เหม่ยหลินพยายามห้ามแต่หวงหลงไม่มีท่าทีจะยอมแต่อย่างไร เช่นเดียวกับองค์ชายที่ดูเหมือนจะเอาตัวเหม่ยหลินไปให้ได้
“ท่านหัวหน้า มีแขกมาขอพบขอรับ”ขณะสถานการณ์กำลังตึงเครียด อยู่ๆคนเฝ้าประตูก็เข้ามาในห้องประชุม
“แขก..”หวงหลงรวมทั้งองค์ชาย 4 ต่างประหลาดใจอย่างมากเมื่อได้ยินคำนี้ เวลาที่องค์ชายและหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูรพบหน้ากันจะมีแขกคนไหนกล้าเข้ามางั้นหรือ
“ขอโทษทีที่เข้ามาขัดจังหวะนะหวงหลง เจ้าชาย”เสียงที่คุ้นหูดังขึ้นจากทางหน้าประตู พริบตานั้นเหล่าอาวุโสและคณะเดินทางขององค์ชายต่างก็หยุดหายใจไปพร้อมๆกัน ใครจะไปคิดว่าผู้ที่มาจะเป็นอาวุโสเทียนหมิง!