ตอนที่ 395 งานแต่งของเย่เฉินและซูมู่ชิง

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

ตอนที่ 395 งานแต่งของเย่เฉินและซูมู่ชิง!

เมื่อซูหลานได้ยินก็ร้อนรนทั้นที “โถ่ ลูกสาวแม่อย่าทำเรื่องโง่ๆ เลย แม่ได้ยินเพื่อนบอกว่าตระกูลซูไม่ธรรมดาเลย เป็นตระกูลใหญ่โตของเมืองหลวงเลยนะ ถ้าลูกไปล่วงเกินพวกเขาเข้า ตระกูลหวังเราจบเห่แน่”

หวังเจียเหยาแค่นเสียง “ตระกูลหวังเราจบไปนานแล้วค่ะแม่! เพราะฝีมือคนไม่มีหัวใจเย่เฉินนั่น! เขามีสิทธิ์อะไรมาสร้างความวุ่นวายในงานแต่งงของหนูกับฉินหงเหยียน แล้วตอนเขาแต่งงานเราจะไปถล่มงานแต่งเขาบ้างไม่ได้เลยเหรอคะ? แม่คะหนูให้เงินแม่สิบล้านเลย แม่เอาเอาการ์ดแต่งงานของเย่เฉินจากเพื่อนแม่มาให้หน่อย วันแต่งงานหนูจะเอาเด็กสองคนของตระกูลซูกับตระกูลเย่ไปหาพวกเขา!”

เมือ่ได้ยินแบบนี้ซูหลานก็เข้าใจทันที “อ้าว ลูกสาวลูกเป็นสายเลือดตระกูลซูเหรอเนี่ย? สวรรค์นี่ออกจะ… ก็ได้ลูกรัก แม่สนับสนุนลูก ไม่ต้องใช้เงินสิบล้านหรอก เอามาให้แม่ล้านเดียวก็พอ ได้ยินมาว่าพวกเขาไม่ได้มีคุณสมบัติเรื่องแขกอะไรมากมาย น่าจะบัตรเชิญมาไม่ยาก”

……

ณ ตึก CBD ของเมืองเสินเฉิง

ก๊อกๆ

เลขาเคาะประตู จากนั้นก็เดินไปที่ห้องทำงานของผู้บริหารแล้ววางการ์ดแต่งงานลงไปบนโต๊ะ

“คุณสวี่ เมืองหลวงส่งการ์ดแต่งงานมา”

สวี่ฉู่หมิงรับมาแล้วดู แล้วพบว่าถูกส่งมาจากตระกูลซู เขามองโดยละเอียดแล้วก็พบว่าเป็นการ์ดแต่งงานของซูมู่ชิงและเย่เฉิน!

“เย่เฉิน! เป็นเขาได้ไง!”

คนชื่อเย่เฉินในโลกก็มีตั้งเยอะแยะ แต่สวี่ฉู่หมิงแน่ใจอย่างมากว่าเย่เฉินคนนี้คือเย่เฉินคนที่ซูมู่ชิงชอบ

เพราะเขาเองก็รู้ว่าเย่เฉินกับซูมู่ชิงมีลูกสาวด้วยกัน

สวี่ฉู่หมิงกำหมัดแน่นแล้วอย่างไม่พอใจ“เย่เฉิน นายแย่งฉินหงเหยียนไปจากฉัน แต่กลับทิ้งหล่อนไป! แล้วแต่งกับคุณหนูตระกูลซู! ผู้ชายที่เห็นแก่ผหลวี่ปู้ระโยชน์แบบนายนี่น่ารังเกียจจริงๆ!”

สวี่ฉู่หมิงยังชอบฉินหงเหยียนเหมือนเดิม เขาจึงรู้สึกไม่พอใจแทนฉินหงเหยียน

“รีบจองตั๋วไปเมืองหลวงให้ฉันเดี๋ยวนี้!”

สวี่ฉู่หมิงหันไปสั่งเลขา

……

วันนี้เย่เฉินและซูมู่ชิงพาซือซือนั่งเครื่องบินส่วนตัวบินไปทะเลสาบตงไถจี๋หน๋ายเอ่อ

ทะเลสาบตงไถจี๋หน๋ายเอ่อถูกเรียกว่าเป็นมัลดีฟส์ของเอเชีย เพราะที่นั่นสวยจนเกินบรรยาย

สีน้ำในทะเลสาบและมหาสมุทรงดงามเป็นสีเดียวกัน มีคนเรียกที่นี่ว่าเป็นสีทิฟฟานี่บลู และมีสาวๆ ไม่น้อยที่เปรียบเปรยที่นี่เหมือนขวดน้ำยาล้างเครื่องสำอางของเมเบลอลีน

สรุปก็คือที่นี่งดงามปานสรวงสวรรค์ เหมาะแก่การถ่ายภาพพรีเวดดิ้งอย่างยิ่ง

เพราะเวลาค่อนข้างกระชั้นชิด เย่เฉินและซูมู่ชิงจึงไปถ่ายรูปที่เมืองนอกไม่ทัน พวกเขาจึงจำใจต้องเลือกสถานที่ใกล้ๆ

พวกเขาถ่ายภาพพรีเวดดิ้งที่นี่ทั้งวัน ซูมู่ชิงในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ เท้าเปลือยเปล่าเหนียบย่ำลงไปในทะเลสาบสีฟ้า ส่งยิ้มสดใส หมุนตัว ในขณะที่มือถือช่อดอกไม้

วงหน้าแสนงดงามของซูมู่ชิงทำให้หญิงสาวกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของสรวงสวรรค์แห่งนี้

เย่เฉินไม่อาจละสายตาไปจากความงดงามของซูมู่ชิงได้เลยตลอดทั้งวัน

แล้ววันเมษาหน้าโง่วันที่ 1 เมษายนก็มาถึง วันที่เป็นวันแต่งงานของเย่เฉินและซูมู่ชิง!

ตระกูลซูเหมาโรงแรมหรูอย่างฮิลตัน เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงานระหว่างเย่เฉินและซูมู่ชิง

คนที่มาร่วมงานในวันนี้มีจำนวนมาก คนตระกูลซูเตรียมโต๊ะเอาไว้หลายร้อยโต๊ะ ถือเป็นงานใหญ่มากทีเดียว

ด้วยศักยภาพของตระกูลซู ต่อให้เป็นโต๊ะหลายพันตัวก็มีคนนั่งเต็มโต๊ะ คนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็เร่งรุดมาจากต่างจังหวัดเพื่อร่วมงาน

อีกทั้งคนที่มาร่วมงานนั้นล้วนแต่เป็นคนใหญ่คนโตทั้งสิ้น

ในเวลา 9 โมงเช้าคนก็เต็มงานแต่งงานแล้ว ในบริเวณล็อบบี้เต็มไปด้วยผู้คนจอแจ

ซีกวาและหวังเอ้อร์เชอในชุดสูทยืนอยู่ที่ประตู วันนี้พวกเขารับหน้าที่เป็นรปภ.ของงาน

ซีกวามองแขกที่เดินเข้างานทีละคนอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วกล่าว

“เสี่ยวหวัง นายว่านายหญิงเสี่ยวตั่วจะมาแย่งเจ้าบ่าวคืนไหม?”

หวังเอ้อร์เชอหัวเราะ “พี่กวาพี่คิดอะไรครับเนี่ย ฉินเสี่ยวตั่วจะมางานนี้ได้ยังไง! ผมว่าพี่อยากให้ฉินเสี่ยวตั่วแต่งงานกับคุณชายของเราแทบบ้าล่ะสิ?”

ซีกวาหยิบกล้วยขึ้นปอกเปลือก “ชิ ฉินเสี่ยวตั่วเป็นนายเราไม่ดีหรือไง? หล่อนเป็นตั้งแอร์โฮสเตส หุ่นดีกว่าซูมู่ชิงตั้งเยอะ!”

หวังเอ้อน์เชอเป็นแฟนคลับซูมู่ชิงก็รีบแย้งทันที “ใครบอก? ซูมู่ชิงก็ขาสวยเหมือนกัน อีกอย่างซูมู่ชิงดูเป็นผู้ดีกว่าฉินเสี่ยวตั่วอีก”

ซีกวาไม่ยอมแพ้ “บ้า! ฉันไม่เคยเห็นใครหุ่นดีกว่านายหญิงฉินเสี่ยวตั่วเลยนะ!”

และในเวลานี้เองสาวน้อยหน้าตาสะสวยก็เดินเข้ามาในงาน โดยมีการ์ดแต่งงานในมือ

เรือนร่างของสาวสวยคนหนึ่งในนั้นก็ชวนให้คนพบเห็นเลือดกำเดาไหล เจ้าหล่อนตกเป็นเป้าสายตาของผู้ชายไม่น้อยอย่างรวดเร็ว

หวังเอ้อร์เชอเห็นเข้าก็ตกใจ รีบร้อนกล่าว “พี่อย่าเอาแต่ชมฉินเสี่ยวตั่วเลย พี่กวาดูนี่แขกที่เพิ่งมานี่สิ หุ่นดีกว่าฉินเสี่ยวตั่วอีก!”

ซีกวาแหงนหน้ามอง และเมื่อเขาเห็นสาวสวยที่เรือนร่างโดดเด่นคนนี้ก็ตกใจทันที “แม่ง นั่นมันนหวังหยวนหยวนไม่ใช่เหรอ?”

“อะไรนะ? พี่รู้จักเหรอ?” หวังเอ้อร์เชอชะงักไป

ซีกวากล่าว “นั่นมันน้องสาวของอดีตภรรยาคุณชาย อดีตน้องสะใภ้น่ะ! แปลกจังหล่อนมาทำไมกัน?”

ซีกวาจำได้แม่นเลยว่าแขกที่เพิ่งเดินเข้ามาคือหวังหยวนหยวน

ทว่าตอนนี้หล่อนชื่อหวังเจินอวี่แล้ว

หวังเจินอวี่และเฉินม่านอวี้เพื่อนนักเรียนจากวิทยาลัยการแสดงของหล่อน จูงมือกันเดินเข้าไปในงาน

เด็กสาวแรกรุ่นหน้าตางดงามสองคนตกเป็นเป้าสายตาของแขกผู้ชายทันที

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหวังเจินอวี่ที่สวมเสื้อผ้าไม่ค่อยมิดชิดนัก

หวังเจินอวี่เดิมตามเฉินม่านอวี้เข้าไปในงาน พร้อมกับกระซิบกระซาบกับเพื่อนสาว

“แหม มาที่นี่พิกลจังเลย นี่มันงานแต่งของอดีตพี่เขยฉันเลยนะ ต้องให้มาตกเหยื่อที่นี่เท่านั้นเลยเหรอ?”

เฉินม่านอวี้หัวเราะร่วน “อดีตพี่เขยเธอนี่ลึกลับจังเลย ตอนเจอเขาคราวก่อน เขายังเป็นยามของห้างสรรพสินค้า เดี๋ยวเดียวเขาก็กลายเป็นเขยแต่งเข้าของตระกูลซูแล้ว เธออย่ารู้สึกอะไรเลย วันนี้แขกเยอะขนาดนี้เขาอาจจะไม่เห็นเธอก็ได้ ฉันจะบอกเธอให้นะคนที่มาร่วมงานวันนี้เป็นคนใหญ่ๆ ทั้งนั้น สามารถพูดได้ว่าตัวเอ้ในวงการละครและภาพยนตร์ของประเทศก็จะมาที่นี่กันทุกคน ขอแค่เราจับใครได้สักคนต่อไปก็จะมีหวังจะดังแล้ว!”

ตอนนี้หญิงสาวอยากโด่ดังอย่างมาก เพื่อชื่อเสียงแล้วหล่อนยินดีสละร่างกายตนเองด้วยซ้ำ จึงทำแค่รับปากเฉินม่านอวี้

หล่อนได้แต่ภาวนาว่าเรื่องสกปรกที่ตนเองจะทำ เย่เฉินจะไม่เห็นเข้า…

ไม่นานที่ปากประตูก็มีคนที่ซีกวาและหวังเอ้อร์เชอคุ้นเคยเดินเข้ามา : สวี่ฉู่หมิง!

“เชี่ย ตาเฒ่าสวี่ก็มาเหมือนกัน!”

ซีกวากล่าวเสียงเหี้ยม ตอนอยู่เมืองเสินเฉิงเมื่อคราวก่อน พวกเขาไปก่อเรื่องเอาไว้ไม่น้อย แต่พอจะเดาได้เหมือนกันว่าสวี่ฉู่หมิงเองก็จะมาร่วมงานแต่งของตระกูลซูด้วย

หลังจากที่สวี่ฉู่หมิงเข้ามาในงานแล้วก็เห็นซีกวาแต่ไม่ทักทายเขา เดินตรงดิ่งเข้างานไป

“ท่านซู”

สวี่ฉู่หมิงเดินไปจับมือซูเจิ้นหางอย่างเคารพ

ซูเจิ้นหางกล่าวต้อนรับพลางระบายยิ้ม “ยินดีต้อนรับนะคุณสวี่ ไปเมืองเสินเฉิงคราวก่อนคุณต้อนรับเรา คราวนี้ให้เราต้อนรับคุณแทนแล้วกัน อยู่เมืองหลวงหลายๆ วันหน่อย”

สวี่ฉู่หมิงกล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “มิกล้าๆ ท่านซู คุณหนูซูทำไมถึงแต่งงานกับเย่เฉินได้? แล้วหงเหยียนล่ะ?”