ตอนที่ 140 พูดอะไรกับฉันหน่อย / ตอนที่ 141 ความคิด

[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ

ตอนที่ 140 พูดอะไรกับฉันหน่อย

 

 

ชุยหังรู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่อเกินไปจริงๆ หลูจื้อทำแบบนี้เป็นด้วย?

 

 

หลูจื้อเห็นว่าเขาไม่ยอมรับไป ก็ยัดใส่มือเขาแล้วพูดขึ้นว่า: “คือว่าแฟนคนก่อนของฉันมักจะบอกให้ฉันซื้อช็อกโกแลตให้เธอ แต่ฉันไม่เคยซื้อให้เลยเพราะถ้าไม่ใช่เพราะลืมก็ไม่มีเวลา ครั้งนี้มาที่นี่เลยตั้งใจซื้อมาให้นายกล่องนึง” ทฤษฎีนี้มันทำให้ชุยหังรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

 

 

ความสุขเมื่อครู่นี้ลดฮวบฮาบลงมาเล็กน้อย

 

 

ท้ายที่สุดก็ยังเป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา แล้วยังเอ่ยถึงคนเก่าต่อหน้าของตนอีกด้วย

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นแฟนเก่าชอบกินช็อกโกแลตแล้วตนก็ต้องชอบ?

 

 

แต่ว่าในเมื่อเขาบอกแล้วว่าแฟนเก่าเคยขอมาหลายครั้ง เขาก็ไม่เคยซื้อให้ มาครั้งนี้กลับไปซื้อมันมาให้ตนด้วยตัวเอง อารมณ์โกรธของชุยหังยังนับว่าคลายลงไปบ้าง

 

 

แน่นอนว่าหลูจื้อไม่รู้ว่าชุยหังแอบมีความรู้สึกแย่ๆ เกิดขึ้นในใจในตอนที่เขาพูดคำพูดไม่กี่คำพวกนั้น

 

 

“ฉันมีเวลาหยุดแค่หนึ่งชั่วโมง บนถนนก็ต้องล่าช้าอีกฉันต้องกลับไปแล้ว” หลูจื้อมองชุยหังแล้วพูด

 

 

ชุยหังไม่มีทางเลือก นอกจากพูดว่า: “อ้อ”

 

 

“อ้อ? อ้อหมายความว่าไง” หลูจื้อถาม

 

 

ชุยหังพูดตอบ: “ก็หมายความว่าฉันรู้แล้วไง”

 

 

“นายไม่โกรธ?” หลูจื้อดูเหมือนจะเหลือเชื่อนิดหน่อย

 

 

ชุยหังพูดขึ้น: “มีอะไรน่าโกรธกัน นายก็บอกแล้วว่าลาพักออกมา ฉันก็ไม่ใช่พวกสร้างปัญหาไร้เหตุผลแบบนั้นซะหน่อย”

 

 

“ภรรยาของฉันนี้ช่างเข้าใจจริงๆ เอาล่ะงั้นฉันกลับไปแล้วนะ” หลูจื้อฉีกยิ้มก่อนจะโชว์ให้เห็นฟันขาวๆ

 

 

ชุยหังพยักหน้าและพูดว่า: “อืม งั้นฉันลงก่อนนะ”

 

 

พูดจบเขาก็เตรียมจะเปิดประตูรถ

 

 

แต่ว่ามืออีกข้างของเขากลับถูกหลูจื้อดึงเอาไว้

 

 

“มีอะไรหรอ” เขาหันกลับมาถาม

 

 

หลูจื้อพูดขึ้นว่า: “ไม่อยากพูดอะไรกับฉันหน่อยหรอ”

 

 

“พูดอะไร” ชุยหังถาม

 

 

“อย่างเช่นกำชับให้ฉันขับรถช้าๆ ไม่ต้องรีบร้อน กลับไปถึงแล้วให้ส่งข้อความหาอะไรแบบนั้น” หลูจื้อกล่าว

 

 

ชุยหังครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและพูดว่า: “นายก็รู้หมดแล้วไม่ใช่หรอ ยังต้องให้ฉันเตือนอะไรอีก”

 

 

“ฉันอยากกินนายซะ” หลูจื้อกัดฟันพูด

 

 

ชุยหังพูดขึ้น: “งั้นก็ได้ นายกลับไปขับช้าๆ หน่อยนะ ไม่ต้องรีบร้อน กลับไปถึงแล้วส่งข้อความรายงานความปลอดภัยให้ฉันรู้ด้วย”

 

 

“ฉันไม่ได้ไปคลอดลูกซะหน่อย ยังต้องรายงานความปลอดภัยด้วย” หลูจื้อขนลุกแล้ว

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นชุยหังเองก็ซื่อมากจริงๆ ตนให้เขาพูดอะไร เขาก็พูดอันนั้น

 

 

ชุยหังรู้สึกว่าสมองของเขาไม่พอใช้แล้ว หลังจากที่อาบแดดอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานาน บวกกับความรู้สึกของหลูจื้อก็มากะทันหันมากเกินไปหน่อย ทำให้เขาไม่ทันตั้งตัวรับมือ ดังนั้นตอนนี้เขาเองยังรู้สึกเหมือนตนกำลังฝันไปยังไงอย่างนั้น

 

 

“งั้น…ฉันควรจะพูดอะไร” ชุยหังถาม

 

 

“ฉันไม่รู้ นายคิดเอาเอง ถ้าไม่เข้าใจวันนี้ก็ห้ามลงจากรถ” หลูจื้อว่า

 

 

ชุยหังรู้สึกว่าเซลล์สมองของเขาไม่เคยดื้อรั้นขนาดนี้เลย ระดมกำลังยากมาก

 

 

เป็นเวลานานเขาถึงพูดขึ้นว่า: “นายกลับไปถึงแล้วบอกฉันให้รู้ด้วย อย่าทำให้ฉันเป็นห่วง”

 

 

“เป็นห่วงอะไรฉัน? มีคนกินฉันไง?” หลูจื้อถาม

 

 

ชุยหังรู้สึกว่าเขาไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ จึงพูดขึ้นว่า: “เอาเป็นว่าขอให้นายเดินทางปลอดภัย…”

 

 

“ได้ ถือว่านายแน่มาก เล่นแง่แกล้งโง่กับฉัน วันนี้ฉันไม่มีเวลา รอให้วันไหนฉันพักร้อนเราสองคนค่อยมาคิดบัญชีกันดีๆ สักหน่อย” หลูจื้อรู้สึกว่าตนไม่ได้ยินคำตอบที่อยากจะได้ยินดังนั้นจึงพูดออกมา

 

 

ชุยหังพูดอย่างน้อยอกน้อยใจว่า: “ดูสิ สมองของฉันตอนนี้มันไม่ขยับเขยื้อนแล้ว นายอย่าทำให้ฉันลำบากใจเลยนะ”

 

 

“นายสอบเข้ามหา’ ลัยมาได้ยังไง ฉันจำได้ว่าวันแรกที่เจอฉัน ตอนที่ด่าฉันสมองของนายหมุนเร็วยิ่งกว่าใครเลยนะ” หลูจื้อว่า

 

 

เส้นสีดำปรากฏขึ้นบนหน้าของชุยหัง เขาพูดขึ้นว่า: “เรื่องมันก็ตั้งนานแล้ว ทำไมยังไม่ลืมอีกล่ะ…”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 141 ความคิด

 

 

“มันจะลืมสุ่มสี่สุ่มห้าได้ไง ยังคิดอยู่เลยว่าเมื่อไหร่จะได้ดูพ่อตากับแม่ยายฉัน ว่าจะขอบคุณฉันยังไง” หลูจื้อว่า

 

 

ชุยหังรู้สึกอายนิดๆ และพูดว่า: “พอเถอะ เวลาของนายใกล้จะถึงแล้ว รีบกลับไปเถอะ ไม่อย่างนั้นไปสายแล้วจะถูกลงโทษเอา”

 

 

“นี่นายกำลังเป็นห่วงฉัน?” หลูจื้อเอ่ยถาม

 

 

ชุยหังพูดขึ้น: “นายบอกว่าใช่ก็ใช่นั่นแหละ”

 

 

“เอาใจยากจริง มานี่มาให้ฉันจุ๊บหน่อย” หลูจื้อว่า

 

 

ชุยหังรู้สึกเก้อเขินแต่ว่าก็ยอมขยับยื่นหน้าไปให้

 

 

หลูจื้อประทับจูบลงบนใบหน้าของเขาเบาๆ และพูดว่า: “ไปเถอะ ฉันต้องกลับไปจริงๆ แล้ว”

 

 

“อืม ขับรถช้าๆ ล่ะ เวลายังทันอยู่” ชุยหังกล่าว

 

 

เขาเปิดประตูลงจากรถ แล้วเหลือบมองหลูจื้อนิดหน่อยก่อนจะปิดประตูรถ

 

 

หลูจื้อส่งยิ้มให้เขาแล้วขับรถออกไป

 

 

ชุยหังยืนอยู่ที่เดิมมองรถของหลูจื้อที่ขับออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ พลางบีบช็อกโกแลตในมือไว้แน่น

 

 

จนกระทั่งรถทหารห่างออกไปไกล เขาถึงหันกลับเตรียมที่จะเดินกลับไป

 

 

ตอนที่เดินมาถึงประตูสาม ผ่านทะเลสาบประดิษฐ์นั่นอีกครั้ง อารมณ์ของชุยหังมันแตกต่างกันไปโดยสิ้นเชิง

 

 

ตอนนี้เขาไม่โสดแล้วหรอ?

 

 

ขนาดเขายังรู้สึกมึนๆ งงๆ และไม่อยากจะเชื่อเลย

 

 

ในบางครั้งเมื่อความรู้สึกมาถึงก็จะจับต้นสายปลายเหตุไม่ได้เลย

 

 

สิ่งที่เขาต้องการจะยืนหยัด กลับถูกทรยศหักหลัง

 

 

สิ่งที่เขาอยากจะยอมแพ้ กลับบานดอกออกผลอย่างกะทันหัน

 

 

ถ้าไม่ใช่เพราะเลิกกับหลิวเฮ่อ บางทีเขาอาจจะไม่คิดที่อยากจะคบกับหลูจื้อก็ได้

 

 

ดังนั้นไม่ใช่ว่าเขาต้องขอบคุณการทรยศหักหลังของหลิวเฮ่อที่มาได้ทันเวลากับตอนที่หลูจื้อปรากฎตัวขึ้นมาพอดีหรอ เขาใช้วิธีที่ไร้ยางอายมาก ตนเลือกที่จะถอยออกมา

 

 

เรื่องนี้เขาไม่มีวิธีที่จะสามารถแบ่งปันกับเพื่อนร่วมห้องได้ เพราะพวกเขาไม่ใช่คนในแวดวงเดียวกัน ก็ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น

 

 

พวกเขาสามารถเป็นเพื่อนกันได้ แต่เพื่อนไม่จำเป็นที่จะต้องบอกกันทุกอย่าง

 

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความคิดของพวกเขา ไม่จำเป็นต้องยอมรับทางที่ชุยหังเลือก

 

 

ความสุขมันอัดอั้นอยู่ในใจจนทำให้เขาอยากจะหาที่สักแห่งปลดปล่อยมันออกมาสักหน่อย

 

 

มันสามารถทำให้เขายิ้มได้อย่างเต็มที่ สนุกอย่างถึงอกถึงใจได้

 

 

เมื่อครู่หลูจื้อก็พูดชัดเจนแล้วว่าปัญหาเรื่องการแต่งงาน ยังไม่ต้องคิดถึงมันแล้ว

 

 

ปัญหานี้อันที่จริงไม่ใช่เรื่องที่จะพูดตอนนี้ได้

 

 

ในเมื่อสำหรับผู้ชายที่พึ่งจะเบี่ยงเบนอย่างหลูจื้อ มีปัญหาอีกมากมายต่างก็ไม่แน่นอนทั้งนั้น

 

 

ชุยหังไม่อยากกดดันเขามากเกินไป อันที่จริงตอนที่ถามถึงเรื่องแฟนของเขาขึ้นมาครั้งนั้นก็เพราะไม่อยากกลายเป็นมือที่สาม

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นหลูจื้อเคยบอกว่าเขากับผู้หญิงคนนั้นครอบครัวแนะนำให้รู้จักกัน ไม่มีความรู้สึกรักใคร่ เป็นเพียงแค่เอาไว้อธิบายกับครอบครัว แล้วก็ทำตามความต้องการของครอบครัวเท่านั้นถึงได้ยอมคบหากับเธอ

 

 

ชุยหังไม่รู้ว่าในความเป็นจริงแล้ว ผู้ชายที่โดดเด่นจำนวนไม่น้อยต่างก็คิดแบบนี้ ยิ่งคุณดูดีต่อหน้าคนอื่นมากเท่าไหร่ ในความเป็นจริงลับหลังผู้อื่นก็ยิ่งมีชีวิตที่ยากลำบากมากเท่านั้น

 

 

ในเมื่อตัวเขาได้ตัดสินใจด้วยตัวเองแล้ว ตนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเสแสร้งอะไรอีกแล้ว

 

 

ชย่าอวี่ชิวส่งข้อความวีแชทมาถามว่าเขาทำอะไรอยู่

 

 

เขาบอกชย่าอวี่ชิวไปว่าตนอยู่ทางประตูสาม

 

 

[ไปทำอะไรที่นั่น? ให้ฉันไปหานาย?] ชย่าอวี่ชิวถาม

 

 

ชุยหังครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง อันที่จริงเรื่องบางอย่างดูเหมือนจะสามารถพูดกับเขาได้ แต่กับคนอื่นกลับไม่สามารถพูดได้เลย

 

 

ดังนั้นเขาจึงตอบกลับไปว่า: [พวกเราไปหาอะไรกินที่ถนนตั้วลั่วสักหน่อยเถอะ]

 

 

[ได้ นายไปที่นั่นก่อนเลย ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ]

 

 

ชุยหังหยิบช็อกโกแลตที่หลูจื้อพึ่งจะให้ขึ้นมา จากนั้นก็เดินไปทางถนนตั้วลั่วด้วยความดีใจมีความสุข

 

 

ตอนนี้เขาอยากไปแต่ร้านเกี๊ยวตงเป่ยร้านนั้น ไปกินเกี๊ยวกุยช่ายไข่สักหน่อย