เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1115 เปิดรังอินทรีย์ (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิ สวรรค์สีม่วงน้อย

 

รังอินทรีย์ลอยอยู่กลางอากาศ

 

มันเป็นรังอินทรีย์ที่ดูเหมือนก้อนคริสตัลขนาดใหญ่

 

ฟางหยวนจดจำสิ่งนี้ได้ มันคือทรัพยากรอมตะระดับแปดคริสตัลสวรรค์!

 

คริสตัลสวรรค์สามารถลอยอยู่บนท้องฟ้าโดยไม่ร่วงหล่นลงสู่พื้นเว้นเพียงจะถูกผลักดันด้วยพลังงานจากภายนอก

 

โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่อยู่ภายใน เพียงคริสตัลสวรรค์ที่ห่อหุ้มอยู่ก็มีน้ำหนักถึงห้าร้อยกิโลกรัม!

 

นี่คือรังอินทรีย์ที่สิบสามของแดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็ก

 

มูลค่าของมันสูงกว่ารังอินทรีย์ทั้งหมดรวมกัน

 

ฟางหยวนร่วมมือกับชูตู๋และสามารถฉกชิงรังอินทรีย์นี้มาได้สำเร็จ

 

อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาสุดท้ายของการต่อสู้ที่เผ่าไห่ ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าไห่ตะโกนบอกความลับกับทุกคนว่าในรังอินทรีย์ที่สิบสามมีเบาะแสเกี่ยวกับมรดกที่แท้จริงของไห่ฟานซ่อนอยู่

 

นี่เป็นปัญหาสำหรับฟางหยวน

 

วิญญาณอมตะดาบบินรวมกับรังอินทรีย์ที่สิบสามมีมูลค่าสูงมาก แม้ชูตู๋จะเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ แต่เขาก็ตระหนักถึงความล้ำค่าของทั้งสองสิ่ง

 

โชคดีที่ชูตู๋หมกมุ่นอยู่กับวิธีดึงความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่ง

 

ดังนั้นฟางหยวนจึงใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้เพื่อเจรราแลกเปลี่ยนกับชูตู๋และสามารถบรรลุข้อตกลง

 

ชูตู๋ใช้วิญญาณอมตะเรียกภัยพิบัติเพื่อรับความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งจากฟางหยวน ในอนาคตเขาจะได้ความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งจากฟางหยวนร้อยละสามสิบ

 

‘ชูตู๋เป็นผู้อมตะธรรมดา เขาไม่ต้องการบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งข้อมูลหรือเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อเป็นเส้นทางรอง ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกสนใจมรดกที่แท้จริงทั้งสอง’

 

‘แตกต่างจากข้า ข้าสามารถบ่มเพาะได้ทุกเส้นทาง ไม่ว่าข้าจะได้รับมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางใด ข้าก็สามารถนำมาใช้กับตนเอง’

 

‘แต่ถึงกระนั้นข้าก็ยังรู้สึกชื่นชมการตัดสินใจอันเด็ดเดี่ยวของชูตู๋  เขาสามารถยอมแพ้ในสถานการณ์ที่เหมาะสม จักรพรรดิอมตะช่างน่าเกรงขามอย่างแท้จริง!’ ฟางหยวนคิดขณะตรวจสอบรังอินทรีย์

 

เขากับชูตู๋เป็นพันธมิตรในแง่ของผลประโยชน์ ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ห่างเหิน พวกเขาใช้ประโยชน์ซึ่งกันและกันเท่านั้น

 

การติดต่อกับชูตู๋ ฟางหยวนต้องระวังตัวเป็นอย่างมาก

 

เขารู้ว่าชูตู๋ยังต้องการวิธีดึงความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งออกมา

 

ชูตู๋มีทั้งสมองและความแข็งแกร่ง เขาไม่ใช่จักรพรรดิอมตะที่โง่เขลา

 

ความแข็งแกร่งของชูตู๋ทำให้เขาสามารถสร้างปัญหาให้กองกำลังขนาดใหญ่เช่นเผ่าหลิวได้ด้วยตัวเขาเองเพียงลำพัง ระหว่างการต่อสู้ที่เผ่าไห่ เขาทำให้ผู้อมตะทั้งหมดไม่กล้าลงมือโจมตีเขา

 

หลังจากการต่อสู้กับเผ่าหลิวในอดีต เขาแทบไม่ปรากฏตัวและเลี้ยงดูศิษย์อย่างลับๆเพื่อฉกฉวยความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งขณะที่ศิษย์ของเขาก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ ระหว่างการเจรจา ฟางหยวนยังตระหนักถึงความเฉลียวฉลาดของคนผู้นี้

 

จักรพรรดิอมตะชูตู๋มีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ แล้วเขาจะพอใจกับแค่วิญญาณเรียกภัยพิบัติได้อย่างไร?

 

สิ่งที่น่ากลัวกว่าก็คือดูเหมือนชูตู๋จะสามารถคาดเดาตัวตนที่แท้จริงของฟางหยวน

 

แน่นอนว่าฟางหยวนอาจคิดมากเกินไป

 

แต่ยังมีหลายสิ่งที่ทำให้ฟางหยวนต้องระวังตัวเป็นพิเศษ มิฉะนั้นเขาอาจพลาดรายละเอียดเล็กๆที่สำคัญ

 

การปรากฎตัวของชูตู๋ยังเป็นเรื่องน่าสงสัย ฟางหยวนคาดเดาว่าชูตู๋ถูกควบคุมโดยเจตจำนงสวรรค์และกลายเป็นภัยพิบัติมนุษย์ของเขา

 

การร่วมมือกับบุคคลเช่นนี้ไม่ต่างจากการขอความช่วยเหลือจากเสือ

 

ดังนั้นหลังจากสร้างความร่วมมือ ฟางหยวนไม่ได้พูดคุยกับชูตู๋มากนักและเร่งจากไปทันที

 

ชูตู๋ปล่อยฟางหยวนจากมาโดยไม่กล่าวสิ่งใด

 

ประการแรก วิญญาณอมตะเรียกภัยพิบัติอยู่ในมือเขา ประการที่สอง เขาและฟางหยวนได้สร้างข้อตกลงพันธมิตรเรียบร้อยแล้ว ประการที่สาม เขาไม่สามารถจับตัวฟางหยวนในแง่ของความเร็ว

 

ด้วยความแข็งแกร่งและความสามารถของชูตู๋ มันทำให้เขามีเครือข่ายและรู้จักผู้คนมากมาย

 

ฟางหยวนพิจารณาจุดนี้เช่นกัน เพื่อป้องกันเจตจำนงสวรรค์ ฟางหยวนมอบวิญญาณเจตจำนงของตนเองจำนวนมากให้กับชูตู๋ ด้วยวิธีนี้ฟางหยวนไม่จำเป็นต้องกังวลว่าเจตจำนงสวรรค์จะส่งอิทธิพลต่อความคิดของชูตู๋มากนัก

 

‘ข้าต้องระวังตัวให้มากขึ้น หากผิดพลาด มันอาจนำไปสู่หายนะ!’ ฟางหยวนเตือนตนเอง

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่เขาบังคับร่างผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งบินเข้าไปหารังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์อย่างช้าๆ

 

เขาใช้วิธีการตรวจสอบและเงื่อนงำที่ได้รับจากไห่เจิ้ง

 

‘หากข้าคิดไม่ผิด เป็นเวลานี้…’

 

ผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งเปลี่ยนร่างเป็นไห่เจิ้งและบินเข้าไปหารังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์

 

ในเวลาเดียวกันวิญญาณหลายดวงก็บินออกมาหมุนวนอยู่รอบตัวไห่เจิ้งผู้นี้

 

ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมถูกกระตุ้นใช้งานโดยมีเป้าหมายที่รังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์

 

ท่าไม้ตายเหล่านี้ล้วนมาจากการค้นวิญญาณของไห่เจิ้งตัวจริง มันเป็นสิ่งที่ได้รับการส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่นในเผ่าไห่ ก่อนไห่ฟานจะเสียชีวิต เขาทิ้งคำสั่งเสียไว้กับบุตรหลานว่าสมาชิกเผ่าไห่ที่กลายเป็นผู้อมตะทุกคนจะต้องเรียนรู้วิธีการเหล่านี้

 

หลังจากการศึกษวิจัยมานานหลายชั่วอายุคนโดยผู้อมตะเผ่าไห่ พวกเขาค่อยๆเข้าใจว่าท่าไม้ตายเหล่านี้คือกุญแจสำคัญในการเปิดรังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์

 

มีผู้อมตะเผ่าไห่หลายคนพยายามใช้ท่าไม้ตายเหล่านี้เพื่อเปิดรังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์โดยหวังว่าจะได้รับมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน

 

แต่แน่นอนว่าไม่มีผู้ใดประสบความสำเร็จ

 

เพราะพวกเขาขาดองค์ประกอบสำคัญที่สุด นั่นคือวิญญาณทัศนคติ!

 

นี่ทำให้ผู้อมตะเผ่าไห่หลายชั่วอายุคนไม่มีผู้ใดสามารถรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน

 

ผู้อมตะไม่ใช่คนโง่ หลังจากผู้อมตะเผ่าไห่ตระหนักถึงเรื่องนี้ พวกเขาพยายามค้นหาวิญญาณทัศนคติ

 

หลังจากทุ่มเทความพยายาม พวกเขาพบเบาะแสบางอย่างและมีความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

เมื่อซูเซียนเอ๋อกลายเป็นภรรยาของไห่เจิ้ง นางเข้าสู่เผ่าไห่ในฐานะผู้อาวุโสนอก นางไม่ใช่ผู้อมตะเผ่าไห่ที่แท้จริง ดังนั้นนางจึงพลาดความลับสำคัญมากมายของเผ่าไห่

 

แต่นางมาพร้อมกับแรงจูงใจที่จะช่วยเหลือนางมารผลาญสวรรค์และสามารถขโมยข้อมูลเกี่ยวกับมรดกที่แท้จริงของไห่ฟานออกมา

 

จากการตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้ นางพบข้อสงสัยบางอย่าง

 

แต่เมื่อนางเข้าใกล้ความสำเร็จ สถานการณ์กลับเปลี่ยนแปลงไป ไห่เจิ้งฆ่าซูเซียนเอ๋อ เทพธิดาหลี่ซานตัดขาดนางมารผลาญสวรรค์ ผลที่ตามมาคือซูเซียนเอ๋อทิ้งเบาะแสสำคัญและทุกสิ่งของนางไว้กับไห่ลั่วหลัน

 

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ ไห่ลั่วหลันใช้เบาะแสเหล่านี้เพื่อให้ได้รับวิญญาณทัศนคติ

 

อย่างไรก็ตามสุดท้ายมันกลับตกอยู่ในมือของฟางหยวน

 

หลายวันที่ผ่านมาฟางหยวนฝึกฝนท่าไม้ตายดังกล่าวและไม่พบปัญหาใดๆ

 

ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเปลี่ยนเป็นเปลวไฟและสายฟ้าพุ่งเข้าโจมตีรังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์ การโจมตีแต่ละครั้งทำให้รังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์เกิดการสั่นสะเทือนเล็กน้อย

 

แรงสั่นสะเทือนค่อยๆทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

 

“ครั้งสุดท้าย!”

 

ฟาหงยวนรู้สึกตื่นเต้น

 

ตามข้อมูลที่ได้รับ ฟางหยวนปลดปล่อยกลิ่นอายของวิญญาณทัศนคติออกมาและส่งมันเข้าหลอมรวมกับรังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์

 

รังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์เกิดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ก่อนที่แสงเก้าสีจะส่องประกายขึ้น

 

ม่วง ฟ้า น้ำเงิน เขียว เหลือง ส้ม แดง ขาว และดำ

 

แสงเหล่านี้บังคับให้ไห่เจิ้งตัวปลอมต้องล่าถอยออกมา

 

รังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์ที่ปิดตายมานานหลายปีเปิดออกในที่สุด

 

‘ข้าเข้าใจแล้ว!’ หัวใจของฟางยหวนแทบกระโดดออกมาจากหน้าอก

 

‘เดิมทีคริสตัลสวรรค์ไม่มีสี แสงทั้งเก้ามาจากสวรรค์ทั้งเก้า ไห่ฟานผสานพวกมันเข้าด้วยกันโดยใช้วิธีบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมก่อนจะเก็บซ่อนมันไว้’

 

‘ก่อนตายไห่ฟานทิ้งท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเอาไว้ให้กับบุตรหลานเพื่อให้พวกเขาใช้มันเปิดผนึกรังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์รังนี้’

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ช่วยไม่ได้ที่ฟางหยวนจะต้องประเมินมรดกที่แท้จริงของไห่ฟานสูงขึ้นไปอีก

 

คริสตัลสวรรค์เป็นทรัพยากรอมตะชนิดพิเศษที่จะพบในสวรรค์ทั้งเก้าเท่านั้นเว้นเพียงถ้ำสวรรค์ที่มีรากฐานอันล้ำลึก

 

เดิมทีฟางหยวนคิดว่าคริสตัลสวรรค์ชิ้นนี้มาจากถ้ำสวรรค์ของไห่ฟานแต่แท้จริงแล้วมันมาจากสวรรค์ทั้งเก้า

 

นี่ถือเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างแท้จริง

 

เนื่องจากในปัจจุบันสวรรค์ทั้งเก้าเหลืออยู่เพียงสอง การค้นหาคริสตัลสวรรค์จากเศษชิ้นส่วนของสวรรค์ที่กระจัดกระจายและซ่อนอยู่ในสถานที่ต่างๆทั้งห้าภูมิภาคเป็นเรื่องที่ยากลำบากอย่างที่สุด

 

“มรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน ข้ามาแล้ว!” ฟางหยวนไม่สามารถยับยั้งความตื่นเต้นที่อยู่ในใจขณะควบคุมไห่เจิ้งตัวปลอมบินเข้าไปในรังอินทรีย์อย่างระมัดระวัง