หลังจากใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงในการกินอาหารในร้านอาหาร หยวนก็พอใจกับการกินของตัวเองในที่สุด ซึ่งตอนนี้เขาก็อิ่มเต็มที่แล้ว ทำให้เขาดูอ้วนขึ้นกว่าปกติ
“ไม่น่าเชื่อ ท้องของพี่หยวนมันสุดยอดมากเกินไปแล้ว ไม่ใช่แค่กินแกนมอนสเตอร์แล้วยังรู้สึกดี แต่ยังสามารถกินอาหารที่สามารถกินได้ถึงสิบครอบครัวได้อีกด้วย…”
เสี่ยวฮัวจ้องเขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง
“ฮ่าฮ่าฮ่า ปกติพี่ก็ไม่ได้กินเยอะมากนักหรอก แต่ในบางที เมื่อกลืนอาหารเข้าไปแล้วมันก็จะรู้สึกเหมือนอาหารนั้นหายไปก่อนจะถึงท้องของพี่ด้วยซ้ำ”
หยวนอธิบายให้เสี่ยวฮัวฟัง
“และพลังฉีของพี่ก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วยนะ”
หลังจากกินอาหารมาเยอะมาก ค่าพลังฉีของเขาก็เพิ่มขึ้น 1 ล้าน ซึ่งมันเทียบได้กับแกนมอนสเตอร์ของกบหยกเลย
“นั่นเป็นเพราะอาหารที่พี่หยวนกิน ไม่ใช่อาหารธรรมดาหนะสิ แต่เป็นอาหารวิญญาณ ซึ่งปรุงจากร่างกายของมอนสเตอร์ และมีพลังงานทางวิญญาณด้วย”
“นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้รสชาติอาหารดียังงี้งั้นหรอ มนุษย์ทั่วไปควรกินอาหารวิญญาณพวกนี้มากกว่าอีกนะ”
หยวนพูดขณะที่ลูบท้องตัวเองไปด้วย
อย่างไรก็ตามเมื่อใบเรียกเก็บเงินปรากฏขึ้นในเวลาต่อมา หยวนก็รู้สึกเสียใจทันทีที่กินไปเยอะมาก
“500 เหรียญทองงั้นหรอ?! เกือบจะทั้งหมดที่พี่มีเลย! ทำไมมันแพงอย่างนี้เนี่ย?! พวกเขาคิดเงินผิดรึเปล่า?”
หยวนอุทานด้วยสีหน้าหวาดกลัว
“พี่หยวน พี่สั่งอาหารโดยไม่ได้ดูราคาก่อนหรือเปล่า อาหารวิญญาณถือเป็นอาหารฟุ่มเฟือย แน่นอนว่ามันต้องแพง และพี่ก็กินไปเยอะมาก”
เสี่ยวฮัวพูดกับเขา
หยวนถอยหายใจและพูดว่า
“ถ้าเป็นแบบนี้พี่ก็ควรออกล่า และทำอาหารกินเองดีกว่าอีก”
“นั่นเป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกันนะพี่หยวน”
เสี่ยวฮัวพยักหน้า
“ยังไงมันก็แค่เนื้อมอนสเตอร์ที่ปรุงสุกแล้ว”
“ตัดสินใจแล้ว! เพื่อประหยัดเงิน ข้าควรจะเรียนรู้วิธีการปรุงอาหารวิญญาณ!”
และเขาก็พูดต่อวว่า
“มีเทคนิคอะไรที่สอนวิธีการทำอาหารไหม?”
เสี่ยวฮัวพยักหน้า และบอกว่า
“พี่ต้องเสียเงินไม่กี่เหรียญทองในการเรียนรู้มัน และสามารถหาเทคนิคเหล่านี้ได้ในตลาดผู้ฝึกพลัง”
“เยี่ยมมาก งั้นหลังจากนี้เราไปซื้อกัน”
หลังจากจ่ายบิลที่ร้านอาหารด้วยเงินจำนวนมากแล้ว นั่นก็ทำให้เงินที่เขาได้รับจากการขายแกนมอนสเตอร์เกือบจะหมด จากนั้นหยวนและเสี่ยวฮัวก็กลับไปเดินเล่นที่ถนนอีกครั้ง
ในเวลาต่อมา พวกเขาก็เข้าไปในร้านที่มีป้ายขนาดใหญ่เขียนว่า ‘สิ่งจำเป็นสำหรับผู้ฝึกพลัง’
“ยินดีต้อนรับสู่ร้านสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ฝึกพลัง! จะให้ข้าช่วยอะไรหรือหนุ่มน้อย?”
ผู้หญิงสวยคนหนึ่งทักทายเขาด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น หลังจากสังเกตเห็นพวกเขาเดินเข้ามาในร้าน
“สวัสดี ท่านมีเทคนิคการทำอาหารขายในร้านนี้หรือไม่?”
หยวนถามเธอ
“เทคนิคการทำอาหารหรอ ขอเวลาตรวจสอบสักครู่นะ”
สาวสวยเดินไปหลังร้าน ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็กลับมาพร้อมหนังสือสามเล่มในมือ
“เรามีเทคนิคการทำอาหาร 3 แบบ เจ้าต้องการแบบไหนล่ะ”
“อืม…”
หยวนมองไปที่เทคนิคทั้งสามเล่ม
“เคล็ดลับวิชามีดพันเล่ม…การควบคุมเพลิงสวรรค์…สูตรอาหารของผู้อาวุโสหวู่…”
หยวนทำสีหน้าแปลกๆ หลังจากอ่านชื่อหนังสือทั้งสามเล่มนี้
“มันเป็นเทคนิคการทำอาหารจริงๆหรอ ดูเหมือนเป็นเทคนิคการต่อสู้มากกว่านะ มันเป็นตำราอาหารจริงๆใช่ไหม?”
สาวสวยหัวเราะเบาๆ และกล่าวว่า “ข้ารับรองได้ว่าเป็นเทคนิคการทำอาหารแน่นอน ถ้าเจ้าไม่มั่นใจข้าสามารถให้เจ้าลองอ่านสักสองสามหน้าได้นะ”
“จริงหรอ งั้นขอลองอ่านสักหน่อยนะ”
หยวนหยิบหนังสือขึ้นมาและเริ่มอ่านทีละข้อ
ช่วยให้คุณควบคุมและปรับอุณหภูมิของไฟปกติด้วยพลังวิญญาณของคุณ>
“เอ่อ…”
หยวนไม่ได้ตั้งใจที่จะเรียนรู้เทคนิคโดยไม่ต้องจ่ายเงิน และเขาก็หันไปมองผู้หญิงที่น่ารักด้วยใบหน้าที่เป็นห่วง แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้น
“เทคนิคเหล่านี้ราคาเท่าไหร่หรอ”
หยวนถามด้วยเสียงสั่นเทา
“เล่มละ สิบเหรียญทอง!”
เธอตอบกลับอย่างรวดเร็วด้วยรอยยิ้มที่สดใส
“…”
เขาไม่อยากรู้สึกว่าเขาเพิ่งปล้นร้านเธอไป จึงตัดสินใจจ่ายเงินสำหรับเทคนิคทั้งสามนี้ แม้จะต้องเสียเงินที่เหลืออยู่ทั้งหมดก็ตาม
“ข้าจะซื้อมัน”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงถอนหายใจ ก่อนจะหยิบ 30 เหรียญทองออกมาวางที่เคาน์เตอร์
“ขอบคุณมากที่อุดหนุนนะหนุ่มน้อย”
สาวสวยรับเงินทันทีด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
หลังจากซื้อเทคนิคการทำอาหารทั้งสามเล่มแล้ว หยวนและเสี่ยวฮัวก็ออกจากร้าน
“ฮ่าๆ พี่เหลือเงินแค่ 10 เหรียญทองเอง”
หยวนถอนหายใจเฮือกใหญ่ หลังจากมองกระเป๋าเงินตัวเองที่ว่างเปล่า
“เสี่ยวฮัวควรให้เงินพี่บ้างหรือป่าว พี่หยวนจ่ายค่าอาหารให้เสี่ยวฮัวหมดเลยนี่”
เสี่ยวฮัวพูดกับเขาหลังจากเห็นใบหน้าที่เศร้าหมองของหยวน
“ไม่เป็นไร เธอทำเพื่อพี่มามากพอแล้ว ถึงเวลาที่พี่จะต้องช่วยเสี่ยวฮัวบ้าง แม้มันจะเล็กน้อยสำหรับการจ่ายค่าอาหารให้เธอก็ตาม”
“ถ้าพี่ต้องการเงินเพิ่มจริงๆ ก็แค่ไปหาแกนมอนสเตอร์เพิ่ม และขายมันอีกก็ได้”
“อย่าพูดแบบนั้นสิพี่หยวน มันเป็นธรรมดาที่เสี่ยวฮัวจะต้องช่วยพี่ในฐานะผู้รับใช้นะ มันเป็นความรับผิดชอบของเสี่ยวฮัว”
หยวนแสดงรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของเขา และพูดว่า
“ขอบคุณนะเสี่ยวฮัว แต่แทนที่จะเป็นผู้รับใช้ เธอเหมือนน้องสาวคนเล็กของพี่มากกว่านะ”
“เสี่ยวฮัว เป็นเหมือนน้องสาวของพี่หยวนจริงหรอ?”
เธอมองเขาด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย
“ใช่แล้ว”
หยวนพยักหน้า
“นั่นเป็นเหตุผลที่เธอควรหยุดเรียกตัวเองว่าผู้รับใช้ของพี่ได้แล้วนะ”
เสี่ยวฮัวพยักหน้าอย่างรวดเร็ว พร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขบนใบหน้าของเธอ
“โอเคเลย ถ้าอย่างนั้นเสี่ยวฮัวจะเป็นน้องสาวของพี่หยวนตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป!”