ตอนที่ 101 : SGS บทที่ 101 – การต่อสู้ของแรงค์8 ยกที่สามล่ะ!
“อาร์เทมิส!!”
ขณะที่ทั้งสามคนยังคงปลิวไปตามแรงตบ อิคารอสก็ได้ปล่อยมิสไซล์ออกไปซ้ำโดยไม่ให้เวลาตั้งตัว พริบตาต่อมามันก็ได้ไปถึงทั้งสามคน!
พวกคาร์ลหน้าซีด ภายใต้สถานการณ์เร่งด่วนพวกเขาทำได้แค่ยกยุทธภัณฑ์ดินของตนขึ้นมาบังด้านหน้า มิสไซล์ได้ระเบิดใส่ยุทธภัณฑ์ดิน ถึงแม้จะไม่ได้ทำให้ทั้งสามคนบาดเจ็บ แต่ก็ทำให้พวกเขากระเด็นไปไกลกว่าเดิม……..
บอกได้เลยว่าตอนนี้ไอ้สามหน่อนี่เสียเปรียบสุดๆที่โดนอิคารอสทิ้งระยะห่างขนาดนี้ ต่องรู้ก่อนว่าอิคารอสถนัดสู้ระยะไกล ส่วนพวกมันถนัดระยะประชิด……
ผลลัพธ์ก็อย่างที่เห็น ทั้งสามคนโดนอิคารอสปล่อยมิสไซล์ใส่ไม่หยุด……
ตอนนี้เหรือน่านฟ้าเต็มไปด้วยแสงสีของพลังปราณกับมิสไซล์ที่บินว่อนเต็มไปหมด และช่วงหนึ่งที่จะมีลูกหลงของพลังจากทั้งสองฝ่ายบินไปใส่กำแพงหินเกิดหลุมไม่ก็เกิดรอยตัดเต็มกำแพง ทำให้ผู้คนที่สู้อยู่บนพื้นต้องแอบตัวสั่นไปด้วยความกลัวว่าเมื่อไหร่….พลังมันจะหล่นโดนตนเอง….
บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม !บึ้ม!!!….
การต่อสู้ระหว่างอิคารอสกับคาร์ลเรียส โมมิลี้ ชาร์ล ได้ผลัดเปลี่ยนกันไปเป็นฝ่ายรุกและรับไม่หยุด และเสียงระเบิดเองก็ดังขึ้นเรื่อยๆด้วย ถ้าไม่เป็นเสียงมิสไซล์ของอิคารอสระเบิดก็จะเป็นเสียงโจมตีของทั้งสามคนที่แทบทุกครั้งจะถูกอิคารอสป้องกันไว้ได้หมด…..
วนลูปแบบนี้ไม่หลายครั้งหลายคราแล้ว ต่างฝ่ายก็กินกันไม่ลง…
“บัดซบ!!”
ถึงแม้อิคารอสจะได้เปรียบในด้านระยะกับเชี่ยวชาญในการสู้หลายคนพร้อมกัน แต่พวกคาร์ลก็ได้เปรียบในด้านจำนวน หลังจากสู้กันมานานพอสมควรพวกเขาก็รู้แล้วว่าอิคารอสอยู่แรงค์เดียวกันกับพวกตน!
ทั้งๆที่แรงค์เดียวกัน แต่พวกเขาที่มีถึงสามคนกลับไม่สามรถเอาชนะได้ซักที ไม่เพียงแค่เอาชนะไม่ได้แต่พวกเขายังโดนอีกฝ่ายโจมตีกลับมาจนสภาพอนาถไม่ต่างอะไรไปจากยาจก! นี่ทำให้ทั้งสามคนโกรธจนเกือยจะกระอักเลือด….
นอกจากความสามารถในการบินกับยุทธภัณฑ์ที่มากกว่าหนึ่ง นอกนั้นมันก็แทบไม่ได้ต่างอะไรไปจากพวกตนเลยไม่ใช้หรือ? ถ้างั้นอีกฝ่ายก็น่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะสู้กับพวกตนที่แรงค์เดียวกันและยังมียุทธภัณฑ์ดินอยู่ด้วยถูกมั้ย?
แต่ทว่า…นางฟ้าตรงหน้ากลับทำให้เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ มัน…เป็นจริงขึ้นมาแล้ว!
คาร์ล ชาร์ล และ โมมิลี้ไม่รู้ว่ามันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่ แต่ที่พวกเขารู้แน่ๆก็คือเธอไม่ได้แข็งแกร่งมากกว่าคาร์ลมากเท่าไหร่เลย แล้วทำไมเธอถึงสามารถสู้กับพวกตนพร้อมกันได้แบบนี้ล่ะ!?
จากความสงสัยก็ได้ถูกแทนที่ด้วยความอิจฉาอันลึกล้ำ…..
ทำไมกัน? ทำไมเธอถึงทำได้? ทั้งๆที่พวกเราก็แรงค์เดียวกันแท้ๆ อย่าบอกนะว่าไอ้ความสามารถบินที่พวกตนไม่มีจะทำให้เธอเก่งขึ้นถึงขั้นนี้?….
นี่เป็นคำถาม ที่พวกเขาจะไม่ได้คำตอบไปตลอดชีวิต……
ภายใต้การสนับสนุกจากอารมณ์ที่เกรี้ยวกราดและความอิจฉา พวกคาร์ลต่างก็โจมตีแรงขึ้นเร็วขึ้นด้วยสีหน้าบ้าคลั่ง ทำให้อิคารอสโดนกดดันหนักขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าอีกฝ่ายคิดว่าเธอทรงพลังเพราะการโจมตีของพวกตนโดนป้องกันหมด งั้นความคิดของอิคารอสก็ง่ายกว่านั้นมาก
อิคารอสที่พึงปีกและความสามารถในการกับสู้คนหลายคนของตน ถึงสามารถเผชิญหน้ากับพวกคาร์ลได้ แต่ทว่ายิ่งเวลาผ่านไปเธอก็ยิ่งเหนื่อยล้าขึ้น!
จากที่ผ่านมา อีกฝ่ายอาจจะคิดว่าการโจมตีของตนได้ถูกเธอป้องกันไปหมดทุกครั้ง ทำให้เธอดูเหมือนไร้เทียมทาน แต่ทว่าความจริงมันกลับกันเลย
เมื่อ แอบโซลูทดีเฟนซ์สเฟียร์ ถูกทำลายเธอก็จะใช้ปีกป้องกัน ถึงแม้จากสายตาคนภายนอกจะเห็นว่าเธอไม่เป็นอะไรเลย แต่เอาจริงๆแล้วได้มีพลังโจมตีส่วนหนึ่งของทั้งสามคน ถูกส่งผ่านจากปีกมาถึงตัวอิคารอส!
ดังนั้นจึงมีแค่อิคารอส ที่รู้ว่าการโจมตีของอีกฝ่ายไม่ได้ไร้ผลไปเสียทั้งหมด…..
จริงๆสิ่งนี้วู่หยานก็ได้คาดการณ์เอาไว้แล้ว เพราะถึงเขาจะมั่นใจในตัวอิคารอสมาก แต่ถึงยังไงอีกฝ่ายก็แรงค์เดียวกับเธอและยังมีถึงสามคน ถึงอิคารอสจะได้เปรียบจากเรื่องปีกและความสามารถในการสู้แบบกลุ่ม แต่ถ้าจะหวังให้อิคารอสชนะบอกเลยว่ามันยากมาก…..
ตอนแรกวู่หยานก็คิดว่าจะให้อิคารอสคอยถ่วงเวลาไว้ จนเขาจัดการอ่อนนี้เสร็จ ก็จะได้ร่วมมือกันสู้!
ถึงแม้วู่หยานกับมิโคโตะ จะเทียบไม่ได้กับแรงค์8ทั้งสามคน แต่ตราบใดที่มียา ‘ลมหายใจแห่งชีวิต’ คอยตอดพวกแม่งไปเรื่อยๆมันก็ต้องชนะล่ะน่า!
แต่ทว่า อิคารอสไม่ได้คิดแบบนี้ด้วย!
สามคนตรงหน้าเป็นศัตรูของมาสเตอร์ สิ่งที่คุกคามมาสเตอร์ ต้องถูกกำจัด!!
นี่คือความคิดของอิคารอส!
วู่หยานไม่รู้ว่าเธอคิดอะไร แต่ถึงเขาจะรู้เขาก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพราะยังไงในตัวอิคารอสก็ยังมียา ‘ลมหายใจแห่งชีวิต’ ถ้าสถานการณ์มันวิกฤตจริงๆ เธอก็แค่ดื่มมันซะ แค่นี้สถานการณ์ก็พลิกกลับแล้ว!
แถม อิคารอสเองก็ยังไม่ได้เอาจริงด้วย!
ใช้ข้อได้เปรียบจากปีกและความสามารถในการสู้คนหลายคน อิคารอสถึงสามารถสู้ในระดับที่สูสีกับแรงค์8ถึงสามคนได้ แต่ว่านะมันก็ใช้ว่าอิคารอสจะมีข้อได้เปรียบแค่สองนี้ซะเมื่อไหร่ล่ะ
ถูกแล้ว! พวกวู่หยานรู้ว่า อิคารอสยังมีไพ่ตายที่เป็นข้อได้เปรียบสูงสุดของเธออยู่!
เจอทั้งสามคนรุมอีกคั้ง ภายใต้สถานการณ์เป็นตาย แต่อิคารอสก็ไม่ได้ร้อนรน เปิดใช้อีจิสป้องกันพลังส่วนใหญ่ และใช้ปีกป้องกันพลังที่เหลือ ก่อนจะสะบัดปีกตบพวกมันจนกระเด็นไปอีกครั้ง!
แต่ทว่าครั้งนี้อิคารอสกลับไม่ได้ยิงมิสไซล์ใส่ เธอได้ยื่นมือซ้ายออกมาด้านหน้า แล้วจับความว่างเปล่า วินาทีต่อมาก็มีคันธนูรูปร่างแปลกประหลาดอันใหญ่ ที่มีผิวสีดำมันวาวดุจถูกย้อมด้วยหมึกชั้นดีปรากฏออกมาในมืออิคารอส!!
“ทุกคนระวังตัวด้วย! ยัยผู้หญิงน่าตายนั่นมันหยิบเอายุทธภัณฑ์ออกมาแล้ว!!”
เห็นยุทธภัณฑ์ในมืออิคารอส ชาร์ลก็หน้าเปลี่ยนสี ตะโกนบอกคาร์ลกับโมมิลี้ จากนั้นทั้งสามคนต่างก็เปิดประสาทสัมผัสระวังภัยเต็มที่ มองธนูในมืออิคารอสตาไม่กะพริบ
แม้แต่พวกเขาที่เป็นแรงค์8ยังมียุทธภัณฑ์ดินแค่ชิ้นเดียว แต่อีกฝ่ายที่ดูราวกับนางฟ้ากลับมีทั้งโลหะบินได้และบาเรียแปลกๆ สิ่งที่ทำให้คาร์ลช็อคคือทั้งหมดนี่เป็นยุทธภัณฑ์หมด แม้แต่ควร์ลที่เปิดโรงประมูลยังไม่มีปัญญาหามาใช้มากขนาดนี้เลย….
อิคารอสไม่สนว่าอีกฝ่ายจะคิดอะไร มือซ้ายจับธนู ส่วนมือขวาเธอก็ค่อยๆดึงไปด้านหลัง วินาทีต่อมาก็มีแสงสีม่วงปรากฏขึ้น ก่อนจะค่อยๆขึ้นรูปเป็นลูกธนูไปพร้อมๆกับการเคลื่อนไหวของมือเธอ ณ ตอนนี้ลูกธนูได้ขึงบนคันธนูแล้ว….

แสงสีม่วงไหลไปทั่วธนู ในเวลาเดียวกันตรงปลายลูกธนูก็มีมีลำแสงสีดำก่อตัวขึ้น พลังแห่งการทำลายล้างแผ่ออกมาจากลูกธนู ซึ่งตอนนี้ได้ถูกเล็งไปที่พวกคาร์ลเรียสแล้ว!
มองดูภาพที่เกิดขึ้น คาร์ลเรียส ชาร์ล และ โมมิลี้ต่างก็เบิกตากว้าง และพริบตาต่อมาผมทุกเส่นบนหัวพวกเขาก็ลุกขึ้นเป็นเส้นตรงหมด!
แสงสว่างในนัยย์ตาอิคารอวแข็งตัว วินาทีต่อมาเธอก็ปล่อยมือ ลุกธนูที่อาบไปด้วยแสงสีดําทมิฬก็พุ่งตรงไปหาทั้งสามคน!
“อพอลโล!!!”
เหี้ยแล้ว! อันตราย อันตราย อันตราย อันตราย โครตอันตราย!!!
ในหัวพวกเขาเต็มไปด้วยคำพูดนี้ดังขึ้นไม่หยุด มองดูลูกธนูที่ปลายเป็นลำแสงสีดำ พวกคาร์ลต่างก็หน้าซีดเผือด ความรู้สึกเย็นวาบถูกส่งตัวจากกระดูกสันหลังถึงสมองทันที!
“หลบ! หลบเร็วเข้า!!”
คาร์ลแหกปากตะโกนออกมา แล้วรีบกระโดนตัวหลบไปด้านข้างด้วยความเร็วที่สูงที่สุดเท่าที่ทำได้
ชาร์ลกับโมมิลี้ที่ได้สติจากเสียงตะโกน สีหน้าก็กลายเป็นน่ากลียดทันที ก่อนจะระเบิดปราณออกมาทั้งหมด แล้วกระโจนตัวหลบไปด้วยความเร็วที่เกินขีดจำกัดของตนเอง!
ทั้งสามคนไม่คิดแม้แต่จะป้องกัน เนื่องจากสัญชาตญาณได้ร้องเตือนพวกเขาว่า ถึงแม้จะใช้วิชาปราณที่รุนแรงที่สุดขึ้นมาต้าน บทสรุปก็คือความตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
ต้องพูดเลยว่า พวกเขารอดมาได้เพราะสัญชาตญาณจริงๆ…..
ลูกธนูสีดำพุ่งเฉียวพวกเขาไป แล้วบินตรงเข้าไปปักพื้นดินด้วยความเร็วเกินจินตนาการ….
“ตู้ม!!!!!!”
พริบตาต่อมา พลังงานที่น่าสะพรึงกลัวก็ถูกปลดปล่อยออกมา ไม่ว่าจะเป็นคนที่อยู่รอบๆ หรือเป็นอะไร ต่างก็หายวับไปหมดโดยไม่เหลือเศษซาก สายลมได้โหมกระหน่ำ และตรงพื้นดินก็ได้ถูกทำลาย……