กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 457
อะไรนะ……

ใบหน้าของผู้อาวุโสสี่ไร้ซึ่งสีเลือดและได้กระอักเลือดออกมา

“ข้าจะไปดู”

กู้ชูหน่วนรู้ว่าสิ่งที่ทำให้ผู้อาวุโสสี่ตื่นเต้นมากนั้นเป็นเรื่องที่อยู่เหนือการจินตนาการของนาง

นางนั่งบนเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ซึ่งความเร็วนั้นเร็วกว่าคนทั่วไปมากนัก

แต่ละฉากเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้นางล้มทรุดตัวลง

ฉากตรงหน้านี้ในใจของกู้ชูหน่วนราวกับถูกกรีดด้วยมีด

นั่นเป็นแดนชำระบนโลกมนุษย์อย่างไรกัน

แววตาของพวกชาวบ้านเป็นสีแดงโดยกลายร่างเป็นปีศาจสังหารและรีบพุ่งไปที่ภูเขาเสวี่ยเฟิงกันทีละคนๆ

ภูเขาเสวี่ยเฟิงที่น่าสงสารเต็มไปด้วยหญิงที่แก่ชราและอ่อนแอ

ผู้หญิงเหล่านี้ดูเหมือนจะทุกข์ทนต่อความเจ็บปวดอันใหญ่หลวงอันใดอยู่ ร่างกายม้วนขดตัวงอเป็นก้อนและกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดแทบขาดใจ

ไกลออกไปนางยังคงได้ยินเสียงกระดูกแต่ละชิ้นที่แตกหักของเหล่าสตรีพวกนั้น

ชาวบ้านชายวิ่งไปที่ภูเขาเสวี่ยเฟิงราวกับหมาป่าเข้าไปในฝูงแกะ เห็นคนเข้าก็ฆ่า

ผู้อาวุโสหกและผู้อาวุโสเจ็ดรีบเร่งนำกำลังคนมาขวางพวกเขาเอาไว้ แต่ก็ไม่สามารถขวางชาวบ้านที่บ้าคลั่งมากมายเช่นนั้นได้ดังเดิม

“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ เร่งความเร็วอีกหน่อย”

“ซู่ซู่……”

คราวนี้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ไม่ได้ท้วง ความเร็วของมันถึงขีดสุดแล้วเนื่องจากเกรงว่าหากชักช้าสักหน่อยก็จะมีอีกหลายชีวิตที่จะสูญเสียมากขึ้นอีก

กลางอากาศกู้ชูหน่วนเห็นอาหนิวเข้า

อาหนิวก็ไม่รู้ตัวเห็นผู้ใดเข้าก็ฆ่า คนต่างเผ่าหลายคนต้องการใช้โซ่เหล็กล่ามเขาไว้ เขาใช้แรงเหวี่ยงซึ่งทำให้คนต่างเผ่าถูกเหวี่ยงกันออกไป ไม่รู้ว่าเขาโชคร้ายหรือเปล่าก้อนหินขนาดใหญ่กลิ้งลงมาจากยอดเขาชนเข้ากับเขาพอดีจนทำให้เขาเลือดไหลออกมาทั่ว

อาสะใภ้หนิวซึ่งตั้งครรภ์ได้เก้าเดือนกว่าเห็นเช่นนี้ก็ไม่ได้สนใจต่อความเจ็บปวดในร่างกาย เดินโซเซพุ่งไปและร้องตะโกนว่า “ต้าหนิว เจ้ารีบตื่นเร็วเข้า รีบออกไปจากที่นี่เร็ว”

“ปึง……พรวด……”

อาหนิวยกก้อนหินขนาดใหญ่ขึ้นแล้วโยนอย่างแรงไปทางอาสะใภ้หนิว

“อย่า……”

กู้ชูหน่วนต้องการจะขวางแต่ระยะทางนั้นไกลเกินไปนางไม่สามารถหยุดมันได้เลย ทำได้เพียงมองดูก้อนหินก้อนขนาดใหญ่กระแทกเข้าที่หน้าอกของอาสะใภ้หนิว

อาสะใภ้หนิวโซเซไปสองสามก้าวแล้วล้มลงอย่างหมดแรง

นางกำท้องของตนไว้แน่น มองต้าหนิวด้วยน้ำตาที่พร่ามัวและกล่าวเสียงเบาว่า “หนิว……พี่หนิว……”

ต้าหนิวตัวสั่นเทาสองสามครั้ง สีในแววตายังคงแปรเปลี่ยนไปมาไม่หยุด

ครู่หนึ่งแดง ครู่หนึ่งดำ

ท้ายที่สุดก็ถูกแทนที่ด้วยสีแดงสดซึ่งเป็นแววตาเย็นชาไร้ร่องรอยของความรู้สึก จากนั้นก็ยกมีดแล่เนื้อไปสังหารผู้อื่น

“ชู่ว์……”

งูยังไม่ถึงกู้ชูหน่วนได้กระโดดลงจากตัวงูแล้วพุ่งทะยานเข้าไปข้างกายอาสะใภ้หนิวเพื่อห้ามเลือดในกายของนางเอาไว้

“อาสะใภ้หนิว ท่านอดทนไว้ ข้าจะรักษาอาการให้ท่านเดี๋ยวนี้”

“ท้องของข้า……หัวหน้าเผ่า……อาหน่วน……ข้าขอร้องท่านหล่ะช่วยลูกของข้าด้วย เขาอายุเก้าเดือนกว่าแล้ว เป็น……เป็นรูปเป็นร่างแล้ว เขาจะต้องไม่เป็นอะไร”

อาสะใภ้หนิวหายใจได้ยากลำบาก กระดูกในกายแตกเสียงดังแกร๊กๆ ทุกข์ทรมานจนนางอยากจะกัดฟันฆ่าตัวตายแต่ว่าในท้องเจ็บปวดยิ่งกว่า

นางรู้สึกว่ากระแสน้ำอุ่นไหลลงมาจากเท้าของนาง

อาสะใภ้หนิวราวกับคนที่จมน้ำ คว้าฟางเส้นสุดท้ายที่สามารถช่วยชีวิตจึงคว้ากูชูหน่วนเอาไว้แน่น เสียงสำลักนั้นอ้อนวอนอยู่ทุกประโยค

“อาหน่วน ข้าขอร้องท่านหล่ะช่วยลูกของข้าด้วย ครอบครัวพี่หนิวมีลูกคนเดียวมาหลายชั่วอายุคน หากลูกในท้องของข้ารักษาเอาไว้ไม่ได้ด้วยนิสัยของพี่หนิวเขาจะไม่มีทางแต่งงานใหม่และจะสิ้นทายาทสืบทอดไปด้วย”

เลือดไหลออกมาทั่วโดยที่ลมหายใจของอาสะใภ้หนิวยิ่งอยู่ก็ยิ่งอ่อนแรงลงเรื่อยๆ กู้ชูหน่วนเป็นหมอนางรู้ดีกว่าผู้ใดว่าหากว่าในตอนนี้ไม่ผ่าเอาเด็กในท้องของอาสะใภ้หนิวออกมาจะต้องมีหนึ่งศพสองชีวิตเป็นแน่

เมื่อมองไปโดยรอบ ภูเขาเสวี่ยเฟิงได้เป็นภูเขาโลหิตไปแล้ว ด้วยคำพูดทั้งหมดที่มีในโลกใบนี้ก็ไม่สามารถอธิบายสถานการณ์อันน่าอนาถของที่นี่ได้

พวกบุรุษไม่รู้ตัวหยิบมีดแล่เนื้อขึ้นมาเห็นคนเข้าก็ฆ่า และก็ไม่ได้สนใจสตรีเหล่านั้นว่าจะเป็นภรรยาหรือลูกสาวหรือแม่ของพวกเขาหรือไม่

กระดูกของพวกผู้หญิงเหล่านั้นแตกหักเรื่อยๆซึ่งเจ็บปวดทรมานต่อเนื่องและร้องไห้แทบขาดใจ แล้วยังถูกญาติสนิทของตนฆ่าตายทั้งที่ยังเป็นๆ

ต่อให้มีผู้ใดหยุดรั้งไว้ก็ยังเปื้อนเลือดไปทั่ว

กู้ชูหน่วนตะโกนร้อง “เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์รีบเร่งไปช่วยเร็วเข้า”

นางมีใจที่จะช่วยแต่อาสะใภ้หนิวดึงแขนเสื้อของนางเอาไว้แน่นและอ้อนวอนด้วยความสะอื้น

ความทรงจำที่คุ้นเคยและไม่คุ้นเคยหลั่งไหลเข้ามาในสมอง แต่ละฉากคล้ายคลึงกับฉากตรงหน้านี้

แววตากู้ชูหน่วนแตกสลายและส่งเสียงตะโกนร้องด้วยความโมโหและโศกเศร้า

นางเช็ดน้ำตาแล้วอุ้มอาสะใภ้หนิวไปในถ้ำเล็กๆข้างๆ ด้านหนึ่งหยิบอุปกรณ์ทำคลอดออกมาจากในวงแหวนอวกาศและอีกด้านหนึ่งก็กล่าวว่า

“อาสะใภ้หนิว อาการบาดเจ็บของท่านสาหัสยิ่งนักเกรงว่าจะไม่มีเรี่ยวแรงที่จะคลอดลูก ข้าจึงทำได้เพียงผ่าท้อง แต่ว่ายาชาของข้ามีไม่เพียงพอซึ่งอาจจะเจ็บสักเล็กน้อย”

“เพียงแค่สามารถรักษาลูกข้าเอาไว้ได้ เจ็บปวดมากกว่านี้ข้าก็ไม่กลัว”

“ตกลง”

กู้ชูหน่วนพยายามทำให้ตัวเองสงบนิ่ง หลังจากที่ป้อนนางกินยาบำรุงและยาชาสองสามเม็ดแล้วนางก็เริ่มทำการผ่าคลอด

หากไม่รีบให้เด็กคลอดออกมาก็จะไม่รอดเพราะขาดอากาศหายใจ

มีดกรีดลงไป อาสะใภ้หนิวก็ทรมานจนน้ำตาไหลไม่หยุด

นางทนเจ็บปวดทรมานจากนั้นร้องห่มร้องไห้กล่าวว่า “หัวหน้าเผ่า ท่านรู้ไหมเพียงแค่ท่านอยู่ข้าก็ไม่กลัวสิ่งใดทั้งสิ้น คนทั้งเผ่าหยกเป็นเช่นข้าทั้งสิ้น ท่านเป็นกำลังใจของพวกเรา”

“ท่านอย่าเพิ่งกล่าวสิ่งใด รักษาเรี่ยวแรงเอาไว้”

“ข้า……ข้าไม่พูดเกรงว่าข้าจะไม่มีโอกาสได้พูดอีกแล้ว หัวหน้าเผ่าไม่ว่า……ไม่ว่าท่านจะหาไข่มุกมังกรเจอหรือไม่ ทุกคนก็จะไม่ตำหนิท่าน……ท่านอย่า……อย่าได้โทษตนเอง……ไม่ต้องเสียใจดีไหม……”

ดวงตากู้ชูหน่วนแดงแต่การเคลื่อนไหวในมือก็รีบเร่งไม่หยุดหย่อน

“ข้า……ข้าไม่โทษพี่หนิว หลังจากที่พี่หนิวฟื้น ท่าน……ท่านช่วยข้าบอกพี่หนิวว่าจะต้อง……ต้องใช้ชีวิตอยู่ให้ดี……อย่าได้เนื่องด้วยรู้สึกผิดแล้ว……แล้วฆ่าตัวตาย……”

“อาสะใภ้หนิว ข้าเห็นเด็กแล้ว ท่านอย่าได้กล่าวสิ่งใดอีกเลย”

“ลูก……ลูกที่น่าสงสารของข้า……โอ๊ย……”

เสียงตะโกนร้องอันโหยหวนพร้อมกับเสียงร้องของเด็กทารกซึ่งทำให้กู้ชูหน่วนดีใจเล็กน้อย “อาสะใภ้หนิว เด็กคลอดแล้วเป็นลูกสาว ท่านดูสิ”

กู้ชูหน่วนถอดเสื้อผ้าตนเองออกมาห่อตัวเด็กและอุ้มเด็กมาตรงหน้าอาสะใภ้หนิว นางหายใจอ่อนแรงแม้ว่าบาดแผลจะได้รับการรักษาเป็นอย่างดีแต่ก็ไม่สามารถต้านทานอาการถูกหินก้อนใหญ่ทุบได้ ซึ่งเสียเลือดมากเกินไปและทำลายตับไปด้วย

“ลูก……ลูก……”

น้ำตาไหลลงมาจากดวงตาของอาสะใภ้หนิว ลมหายใจอันค่อยๆแผ่วเบาลงทว่ามุมปากยังคงยิ้มไม่หยุด

เด็กแรกเกิดร้องไห้เสียงดังพร้อมสีหน้าอันเจ็บปวด

กู้ชูหน่วนสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติและตรวจดูอย่างละเอียด เมื่อตรวจดูแล้วนางก็อดที่จะตกใจไม่ได้

ทารกที่เพิ่งจะคลอดก็กระดูกแตกหักไปทั่วทั้งร่างไม่หยุด

เช่นเดียวกับอาสะใภ้หนิวเลย

ไม่ เช่นเดียวกับผู้หญิงทุกคนในหมู่บ้าน

นางมองไปที่อาสะใภ้หนิวด้วยความประหลาดใจ

อาสะใภ้หนิวสะอื้นและกล่าวว่า “เนื่องจากคำสาปโลหิต สงสารลูกของข้าเพิ่งคลอดออกมาก็ต้องทนทุกข์ทรมานมากมายเช่นนี้ เป็นแม่ที่ผิดต่อเจ้า”

กู้ชูหน่วนรู้สึกเพียงว่าโลกกำลังหมุน

บุรุษถูกคำสาปโลหิตทำให้ไม่รู้สึกตัวและฆ่าคนอย่างบ้าคลั่ง ในร่างยังมีแรงกัดกร่อนที่ยังคงกัดกร่อนในกายของพวกเขาจนในที่สุดจากภายในสู่ภายนอกและเน่าสลายจนตาย

สตรีทั่วทั้งร่างกายแตกเป็นเสี่ยงๆ ร่างกายราวกับถูกมีดเป็นพันเป็นหมื่นเล่มฟันโดยฟันพวกเขาอย่างต่อเนื่อง……

ดี……คำสาปโลหิตช่างโหดร้ายเสียนี่กระไร……