ตอนที่ 192 คำสารภาพรักท่ามกลางหิมะแรก (1) / ตอนที่ 193 คำสารภาพรักท่ามกลางหิมะแรก (2)

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ตอนที่ 192 คำสารภาพรักท่ามกลางหิมะแรก (1)  

 

 

แทบจะในทันที ข่าวนั้นก็ถูกลบออกไปจากสื่อออนไลน์ทั้งหมด เช่นเดียวกันกับคอมเมนต์ความเห็นทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง 

 

 

ด้วยความที่ว่ามีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในวงการบันเทิง การหายไปของข่าวซุบซิบชิ้นหนึ่งก็จะถูกกลบด้วยกระแสอื่นที่แตกตื่นและเตะตายิ่งกว่าไปโดยปริยาย ไม่นานเลยก่อนที่ผู้คนจะพากันลืมเรื่องนี้ 

 

 

ต้นสังกัดบริษัทเว่ยยางก็แถลงการณ์พอเป็นพิธี ให้ความเห็นว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงข่าวลือและรูปภาพที่ถูกตัดต่อ 

 

 

เหล่าผู้ใช้งานออนไลน์กลุ่มใหญ่ถูกว่าจ้างเข้ามาเพื่อดำเนินการชี้นำอารมณ์และเบี่ยงเบนความสนใจของเหล่าแฟนคลับ 

 

 

พายุสงบลงด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง ระหว่างที่เรื่องราวข้างหลังม่านนั้นยังถูกซุกซ่อนไว้จากทุกคน 

 

 

อันอี้เป่ยหยัน “ทำได้ดีนี่ นายน้อยเซิ่งสยบข่าวลือได้แบบนั้น แต่ยังไงก็ตาม–” เขาขยับเข้าหาก่อนจะกระชากคอเสื้อเซิ่งอี่เจ๋อ “นายช่วยหาคำอธิบายดีๆ สำหรับสิ่งที่นายทำกับน้องสาวฉันสิ!” 

 

 

เหอจยาอวี๋และฉือหยวนเฟิงฉลาดพอที่จะฉากหลบออกไป ปล่อยให้เซิ่งอี่เจ๋อกับอันอี้เป่ยอยู่กันตามลำพังภายในห้อง 

 

 

แม้ว่าแววตาของเด็กหนุ่มจะดูไม่แยแส ทว่าเซิ่งอี่เจ๋อก็ยืนหยัดในจุดยืนของเขา “ผมจริงจังในความรู้สึกที่มีต่อเธอ” 

 

 

“จริงจัง? เหมือนกับจูบ ‘จริงจัง’ ที่นายบังคับเธอน่ะเหรอ ฉันรู้ว่าตระกูลเซิ่งสามารถสยบข่าวแบบนั้นได้สบายๆ ด้วยมือเพียงข้างเดียว แต่ใครจะรับผิดชอบเรื่องความเจ็บปวดที่นายทำต่อน้องสาวของฉันระหว่างนั้น” อันอี้เป่ยรุกต่ออย่างกร้าวกระด้างพร้อมแววตาคมกริบ 

 

 

เขารู้จักอันซย่าซย่าเป็นอย่างดีว่าเธอเป็นเด็กเช่นไร เธอเป็นน้องเล็กผู้เป็นที่รักของครอบครัว และการดำเนินชีวิตของเธอก็เป็นไปอย่างราบรื่นทั้งเรื่องการเรียนและอารมณ์ความรู้สึกที่กำลังพัฒนาไป และเธอไร้ซึ่งเล่ห์เหลี่ยมมารยาโดยสิ้นเชิง 

 

 

เด็กสาวเช่นนี้อาจดูไม่ทันคนในสายตาคนอื่น แต่นั่นเป็นคุณสมบัติที่อันอี้เป่ยต้องการปกป้องไว้ 

 

 

ครอบครัวอันได้สร้างที่พักพิงอันปลอดภัยไว้ให้อันซย่าซย่า ซึ่งมาถูกทำลายโดยเจ้าเซิ่งอี่เจ๋อ! 

 

 

“ความสัมพันธ์เป็นเรื่องของคนสองคน และผมไม่เคยบังคับให้ซย่าซย่าต้องทำอะไรที่ไม่เต็มใจ” เซิ่งอี่เจ๋อเอ่ยเบาๆ อันอี้เป่ยรู้สึกทึ่งกับท่าทางสงบนิ่งของเขา ก่อนจะชกเซิ่งอี่เจ๋อด้วยความโกรธ 

 

 

เขาไม่ได้บังคับเธองั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าซย่าซย่าก็ชอบเขาตอบอย่างนั้นใช่ไหม 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อไม่แสดงทีท่าว่าจะหลบ และยืนหยัดรับหมัดนั้น จากนั้นเขาก็ยืดหลังตรงก่อนจะโค้งคำนับ “ผมขอโทษ” 

 

 

เรื่องราวทั้งหมดล้วนเป็นความผิดเขา 

 

 

อันอี้เป้ยสู้ระงับความโกรธของเขา พลางตะโกน “ฉันไม่ต้องการเห็นเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก!” 

 

 

เขาเดินกระแทกเท้าลงไปข้างล่าง ผลักประตูของนอนอันซย่าซย่าเปิด แล้วตะโกนลั่น “อันซย่าซย่า เธอห้ามมีแฟน!” 

 

 

หญิงสาวถึงกับสะดุ้ง เธอจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และเมื่ออันอี้เป่ยมาตะคอกใส่อีก เด็กสาวก็กัดริมฝีปากก่อนจะร้องไห้โฮออกมา 

 

 

อันอี้เป่ยรู้สึกว้าวุ่นใจกับการร้องไห้ของน้องสาวแล้วคำปลอบโยนทั้งหมดจากเขาก็ไร้ความหมาย 

 

 

“อย่าร้องไปเลยซย่าซย่า พี่ขอโทษ พี่ไม่ควรตะโกนใส่น้อง…” 

 

 

เมื่อมองผ่านม่านน้ำตา อันซย่าซย่าก็รู้สึกว่ามีใครบางคนเช็ดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน เขาคุกเข่าอยู่ข้างหน้าเธอ พลางพูดด้วยน้ำเสียงยอมแพ้ “หยุดร้องน่า หน้าตาเธอดูไม่ได้แล้ว” 

 

 

น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาอีกจากคำพูดนั้น 

 

 

ดูเหมือนจะมีเสียงถอนหายใจ จากนั้นเซิ่งอี่เจ๋อก็หยิบทิชชูมาซับน้ำตาและน้ำมูกของเธอด้วยการกระทำที่อ่อนโยนที่สุด 

 

 

เธอนี่มันซื่อบื้อจริงๆ – คิดแม้กระทั่งจะยอมรับข้อเสนอของเจ้เคอจริงๆ … 

 

 

อันอี้เป่ยยืนดูอยู่ข้างๆ สีหน้าเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อยกับการกระทำของเซิ่งอี่เจ๋อ 

 

 

เด็กผู้หญิงนี่ช่างร้องไห้เก่งจริงๆ เพราะกินเวลาเกือบยี่สิบนาทีได้กว่าที่อันซย่าซย่าหยุดร้อง 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อเช็ดน้ำตาให้เธอ “ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงพูดกันว่าผู้หญิงเกิดจากน้ำ” 

 

 

อันซย่าซย่าสูดน้ำมูกก่อนจะถลึงตาใส่เขา 

 

 

“ไปเลยนะ! ฉันไม่อยากเจอหน้านาย!” 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 193 คำสารภาพรักท่ามกลางหิมะแรก (2)  

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อไม่ขยับเขยื้อน เธอผลักเขาด้วยแรงทั้งหมดที่มี พยายามดันเขาออกไปจากห้องนอน 

 

 

แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะพยายามด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี แต่เซิ่งอี่เจ๋อก็ยังคงยืนนิ่งราวกับกำแพงเหล็ก 

 

 

หญิงสาวกระทืบเท้า น้ำตาเริ่มเอ่อขึ้นมาภายในดวงตาอีกครั้ง “ถ้านายไม่ไป ฉันไปเอง!” 

 

 

ชายหนุ่มมองไปที่เธออย่างยอมจำนนพลางปลอบโยน “เอาละ ฉันไปเอง พักผ่อนอยู่บ้านไปก่อน ฉันแจ้งทางโรงเรียนแล้วว่าเธอต้องการเวลาพักผ่อน” 

 

 

ฮึ! ฉันจะไม่พูดกับนาย!  

 

 

อันซย่าซย่าเสมองไปทางอื่นและเมินเขา 

 

 

หลังจากเซิ่งอี่เจ๋อออกไป อันอี้เป่ยก็เริ่มตำหนิเธอ “มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเธอสองคน” 

 

 

“ไม่มีอะไร! หนูไม่รู้จักเขา!” อันซย่าซย่าทำหน้ามุ่ย 

 

 

ปั้บ— อันอี้เป่ยดีดหน้าผากเธอพลางพูดอย่างหงุดหงิดใจ “ก็แล้วทำไมยอมให้เจ้านั่นจูบล่ะ สู้กลับไม่เป็นหรือไง” 

 

 

อันซย่าซย่าโอดครวญ “หนูไม่มีแรงนี่…” 

 

 

เมื่อเห็นใบหน้าอันน่าสงสารของน้องสาว อันอี้เป่ยก็ไม่อาจโกรธเธอต่อไปได้อีก 

 

 

ที่เธอพูดก็ถูก เด็กผู้หญิงจะสู้แรงผู้ชายได้อย่างไรกัน 

 

 

ถ้าเพียงแต่— 

 

 

อันซย่าซย่าไม่ได้มีใจให้เซิ่งอี่เจ๋อเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่าเขาต้องให้เจ้าหมอนั่นชดใช้ในเรื่องนี้! 

 

 

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจากท่าทีของอันซย่าซย่าแล้ว… 

 

 

อันอี้เป่ยไม่พูดพล่ามและเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา “เธอชอบเซิ่งอี่เจ๋อหรือเปล่า” 

 

 

คำถามนั้นดูเหมือนจะทำให้เธออ้ำอึ้งไป ได้แต่ยืนงงงันอยู่อย่างนั้นด้วยตาเบิกโตไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบ 

 

 

เธอ…ตอบคำถามนั้นไม่ถูก… 

 

 

เธอควรจะบอกออกไปเลยว่าเธอไม่ได้ชอบเขา แต่ก็กลับพูดไม่ได้… 

 

 

เมื่อเห็นปฏิกิริยาน้องสาว ใบหน้าของอันอี้เป่ยก็เครียดขึ้น 

 

 

ให้ตายเถอะ เขาไม่ได้รังเกียจหรอกถ้าเซิ่งอี่เจ๋อจะพยายามจีบน้องสาวเขา แต่ไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าหนุ่มนั่นจะทำสำเร็จ! 

 

 

ไอ้เด็กบ้า! 

 

 

“อยู่ห่างๆ เซิ่งอี่เจ๋อเอาไว้นับจากนี้ไป! และเธอไม่ได้รับอนุญาตให้พูดกับเขาถึงแม้จะเจอหน้าเขา! รักษาระยะห่างอย่างน้อยสามเมตร!” อันอี้เป่ยพูดอย่างเลือดเย็น “ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่ได้ค่าขนมอีกจนตลอดชีวิต!” 

 

 

เขากระทืบเท้าเดินจากไป ทิ้งอันซย่าซย่าไว้ตามลำพังในห้องของเธอด้วยความรู้สึกสับสนหนัก 

 

 

เธอกำลังถูกฉีกทิ้งอยู่ภายใน… แต่ไม่รู้จะหันหน้าไปพูดกับใคร 

 

 

ได้แต่นอนร้าวรานเจ็บปวดใจอยู่บนเตียง 

 

 

หญิงสาวหลับไปพร้อมความรู้สึกสับสน และเมื่อตื่นขึ้นอีกครั้ง ก็มีเสียงเคาะประตู 

 

 

“ซย่าซย่า ฉันเข้าไปได้ไหม” น้ำเสียงร่าเริงนั้นเป็นของซูเสี่ยวมั่ว 

 

 

“อื้อ” เธอตอบอย่างไร้ชีวิตจิตใจ จากนั้นซูเสี่ยวมั่วก็ผลักประตูแล้วเดินเข้ามา 

 

 

“เป็นอะไรหรือเปล่า ฉันเห็นข่าวเมื่อวานแล้ว มันถูกลบอย่างไวเลยนะ แต่คนทั้งโรงเรียนก็พากันพูดถึง…” ซูเสี่ยวมั่วนั่งลงข้างเตียงเธอ ก่อนจะเริ่มหยิบของออกมาจากกระเป๋านักเรียน 

 

 

หนังสือการ์ตูน ขนม เกมนินเทนโด… 

 

 

“ฉันรู้ว่าทุกคนคงกำลังสาปแช่งฉัน” อันซย่าซย่าถอนหายใจ 

 

 

ซูเสี่ยวมั่วยิ้มแห้งๆ “อย่าไปคิดถึงยัยตัวแสบพวกนั้นเลย นี่แน่ะ ฉันซื้อขนมมาฝากแล้วก็ของเล่นสนุกๆ ด้วย เธอก็พักผ่อนอยู่บ้านให้สบายไปอีกสักสองสามวันเลย!” 

 

 

อันซย่าซย่ารู้ว่าเธอทำไปด้วยความหวังดี และยิ้มอย่างขอบใจตอบเพื่อนสาว 

 

 

อย่างไรก็ตาม เดี๋ยวเดียวเธอก็ได้รู้ว่าซูเสี่ยวมั่วเป็นเพื่อนที่น่ารักขนาดไหน… 

 

 

“ฮ่าๆ! ฉันพนันเลยว่ามันคงรู้สึกสุดยอดเลยที่ได้จูบกับเซิ่งอี่เจ๋อ! ไหนเล่าให้ฟังซิ! จูบเขาเป็นไงบ้าง เป็นแบบเอาแต่ใจหรืออ่อนโยน มีลิ้นเข้ามาด้วยหรือเปล่า… นี่ เลิกตีฉันซะที!” 

 

 

อันซย่าซย่าคว้าหมอนอิงมาทุบเธอพร้อมด้วยแก้มแดงปลั่ง! 

 

 

พอเลยนะ! เธอกล้าถามแบบนี้ได้ยังไงกัน! อันซย่าซย่าอยากจะขุดหลุมสักอันแล้วฝังตัวเองลงไป! 

 

 

“ก็ได้ๆ ฉันจะไม่ถามแล้ว” ซูเสี่ยวมั่วยกแขนขึ้นป้องศีรษะตัวเอง แต่แล้วจู่ๆ ก็ยิ้มมีเลศนัยให้เธอ “ฉันเอาเบอร์คิวคิวของเธอให้เซียวเหยี่ยนไปแล้วน้า” 

 

 

อันซย่าซย่ารู้สึกสังหรณ์แปลกๆ กับสิ่งที่กำลังจะตามมา 

 

 

“เขารู้ว่าเธอชอบเล่นเกม แล้วเขาก็ขอลาหยุดทั้งสัปดาห์เพื่อเธอเลยนะ เขาบอกว่าจะได้คอยเล่นเป็นเพื่อนเธอในเกม ซย่าซย่าเขาช่างแสนดีจริงๆ นะ”