ทว่าอย่างรวดเร็วเศษกระดาษก็ลอยออกมาอีกครั้งซึ่งเขียนไว้ว่า “อย่างไรก็ตาม เซนต์ผู้นี้คาดการณ์ไว้ว่าคงจะมีกลุ่มปีศาจต่างถิ่นที่พยายามจะขัดขวางไม่ให้เซนต์ผู้นี้ทำลายผนึกได้ ศัตรูเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องให้พวกเจ้าจัดการ”

“อะไรนะ?! ไม่คาดคิดว่าจะมีบางคนที่กล้าขัดขวางการทำลายผนึกของเซนต์โลหิตวิญญาณ ช่างรนหาที่ตายจริงๆ ปีศาจต่างถิ่นไหนกันที่ยโสโอหังเช่นนี้ ชายชราจะสังหารเขาทันที”

ชายชราระดับกายาศักดิ์สิทธิ์เดือดระอุขึ้นมา เขาและปีศาจต่างถิ่นนั้นมีความบาดหมางดั่งทะเลเลือด ในอดีตที่ผ่านมาสหายที่ดีของเขาเป็นจำนวนมากนั้นได้ตายในระหว่างการต่อสู้กับปีศาจต่างถิ่น

ดังนั้นการที่ได้ยินมาว่าปีศาจต่างถิ่นปรากฏตัวขึ้นมานั้น เขาจึงไม่สามารถควบคุมอารมณ์โมโหของตนเองได้

“ใช่ ปีศาจต่างถิ่นไหนกันที่ยโสโอหังเช่นนี้?!”

“โปรดบอกพวกเรา พวกเราจะจัดการกลุ่มของเจ้าพวกนั้นในทันที”

“ใช่ พวกเราจะออกไปสังหารพวกเขาจนถึงคนสุดท้าย”

ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างก็รู้สึกไม่พึงพอใจ แต่ละคนต่างก็ส่งเสียงดังออกมา ตะโกนออกมาว่าต้องการสังหารกลุ่มของปีศาจต่างถิ่นที่ยโสโอหังเหล่านั้น

“กลุ่มของปีศาจต่างถิ่นเหล่านั้นกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในเมืองฮวายหนิง รอให้ได้โอกาสในการเคลื่อนไหว พวกเขามีทั้งหมดเจ็ดคน นี่คือรูปลักษณ์ของพวกเขารวมถึงตำแหน่งที่พวกเขาอาจหลบซ่อนอยู่ พวกเจ้ารีบไปสังหารพวกเขาโดยเร็วที่สุด”

ทันใดนั้นแมวนักปราชญ์ก็ได้โยนรูปวาดของกลุ่มเจ็ดนักฆ่ามือฉมังพร้อมทั้งข้อมูลตำแหน่งที่พวกเขาหลบซ่อนอยู่

“ร้ายกาจจริงๆ สมกับที่เป็นท่านบรรพบุรุษเก่าแก่ ถึงแม้ว่าจะถูกผนึกอยู่ในหุบเขา ทว่าก็ยังคงมีพลังอำนาจในการตรวจจับศัตรูที่อยู่ห่างออกไปกว่าหมื่นกิโลเมตร อีกทั้งไม่ใช่แค่สามารถระบุตำแหน่งที่แม่นยำของปีศาจต่างถิ่นได้เท่านั้น ทว่าก็สามารถที่จะวาดรูปลักษณ์ของพวกเขาออกมาได้เช่นกัน”

กลุ่มของผู้คนที่รู้สึกชื่นชมนับถือว่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เคารพเซนต์ผู้นี้อย่างสุดซึ้ง

สมกับที่เป็นบรรพบุรุษเก่าแก่ที่ได้สร้างทวีปโลหิตวิญญาณขึ้นมา เป็นดั่งตัวตนของเทพเจ้าก็ว่าได้ ต่อให้พลังอำนาจจะถูกผนึกอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ทว่าก็ยังคงใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์บางอย่างได้ ช่างน่าสะพรึงกลัวเกินไป

“ใช่สิ ดูเหมือนว่าหนึ่งในพวกเขาจะมีชื่อว่าอู๋ไท่โต่ว เป็นบุคคลที่ชั่วร้ายและโหดเหี้ยมอย่างถึงที่สุด ก่อกรรมทำชั่วต่างๆนาๆ สังหารผู้คนเป็นว่าเล่น วิทยายุทธของเขาก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน ทุกๆคนจะต้องรับมือกับเขาอย่างระมัดระวัง จะดีที่สุดหากว่าโจมตีพวกเขาอย่างรวดเร็วฉับพลัน สังหารอย่างกะทันหัน ไม่ให้โอกาสพวกเขาในการต่อต้าน ไม่อย่างนั้นพวกเขาอาจจะหลบหนีออกไปได้” เศษกระดาษได้ลอยออกมาอีกครั้ง ซึ่งมีคำเตือนอยู่เช่นกัน

“อู๋ไท่โต่ว?!”

ได้ยินเช่นนี้ ฉางซื่อเซิงจ้าวสำนักวิญญาณก็มีสายตาที่แดงก่ำ เหมือนกับเป็นกระทิงที่คลุ้มคลั่งก็ว่าได้ จมูกแดงขึ้นมา ทั่วทั้งร่างกายมีจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัวเอ่อล้นออกมา เกือบที่จะก่อตัวเป็นสสาร

“ท่านจ้าวสำนักฉาง? ทำไมถึงเดือดระอุขึ้นมาเช่นนี้เมื่อได้ยินชื่ออู๋ไท่โต่ว?” บางคนที่สังเกตเห็นฉางซื่อเซิงที่มีอาการผิดปกติทันทีจึงได้ถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“ก่อนหน้านี้ไม่นานเจ้าปีศาจต่างถิ่นอู๋ไท่โต่วนี่ได้สังหารลูกชายของข้า ข้าและเขานั้นมีความบาดหมางดั่งทะเลเลือด ไม่คาดคิดว่าเขาจะอาจหาญอย่างถึงที่สุด กล้าที่จะหลบซ่อนตัวอยู่ในเมืองฮวายหนิง ถืออำนาจอยู่ภายใต้จมูกของข้า” ฉางซื่อเซิงกัดฟันอย่างแน่นและพูดถึงเรื่องของลูกชายตนเองที่ถูกเจ้าปีศาจต่างถิ่นนี่สังหาร

เขาไม่คาดคิดว่าจะได้ยินชื่อของฆาตกรที่ได้สังหารลูกชายตนเองที่นี่ ในช่วงเวลานี้มันทำให้อารมณ์ของเขาระเบิดออกมา

อีกทั้งฉางซื่อเซิงก็ไม่คาดคิดว่าเซนต์โลหิตวิญญาณที่ถูกผนึกอยู่ในบาเรียนี้จะร้ายกาจจนถึงขั้นค้นพบตัวตนของศัตรูตัวฉกาจของตนเองเช่นนี้

“เยี่ยม ช่างเป็นปีศาจต่างถิ่นที่ยโสโอหังยิ่งนัก ช่างเป็นตัวตนที่ชั่วร้ายอย่างถึงที่สุด แม้แต่ลูกชายของจ้าวสำนักวิญญาณก็กล้าสังหาร”

“บุคคลที่ชั่วร้ายเช่นนี้ ทุกๆคนมีสิทธิ์ที่จะลงโทษเขา”

“โชคดีที่ว่าท่านบรรพบุรุษเก่าแก่มีประสาทสัมผัสที่เฉียบแหลม สามารถที่จะล่วงรู้ถึงตำแหน่งของศัตรูได้ ค้นพบที่อยู่ของปีศาจต่างถิ่นเหล่านั้น ไม่อย่างนั้นกลุ่มปีศาจต่างถิ่นเหล่านั้นคงจะโลดแล่นอยู่เหนือกฎหมายอย่างอิสระ หลบหนีออกไปโดยที่ไร้ร่องรอย!”

“ไม่ต้องเสียเวลาอีกต่อไป พวกเราเดินทางไปสังหารกลุ่มปีศาจต่างถิ่นเหล่านั้นทันที ฆ่าล้างจนคนสุดท้าย”

ผู้คนต่างก็ตะโกนเสียงดังออกมา จิตสังหารกำลังเดือดดาล แม้แต่ลูกชายของจ้าวสำนักวิญญาณก็ตายไปด้วยน้ำมือของเจ้าพวกปีศาจต่างถิ่นเหล่านั้น เห็นได้ชัดว่าปีศาจต่างถิ่นเหล่านั้นเป็นภัยคุกคามต่อทวีปโลหิตวิญญาณ

ต่อให้จะไม่ใช่เป็นการปกป้องเซนต์โลหิตวิญาณ ทว่ากลุ่มของปีศาจต่างถิ่นเหล่านั้นก็ถือว่าเป็นภัยร้ายของทุกคน มีเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้พวกเขาส่งกองกำลังออกไปและสังหารศัตรูให้หมดสิ้น

“ท่านบรรพบุรุษเก่าแก่ ข้าจะออกไปสังหารศัตรูเหล่านี้ ถอนรากถอนโคนพวกเขาให้หมดสิ้น” มีที่ไหนที่ฉางซื่อเซิงจ้าวสำนักวิญญาณจะอยู่นิ่งเฉยได้ เขาได้ส่งกองกำลังออกไปทันที กลับไปที่เมืองฮวายหนิง สำหรับศัตรูที่ได้สังหารลูกชายของตนเองนั้น เขาปรารถนาที่จะสังหารฝ่ายตรงข้ามในทันที

ชายชราระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดคนอื่นๆที่ได้ยินคำเหล่านี้ พวกเขาแต่ละคนก็ได้เคลื่อนไหวเช่นกัน สำหรับการกำจัดศัตรูของเซนต์โลหิตวิญญาณนั้น พวกเขาไม่สามารถที่จะละทิ้งความรับผิดชอบนี้ได้

……………..

ในช่วงเวลานี้ ณ บ้านธรรมดาหลังหนึ่งภายในเมืองฮวายหนิง สถานที่แห่งนี้เป็นที่พักชั่วคราวของกลุ่มเจ็ดนักฆ่ามือฉมัง

เจ้าของบ้านหลังนี้ได้ถูกพวกเขาสังหารไปและได้ทำลายซากศพจนไม่หลงเหลือร่องรอย อีกทั้งยังปลอมตัวเป็นเจ้าของบ้านเช่นกัน ผู้คนรอบๆไม่สามารถที่จะตรวจจับความผิดปกติได้

วิซ!

ทันใดนั้นก็มีเสียงของแขกผู้มาเยือน ภาพเงาของขงนั่วปรากฏขึ้นมาต่อหน้าผู้คนทันที ก่อนหน้านี้เขาได้ออกไปหาฉางฉือเพื่อทำการพูดคุย ต้องการที่จะเปิดโปงสถานะของเซี่ยปิงโดยที่ใช้ประโยชน์จากฉางฉือ

“เป็นอย่างไร? สามารที่จะติดต่อฉางฉือลูกชายของจ้าวสำนักวิญญาณได้หรือไม่?”

ฟางกุ่ยถามขึ้นมาทันที คนอื่นๆก็มองไปที่ขงนั่วเช่นกัน

“ภารกิจลุล่วงไปด้วยดี”

ขงนั่วยิ้มออกมาเล็กน้อย “ข้าได้พูดคุยกับฉางฉือ ฝ่ายตรงข้ามสนใจในข้อมูลนี้อย่างมาก ทว่าเขาก็ยังสงสัยในคำพูดของข้าอยู่เล็กน้อยเช่นกัน บอกว่าพวกเราจำเป็นต้องมีหลักฐานไปให้กับเขา”

“หลักฐาน?”

ได้ยินเช่นนี้ ฟางกุ่ยก็ขมวดคิ้วทันที “พวกเราจะไปหาหลักฐานมาจากไหนกัน?”

คนอื่นๆก็พยักหน้า หากพวกเขามีหลักฐานล่ะก็ ก็คงจะเปิดโปงสถานะที่แท้จริงของเจ้าเซี่ยปิงและทำให้ฝ่ายตรงข้ามตกอยู่ในการห้อมล้อมของยอดฝีมือชนเผ่าวิญญาณไปตั้งนานแล้ว

“ม่ายยยย สิ่งที่เจ้าเด็กนั่นต้องการไม่ใช่หลักฐานธรรมดา ทว่าต้องการตัวของจั่วฮาว” ขงนั่วหรี่ตามอง “เจ้าเด็กนั่นเกลียดชังจั่วฮาวที่เจ้าเซี่ยปิงใช้สถานะในการปลอมตัวอยู่จนถึงไขกระดูก ต้องการที่จะกำจัดให้รวดเร็วที่สุด”

“การที่เห็นพวกเราปรากฏตัวขึ้นมานั้น เขาก็ไม่ได้ผลักไส หนำซ้ำยังอ้าแขนรับ”

“ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เชื่อคำพูดของพวกเรา ทว่าเขาก็บ่งบอกว่าจะช่วยพวกเราในการเข้าไปในสำนักวิญญาณสาขาเมืองฮวายหนิง อีกทั้งยังจะช่วยให้พวกเขาได้มีโอกาสในการลอบสังหารเซี่ยปิง”

เขามองไปที่คนอื่นๆ

“เป็นอย่างนี้นี่เอง เจ้าเด็กนั่นคิดที่จะใช้กลยุทธ์ยืมดาบฆ่าคนเช่นกัน”

“นี่ก็มีเหตุผลอยู่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นลูกชายของจ้าวสำนักวิญญาณ ทว่าการที่ต้องการสังหารจ้าสำนักวิญญาณสาขาย่อยนั้นมันเป็นเรื่องที่ยากมาก เป็นไปไม่ได้ที่จะลงมือเอง ทำได้เพียงแค่ใช้คนอื่นในการจัดการกับปัญหานี้”

“ฮ่าฮ่า เยี่ยมจริงๆ เจ้านั่นจะต้องได้รับผลกรรม การที่สร้างศัตรูในทุกหนแห่งนั้น ตอนนี้ชาวพื้นเมืองของที่นี่ก็ช่วยเหลือพวกเรา ตราบใดที่สามารถเข้าไปในสำนักวิญญาณได้ ต่อให้เจ้านั่นจะมีเก้าชีวิตก็ไม่เพียงพอ”

“ใครกันที่ใช้ให้เขายโสโอหังเช่นนั้น ไม่คาดคิดว่าจะกล้าท้าทายลูกชายของจ้าวสำนักวิญญาณอย่างเปิดเผยและไม่เกรงกลัวเช่นนี้ นี่ไม่ใช่เป็นการนำพาความตายมาสู่ตนเองหรือ?”

กลุ่มเจ็ดนักฆ่ามือฉมังต่างก็รู้สึกอิ่มเอมใจ พวกเขาไม่คาดคิดว่าแผนการจะราบลื่นเช่นนี้ การที่มีความช่วยเหลือของฉางฉือนั้น พวกเขาจะสามารถลักลอบเข้าไปสำนักวิญญาณสาขาเมืองฮวายหนิงได้อย่างง่ายดาย

“เอาล่ะ เรื่องนี้ไม่สามารถที่จะล่าช้าได้อีกต่อไป ตอนนี้ฉางฉือได้ช่วยดำเนินเรื่องให้พวกเราได้เข้าไปสำนักวิญญาณสาขาเมืองฮวายหนิงแล้ว” ขงนั่วพูดออกมาอย่างตื่นเต้น เขานั้นเหมือนกับเห็นภาพล่วงหน้าที่ตนเองได้ทำภารกิจสำเร็จ

ตึบ!

หลังจากที่พูดจบ ประตูหน้าบ้านก็ถูกถีบกระเด็นออกมาด้วยพลังอำนาจที่แข็งแกร่ง ทันใดนั้นชายวัยกลางคนก็พุ่งเข้ามาอย่างกะทันหัน เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ ออร่าที่ยิ่งใหญ่ได้แผ่ออกมา พื้นที่ในระยะนับสิบกิโลเมตรกำลังสั่นสะเทือน

“ใครคืออู๋ไท่โต่ว รีบออกมารับความตายทันที!”

ชายวัยกลางคนคนนั้นได้คำรามออกมา สีหน้านั้นดุร้าย จิตสังหารก่อตัวขึ้นมาเป็นสสาร

เขานั้นก็คือฉางซื่อเซิงจ้าวสำนักวิญญาณ เพื่อที่จะสังหารปีศาจต่างถิ่นที่ได้สังหารลูกชายของตนเองนั้น เขาจึงได้วิ่งมาจากหุบเขาแห่งนั้นอย่างไม่คิดชีวิตและมาถึงเป็นคนแรก