ตอนที่ 1664 เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์มาเพื่อสร้างปัญหา (1) / ตอนที่ 1665 เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์มาเพื่อสร้างปัญหา (2)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1664 เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์มาเพื่อสร้างปัญหา (1)

อวิ๋นชิงหย่ายิ้มอย่างขมขื่น โลกใบนี้จะมีเรื่องอย่างโลกหลังความตายได้อย่างได้ เรื่องนี้เป็นแค่โลกในจินตนาการที่ผู้คนสร้างขึ้นมาเพราะพวกเขาคิดถึงครอบครัวของตนเท่านั้น…

แต่ว่าเขาก็ไม่ได้พูดขัดอวิ๋นลั่วเฟิงขณะที่ดวงตาใสกระจ่างของเขามองใบหน้ามุ่งมั่นของนางแล้วยกยิ้ม

ถ้าพี่ใหญ่และพี่สะใภ้สามารถเห็นเฟิงเอ๋อร์ในตอนนี้ พวกเขาต้องพอใจในตัวนางมากแน่นอน

ตูม!

ทันใดนั้นจู่ๆ ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นจากในเมืองจนทำให้พื้นสั่นสะเทือนเล็กน้อย

“เกิดอะไรขึ้น” ใบหน้าของอวิ๋นชิงหย่ามืดมนขึ้นขณะที่เขาค่อยๆ หันไปมองฝุ่นที่กระจายปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า สีหน้าของเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเย็นชา

หนิงซินร่อนลงมาที่พื้นแล้วมายืนอยู่ข้างอวิ๋นชิงหย่าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ดูเหมือนจะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นที่ตระกูลเยี่ยนะ”

ตระกูลเยี่ยงั้นหรือ

เมื่อคำนี้ถูกพูดถึง พวกเขาก็เห็นอวิ๋นลั่วเฟิงที่ตอนแรกยืนอยู่ข้างๆ พวกเขาหายไปทันที ร่างของนางพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วเหมือนสายฟ้า

“ท่านพี่อวิ๋น พวกเราก็ควรไปดูเสียหน่อยนะเจ้าคะ”

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะแต่งงานมาห้าปีแต่หนิงซินก็ยังคงคุ้นเคยที่จะเรียกอวิ๋นชิงหย่าว่าท่านพี่อวิ๋น…

“ท่านแม่ สุ่ยเอ๋อร์ก็อยากไปด้วยเหมือกัน” อวิ๋นรั่วสุ่ยพูดขึ้นด้วยดวงตาที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตาที่ดูกระจ่างใสและเป็นประกาย

“สุ่ยเอ๋อร์ จวินเอ๋อร์ เจ้าและคนอื่นๆ ควรอยู่ที่นี่” หนิงซินหยุดก่อนจะพูดต่อ “ข้าจะไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น” …

ตระกูลเยี่ย

ยอดฝีมือกลุ่มหนึ่งร่อนลงมาจากท้องฟ้ามาขวางหน้าประตูตระกูลเยี่ย

ผู้นำของกลุ่มคือสตรีที่มีบรรยากาศเย่อหยิ่งและดวงตาก็นางการปรากฏร่องรอยของการเหยียดหยาม เห็นได้ชัดว่านางไม่เห็นที่แห่งนี้อยู่ในสายตา

“ภารกิจครั้งนี้ง่ายมาก แค่ทำลายคนพวกนี้เท่านั้นไม่มีอะไรยาก” ก่อนที่จะมาถึงตระกูลเยี่ย นางก็สืบเรื่องราวของพวกเขาแล้ว

ถึงแม้ว่าชื่อเสียงของตระกูลเยี่ยจะเป็นที่รู้จักในแดนลับแลและไม่มีใครกล้าหาเรื่องพวกเขา แต่น่าเสียดายที่เมื่อเผชิญหน้ากับเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์เพียงแค่การโจตีแรกพวกเขาก็คงโดนทำลายไปหมดแล้ว

“ข้าขอทราบได้หรือไม่ว่าเหตุใดพวกท่านถึงมาที่ตระกูลเยี่ยของพวกเรา”

ผู้เฒ่าเยี่ยเดินออกมาจากประตูพร้อมขมวดคิ้วด้วยสีหน้าหวาดระแวงเมื่อเห็นคนที่ยืนขวางอยู่หน้าประตู ถึงแม้ว่าคนกลุ่มที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นสตรีแต่เขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความแข็งแกร่งที่น่ากลัวจากร่างของพวกนาง

“ข้าได้ยินมาว่าครอบครัวของอวิ๋นลั่วเฟิงอยู่ที่จวนตระกลูเยี่ยของเจ้าใช่หรือไม่” สตรีผู้หนึ่งยิ้มเยาะ “ข้าจะไม่สร้างเรื่องยุ่งยากให้เจ้า แค่รีบเอาคนพวกนั้นออกมาแล้วทุกอย่างก็จบ”

สีหน้าของผู้เฒ่าเยี่ยมืดครึ้มลงเล็กน้อย คนพวกนี้มาตามหาครอบครัวของอวิ๋นลั่วเฟิงงั้นหรือ ตอนนี้อวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้อยู่ที่แดนลับแลดังนั้นเขาจึงมีหน้าที่ปกป้องครอบครัวของนาง

“แม่นาง ท่านทำเกินไปแล้ว ในแดนลับแลแห่งนี้ไม่มีใครกล้าจับตัวคนจากตระกูลเยี่ยของข้าไปได้!” ผู้เฒ่าเยี่ยสะบัดแขนเสื้อแล้วกลิ่นอายทรงพลังก็ถูกปลดปล่อยออกจากร่างเขา ขณะที่เสื้อคลุมยาวสีเทาของเขาสะบัดโดยไม่มีลม

หญิงสาวชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะ

“ตาแก่ หรือว่าเจ้าไม่เคยได้ยินว่า ไม่ว่าเจ้าจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ยังมีคนที่แข็งแกร่งกว่าเจ้าอยู่เสมอ ถูกแล้ว ตระกูลเยี่ยของเจ้าอาจจะแข็งแกร่งมากในแดนลับแลแต่น่าเสียดาย ตระกูลของเจ้าไม่มีค่าอะไรเลยในสาตาของเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา!” นางยิ้มเยาะขณะที่ใบหน้าของนางแสดงความดูถูก

“เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ” ชายชราชะงักไป เผ่านี้อยู่ที่ไหนกัน เหตุใดเขาถึงไม่เคยได้ยินมาก่อน

“เจ้าไม่ได้มาจากแดนลับแลงั้นหรือ” มีแค่คำตอบนี้เท่านั้นที่สามารถคลายความสงสัยในใจเขาได้

“อย่างน้อยเจ้าก็ยังพอฉลาดอยู่บ้าง เจ้าจะโทษอวิ๋นลั่วเฟิงก็ได้ที่มาทำร้ายคนของเราเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ เช่นนั้นเราจึงต้องมาหาครอบครัวของนางเพื่อแก้แค้น!”

…………………………………..

ตอนที่ 1665 เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์มาเพื่อสร้างปัญหา (2)

หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดด้วยใบหน้าหยิ่งยโส

สีหน้าของผู้เฒ่าเยี่ยเปลี่ยนไปทันทีและดวงตาของเขาก็เข้มขึ้น

“ตาแก่ เจ้าควรตัดสินใจให้ดี เจ้าจะปกป้องตระกูลอวิ๋นแล้วลงมือทำความผิดเดิมซ้ำงั้นหรือ” หญิงสาวยิ้มเย็น

ทันใดนั้น เสียงสูงวัยก็ดังขึ้นจากด้านหลังซึ่งเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความโอหังและทระนงอย่างมาก

“ตามหลักแล้ว ในเมื่อคนพวกนี้มาเพื่อตามหาตระกูลอวิ๋นถ้าอย่างนั้นตระกูลเยี่ยของเจ้าก็ไม่ควรมายุ่งเรื่องนี้ ข้าอยากเห็นว่าเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์จะจัดการกับพวกเราอย่างไร”

หญิงสาวหรี่ตาแล้วค่อยๆ เลื่อนสายตาไปที่ชายชราในชุดผ้าไหมปักดิ้นทอง

“เจ้าเป็นใคร”

ชายชราลูบคางแล้วเชิดหน้าขึ้น “ข้าไม่เคยเปลี่ยนชื่อแซ่ เจ้าเรียกข้าว่าอวิ๋นลั่วจากตระกูลอวิ๋นก็ได้! ซึ่งข้าก็เป็นปู่ของอวิ๋นลั่วเฟิง”

“ฮึ่ม!” หญิงสาวยิ้มแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม “ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะไม่กลัวตายแล้วกล้าเปิดเผยตัวออกมาแบบนี้!”

ผู้เฒ่าอวิ๋นกลอกตาขณะที่ใบหน้าชราของเขาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม

“ข้าจะกลัวไปทำไม แค่พวกเจ้าทุกข์เพราะแพ้ให้กับหลานสาวข้าถึงกลับกล้ามาที่นี่เพื่อขู่ข้าอีกหรือ”

“ใครบอกเจ้าว่าพวกเราทนทุกข์จากความพ่ายแพ้” หญิงสาวมองผู้เฒ่าอวิ๋นอย่างเดือดดาลและกัดฟันด้วยความโกรธ

สีหน้าของผู้เฒ่าอวิ๋นเต็มไปด้วยความดูถูก “ในเมื่อเจ้าพูดถึงหลานสาวที่รักของข้าว่าไปสังหารสตรีในเผ่าเจ้า เช่นนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเจ้าพ่ายแพ้ให้กับหลานสาวของข้าหรอกหรือ ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเจ้าทำอะไรนางไม่ได้ พวกเจ้าจะมาสร้างปัญหาที่แดนลับแลไปทำไม”

“เจ้า…” สีหน้าของหญิงสาวซีดเผือดขณะที่ชี้หน้าอวิ๋นลั่วอย่างโกรธแค้น “ไม่แปลกใจเลยที่เจ้ามีหลานสาวชั่วร้ายอย่างนาง เพราะเจ้าเป็นคนสั่งสอนนางนี่เอง! คนอย่างเจ้าที่แยกถูกผิดไม่ได้ควรตกนรกสิบแปดชั้นไปซะ! ศิษย์ทั้งหลาย ทำให้ไอ้แก่คนนี้หุบปากซะ! ข้าอยากจะรู้นักว่าเขาจะยังทำตัวร้ายกาจและอวดดีอย่างนี้อยู่หรือไม่”

พรึบ!

ทันใดนั้นสตรีของเผ่าของกระโจนพุ่งเข้ามาหาอวิ๋นลั่วอย่างรวดเร็ว เมื่ออวิ๋นลั่วต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีของพวกนาง เขาก็หัวเราะเต็มเสียง

“หลานสาวที่รักของข้าไม่ได้ทำอะไรผิดเลย นางก็แค่สังหารคนที่สมควรถูกสังหาร ถ้าเจ้ากล้าแตะเส้นผมสักเส้นของข้า หลานสาวของข้าต้องทำลายเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้าแน่นอน!”

หญิงสาวโกรธจนตัวสั่น “จับคนที่เหลือเป็นตัวประกันแต่สังหารไปแก่ปากไม่ดีคนนี้ซะ!”

อันที่จริง อวิ๋นลั่วตั้งใจพูดประโยคแบบนี้เพื่อยั่วโมโหคนพวกนี้เพราะเขายอมตายที่กว่าฉุดอวิ๋นลั่วเฟิงให้ต่ำลง!

“ระวัง!” สีหน้าของผู้เฒ่าเยี่ยเปลี่ยนไปทันที ร่างกายของเขาตอบสนองเร็วกว่าความคิดแล้วตอนที่การโจมตีของพวกนางใกล้เข้ามา เขาก็พุ่งเข้าไปขวางข้างหน้าอวิ๋นลั่วแล้วรับการโจมตีของนางไว้

ตูม!

ชายชราถูกแรงส่งให้กระเด็นไปแล้วกระอักเลือดออกมา พลังมหาศาลกระจายไปทั่วทั้งสวนและปกคลุมทั่วท้องฟ้า

“ชิ่งจยา[1]!” ใบหน้าชราของอวิ๋นลั่วซีดเผือดแล้วเขาก็รีบเดินไปหาผู้เฒ่าเยี่ยอย่างรวดเร็ว

“ชิ่งจยา เจ้ากำลังทำอะไร เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าจงใจยั่วโมโหนางเพื่อให้นางสังหารข้า แทนที่จะปล่อยให้นางใช้ข้าขู่เฟิงเอ๋อร์”

ผู้เฒ่าเยี่ยไอแห้งๆ โลหิตไหลออกจากปากไม่หยุด สีหน้าของเขาซีดมาก แม้แต่ลมหายใจเองก็แผ่วเบาเหลือเกิน

“ถึงแม้ว่าอวิ๋น…อวิ๋นเซียวจะไม่ใช่หลานชายของข้าแต่…ในใจข้า ข้าดูแลเขาเหมือนหลานแท้ๆ ดังนั้นข้าจึงนับเขาและเฟิงเอ๋อร์เป็นครอบครัวของข้า…เฟิงเอ๋อร์ตัดสินใจให้เจ้าอยู่ที่ตระกูลเยี่ยก็เพราะนางเชื่อว่า…ตระกูลเยี่ยปกป้องเจ้าได้”

[1] 亲家 (qìngjia) ชิ่งจยา หมายถึงคำที่ใช้เรียกญาติที่เกิดจากการแต่งงาน