ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 1344 – การช่วยเหลือเพื่อก้าวทะลวงผ่านระดับปราณบัญชาสวรรค์พินาศ ระดับที่ 3 ของหุบเขา 9เทวา

 

หลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่วัน พลังของหมอปีศาจและหยวนสู่ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ส่วนชิงสุ่ยเองก็ค่อนข้างเป็นห่วงตระกูลของเขาเอง เขามักจะหาวิธีในการยกระดับพลังของคนในตระกูล

 

โอสถทลายอำนาจสวรรค์แม้ว่าจะเป็นตัวยาที่สามารถเพิ่มพลังคนๆนึงได้อย่างมาก แต่ผลที่ตามมาก็คือมันจะสร้างอุปสรรคต่อร่างกายไม่ให้สามารถเติบโตได้

 

และยิ่งยาเม็ดทองคำเซียนเทียนซึ่งเป็นยาระดับสูงกว่าโอสถทลายอำนาจสวรรค์ มันจะยิ่งทำลายอำนาจและสร้างอุปสรรคอันใหญ่หลวง จนเหล่าผู้ฝึกตนไม่อาจจะทะลวงข้ามขีดจำกัดของตัวเอง

 

แต่ด้วยทักษะฝังเข็มสวรรค์ของชิงสุ่ยที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง มันได้สร้างจุดชดเชยแทนปัญหาเหล่านั้น เขาสามารถยืดอายุของคนอื่นได้และยังสามารถจุดประกายความแข็งแกร่งในร่างกายได้เช่นกัน และเพราะเหตุนี้คนในตระกูลชิง จึงดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับผลของโอสถทลายอำนาจสวรรค์และยาเม็ดทองคำเซียนเทียนอีกต่อไป พวกเขาสามารถเพิ่มพูนพลังผ่านการบ่มเพาะได้ราวกับคนทั่วไป

 

แต่การที่พวกเขาจะก้าวขึ้นไปในระดับถัดไปได้ก็ยังคงเป็นเรื่องยากไม่ต่างจากผู้อื่น

 

……………..

 

หลังจากผ่านไปอีกรายสัปดาห์ เรื่องที่เกิดกับนายน้อยตระกูลสุ่ยไม่ได้ก่อปัญหาใหญ่ขึ้น ไม่มีใครรู้ข่าวคราวของนายน้อยตระกูลสุ่ยว่าตอนนี้เขาจะยังคงอยู่หรือตายจากไปแล้ว

 

ผู้คนจากตระกูลสุ่ยเองก็ไม่เคยย่างก้าวเข้ามาเหยียบหอคอยจักรพรรดิอีกเลย และด้วยเหตุนี้ชิงสุ่ยจึงมีเวลามากขึ้น

 

วันนี้เป็นวันพักผ่อนของชิงสุ่ย ผู้อาวุโสปู้หยางและเด็กหญิงตัวน้อยได้เดินทางมาหาชิงสุ่ยที่หอคอยจักรพรรดิ เขาและผู้อาวุโสปู้หยางต่างก็รู้สึกสนิทชิดเชื้อไม่ว่าจะเป็นทั้งวาจาหรือความคิด ชิงสุ่ยจึงยินดีต้อนรับพวกเขาให้ขึ้นไปในชั้นที่ 5

 

ถึงแม้ว่าผู้อาวุโสปู้หยางจะเดินทางมาที่นี่เพียงแค่ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่เด็กหญิงตัวน้อยก็ได้รับสิทธิพิเศษซึ่งไม่มีผู้ใดเคยได้รับในการส่งมอบอาหารไปที่บ้านเพื่อรับประทานอย่างมีความสุข

 

“ท่านผู้อาวุโส ไม่ทราบว่าท่านเป็นอย่างไรบ้าง?”ชิงสุ่ยรินน้ำชาขณะเอ่ยถามชายชรา

 

“ข้าสบายดี แม้ว่าจะขี้เกียจอยู่บ้าง แต่ข้าก็พาเด็กน้อยคนนี้ออกไปเดินเล่นเสมอ”ชายชรากล่าวอย่างมีความสุข

 

“ท่านผู้อาวุโส ข้าคิดว่าตอนนี้ท่านน่าจะอยู่ในระดับปราณจักรพรรดิขั้นปลายใช่หรือไม่? ข้อสงสัยว่าท่านได้เตรียมการที่จะทะลวงไปสู่ระดับปราณบัญชาสวรรค์พินาศแล้วหรือยัง?” ชิงสุ่ยจิบชาขณะที่เขาเอ่ยถาม

 

“ปราณบัญชาสวรรค์พินาศ?”ผู้อาวุโสปู้หยางยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า

 

“ดินแดนบัญชาสวรรค์พินาศคือสิ่งที่ยากเกินกว่าที่ข้าจะบรรลุได้ ข้าเองก็ยืนอยู่ขั้นปลายของระดับปราณจักรพรรดิมากกว่า 100 ปี แต่ดูเหมือนว่าข้าเองคงหมดหนทางแล้วที่จะก้าวข้ามมันไป ดังนั้นข้าจึงยอมแพ้ ตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ส่วนชีวิตที่เหลือของข้าข้าเพียงต้องการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ข้าทำได้เพียงคอยช่วยฝึกฝนเฉิงหมิง และเราลูกหลานให้เติบโต อนาคตของตระกูลปู้หยางคงจะขึ้นอยู่กับพวกเขา แต่ในจุดๆนี้ ข้าเองก็ไม่ได้กังวลอีกต่อไปแล้ว”ผู้อาวุโสปู้หยางกล่าวอย่างใจเย็น

 

ในช่วงที่มั่งคั่งที่สุด ตระกูลปู้หยางกลายเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่และสร้างทายาทจำนวนมาก ซึ่งเราลูกหลานทั้งหมดก็มีแนวโน้มที่จะเติบโตและแข็งแกร่ง

 

“แล้วท่านไม่คิดจะมุ่งมั่นฝึกฝนมันอีกหรือ?”ชิงสุ่ยยิ้มขณะเอ่ยถาม

 

” ข้าเองก็ต้องการ และข้าก็พยายามมากกว่า 100 ปีแล้ว ช่างโชคร้ายเหลือเกิน สงสัยความหวังของข้าคงจะไม่มีทางเป็นจริง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาความหวังของข้าที่เปรียบเสมือนสายธารก็ค่อยๆแห้งเหือดไปตามกาลเวลา”ผู้อาวุโสปู้หยางส่ายหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม

 

“ถ้าหากข้าสามารถยืดอายุไขให้ท่านได้อีกหลายร้อยปี ไม่ทราบว่าท่านพอจะจุดประกายความหวังนั้นได้อีกครั้งหรือไม่?”ชิงสุ่ยกล่าวขณะที่เขาคบคิดชั่วครู่หนึ่ง ความแข็งแกร่งของตระกูลปู้หยางก็ถือเป็นประโยชน์อย่างหนึ่งสำหรับชิงสุ่ย โดยเฉพาะถ้าหากผู้อาวุโสคนนี้สามารถทะลวงเข้าสู่ระดับปราณบัญชาสวรรค์พินาศได้แล้วเราก็ เขาก็จะสามารถช่วยเหลือชิงสุ่ยได้

 

ผู้อาวุโสปู้หยางจ้องมองชิงสุ่ยด้วยความประหลาดใจ แม้ว่าเขาจะเคยได้ยินคำพูดนี้มาแล้ว แต่เขาก็ยังคงจ้องมองชิงสุ่ยอย่างเหลือเชื่อ

 

“ท่านผู้อาวุโส ทั้งๆที่ท่านติดอยู่ที่เดิมมาเป็นเวลาหลายปี แต่สภาพจิตใจของท่านก็ยังคงดี ข้าคิดว่ามันจะต้องมีสาเหตุบางอย่างที่ทำให้ท่านไม่สามารถทะลวงไปสู่ดินแดนปราณบัญชาสวรรค์พินาศ ซึ่งข้าจะเป็นคนหาทางช่วยท่านเอง และบางทีท่านอาจจะสามารถบรรลุขึ้นสู่ระดับความบัญชาสวรรค์พินาศภายในอีกไม่เกิน 100 ปีข้างหน้าก็เป็นได้”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยความมุ่งมั่น

 

ในตอนนี้ ผู้อาวุโสปู้หยางเหมือนสูญเสียความสงบที่เคย ทั้งๆที่แต่ก่อนเขาเลิกสนใจกาญจน์เกล้าทะลวงผ่านระดับพลังของตนเองไปแล้ว มันไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่สนใจแต่เพราะมันไม่อาจก้าวข้ามไปได้

 

และในเมื่อมีเวลามากขึ้น ทุกอย่างก็ย่อมแตกต่างไปจากเดิม ถ้าหากเขายังมีโอกาสที่จะบรรลุความฝันที่เขาต้องการ ต่อให้เขาต้องทำงานหนักมากขึ้น ก็ไม่อาจระงับความตื่นเต้นในหัวใจได้

 

“ชิงสุ่ย เจ้าพูดจริงหรือ?”ผู้อาวุโสปู้หยางรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง เขาเชื่อมั่นว่าถ้าหากได้ชิงสุ่ยเป็นคนช่วยเหลือ เป้าหมายของเขาจะต้องบรรลุอย่างแน่นอน

 

“แน่นอนสิ หรือว่าท่านไม่เชื่อในสิ่งที่ข้าพูด?”

 

“แน่นอนว่าข้ายอมเชื่อเจ้าเสมอ เพียงแค่ข้ารู้สึกไม่มั่นใจ”ผู้อาวุโสปู้หยางระเบิดเสียงหัวเราะ

 

“ตามข้ามาเถอะ”

 

ขณะที่เด็กหญิงตัวน้อยกำลังยุ่งอยู่กับการเล่นที่หยวนสู่ทำ ชิงสุ่ยและผู้อาวุโสปู้หยางจึงบินขึ้นไปบนท้องฟ้าโดยไม่ต้องกังวลใดๆ ชิงสุ่ยช่วยเหลือผู้อาวุโสในการปรับแต่งรากฐานพลังก่อนที่เขาจะให้ผู้อาวุโสกินยาเม็ดเสริมสร้างเส้นลมปราณสวรรค์เญิ่นและยาเม็ดเสริมสร้างเส้นลมปราณสวรรค์ตู

 

ชิงสุ่ยเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถเพิ่มพูนพลังให้กับชายชราได้มากเพียงใด แต่อย่างน้อยที่เขารู้ก็คือร่างกายของชายชราได้กล่าวมาถึงจุดคอขวดที่ไม่อาจพัฒนาต่อไปได้ ระดับปราณจักรพรรดิขั้นปลายความสามารถสูงสุดที่จะซึมซับพลังได้อยู่ที่ 500000 สุริยา และอำนาจพลังก็จะถูกจำกัดด้วยขีดจำกัดหนัง แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่จะหยุดพัฒนาเมื่อพลังก้าวขึ้นสู่ระดับ 300000 สุริยา และมีเพียงแค่คนที่มีพรสวรรค์ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถก้าวขึ้นสู่ระดับ 400000 สุริยา ส่วนสำหรับผู้ที่สามารถบรรลุระดับพลัง 500000 สุริยาได้คือยอดคนที่หายากยิ่ง

 

ในตอนนี้อายุไขของผู้อาวุโสปู้หยางก็เพิ่มขึ้นด้วยน้ำมือของชิงสุ่ย อีกครั้งอาการป่วยรวมถึงสิ่งสกปรกต่างๆก็ได้รับการทะลวงจนเสร็จสิ้น อย่างน้อยอายุเขาก็เพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 800 ปี แต่ถึงกระนั้นทั้งหมดก็ไม่ใช่ความสามารถสูงสุดของชิงสุ่ย ไม่ใช่เพราะเขาไม่ต้องการช่วยเหลือผู้อาวุโสอย่างเต็มที่ แต่เพราะเขากลัวว่ามันจะดูอุกอาจมากเกินไป และ เขาจะได้ใช้มันเป็นเป้าหมายให้ผู้อาวุโสพยายามฝืนทนทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองทะลวงอำนาจพลังไปยังขั้นปราณบัญชาสวรรค์พินาศได้

 

นอกจากอายุที่เพิ่มขึ้นแล้วพลังของผู้อาวุโสก็เพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน จากเดิม 350000 สุริยา ตอนนี้ได้กลายเป็น 4500000 สุริยา

 

เข็มแห่งชีวิตและความตายเปรียบเสมือนคลื่นพลังงานที่ทะลวงปราการอันยิ่งใหญ่ที่ขัดขวางพลังในส่วนต่างๆของผู้อาวุโส

 

ยาเม็ดเสริมสร้างเส้นลมปราณสวรรค์เญิ่นและยาเม็ดเสริมสร้างเส้นลมปราณสวรรค์ตูดูเพิ่มพลังภายในเส้นลมปราณจนทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่ง เส้นลมปราณเหล่านี้ก็เป็นตัวช่วยหนึ่งในการปกป้องพลังอันยิ่งใหญ่ที่จะทะลวงเข้าสู่ร่างกาย

 

เกมแห่งชีวิตและความตายล้วงผ่านเข้าสู่พลังบริสุทธิ์และถ่ายทอดคลื่นพลังจากหุบเขา 9เทวาที่อยู่ในการเขียนของชิงสุ่ย พลังอันมหาศาลกำลังกระหน่ำโจมตีปราการขนาดใหญ่ที่ขวางกั้นภายในร่างกายของพวกผู้อาวุโส

 

อุปสรรคที่ขวางกั้นระหว่างขั้นปลายของระดับปราณจักรพรรดิและระดับปราณบัญชาสวรรค์พินาศเปรียบเสมือนเทือกเขาขนาดใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด คลื่นพลังที่โจมตีแม้จะโหมกระหน่ำมากเท่าไหร่ ปราการขนาดใหญ่นี้ก็ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย อีกทั้งยังสะท้อนพลังกลับมาจนสูญหาย แต่ชิงสุ่ยก็ไม่ได้ย่อท้อ เขายังคงเพิ่มพูนพลังโดยอาศัยหุบเขา 9เทวาอย่างต่อเนื่อง

 

ระดับพลังการโคจรของหุบเขา 9เทวาเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว!!

 

ปุ!!!

 

เสียงนี้ไม่ได้มาจากร่างกายของชายชรา แต่มาจากร่างกายของชิงสุ่ย ชิงสุ่ยเองก็รู้สึกประหลาดใจยิ่ง แต่เขาก็ไม่ได้มีเวลามาตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่เขารับรู้นั่นก็คือคลื่นพลังที่ปลดปล่อยออกมาจากหุบเขา 9เทวากำลังเพิ่มพูนและเติบโตขึ้นกว่าที่มันเคยเป็น

 

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ในที่สุดชิงสุ่ยก็หยุดยั้งสิ่งที่เขาทำเนื่องจากพลังของเขาได้หมดสิ้นลง อุปสรรคยังคงขวางกั้นเส้นทางมิได้ถูกเอื้ออำนวย แต่ก็ยังพอเห็นแสงสว่างที่ปลายทาง

 

ชิงสุ่ยหยุดการกระทำของเขาและกล่าวว่า “ท่านผู้อาวุโส สิ่งที่เกิดขึ้นมันดีกว่าที่ข้าคาดเอาไว้ ข้ารับประกันได้เลยว่าท่านจะต้องทะลวงผ่านไปสู่ระดับดินแดนปราณบัญชาสวรรค์พินาศได้อย่างแน่นอน”

 

ชิงสุ่ยเองก็ตื่นเต้นไม่ต่างกัน ดูเหมือนเขาจะสามารถใช้วิธีนี้เพื่อยกระดับคนในตระกูล และเหล่าญาติสนิทมิตรสหาย แม้ว่าหลังจากได้ทำมันอาจจะต้องใช้เวลาส่วนหนึ่งในการพักฟื้นพลัง แต่อย่างน้อยมันก็ได้ช่วยให้พลังของเขาเพิ่มพูนสูงขึ้นด้วยอีกทางนึง

 

“ข้าเองก็รู้สึกได้ ชิงสุ่ย อุปสรรคที่ขวางกั้นสายตาของข้ากำลังจะถูกเปิดออกแล้ว นอกจากนี้ข้าเองก็มีพลังก้าวหน้าถึง 450000 สุริยา ถ้าเชื่อจริงๆว่าความหวังในการก้าวขึ้นสู่ระดับปราณบัญชาสวรรค์พินาศของข้าอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม”ผู้อาวุโสปู้หยางมองชิงสุ่ยด้วยสายตาและมุมมองที่แตกต่างไปจากเดิม

 

ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดว่าชิงสุ่ยคือคนที่มีความน่ากลัว แต่ดูเหมือนว่าคำว่าน่ากลัวมันจะน้อยไป เขาคู่ควรกับความน่าสะพรึงกลัวมากกว่า เขาไม่อาจสรรหาคำไหนมาอธิบายชายคนที่อยู่เบื้องหน้าของเขาได้

 

เขารับรู้แล้วว่าการตัดสินใจของเขานั้นถูกต้องที่สุด ไม่เพียงแต่ เขาจะยอมลดตัวและสลายความหยิ่งทะนงที่คนส่วนใหญ่มักจะมี โดยเลือกที่จะเป็นเพื่อนสนิทต่างวัยกับชายที่ชื่อชิงสุ่ย และคิดเสมอว่าชิงสุ่ยคือญาติคนสำคัญของเขา การที่เขาเชื่อในประสบการณ์ของตนเองคือสิ่งที่คุ้มที่สุดแล้ว

 

ในช่วงสายทั้งสองคนก็เดินทางกลับไปยังหอคอยจักรพรรดิ ซึ่งผู้อาวุโสปู้หยางมารับตัวเด็กหญิงตัวน้อยก่อนจะจากไป

 

เมื่อทุกอย่างสงบสุข ชิงสุ่ยก็เริ่มตรวจสอบหุบเขา 9เทวาในจุดตันเถียนของเขา

 

แต่ก่อนทักษะนี้มีความสามารถในการเพิ่มพูนพลังและความเร็วในการโจมตี 2 เท่า แต่หลังจากหุบเขา 9 เทวาพัฒนาไปอีกขั้น ตอนนี้เขาสามารถระเบิดพลังได้ถึง 3 เท่า