บทที่ 260 ชิวลั่วสุ่ยบาดเจ็บ
“มีเวลาอีก 20 กว่าวัน เราไปดูที่ลึกลงไป ในแดนปริศนากัน”
สำหรับการตัดสินใจของหลัวซิว ปี้เซียนเสว่ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ว่าหลัวซิวจะไปไหน ถึงจะเป็นสถานที่ที่ต้องตาย เธอก็จะตามหลัวซิวไปอย่างไม่ลังเล
ขนาดปี้เซียนเสว่ก็ยังดูไม่ออก ในสิ่งที่มองไม่เห็น เธอให้หลัวซิวเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตของเธอคนหนึ่ง
เธอถูกพามาวิทยาลัยพระวงศ์ตั้งแต่เด็ก และโดนสยบวิญญาณ คนใกล้ชิดและพ่อแม่ของเธอโดนราชวงศ์ตระกูลฝานปิดปาก ไม่มีใครเคยดีกับเธอขนาดนี้ ทำให้ใจที่ใกล้จะสิ้นหวังและโดดเดี่ยวของเธอ มีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
ปี้เซียนเสว่ไม่รู้ตัว แต่หลัวซิวกลับรู้สึกว่า บางครั้งตอนที่เธอมองมายังตัวเอง แววตาของเธอมีอะไรที่แปลกประหลาด
เมื่อเจอสถานการณ์เช่นนี้ หลัวซิวไม่รู้จะรับมืออย่างไร จึงทำได้เพียงแสร้งทำเป็นไม่รู้
ทันใดนั้น ตัวสำนึกของหลัวซิว สัมผัสได้ถึงลมปราณของนักยุทธ์ อีกทั้งยังเป็นคนคุ้นเคยอย่างชิวลั่วสุ่ย
แต่ทว่าตอนนี้สถานการณ์ของชิวลั่วสุ่ยไม่ค่อยจะดีนัก เสื้อผ้าบนตัวมีรอยขาดหลายแห่ง มีรอยเลือดไหลออกมา สีหน้าซีดเผือดมาก
หลัวซิวลอยขึ้นไปกลางอากาศ มาถึงบริเวณใกล้ๆ และเห็นชิวลั่วสุ่ย
เมื่อรู้สึกว่ามีคนเข้ามาใกล้ สีหน้าชิวลั่วสุ่ยหวาดระแวง เมื่อเธอเห็นว่าเป็นหลัวซิว สีหน้าตึงเครียด ก็ผ่อนคลายลงทันที
“คุณบาดเจ็บเหรอ” หลัวซิวเอายาพระแสงออกจากแหวนเก็บของ และยื่นให้เธอ
“ขอบใจ” ชิวลั่วสุ่ยเอ่ยขอบคุณ รีบกินยาพระแสงทันที เพื่อไม่ให้อาการบาดเจ็บของตัวเองรุนแรงขึ้น
หลังกินยาพระแสง ชิวลั่วสุ่ยไม่ได้รักษาอาการบาดเจ็บทันที แต่พูดกับหลัวซิวด้วยสีหน้ากังวล “ฉันมากับพวกถาวโจว่จวิ้น เจอสระน้ำแร่วิญญาณแห่งหนึ่ง ในนั้นมีน้ำแร่วิญญาณอย่างน้อย 20 หยด……”
เมื่อได้ยินน้ำแร่วิญญาณ 20 หยด หลัวซิวถึงกับใจสั่นทันที แต่ทว่าชิวลั่วสุ่ยพูดต่อ “ข้างสระน้ำแร่วิญญาณ มีราชาศพเดินได้ระดับ5 อาศัยอยู่ ยากมากกว่าฉันจะหนีออกมาได้ แหวนเก็บของก็หายไป ไม่งั้นคงมียามารักษาอาการบาดเจ็บแล้ว”
จากที่ชิวลั่วสุ่ยพูด เพราะราชาศพเดินได้ระดับ5 ตัวนั้น คนของตำหนักจื่อบาดเจ็บล้มตาย เธอหนีเอาชีวิตรอดออกมา ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นอย่างไรบ้าง
“ราชาศพเดินได้ระดับ5 งั้นเหรอ” หลัวซิวตกใจ และถามต่อ “เป็นราชาศพเดินได้ขั้นไหน”
“ราชายุทธ์ปฐมภูมิขั้น5 แต่ร่างกายแข็งแกร่ง ทัดเทียมกับราชายุทธ์ขั้นกลาง” ชิวลั่วสุ่ยมองหลัวซิวอย่างคาดหวัง และเอ่ยขึ้น
ความคาดหวังนี้ ไม่ใช่เพราะเธอคิดว่าหลัวซิวจะสู้ราชาศพเดินได้ระดับ5 ได้ แต่คาดหวังว่าหลัวซิวจะเอาน้ำแร่วิญญาณมาได้
“พวกเธอไปหาที่ปลอดภัยอยู่บริเวณนี้ ฉันจะไปดู”
หลัวซิวพูดออกมา จากนั้นจึงบินไปบนท้องฟ้า ตามตำแหน่งที่ชิวลั่วสุ่ยบอก โดยใช้ความเร็วที่เร็วที่สุด
สีหน้าของชิวลั่วสุ่ยดูตื่นเต้น เธอหวังว่าหลัวซิวจะเอาน้ำแร่วิญญาณมาได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ สำนักสุ่ยเยว่จงก็มีหวังแล้ว
แต่ปี้เซียนเสว่ไม่เหมือนกับเธอ แววตาดูเป็นกังวล เพราะราชาศพเดินได้ ทัดเทียบได้กับผู้แข็งแกร่งราชายุทธ์
ขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกไม่ดีกับชิวลั่วสุ่ย ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ หลัวซิวก็คงไม่ต้องไปเสี่ยง
“ไปกับฉันเถอะ” เธอพูดกับชิวลั่วสุ่ยอย่างเมินเฉย เพราะก่อนหลัวซิวจะไป บอกให้พวกเธอไปหาที่ปลอดภัยรอ เธอต้องทำตามคำขอของหลัวซิว
“ขอบใจ”
ชิวลั่วสุ่ยเอ่ยขอบคุณ แต่ปี้เซียนเสว่มีสีหน้าไม่ดีกับเธอ เธอหาเรื่องอึดอัดใจเอง จึงไม่พูดอะไรมาก หวังว่าหลัวซิวจะเอาน้ำแร่วิญญาณกลับมาได้
หลัวซิวมีความมุ่งมั่นว่าจะเอาน้ำแร่วิญญาณมาให้ได้ ดังนั้นเมื่อรู้ข่าวจากชิวลั่วสุ่ย เขาจึงใช้วิชาท่าร่างตามลมล่าจันทราถึงขีดสุด
ไม่นาน แผ่นดินข้างหน้าสั่นสะเทือนอย่างแรง พลังจิตอันรุนแรงถาโถมเข้ามา เสียงคำรามอย่างโมโห ดังก้องอยู่ในอากาศ
ราชาศพเดินได้ตัวนั้นสูง 9 เมตรกว่า ร่างกายทนทานเหมือนเหล็ก กรงเล็บดุร้ายมีโซ่ดำเส้นหนา สะบัดอยู่ทั้งสองข้าง ดุร้ายเป็นอย่างมาก
เดิมทีคนตำหนักจื่อสิบกว่าคน ตอนนี้เหลือเพียงห้าคน ปรมาจารย์ฝึกจิตขั้น9 สองคนหนึ่งในนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส ร่างกายซีกหนึ่งเลือดกับเนื้อผสมกันเละเทะ คนอื่นก็สีหน้าซีดเผือด พ่ายแพ้ย่อยยับ
“ท่านต้วน!”
ถาวโจว่จวิ้นนายน้อยตำหนักจจื่อ อยู่ภายใต้การคุ้มครองจากทุกคน เพื่อทำการล่าถอย เขาตะโกนออกมาเสียงดัง
ประมาณระยะสองสามลี้ ผู้อาวุโสเคราขาวที่ชื่อท่านต้วน กำลังวางธงค่าย สลักลายเส้นสัญลักษณ์ค่ายกล
“เจ้าสำนักน้อยอย่าวู่วาม อีกไม่นานจะวางค่ายกลเสร็จแล้ว” ท่านต้วนลูบเหงื่อบนหน้าผาก แล้วเอ่ยขึ้น
แววตาเย็นชาของหลัวซิวมองไป ตัวสำนึกกวาดไปรอบๆ อย่างเงียบๆ พบว่าท่านต้วนวางค่ายยากเย็นขั้น5
คนๆ นี้ไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งราชายุทธ์ แต่กลับวางค่ายกลขั้น5 ได้ เห็นได้ชัดว่าระดับทางด้านค่ายกลสูงส่งมาก แต่แค่ผลการฝึกตนไม่เพียงพอ เขาวางค่ายกลขั้น5 สูญเสียพลังของตัวเองไปมาก
ตัวสำนึกของหลัวซิว ถึงระดับราชายุทธ์แล้ว ท่านต้วนจึงไม่เห็น ยังคงตั้งใจวางค่ายกลต่อไป เพราะกลัวว่าจะเกิดความผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย
ขณะเดียวกัน คนฝั่งของถาวโจว่จวิ้น ทั้งสู้ทั้งล่าถอย เข้ามาใกล้เขตที่ท่านต้วนกำหนดเอาไว้
มองแวบเดียว หลัวซิวก็รู้แผนของคนพวกนี้ จะลากราชาศพเดินได้ระดับ5 เข้าไปในค่ายยากเย็นขั้น5 จากนั้นพวกเขาจะได้เอาน้ำแร่วิญญาณ ออกไปอย่างปลอดภัย
ถ้าไม่ผิดพลาด วิธีของพวกเขาน่าจะเป็นผล เพราะถึงราชาศพเดินได้ จะมีพละกำลังราชายุทธ์ จะทำลายค่ายกลยากเย็นขั้น5 ต้องใช้แรงเป็นอย่างมาก
“น่าเสียดาย ในเมื่อฉันมาแล้ว จะให้พวกนายสมปรารถนาได้อย่างไรล่ะ” หลัวซิวยกยิ้มมุมปากเย็นชา
เขาซ่อนลมปราณของตัวเอง สมาธิของคนตำหนักจื่อ จดจ่ออยู่กับราชาศพเดินได้ จึงไม่สังเกตว่าเขาอยู่ที่นี่
ห่างจากที่ต่อสู้ประมาณพันเมตร มีหน้าผาอยู่แห่งหนึ่ง ในสระเล็กๆ ที่ไม่ได้อยู่ในสายตา หยดน้ำเล็กๆ ใสราวกับไข่มุกดำรวมตัวกัน แผ่พลังหยินสุดขั้วออกมาอย่างรุนแรง
เห็นได้ชัดว่า นี่เป็นที่รวมปราณหยินแห่งหนึ่ง ไม่เพียงแต่ราชาศพเดินได้จะปักหลักอยู่ที่นี่ จากระยะเวลาที่ผ่านมาเนิ่นนาน ทำให้มีน้ำแร่วิญญาณสะสมอยู่ไม่น้อย
ผู้แข็งแกร่งราชายุทธ์ ไม่สามารถเข้ามายังแดนปริศนา ในที่แห่งนี้ ราชาศพเดินได้ ถูกขนานนามว่าไร้เทียมทาน น้ำแร่วิญญาณพวกนี้ ยังมีอยู่จนถึงทุกวันนี้ ไม่มีใครเอาไปได้
แต่ตอนนี้ ราชาศพเดินได้ถูกคนฉุดเอาไว้ หลัวซิวเหมือนเข้าไปในแดนไร้ผู้คน มาข้างสระน้ำแร่วิญญาณ อย่างไร้อุปสรรคขัดขวาง
หลัวซิวรีบเก็บน้ำแร่วิญญาณเหล่านี้ ได้เต็มๆ 30 กว่าหยด