บทที่ 107 ภาพชีวิตจากลูกคริสตัลล่ะ

Shoujo Grand Summoning ไปจีบสาวที่โลกอนิเมะกันเถอะ!

ไม่ว่าสิ่งที่ข้อความบอกมาจะจริงหรือไม่ วู่หยานก็ยังคงเลือกที่จะเก็บแหวนทั้งสาม
ไว้ ถ้ามันเป็นแค่เรื่องโกหก เขาก็ไม่เสียหาย กลับกันถ้ามันเป็นจริงขึ้นมาล่ะ จะ
เป็นยังไง?
แทนที่จะคิดแง่ลบว่ามันเป็นเรื่องแต่ง ไม่สู้คิดว่ามันเป็นเรื่องจริงไม่ดีกว่าเหรอ?
วู่หยานเล่นกับแหวนทั้งสาม ขณะที่เขาคิดจะเก็บพวกมันลงแหวนมิติ จู่ๆเขาก็
หยุดไป ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจพรืด แล้วเอามันมาสวมที่นิ้ว
แหวนสามวงบวกกับแหวนมิติที่มี ตอนนี้ในมือแต่ละข้างของวู่หยานได้สวมแหวน
สองไว้ ถ้าเป็นในโลกเดิมเขาคงจะโดยมองเป็นคุณหนูที่ชอบอวดรวยแหงๆเลย……
ทำไมนะเหรอ? อยากรู้ก็ลองนึกถึงคนที่สวมแหวนสีทองและเงินตอนมีแสงอาทิตย์
ส่องมาโดนสิ คิดดูมันจะเปร่งประกายบาดตาคนขนาดไหน?
“ทำไมถึงรู้สึกยังกับโดนหลอกอยู่เลยวะ……”
“น่า น่า ยังไงมาครั้งนี้พวกเราก็เก็บเกี่ยวไปได้ไม่น้อย เพราะงั้นอย่าเศร้าไปเลยนะ
….” บางทีอาจจะเพราะท่านประธานคิดว่าวู่หยานดูน่าส่งสาร ฮินางิคุจึงได้ยกมือ
มาตบไหล่เขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ…..
“เฮ้ออ ฉันยอมรับว่าตัวเองโลภเกินไปเองแหละ…..” ถึงแม้ปากจะพูดไปแบบนั้น
แต่ด้วยคำพูดปรอบเพียงไม่กี่คำของฮินางิคุก็ได้ทำให้อารมณ์ของวู่หยานดีขึ้นทัน
ตา นี่ทำให้มิโคโตะที่ยืนดูอยู่รู้สึกงุนงง
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้ลิลินน้อยได้คลานขึ้นไปบนโต๊ะแล้ว มองดูลูกคริสตัล
ตรงหน้าอยู่สองสามที ก่อนจะเอื่อมมือไปแตะมัน
วินาทีที่มือเธอไปสัมผัสกับลูกคริสตัล มันก็ส่องแสงออกมาทันทีพร้อมกันนั่นก็ได้
ส่งเสียงหึ่งๆออกมา นี่ทำให้ลิลินน้อยสะดุ้งโหยงแล้วร่วงตกลงมาจากโต๊ะ
วู่หยาน ฮินางิคุ และ มิโคโตะต่างก็ตกใจ พวกเขาไม่ได้สนใจที่มันเปลี่ยนแปลง ทั้ง
สามคนรีบวิ่งไปรับลิลินน้อย เป็นเพราะพวกเขายืนอยู่ไม่ไกลจากโต๊ะจึงสามารถ
มารับเธอได้ทันเวลา ไม่งั้นป่านนี้โลลิลิลินก็ได้ลงไปนอนคลุกฝุ่นแล้ว
“ไม่เป็นไรนะ……” เห็นสีหน้าตื่นกลัวของลิลิน ฮินางิคุที่วันนี้ตัวติดกับลิลินมาทั้ง
วันก็รีบเอื้อมมือคว้าลิลินจากแขนจองวู่หยาน ก่อนจะพูดปรอบใจ จากนั้นลิลิน
น้อยส่าวหัวเบาๆบอกว่าเธอไม่เป็นไร
วู่หยานกับมิโคโตะเห็นแบบนี้ก็โล่งอก แล้วหันหน้าไปมองลูกคริสตัล
ณ ตอนนี้แสงที่มันเปล่งออกมาเริ่มแข็งตัวขึ้น ทำให้ผู้คนที่มองรู้สึกยังกับจะมีตัว
อะไรกระโดดออกมา
เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง แสงจากลูกคริสตัลก็ได้เปลี่ยนทิศทางไปด้านบน ก่อให้เกิด
หน้าจอขึ้นแสงขึ้นด้านหน้าพวกวู่หยาน
“หือ? นี่มันโปรเจคเตอร์ไม่ใช้?” มิโคโตะมองหน้าจอแสงตรงหน้า แล้วพูดออกมา
ด้วยสีหน้าประหลาดใจ ก่อนหน้านี้เธอได้เห็นลูกคริสตัลที่ไว้ฉายภาพแบบนี้มา
มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เอาไว้ใช้สนทนากันไม่ก็ดูหนัง…..
วู่หยานไม่พูดอะไรตอบ เขาเอาแต่จ้องไปที่หน้าจอด้านหน้าตน นี่ทำให้มิโคโตะหัว
ร้อนขึ้นมาทันที ก่อนที่พวกเขาทุกคนจะหันไปมองหน้าจอกันหมด
หน้าจอแสงก็เกิดการกระเพื่อมขึ้นดุจดังผิวน้ำ ก่อนจะมีภาพปรากฏออกมาให้
พวกเขาเห็น
“เป็นโปรเจคเตอร์จริงๆด้วย……”
ภายใต้สายตาของพวกเขา ภาพก็เปลี่ยนไป เผยให้เห็นถึง…..
ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่มาจากครอบครัวธรรมดา และยังใช้ชีวิตแบบผู้คน
ธรรมดา…….
แต่คนผู้นี้รู้สึกไม่ชอบใจกับชีวิตแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงออกจากบ้านมา แล้วเริ่มการ
เดินทาง……
ตลอดเส้นทาง เขาเห็นนักรบ นักเวทย์ แล้วยังเห็น ปราณและเวทมนตร์ เขารู้สึก
อิจฉาคนพวกนี้มาก จากนั้นเขาก็ได้พยายามหนักเพื่อให้ได้รับการยอมรับจาก
นักรบคนหนึ่ง ท้ายที่สุดเขาก็ได้กลายมาเป็นลูกศิษย์นักรบผู้นี้……
ดังนั้น การเดินทางเพื่อท่องเที่ยวของเขา ก็ได้เปลี่ยนไปเป็นการบ่มเพาะพลัง……
ไม่นานเขาก็บ่มเพาะปราณของตนเองขึ้นมาได้ และได้ฝึกวิชายุทธจากนั้นเขาก็
เชี่ยวชาญวิชานั่นๆอย่างรวดเร็ว ตัวเขาได้สร้างความประหลาดใจแก่ทุกคน ด้วย
พรสวรรค์ระดับสัตว์ประหลาด….
ภายใต้การสั่งสอนของอาจารย์ เขาก็ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทว่าไม่นานนักเขา
ก็ได้เรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างจากอาจารย์จนหมด เขาได้ก้ามข้ามอาจารย์ไปแล้ว……
แต่ทว่าเขาก็ยังคงไม่พอใจ ดังนั้น เขาจึงเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้ไม่ใช่
เพื่อการท่องเที่ยวแต่เพื่อการฝึกฝน……
เขาได้รู้จักเพื่อนมากมาย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ซึ่งกันและกัน เขายัง
สร้างศัตรูไว้มากมายด้วย จากการไปยั่วยุพวกเขา จากนั้นเขาได้เริ่มสงครามสู้เป็น
ตายกันศัตรู…..
ครั้งแรก ยุทธภัณฑ์ชิ้นแรกของเขา เขาได้มาจากศพของศัตรูตนเอง ครั้งที่สองเขา
ได้รับยุทธภัณฑ์ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม จากศพของศัตรูเช่นเดิม เนื่องจากเขาไม่ได้
รวย ทุกสิ่งทุกอย่างจึงต้องพึ่งตนเอง…..
เขาได้เข่นฆ่าศัตรูไปมากมาย ท้าทายทุกผู้คน ท้ายที่สุดศัตรูของเขาก็ถูกกำจัดหมด
ทว่าในระหว่างการต่อสู้เขาก็ได้ทำลายขีดจำกัดตนเองไม่หยุด เขาแข็งแกร่งขึ้น
เรื่อยๆ……
จนวันหนึ่ง เขาก็ไม่ได้เป็นคนอ่อนแออีกต่อไป แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญอันทรงพลัง
ภายใต้สายตาของผู้คนนับไม่ถ้วน…..
คนจากตระกูลชั้นสูงมากมายได้มาเชิญเขา แต่ก็ถูกเขาปฏิเสธไป เป็นเพราะเขายัง
คิดว่าตนเองยังแข็งแกร่งไม่พอ……
บางคนที่ถูกปฏิเสธได้พยายามสังหารฆ่าเขา แต่ก็โดนเขาฆ่ากลับอย่างไร้ความ
เมตตา เพราะเขาคิดว่าถ้าปล่อยไว้ก็ต้องมีครั้งที่สองตามมาอีก…..
ไม่มีใครกักขังเขาได้ ไม่เว้นแม้แต่หญิงสาวผู้สวยงาม เป็นเพราะในหัวใจเขาคิดแต่
เพียงว่าต้องแข็งแกร่งขึ้น…..
เขาได้บ่มเพาะปราณและฝึกฝนวิชายุทธ์ไม่หยุด เขาได้ทะลวงขีดจำกัดครั้งแล้ว
ครั้งเล่า แข็งแกร่งขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น….
จนถึงจุดที่เขาแข็งแกร่งจนไม่มีใคนหน้าไหนกล้าที่จะมาสร้างความรำคาญให้เขา
อีก ได้มีตระกูลชั้นสูงเข้ามาเชิญเขาให้ไปเป็นผู้พิทักษ์ประจำตระกูลและอาจารย์
ของลูกหลานพวกเขา……
แต่ทว่าเขาก็ได้ปฏิเสธไป เป็นเพราะเขายังคิดว่าตนเองยังอ่อนแออยู่……
จนกระทั่งวันหนึ่งได้มีคนๆหนึ่งปรากฏออกมา บางทีอาจจะไม่อาจเรียกว่าคนได้
เพราะเขาคนนี้เหินลงมาจากฟากฟ้า คนๆนี้สามารถทำลายภูเขาได้ด้วยมือปล่า
เขายังสามารถแยกแผ่นดินได้ด้วยขา และเพียงแค่หนึ่งฝ่ามือก็ได้ทำให้เขาบาดเจ็บ
สาหัส……
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพ่ายแพ้…….
และนี่ก็ได้ทำให้ความคิดภายใจเขายิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ความคิดที่ว่าตนเอง
ยังคงอ่อนแออยู่……
เพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้น เขาได้ปิดด่านฝึกตนและได้ให้คำสาบานกับตัวเองว่า เขาจะ
ไม่ออกไปโลกภายนอกจนกว่าเขาจะมีพลีงพอที่พิชิตชายคนนั้น…..
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ท้ายที่สุดเขาก็ออกมา เขาได้ทำลายประตูที่ปิดกั้นเขา
กับโลกภายนอกด้วยหมัด จากนั้นเขาก็บินออกไป….
เขาได้พบชายคนนั้นอีกครั้ง และทั้งสองคนก็เริ่มสู้กัน…..
การต่อสู้ครั้งนี้! ทำให้โลกสั่นสะเทือน! ภูเขาถล่มทลาย!
การต่อสู้ครั้งนี้! ได้ส่งเสียงดังปกคลุมทั่วผืนฟ้า! และเลือดได้สาดกระเซ็นลงพื้น
โลก!
การต่อสู้ครั้งนี้! เขาได้พ่ายแพ้อีกครั้ง……
วินาทีที่เขาพ่ายแพ้ เขาได้นอนแผ่ไปบนพื้นดินด้วยร่างที่อาบไปด้วยเลือด เขาหวน
นึกถึงคำพูดที่คนๆนั้นพูดไว้ว่า หากอยากจะชนะตน เขายังต้องแข็งแกร่งกว่านี้
……
ดังนั้นเขาจึงได้ลากร่างที่สาหัสของตนกลับไปที่ที่เขาได้บ่มเพาะก่อนหน้านี้ และได้
สร้างประตูขึ้นมาใหม่ เพราะเขารู้ว่าตนเองต้องปิดด่านฝึกตนที่นี่ไปอีกนาน
พอสมควรเลย…..
เขาได้ทำให้ที่บ่มเพาะเขาเป็นดุจดังบ้าน เขาได้ใช้หินก้อนใหญ่มาปิดก่อนที่จะเข้า
ไปฝึกตนข้างใน……
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ จนวันหนึ่ง เขาก็ได้ออกไปสู่โลกภายนอก…..
เขาเจอคนๆนั้นอีกครั้ง และสงครามนะดับโลกครั้งที่สองก็ได้เริ่มต้นขึ้น……
การต่อสู้ครั้งนี้! ได้ทำให้พื้นแผ่นดินต้องสั่นสะเทือน ก่อเกิดคลื่นสึนามิลูกมหึมา!
การต่อสู้ครั้งนี้! เขาจำไม่ได้แล้วว่าตนเองได้กระดูกแตกหักไปอีกครั้งแล้ว ร่างกาย
เขารู้สึกเจ็บจนชาไปหมด!
การต่อสู้ครั้งนี้! ไม่มีผู้แพ้และผู้ชนะ…..
แต่นี่ก็ได้ทำให้เขาพึงพอใจมาก…..
เพราะนี่หมายความว่า ต่อจากนี้ไปก็จะไม่มีใครแข็งแกร่งไปกว่าตนเองอีกแล้ว….
เขาไม่แสวงหาชัยชนะ ไม่แสวงหาพลังเพื่อชนะอีกต่อไป เพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่า
ตนเองเป็น ผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง!
ดังนั้น เขาจึงได้หวนกลับไปที่บ้านเพื่อเจอครอบครัว ทว่าตอนนี้ครอบครัวเขาไม่
อยู่ที่นั่นอีกต่อไปแล้ว…..
ความว่างเปล่าและโดดเดี่ยว ได้เข้ามาในหัวใจเขา……
ณ จุดที่เคยเป็นบ้านของเขา เขาได้ก่อตั้งขุมกำลังขึ้น แล้วไปพิชิตใต้หล้าเพื่อเติม
เต็มหัวใจที่ว่างเปล่าของเขา…..
ด้วยคนอย่างเขา มันจึงไม่น่าแปลกใจที่ขุมกำลังของเขาจะเติบโตจนกลายเป็นขุม
กำลังอันดับหนึ่งของทวีปนี้……
แน่นอนว่าจานกั้นไม่นาน ก็ได้มีขุมกำลังอื่นก้ามข้ามเขาไป……
พวกเขาได้ทำสัญญาแบ่งเนื้อที่ปกครองกันและจะไม่ยุ่งเกี่ยวซึ่งกันและกัน นี่ทำให้
เกิดความสงบขึ้นมาเยือนอีกครั้ง…..
แต่ทว่ามันก็สงบได้เพียงแค่ชั่วคราว…..
วันหนึ่ง ได้มีบางสิ่งปรากฏขึ้นมา และมันได้ทำให้พวกเขาฉีกสัญญาสงบศึกออก….
เพื่อที่จะครอบครอบสิ่งนี้ ทั้งสองขุมกำลังจึงได้เริ่มต้นสงครามขึ้น…..
เนื่องจากสิ่งนี้มันเย้ายวนมากเกินไป…..
หลังจากนั้น คนที่ได้มอบความพ่ายแพ้ให้เขาถึงสองครั้งก็ได้เข้าร่วมสงครามครั้งนี้
…..
แต่ทว่าพลังของพวกเขานั้นใกล้เคียงกัน จึงเกิดการต่อสู้ยืดเยื้อขึ้นไม่มีใครกำชัย
อีกฝ่ายได้อย่างเด็ดขาด จนในที่สุดพวกเขาก็ได้ปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างที่มีใส่อีกฝ่าย
จนชีวิตพวกเขาอยู่ใกล้กับความตายเพียงแค่เอื้อม…..
เขาได้ลากร่างที่สามารถตายได้ทุกวินาทีไป ณ ที่ที่เขาใช้บ่มเพาะพลังอีกครั้ง แล้ว
เขาก็ได้ทิ้งสัตว์อสูรตัวเล็กที่เขาได้กำราบมันไว้ กับกล่องอีกสามกล่องและลูก
คริสตัลอีกหนึ่งลูก…..
หลังจากนั้น…ตัวเขาก็ได้สลายไปเป็นฝุ่นผง….ปลิวไปกับสายลม………