“หนึ่งหมื่นหนึ่งเหรียญทองสำหรับยาระดับเหลืองหนึ่งเม็ดรึ ฮ่าฮ่าฮ่า”
“นายน้อยตระกูลหม่าผู้นี้ช่างใจป้ำจริงๆ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
….
“ไอ้เวรตะไล”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ใบหน้าของหม่าเหยาได้เปลี่ยนเป็นสีแดงคล้ำราวกับตับหมูเลยทีเดียว
“นายน้อย เรื่องนี้…”
“เออๆๆ ข้ารู้แล้ว เจ้าก็รีบๆไปเอาเงินจากไอ้แก่มาซะสิ”
หม่าเหยาในตอนนี้ที่กำลังดิ่มน้ำบนโต๊ะอย่างหนักราวกับของมึนเมานั้นได้พูดออกมาอย่างอารมณ์เสียก่อนที่จะเขวี้ยงถ้วยชาลงไปบนพื้นอย่างแรง
“ขอรับ นายน้อย”
“ว้าว หม่าเหยาผู้นี้ดูเหมือนจะโกรธเป็นฝืนเป็นไฟจนจะตายอยู่แล้วนะนั่น นายน้อย ท่านนี่ก็เหลือเกินจริงๆ”
เฉียวเว่ยแม้จะพูดบ่นออกมา แต่ท่าทางของนางกลับดูมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
เจียงหยวนได้เดาะลิ้นไปทีหนึ่งก่อนจะพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม “ก็นะ ยังไงซะเดี๋ยวยานี่ก็ต้องเป็นของพวกเราทีหลังอยู่แล้ว”
“ในตอนนี้ เรามาถึงของชิ้นสุดท้ายกันแล้ว หอการค้ามังกรศักดิ์สิทธิ์ของข้าที่เปิดกิจการมาอย่างยาวนาน ข้าที่เป็นเจ้าของสามารถพูดออกมาได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าแม้แต่ข้าเองก็ยังไม่เคยเห็นของชิ้นนี้มาก่อน”
“อะไรล่ะนั่น”
“ไม่ใช่ว่ามันคือหญ้าตะวันคลั่งรึ แต่นั่น หอการค้าเองก็เคยมีของนั่นออกมาก่อนแล้วนี่นา”
“หรือว่าข่าวจะผิด ข้าได้ยินมาว่าหญ้าตะวันคลั่งได้ปรากฎขึ้นที่เมืองเทียนหยางแห่งนี้อีกครั้งนี่นา”
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดนี้ของผู้จัดงานต่างก็ส่งเสียงพูดคุยกันจนดังกระหึ่มไปทั่ว พร้อมใจที่ครุ่นคิดว่าของสิ่งนี้มันคืออะไรกันแน่
“ขอพวกเราได้ยลโฉมมันหน่อยเถอะ”
เจ้าของหอการค้าที่ไดยินก็ไม่อ้อยอิ่งรีบยกมือขวาของตนพร้อมกับดึงผ้าสีดำจนลอยขึ้นฟ้าไปเบื้องหลังอย่างไม่ไยดี
เป็นตอนนี้ที่ผ้าฉายภาพของเจียงหยวนได้แสดงให้เห็นถึงกล่องไม้ที่อยู่ใต้ผ้าคลุมดำ
“เป็นยาอีกแล้วเรอะ”
“ไม่ใช่ว่าเจ้าบอกว่ามันเป็นหญ้าตะวันคลั่งไม่ใช่เหรอ เกิดอะไรขึ้นกับคนของตระกูลหวังรึเปล่า”
หม่าเหยาขมวดคิ้วเล็กน้อยเหมือนเห็นฉากนี้ เพราะเขาได้วางแผนการในวันนี้มาเป็นอย่างดี และในครั้งนี้ ด้วยความช่วยเหลือของเจียงหวู่และเจียงหลี่ที่จะทำการยุยงให้เกิดการซื้อสมุนไพรสุดแสนที่จะหายาก หญ้าตะวันคลั่งนั่นให้จงได้
“ท่านจ้าวหอ อย่าให้พวกเราต้องมาคอยนึกสงสัยกันดีกว่า รีบๆเปิดมันเร็วเข้าเถิด”
“เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนต่างก็รอกันไม่ไหวแล้ว ขอจะเปิดกล่องนี้ให้ทุกคนได้ยลโฉมมันซะ”
หลังจากเจ้าของหอการค้าได้พูดออกมา เขาก็ค่อยๆเปิดกล่องไม้ออกมาอย่างช้าๆ
เป็นตอนนี้ที่กลิ่นของสมุนไพรได้ฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้อง พร้อมกับความสดชื่นที่ไม่ว่าใครต่างก็รู้สึกได้
“ช่างเป็นกลิ่นยาที่หอมหวลนัก”
“มันต้องเป็นยาระดับสูงสุดเป็นแน่”
กลิ่นนี้ได้ทำให้ใครบางคนที่นั่งอยู่และรู้เรื่องดีอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าไปอย่างลึกสุดที่จะทำได้ พร้อมดวงตาที่ลุกวาว
“สามเม็ดนี้คือเม็ดยารวมพลังระดับสุดยอด ลวดลายบนยาที่เกิดขึ้นเองก็เกือบจะสมบูรณ์ เพียงแค่ได้กินมันเข้าไปเม็ดเดียวก็เพียงพอที่จะยกระดับขั้นได้ ราคาเปิดประมูลของพวกมันอยู่ที่สามหมื่นเหรียญทอง เริ่มประมูลได้”
“สามหมื่นเหรียญทอง”
เมื่อทุกคนได้ยินต่างก็สะดุ้งเฮือกกันในทันที
แต่ในครั้งนี้ ทุกคนต่างก็แสดงท่าทางตื่นเต้นยินดีออกมาในไม่ช้า
“เม็ดยารวมพลังระดับสุดยอดงั้นรึ เมืองเทียนหยางแห่งนี้ช่างเป็นสถานที่ที่น่าสนใจจริงๆ ถึงได้มีเม็ดยาระดับสุดยอดปรากฎขึ้นมาได้แบบนี้”
“กับเรื่องนี้แม้แต่เจ้าเฒ่าที่เมืองหลวงนั่นก็ยังอยากจะทำมันขึ้นมาได้ แต่ใครกันนะที่ทำยานี่ขึ้นมา รึจะเป็นเด็กนั่นจริงๆ…ไม่มีทางหรอกน่า”
ภายในห้องพิเศษ ใบหน้าของชายหนุ่มผู้หนึ่งได้ปรากฎขึ้นมาในจิตใจของชูเมิ่งหยูก่อนจะหายไปในทันทีจากการที่เธอรีบส่ายหน้าไปมา
“สี่หมื่นเหรียญทอง”
ชายคนหนึ่งในห้องพิเศษได้เปิดเสนอราคาอย่างเป็นทางการคนแรก คนนั้นคือเจียงเหวิ่น
“ห้าหมื่นเหรียญทอง”
“ข้าให้หกหมื่นเหรียญทอง ข้า นักเล่นแร่แปรธาตุระดับเหลือง หลี่เทียนหลง ข้าได้ยินมาว่าที่นี่มีการประมูลสมุนไพรหายาก แต่นึกไม่ถึงว่าจะได้มาพบเจอกับตัวยาที่สูงล้ำเช่นนี้ โปรดเห็นแก่หน้าข้าด้วย”
“นักเล่นแร่แปรธาตุระดับเหลืองรึ ขนาดคนระดับนี้ก็ยังเอ่ยอ้างชื่อตัวเองออกมาเพื่อจะประมูลให้ได้เนี่ยนะ”
“ข้าก็ไม่คิดมาก่อนว่าของสิ่งนี้จะมาปรากฎที่นี่เหมือนกัน”
ทุกคนในที่นี้ต่างก็พูดคุยกันไปมา แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ ยาเหล่านี้ได้ถูกเจียงหยวนหลอมขึ้นมาอย่างง่ายดายในเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที