บทที่ 577 ด้วยอีคิวของเจ้านายเขา / บทที่ 578 หนีการเจอพ่อแม่ไม่พ้น

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 577 ด้วยอีคิวของเจ้านายเขา

ที่สนามฝึกซ้อม สวี่อี้มองดูกลุ่มคนที่ร้องเกรียวกราวห้อมล้อมเยี่ยหวันหวั่นอยู่ไม่ไกล แววตาเป็นประกายเล็กน้อย

เดิมทีเขาไม่เข้าใจเรื่องไร้สาระแบบที่ว่าทำไมเจ้านายถึงยอมให้สืออีกับเฟิงเสวียนอี้นับถือคุณหนูหวันหวั่นเป็นอาจารย์ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว

นายท่านปูทางให้คุณหนูหวันหวั่น อีกทั้งมั่นใจว่าเธอจะต้องทำได้

อำนาจฝักฝ่ายต่างๆ ในทั้งตระกูลซือเป็นเรื่องซับซ้อน เพราะความเจ้าชู้ของหัวหน้าตระกูลทำให้มีลูกนอกสมรสมากมาย ยิ่งทำให้สถานการณ์ในตระกูลซือย่ำแย่ขึ้นไปอีก ทั้งตระกูลซือเกือบจะแตกเป็นหลายสายแล้ว

กลุ่มบอดี้การ์ดลับที่หัวหน้าตระกูลทิ้งไว้ตอนนั้นก็วุ่นวายเช่นเดียวกัน…

จนกระทั่งเจ้านายที่เดิมทีไม่ได้เป็นผู้สืบทอดตระกูล จู่ๆ ก็กลับมาคุมอำนาจ เปลี่ยนแปลงแก้ไขอย่างฉับพลัน จึงค่อยฝืนรักษาความสงบที่เห็นกันภายนอกได้ ตระกูลซือถึงจะมั่นคงได้ชั่วคราว

สถานการณ์แบบนี้ ไม่ใช่แค่ประโยคเดียวว่า ‘เยี่ยหวันหวั่นคือนายหญิงของบ้านในอนาคต’ ก็จะควบคุมกลุ่มอำนาจพวกนั้นได้ และยิ่งไม่สามารถลบเสียงคัดค้านที่มีทั้งหมดด้วย

อย่างไรซะด้วยสถานะของคุณหนูเยี่ยหวันหวั่นตอนนี้ ยิ่งดันเธอขึ้นสูงเท่าไร เธอก็จะยิ่งมีอันตรายมากขึ้น

ก่อนหน้านี้ เขากับคนอื่นก็เหมือนกัน รู้สึกเป็นกังวลกับการปรากฏตัวของเยี่ยหวันหวั่น

เมื่อก่อนเยี่ยหวันหวั่นทำตัวไร้สาระเกินไป คนแบบนี้อยู่ข้างนายท่าน ต้องมีวันหนึ่งที่ทำร้ายเขาแน่นอน

ขณะเดียวกันเขาก็ไม่เข้าใจ ทำไมนายท่านถึงยังสนับสนุนเยี่ยหวันหวั่นขนาดนี้ ต้องผลักดันเธอขึ้นไปถึงตำแหน่งนั้นให้ได้

จนมาช่วงหลังๆ นี้ เขาถึงค่อยๆ เปลี่ยนท่าทีที่มีต่อเยี่ยหวันหวั่น…

ส่วนใหญ่น่าจะเป็นเพราะผิดหวังกับพ่อแม่ นายท่านจึงไม่เคยเข้าไปก้าวก่ายเรื่องแก่งแย่งในตระกูล จนกระทั่งทุกคนในตระกูลซือลืมว่ามีเขาอยู่นานมาก

ในความทรงจำของเขา เจ้านายไม่มีความปรารถนาอะไรเลย ไม่เคยเอาเรื่องต่างๆ มาใส่ใจ เรื่องชายหนุ่มหญิงสาวยิ่งไม่รู้เรื่องเข้าไปใหญ่

ส่วนฉินรั่วซีที่โตมาด้วยกัน เขาไม่เคยเก็บมาคิดจริงจังด้วยซ้ำ

อาศัยอีคิวของเจ้านายเขา ผู้หญิงพวกนั้นทำอะไรก็เหมือนให้คนตาบอดดู เขาไม่เก็ตเลยสักนิด

ดังนั้น ตอนแรกที่เจ้านายซึ่งไม่เคยแก่งแย่งชิงดีจู่ๆ เริ่มมาชิงอำนาจ ทำให้เขาประหลาดใจมาก

ส่วนเรื่องที่สองที่เขาแปลกใจจนถึงกับไม่เข้าใจเลย คือเรื่องที่เจ้านายที่ไม่ประสีประสาเรื่องความรักกลับใช้วิธีรุนแรง บังคับให้ผู้หญิงอย่างเยี่ยหวันหวั่นมาอยู่ข้างกาย…

ไม่รู้ว่าในเรื่องนี้มีอะไรซ่อนอยู่กันแน่…

………

ไม่ไกลออกไป บรรดาบอดี้การ์ดลับแต่ละคนต่างมีสีหน้าตื่นเต้น

“คุณหนูหวันหวั่นเก่งมากเลย ปั้นคนให้เป็นหัวหน้าใหญ่ได้ด้วย!”

“ที่จริง ถ้าไม่ใช่หยวนเซิงใช้วิธีชั้นต่ำหน้าด้านแบบนั้น ตำแหน่งหัวหน้าใหญ่ของหัวหน้าสืออีก็ไม่ใช่ปัญหาเลย! ยังดีที่หัวหน้าเฟิงเสวียนอี้ของพวกเรามีไหวพริบ ไม่ปล่อยให้เขาใช้เล่ห์เหลี่ยมสำเร็จ!”

พวกบอดี้การ์ดลับพูดพลางเดินไปข้างหน้าเยี่ยหวันหวั่น

“คุณหนูหวันหวั่น สอนพวกเราสักท่าสองท่าบ้างสิครับ!”

“หัวหน้าสืออีบอกว่ามองปราดเดียวคุณก็เห็นจุดอ่อนของอีกฝ่ายได้เลย ถึงกับออกท่าแก้ทางให้ได้ ทำยังไงครับเนี่ย”

“ผมก็อยากเรียนด้วย!”

เยี่ยหวันหวั่นยิ้มๆ “เดี๋ยวมีเวลาว่าง มาประลองฝีมือได้เลย”

เห็นเหล่าบอดี้การ์ดลับกระตือรือร้น เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกโล่งใจ

ชาติที่แล้ว ถึงแม้เธอกับซือเยี่ยหานแต่งงานกันแล้ว เป็นนายหญิงของตระกูลซืออย่างเป็นทางการ แต่ก็ไม่มีใครเห็นหัวเธอเลยสักคน ยิ่งซือเยี่ยหานปกป้องเธอ เธอยิ่งเป็นแค่นางบำเรอตัวร้ายในสายตาคนอื่น ยิ่งสร้างความผิดหนักหนาเข้าไปอีก…

แต่ตอนนี้ หลังงานประลองชิงตำแหน่ง เธอกลับได้รับการยอมรับอย่างแท้จริงจากคนตรงหน้าพวกนี้ ท่าทีสนับสนุนที่เหล่าบอดี้การ์ดลับมีให้เธอเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด หัวหน้าใหญ่และหัวหน้าบอดี้การ์ดลับทีมย่อย 1 ถึงขนาดเป็นลูกศิษย์เธอ

………………………………………………………………

บทที่ 578 หนีการเจอพ่อแม่ไม่พ้น

ถึงแม้นี่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงก้าวเล็กๆ แต่เธอกลับรู้สึกพอใจมาก

ชาติที่แล้วอยู่ในสถานะที่เข้ากันไม่ได้แบบนั้น สูญเสียความเป็นตัวเอง โดนคนอื่นปฏิเสธไปหมด เหมือนเธอเป็นขยะและคนน่ารังเกียจที่ใช้ชีวิตโดยพึ่งพาคนอื่น มันแย่มากจริงๆ …

ก่อนหน้านี้เธอไม่มีทางเลือก โชคชะตาผลักดันให้เธอเดินไปข้างหน้า แต่ตอนนี้ จู่ๆ กลับมีความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมา

บางที…

การอยู่ข้างซือเยี่ยหาน อาจไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เธอคิดขนาดนั้น…

“คุณหนูหวันหวั่นพูดแล้วห้ามคืนคำนะครับ!” ทุกคนได้ยินต่างก็ร้องด้วยความดีใจ

จากนั้นมีคนเสนอขึ้นมา “พวกเราไปดื่มฉลองกันดีกว่า!”

“ฮ่าๆๆ ได้ คืนนี้ไม่เมาไม่กลับ!”

เจ้าติดอ่างวิ่งตึงๆๆ มาตรงหน้าเยี่ยหวันหวั่น ทำท่าเชื้อเชิญ “อา…อาจารย์…คุณ…คุณก็…คุณก็ไปดื่มด้วยกันนะครับ…”

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินก็ตอบ “ดื่มเหล้า?”

วินาทีที่คำพูดของเจ้าติดอ่างและเยี่ยหวันหวั่นจบลง ทั่วทั้งที่นั้นเงียบกริบ บรรยากาศครื้นเครงนิ่งสนิทไปทันที

สามวินาทีผ่านไป ชายหนุ่มหลายคนช่วยกันดึงเจ้าติดอ่างไปที่มุมหนึ่ง “ใครบอกว่าพวกเราจะไปดื่มเหล้า! หัวหน้าใหญ่อย่าซี้ซั้วพูดสิ!”

“พวก… พวกนาย… เมื่อ… เมื่อกี้เพิ่งพูดเอง…” เจ้าติดอ่างพูด

“เปล่า! ไม่ได้พูด! เห็นอยู่ว่าพวกเราจะไปตั้งใจฝึกซ้อม!” บอดี้การ์ดลับคนหนึ่งพูดอย่างจริงจัง

“ใช่ หัวหน้าฟังผิดแล้ว!” คนอื่นๆ ต่างเออออเห็นด้วย

บ้าเอ๊ย! ชวนคุณหนูหวันหวั่นไปดื่ม พวกเขาอยากเลือดท่วมหรือไง?

นี่ไม่ใช่งานฉลองแล้ว นี่มันแดนทรมานแล้วเถอะ?

หัวหน้าใหญ่คนใหม่ของพวกเขาโง่หรือเปล่า?

ครั้งที่แล้วโดนต่อยตีจนเละแล้วยังชวนไปอย่างสบายใจอีก!

พวกบอดี้การ์ดลับมองไปทางเยี่ยหวันหวั่น “คุณหนูหวันหวั่น พวกเรา… พวกเราไปฝึกซ้อมก่อนครับ! คุณรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ!”

“ใช่ๆๆ ดื่มเหล้าอะไรกัน เห็นคุณหนูหวันหวั่นเป็นผู้หญิงยังเก่งขนาดนี้ยังจะมีหน้าไปดื่มอีกเหรอ ฝึกซ้อมๆ! รีบไป!”

เพิ่งพูดจบ ทุกคนต่างก็ล้อมเจ้าติดอ่างแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็วจนไม่เห็นเงา แม้แต่สืออีที่บาดเจ็บอยู่ยังว่องไวผิดปกติ…

“เอ๋…”  เยี่ยหวันหวั่นยืนอยู่ด้านหลัง แม้แต่คำพูดยังไม่ทันได้เอ่ยเลย “เฮ้… เฮ้…”

อะไรกัน

ทำไมพอได้ยินว่าจะชวนเธอไปดื่มด้วยกันก็ตกใจจนเป็นแบบนี้?

อีกอย่างเธอก็ไม่ได้คิดจะไปซะหน่อย ตอนเย็นเธอมีนัดนะ!

เยี่ยหวันหวั่นไม่สนใจพวกประหลาดนั่น รีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว

เพียงพริบตา ใกล้จะถึงเวลาที่นัดกับผู้อาวุโสตระกูลซือแล้ว

ช่วงนี้สภาพร่างกายซือเยี่ยหานเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ดูร้ายแรงแต่ก็ไม่มีอันตรายอะไร แต่เธอไม่กล้าวางใจ

อีกอย่างยังมีเรื่องที่ทำให้เธอค่อนข้างปวดหัว…

ก่อนหน้านี้ เธอบอกพ่อแม่ว่าตัวเองมีแฟนแล้ว เพื่อให้พวกเขาเชื่อว่าเธอลืมกู้เยว่เจ๋อได้แล้วจริงๆ

และเพื่อให้พวกเขาสบายใจ เธอยังโกหกพวกเขาว่าแฟนตัวเองหน้าตาอัปลักษณ์อีกทั้งแสนจะธรรมดา

ตอนนี้พ่อแม่เธอคอยเป็นห่วงถามไถ่เรื่องความรักเธอบ่อยๆ ในคำพูดยังบอกเป็นนัยว่าเมื่อไรจะพาแฟนมาเจอพวกเขา แล้วยังบอกว่าไม่รังเกียจที่เขาหน้าตาไม่ดี กลุ้มใจจริงๆ …

ถึงแม้ครั้งก่อนซือเยี่ยหานจะตอบตกลงแล้ว แต่ตอนนั้นก็ทะเลาะกันหนัก ด้วยสภาพของเขาตอนนี้ เธอจะกล้ายกมาพูดกระตุ้นอารมณ์เขาที่ไหน!

เยี่ยหวันหวั่นปวดหัวไปพลาง หาเสื้อผ้าในห้องไปพลาง ตอนนี้เอง เสียงมือถือดังขึ้นมา

เมื่อเห็นสายโทรเข้า เยี่ยหวันหวั่นตัวสั่นทันที…

แย่แล้ว กลัวอะไรก็ได้อย่างนั้น แม่โทรมา…

………………………………………………………………