ตอนที่1326 เจ็ดวีรบุรุษเข้าพนัน

 

“ผลึกปราณเทวะห้าพันก้อน!”

ฉางเหลียนขยับขยายสายตาแปรเปลี่ยนดูจริงจังในทันใด พลางสูดไอเย็นแช่มลึก

สำหรับพวกเขาแล้ว ถึงจะเป็นผลึกปราณเทวะระดับต่ำ แต่จำนวนกว่าห้าพ้นก่อนกลับมิใช่มูลค่าน้อยๆ

แม้ว่าเจ็ดวีรบุรุษสายลมหยินแต่ละคนจะเป็นความแกร่งกล้าไม่ธรรมดา เนื่องเพราะขัดเกลาฝีมืออยู่ในสุสานสายลมหยินมาโดยตลอด แต่ผลึกปราณเทวะจำนวนห้าพันก้อนก็ทรงเสน่ห์ยั่วยวนเกินไปจริงๆ

ข้อเสนอของเย่หยวนเพียงง่ายนิดเดียว นำพาอีกฝ่ายไปหาสถานที่ที่มีวิญญาณชั่วหนึ่งดาวชั้นปลาย เท่านี้ก็จะได้ห้าพันก้อนโดยไม่ต้องลงแรง!

เป็นเพียงคนนำทางก็ลาภลอยล้นพ้น!

ผลึกปราณเทวะระดับต่ำจำนวนห้าพันก้อน กลับมิได้หากันง่ายๆ

 

เย่หยวนกล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า

“ถูกต้อง ผลึกปราณเทวะระดับต่ำจำนวนหนึ่งพันก้อนแรกให้เป็นค่ามัดจำ ตราบใดที่พวกท่านพาข้าไปยังสถานที่ต่างๆจนรวบรวมวิญญาณชั่วหนึ่งดาวชั้นปลายได้ครบห้าร้อยตน ยามนั้นอีกสี่พันก้อนที่เหลือจ่ายครบมิขาดตกแน่นอน”

เย่หยวนเคยช่วยให้หอมหาสมบัติกอบโกยผลกำไรปริมาณมหาศาลมาแล้ว โดยทั่วไปเขาหาใช่คนปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างไร้มารยาท

ผลึกปราณเทวะระดับต่ำนับเป็นค่าเงินกลางที่ทุกคนสนใจ แน่นอนว่าเย่หยวนย่อมเจียดออกมาจ่ายได้อย่างไม่มีปัญหา

ตราบใดที่ไม่ถลำลึกมากเกินไป หอมหาสมบัติย่อมไม่พูดติเตียนอะไรแน่นอน

 

“หะ-ห้าร้อยตน?!”

ฉางเหลียนถึงกับพูดไม่ออก

ไอ้เด็กเหลือขอคนนี้มันบ้าไปแล้วจริงๆ แทบทำเอาผู้คนหัวใจหยุดเต้นเพียงเพราะคำพูด!

วิญญาณชั่วหนึ่งดาวชั้นปลายจำนวนห้าร้อยตน แม้แต่เซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าขั้นสุดยังไม่กล้าเผชิญหน้ากับอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ

แต่เด็กน้อยอาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นต้นคนนี้กลับหาญกล้าอวดดีได้อย่างไร?

ไร้ยางอายเกินไป!

 

ทันทีทันใด ฉางเหลียนพลันสังเกตเห็นสายตาแปลกๆจากโดยรอบที่สาดสะท้อนออกมา

ไม่จำต้องเหลียวหลังกลับมองก็ยังทราบ น้องอีกหกคนที่เหลือเผยจิตสังหารออกมาอย่างชัดแจ้ง!

เย่หยวนทำตัวประเจิดประเจ้อเกินไป ซึ่งภายในสถานที่ลับตาคนแบบนี้ การจะดักฆ่าเพื่อชิงทรัพย์กลับมีให้เห็นถมไป

เขาที่ถึงขั้นเอ่ยปากเสนอผลึกปราณเทวะระดับต่ำจำนวนมากถึงห้าพันก้อนได้อย่างไม่สะทกสะท้าน จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า ในตัวเขาที่พกมาควรจะมีมากกว่าที่ทราบอยู่มาก

ตราบใดที่พวกเขาฆ่าปิดปากเย่หยวนได้สำเร็จ ผลึกปราณเทวะในตัวของเย่หยวนจะกลายเป็นของพวกเขาโดยชอบธรรมทันที

หากเทียบกับการที่ต้องนำทางแล้ว พวกเขาย่อมเต็มใจฆ่าปิดปากเย่หยวนเสียตั้งแต่ตอนนี้จะดีกว่า

 

ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว มันมิใช่เพียงน้องทั้งหกคนของเขาเท่านั้นที่เผยจิตสังหารออกมา กระทั่งตัวฉางเหลียนเองก็ลอบคิดเช่นเดียวกัน

แต่ในฐานะยอดฝีมือเจนจัดผู้ผ่านโลกมามากคนหนึ่ง ฉางเหลียนยังต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกับสภานการณ์ผิดแปลกแบบนี้

เขาสาดสายตาจับจ้องเย่หยวนอย่างอดมิได้ ทั้งๆที่พวกขาทั้งเจ็ดแพร่งพรายจิตสังหารข้นคลักออกมาขนาดนี้ แต่ไฉนเย่หยวนยังคงนิ่งราวกับไม่รู้เรื่องรู้ราวอันใด หาได้เกรงกลัวแม้แต่น้อย

 

ดั่งหัวใจของฉางเหลียนกระชากเต้นกระหน่ำรุนแรง ใจหนึ่งก็รู้สึกกลัว ส่วนอีกใจก็มิอาจจทานทนเสน่ห์แสนเย้ายวนของผลึกปราณเทวะจำนวนห้าพันก้อนได้ไหว

 

แต่ในขณะที่เขากำลังจะเคลื่อนไหว จู่ๆฉางเหลียนพลันสังเกตเห็นรอยยิ้มเหยียดเย็นปรากฏขึ้นบนมุมปากของเย่หยวนบางๆ

หัวใจของฉางเหลียนจับขั้วเยือกแข็งในบัดดล ถึงกับหยุดมือโดยกะทันหัน ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปประดุจตามคำสั่งจากอำนาจเหนือธรรมชาติ

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ตกลง! น้องเล็กช่างมากน้ำใจไพศาล ข้า,ฉางเหลียนนับเป็นสหายคนหนึ่งของน้องเล็ก!”

ฉางเหลียนรับถุงบรรจุผลึกปราณเทวะระดับต่ำจำนวนหนึ่งพันก้อน พร้อมกล่าวขึ้นอย่างเป็นมิตรพลางหัวเราะร่า

ท่าทางวาจาของฉางเหลียนทำเอาขากรรไกรของทั้งหกค้างเติ่งในทันใด

พี่ใหญ่ของพวกเขาเป็นคนใจดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใด?

 

เย่หยวนคลี่ยิ้มและกล่าวว่า

“ไปกันเถอะ!”

 

ฉางเหลียนกล่าวตอบพร้อมเสียงหัวเราะว่า

“แน่นอน! ออกเดินทาง!”

ภายใต้การนำของฉางเหลียน ไม่นานเย่หยวนก็เริ่มพบเจอกับวิญญาณชั่วที่แกร่งกร้าวขึ้นเรื่อยๆ

ฉางเหลียนกับที่เหลือค่อนข้างตื่นตัวกันมากขึ้น ก่อนเริ่มเคลื่อนไหวด้วยความระมัดระวังยิ่ง

ฉางเหลียนแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาทั้งเจ็ด เขาเป็นถึงเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นกลางทว่าหากต้องเผชิญหน้ากับวิญญาณชั่วหนึ่งดาวชั้นปลาย ไม่ต้องรอให้พวกเขาวิ่งหนี แค่เข้าใกล้ยังขยาดสุดใจ

 

“เบื้องหน้าของน้องเล็กคือถ้ำนรกม่วง ภายในนั้นมีวิญญาณชั่วหนึ่งดาวชั้นปลายอยู่ไม่น้อย แม้แต่พวกเรายังไม่กล้าจะย่างกรายเฉียดเข้าไป”

ฉางเหลียนกล่าว

 

เย่หยวนพยักหน้าและกล่าวว่า

“เช่นนั้นพวกท่านรอข้าอยู่ด้านนอกถ้ำ!”

 

เมื่อกล่าวจบ เย่หยวนก็ตรงดิ่งเข้าไปในถ้ำนรกม่วงโดยตรง

 

“พี่ใหญ่ ไฉนถึงไม่ลงมือตั้งแต่ตอนนั้น? ข้ากล้าพนันได้เลย ในตัวของเจ้าเด็กนั้นควรจะมีผลึกปราณเทวะอย่างต่ำก็ห้าหมื่นก้อน!”

เห็นว่าเย่หยวนหายลับจากสายตาไป น้องเจ็ดอดเอ่ยปากทักท้วงมิได้

 

“ใช่แล้วพี่ใหญ่! ปกติท่านไม่ได้เป็นแบบนี้เลย! ตราบใดที่เห็นลูกแกะตัวอ้วนมาให้ขุน ป่านนี้ท่านลงมือเสร็จสรรพไปนานแล้ว!”

น้องสามกล่าวเสริม

 

ฉางเหลียนกวาดสายตาจับจ้องพวกเขาพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ไฉนข้าจะไม่ทราบว่าพวกเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่? ข้าเองก็เกือบลงมือแล้วเช่นกัน!”

 

“แล้วไยถึงเปลี่ยนใจชั่วขณะ? หากเด็กคนนั้นตายลงภายในถ้ำนรกม่วง กว่าพวกเราจะไปเก็บผลึกปราณเทวะออกมาได้ กลับเป็นเรื่องยากเข็ญยิ่ง!”

น้องเจ็ดกล่าว

 

ในมุมมองของพวกเขา เย่หยวนเป็นคนเด็กอ่อนต่อโลกคนหนึ่งที่มีแต่เงินทอง

เด็กคนนี้ไม่ทราบถึงความน่าหลัวของสุสานสายลมหยินเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังบุ่มบ่ามเข้าไปในถ้ำนรกม่วงโดยไม่คิดอะไรทั้งสิ้น นี่กลับแตกต่างอะไรกับรนหาที่ตายเอง?

 

ฉางเหลียนเหลือบมองต้นเสียงเล็กน้อย คลี่ยิ้มแสยะเย็นกล่าวว่า

“พวกเจ้าคิดจริงๆรึว่า เด็กนั้นจะกล่าวส่งๆไป? เหอะ เหอะ ยิ่งการกระทำของเด็กนั้นจะดูไร้สาระเท่าไหร่ นั้นกลับเป็นสิ่งที่เราไม่ควรยุ่งย่าม! ไม่รู้ว่าเหตุใดเช่นกันข้าถึงเปลี่ยนใจกะทันหัน รอยยิ้มในตอนนั้น ดั่งว่ากำลังถูกล่าอยู่อย่างไงอย่างงั้น!”

 

อย่างไรก็ตาม คำกล่าวของฉางเหลียนกลับมิได้ช่วยเปลี่ยนทัศนคติของทั้งหกได้เลย

 

น้องสองกล่าวแทรกขึ้นว่า

“พี่ใหญ่ แต่มันเป็นแค่เด็กน้อยอาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นต้น! ไฉนถึงต้องหวาดกลัวมันขนาดนี้? พวกเราเจ็ดพี่น้อง เป็นเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นกลางถึงสามคน หรือเป็นไปได้ไหมที่เราจะเอาเจ้าเด็กนั้นไม่ลง?”

 

ฉางเหลียนกล่าวตอบเสียงเย็นว่า

“พวกเจ้ารอดูต่อไป ข้าท้าพนัน เด็กนั้นสามารถออกจากถ้ำนรกม่วงได้แน่!”

 

น้องเจ็ดกล่าวตอบว่า

“มันจะเป็นไปได้อย่างไร? เด็กคนเดียวจะไปต่อกรกับวิญญาณชั่วหนึ่งดาวชั้นปลายได้อย่างไร? แค่ชั้นต้นยังสัประยุทธ์ด้วยไม่ไหวเลยกระมัง?”

 

น้องสามยังกล่าวอีกว่า

“ถูกต้องพี่ใหญ่! ไม่ว่าอย่างไรเราคงได้แค่พันก้อนแล้วจริงๆ มันไม่มีทางออกมาได้แน่นอน!”

 

 

ฉางเหลียนเค้นเสียงหัวร่อสองสามคำ พร้อมกล่าวว่า

“เช่นนั้นกล้าพนันกับข้าหรือไม่? ข้า,ฉางเหลียน เจนจัดผ่านโลกมาก็มาก สัญชาตญาณในตัวข้ามันบอกว่า เด็กคนนั้นไม่ง่ายดั่งผิวเผินแน่นอน!”

 

น้องเจ็ดกล่าวอย่างไม่ค่อยมั่นใจว่า

“พี่ใหญ่ ข้าว่ารอบนี้สัญชาตญาณของท่านอาจผิดพลาดไป! เช่นนั้นเดิมพันด้วยอะไร?”

 

ฉางเหลียนกล่าวตอบว่า

“กำหนดสามวันหลังจากนี้ หากเด็กนั้นออกมาได้ ผนึกปราณเทวะอีกสี่พันก้อนที่เหลือเป็นของข้า! แต่หากเด็กนั้นไม่ออกมา ไม่เพียงจะมอบพันก้อนนี้ให้ ข้าจะให้พวกเจ้าเพิ่มอีกคนละหนึ่งพันก้อน!”

 

เมื่อฉางเหลียนกล่าวแบบนี้ออกไป น้องทั้งหกพลันระเบิดเสียงหัวเราะขึ้นทันใด

 

 

“ฮ่าฮ่า! พี่ใหญ่ ในเมื่อท่านใจกว้างขนาดนี้ เช่นนั้นพวกเราน้องเล็กขอรับคำพนัน! แค่สามวันเกรงว่าจะดูเอาเปรียบพี่ใหญ่เกินไป ต่อให้เป็นสามสิบวัน เจ้าเด็กนั้นก็ไม่มีทางออกมาได้! ถึงตอนนั้นตามเก็บศพได้เลย!”

น้องเจ็ดกล่าวขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะคึกครื้นดีใจ

 

“พี่ใหญ่ หากครบกำหนดแล้วอย่ากลับคำเชียว! พนันคราวนี้ท่านแพ้เต็มประตู!”

น้องสองกล่าวเสริม

 

“พี่ใหญ่ พวกเราคลุกคลีอยู่ในสุสานสายลมหยินมาเนินนานเท่าใด? ท่านเคยเห็นมาก่อนรึว่า มีเซียนอาณาจักรปฐมพระเจ้าชั้นต้นหนีรอดออกจากถ้ำนรกม่วงมาได้?”

น้องสามยังแผดเสียงหัวเราะดังลั่นไม่หยุด

 

ฉางเหลียนแค่ยิ้มตอบแต่หาได้กล่าวอันใดไม่ เพราะเขายังคงเชื่อในสัญชาติญาณตนเองในท้ายที่สุด

กล่าวกันตามตรง ฉางเหลียนคนนี้ค่อนข้างเป็นคนละเอียด วิสัยทัศน์เฉียบขาดอ่านสถานการณ์ออก

และยังคงเป็นเพราะเขาที่สามารถนำพาเหล่าน้องๆของตนหลุดรอดออกจากเงื้อมมือของตระกูลหวังได้

หากเป็นคนอื่นกล่าวผิดหรือใช้วาจาชวนสงสัยเพียงประโยคเดียว ตระกูลหวังคงฆ่าปิดปากพวกเขาไปนานแล้ว

 

 

 

………………………….

 

 

“พี่สอง สุสานสายลมหยินกว้างไพศาลเกินไป ภูมิศาสตร์ค่อนข้างสลักซับซ้อน พวกเราควรเริ่มหามันจากตรงไหนก่อนดี?”

หวังอวีกั่นที่รู้สึกเวียนศีรษะอย่างหนักกับพื้นที่ภายในสุสานสายลมหยิน ยามนี้อดเอ่ยกล่าวขึ้นมิได้

 

หวังอวีเต๋ากล่าวตอบเสียงเข้มว่า

“หาใครสักคนเพื่อถามทาง! ไอ้เด็กเหลือขอนั้นเป็นหน้าใหม่ไม่เคยมาที่แห่งนี้มาก่อน อย่างน้อยน่าจะเป็นที่สะดุดตาของขาประจำแถวนี้บ้าง และเชื่อได้ว่า มันเองก็ไม่รู้ทิศทางเหมือนเราเช่นกัน!”

 

แววเนตรท่อประกายสว่างวับ หวังอวีกั่นประจักษ์แจ้งในทันทีและกล่าวว่า

“พี่สองช่างชาญฉลาด!”

 

หวังอวีเต๋าหันไปสั่งการผู้ใต้บัญชาในทันใด

“พวกเจ้ากระจายกันไปไถ่ถามหาเด็กเหลือขอนั้นมา! หากมีใครบางคนพบเจอคนไม่คุ้นหน้า จงเร่งซักถามให้ละเอียด! เข้าใจหรือไม่?”