ตอนที่ 1672 ทางเลือกของเยี่ยฉี (1) / ตอนที่ 1673 ทางเลือกของเยี่ยฉี (2)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1672 ทางเลือกของเยี่ยฉี (1)

ถูกแล้ว ตอนที่นางเจออวิ๋นลั่วเฟิงครั้งแรก นางเกลียดสตรีผู้นี้มาก ใครใช้ให้พี่ใหญ่ดูแลนางอย่างดีและยังดุด่านางมากขึ้นเพราะอวิ่นลั่วเฟิงกันล่ะ แต่ว่าตอนนั้นเยี่ยฉีไม่รู้ว่าอันที่จริงอวิ๋นลั่วเฟิงเป็นพี่สะใภ้ของนาง!

บิดามารดาบุตรธรรมเป็นคนให้ชีวิตนางและนางจะกล้าทำให้พวกเขาใจสลายได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนั้นนางก็เป็นคนผิดตั้งแต่แรกดังนั้นในใจของนางจึงยอมรับตัวตนของอวิ๋นลั่วเฟิงแล้ว..

“ข้าไม่เคยเกลียดนาง” เยี่ยฉีเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “ข้าติดหนี้ตระกูลเยี่ยและท่านพ่อท่านแม่บุตรธรรม ถ้าข้าสามารถใช้ชีวิตตอบแทนพวกเขาได้ ข้าก็ไม่เสียใจ”

“เยี่ยฉี เจ้าไม่ต้องรีบตอบก็ได้ ข้าจะให้เวลาเจ้าคิดสองสามวัน” ฉินเสวี่ยยิ้มเยาะ “แต่ว่าในช่วงสองสามวันนี้ ข้าจะให้เจ้าลิ้มรสวิธีของเผ่าของพวกเราและข้าหวังว่าเจ้าจะยังแน่วแน่อยู่เหมือนเดิม ซูจวิ้น ไปกันได้แล้ว!” พูดจบ ฉินเสวี่ยก็หันไปช้าๆ ขณะที่ดวงตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร

รอยยิ้มขบขันปรากฏบนใบหน้าของซูจวิ้น

อวิ๋นลั่วเฟิง เจ้าทำลายสำนักเซวียนชิง ข้าจะเอาคืนเจ้าทั้งต้นและดอก!

ภายนอกคุก ฉินเสวี่ยหยุดฝีเท้าและหันมามองซูจวิ้นอย่างเฉยชา

“อีกสองสามวัน ผู้อาวุโสจะออกจากการปิดด่านฝึกพลังฌาน ถึงตอนนั้นข้าจะแจ้งผู้อาวุโสว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นข้าจะถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ผู้สืบทอดของเผ่าเราอยู่ในมือของอวิ๋นลั่วเฟิงใช่หรือไม่”

ซูจวิ้นกัดฟันแล้วพยักหน้า “ท่านฉินเสวี่ย เรื่องนี้เป็นความจริงอย่างที่สุดขอรับ ตอนนั้นแม่นางหลินถูกอวิ๋นลั่วเฟิงพาไปจริงๆ ที่สำคัญนางยังต้องการบังคับให้แม่นางหลินแต่งงานกับน้องชายของนางอีกด้วย!”

น้องชายที่เขาพูดถึงหมายถึงเสี่ยวโม่ วันนั้นเขาจะไม่สังเกตเห็นความใกล้ชิดของเสี่ยวโม่กับหลินรั่วไป๋ได้อย่างไร เมื่อเขานึกถึงเรื่องที่ว่าสตรีที่เขาอยากได้ถูกขโมยไปแล้วเขาจะยังมีความสุขอยู่ได้อย่างไร

โชคดีที่หลินรั่วไป๋ยังหมดสติอยู่หรือไม่ก็ตายไปแล้ว เขาถึงได้มีโอกาสใส่ร้ายอวิ๋นลั่วเฟิง ใครใช้ให้นางโผล่มาขัดขวางแผนการของเขากันล่ะ ถึงแม้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะบอกว่าหลินรั่วไป๋เป็นศิษย์ของนางแต่เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์จะเชื่อคำพูดของนางได้อย่างไร

ทันใดนั้นซูจวิ้นก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งในความคิดของเขาแต่ไม่กล้าเปิดเผยออกมา ใบหน้าของเขาแสดงความโศกเศร้าแทน

“ท่านฉินเสวี่ย ท่านต้องแก้แค้นให้แม่นางหลินนะขอรับ”

ตูม!

กลิ่นอายของฉินเสวี่ยพุ่งออกมาจากร่างของนางจนทำให้ต้นไม้ด้านหนึ่งพังทลายลงทันที

สีหน้าของนางเย็นเยียบ “ถ้าคำพูดของเจ้าเป็นความจริง ข้าจะหั่นอวิ๋นลั่วเฟิงออกเป็นพันๆ ชิ้น!”

เมื่อถึงตอนนั้นไม่ใช่แค่เพื่อหลินรั่วไป๋แต่นางยังทำเพื่อแก้แค้นให้น้องสาวของนางด้วยดังนั้นไม่ว่าหลินรั่วไป๋จะอยู่ในมือของอวิ๋นลั่วเฟิงจริงหรือไม่ สตรีผู้นี้ก็ต้องตาย!

เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ในหุบเขาด้านบนก้อนเมฆและมีทิวทัศน์ที่งดงามมาก

ตอนนั้นเองที่บริเวณตีนเขา สตรีในชุดสีขาวคนหนึ่งก็หยุดแกะรอยแล้วใช้นิ้วเรียวของนางลูบคาง นางมองหุบเขาที่สูงเสียดฟ้าก่อนจะนางก็เลิกคิ้วและหรี่ตา

เสียงของเสี่ยวโม่ค่อยๆ ดังขึ้นภายในจิตของนาง “นายหญิงในเมื่อหุบเขานี้เป็นฐานที่ตั้งของเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ ที่นี่จะต้องมีอันตรายอยู่มากมายนับไม่ถ้วน ท่านต้องระวังให้มากๆ นะขอรับ”

“ไม่เป็นไร” อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้ม “กับดักพวกนี้ไม่ใช่ปัญหา”

ตอนที่นางพูด กองทัพโครงกระดูกที่นางจับได้ที่ภูผาสุสานเทพก็ปรากฏขึ้นท่ามกลางอากาศ นี่เป็นครั้งแรกที่นางใช้พวกเขาให้เป็นประโยชน์ตั้งแต่ที่นางได้กองทัพโครงกระดูกมา

 …………………………………..

ตอนที่ 1673 ทางเลือกของเยี่ยฉี (2)

เมื่อมีกองทัพโครงกระดูกพวกนี้ นางก็ไม่จำเป็นต้องระวังหรือหวาดระแวงพื้นที่อันตรายแต่นางสามารถเดินทางไปเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วยความเร็วสูงสุด

ตูม!

ภายในเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ มีแรงระเบิดทรงพลังเกิดขึ้นที่พื้นใกล้กับเขตต้องห้ามจนทำให้ทั้งหุบเขาสั่นสะเทือน

ฉินเสวี่ยวิ่งออกมาจากห้องโถงของเผ่าแล้วมองไปที่ด้านหลังหุบเขาที่เปล่งประกายไปด้วยพลังฌานด้วยความแปลกใจ

“ในที่สุดผู้อาวุโสออกมาจากการปิดด่านฝึกพลังฌานแล้วหรือ”

ตูม! ตูม ตูม ตูม!

ทันใดนั้นสายฟ้าก็ผ่าลงมารอบด้านหลังหุบเขาในพื้นที่ต้องห้าม แสงจากสายฟ้าตัดกับท้องฟ้าจนทำให้ทั่วทั้งท้องฟ้าสว่างจนแสบตาแต่ว่ากลิ่นอายรอบๆ พื้นที่ต้องห้ามด้านหลังหุบเขาก็ยังไม่หายไปจากนั้นก็มีสายฟ้าผ่าลงมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนทำให้ทั่วทั้งหุบเขาสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

“ท่านฉินเสวี่ยเจ้าค่ะ เกิดเรื่องขึ้นเจ้าค่ะ!” เสียงแหบแห้งดังมาจากด้านหน้าแล้วไม่นานนางก็เห็นศิษย์เดินเข้ามาอย่างเร่งรีบด้วยเหงื่อที่เต็มไปด้วยหน้าผากและเผยสีหน้าวิตกกังวล

“ท่านฉินเสวี่ยเจ้าค่ะ มีใครบางคนพยายามจะผ่าเส้นทางมุ่งหน้าที่เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์เจ้าค่ะ”

“ผ่าเส้นทางเข้ามางั้นหรือ” ใบหน้าของฉินเสวี่ยมืดครึ้มและพูดอย่างเย็นชาว่า “ใครกันที่กล้าผ่าเส้นทางขึ้นมาที่เผ่าของพวกเรา”

“เป็น…เป็นกองทัพโครงกระดูกเจ้าค่ะ” ศิษย์คนนั้นพูดด้วยเสียงสั่นๆ

โครงกระดูก?

ฉินเสวี่ยเหม่อลอยแล้วไม่นานนางก็กลับมามีสติ

“ผู้อาวุโสกำลังจะออกมาแล้ว พวกเราไม่มีทางยอมให้มีคนมาขัดขวางพวกเขาได้ดังนั้นส่งคนไปสังหารคนก็ตามที่เข้ามาอย่างไม่ปรานี”

ขณะที่พูดจิตสังหารของฉินเยี่ยก็แผ่ออกมาจากร่างจะครอบคลุมไปทั้งยอดดเขา…

ภายในห้องขังที่ทั้งมืดมนและชื้นแฉะ

ร่างของเยี่ยฉีทรุดอยู่ที่พื้นในสภาพย่ำแย่ ร่างของนางเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นและใบหน้าของนางก็ซีดเผือด ดวงตาปรากฏความหวาดกลัว ไม่มีใครรู้ว่าหลายวันมานี้นางต้องทรมานมากแค่ไหน…และนางก็ไม่อยากจะประสบกับความเจ็บปวดแบบนั้นอีกเป็นครั้งที่สอง

“เยี่ยฉี เจ้าตัดสินใจไปถึงไหนแล้ว” เสียงของซูจวิ้นดังขึ้น “ถ้าเจ้ายอมรับข้อเสนอของพวกเรา เจ้าจะไม่ได้แค่ได้อิสระกลับคืนมาแต่เจ้ายังสามารถเข้าร่วมเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วย นี่เป็นสิ่งที่คนมากมายขวนขวายแม้จะอยู่ในความฝัน”

เยี่ยฉีค่อยๆ เงยหน้าขึ้น “เจ้าต้องการอะไรจากข้า”

“อีกสองสามวัน ผู้อาวุโสของเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์กำลังจะออกมาจากการปิดด่านฝึกพลังฌาน พอถึงตอนนั้นพวกเราคงจับตัวอวิ๋นลั่วเฟิงเพื่อมาสอบสวนได้แล้ว ข้าอยากให้เจ้าออกมาพูดว่าอวิ๋นลั่วเฟิงไม่ใช่แค่ลักพาตัวผู้สืบทอดของพวกเขาแต่นางยังทำตัวโหดร้ายและหยาบคายกับนางด้วย รวมถึงผู้สืบทอดยังใช้ชีวิตอย่างทุกข์อย่างเมื่อตกอยู่ในมือนาง”

ผู้อาวุโสเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์คงไม่หลอกง่ายเหมือนน้องสาวของฉินเสวี่ย ถ้าฉินเสวี่ยไม่สามารถสังหารอวิ๋นลั่วเฟิงก่อนหน้านั้นได้ ผู้อาวุโสก็จะต้องได้พบกับอวิ๋นลั่วเฟิงแน่นอน ถ้ามีการรับรองของเยี่ยฉีทุกอย่างจะต่างไปอย่างสิ้นเชิง…

“ข้าถามได้หรือไม่ว่าใครคือผู้สืบทอดของเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์”

“หลินรั่วไป๋” ซูจวิ้นตอบอย่างไม่ลังเล “ข้ารู้ว่าเจ้ารู้เรื่องความสัมพันธ์ของหลินรั่วไป๋กับอวิ๋นลั่วเฟิง โชคร้ายที่ตอนนี้หลินรั่วไป๋ตายแล้ว เป็นการตายที่พิสูจน์ไม่ได้และมีแต่เจ้าเท่านั้นที่ช่วยข้าได้”

เยี่ยฉีชะงัก

ผู้สืบทอดของเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาพูดถึงที่จริงคือหลินรั่วไป๋หรือนี่ ยิ่งไปกว่านั้น…หลินรั่วไป๋ก็ตายแล้วงั้นหรือ

“ตอนนี้เจ้าสามารถบอกข้าได้แล้วว่าเจ้าจะตัดสินใจอย่างไร” ซูจวิ้นเชิดหน้า จากการโดนทรมานมาสองสามวันเขาเชื่อว่าเยี่ยฉีรู้แล้วว่านางควรจะเลือกอะไร

เยี่ยฉียิ้มกวักมือเรียกซูจวิ้น “ยื่นหูมานี่แล้วข้าจะบอกเจ้าว่าข้าเลือกอะไร…”

ซูจวิ้นเดินไปหาเยี่ยฉีช้าๆ โดยไม่ลังเล เขาก้มตัวและยื่นหูไปใกล้ขึ้น

เขาเชื่อว่าเยี่ยฉีไม่กล้าโจมตีเขาภายในเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์