“นี่มันความรู้สึกอะไรกัน?!”

เซี่ยปิงรู้สึกมหัศจรรย์อย่างยิ่ง การบ่มเพาะคู่ของจิตวิญญาณนั้น ไม่รู้ว่ายอดเยี่ยมยิ่งกว่าการบ่มเพาะปกติธรรมดามากแค่ไหน นี่ดูเหมือนเป็นการหลอมรวมกันก็ว่าได้ เป็นการประทะกันของจิตวิญญาณ

เดิมทีจิตวิญญาณในสภาวะหยางบริสุทธิ์นั้นได้ผสมผสานเข้ากับร่างจิตวิญญาณแห่งสวรรค์ของหลิวหยูหลาน หยินและหยางทั้งสองได้หลอมรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว ก่อตัวกลายเป็นรูปร่างของจักรวาล ทั้งสองฝ่ายต่างก็มาถึงสภาวะที่สมบูรณ์

จิตวิญญาณของเขาเหมือนกับมีเส้นไหมสีดำที่ถูกขจัดออกไปอย่างรวดเร็ว สิ่งสกปรกภายในส่วนลึกของจิตวิญญาณถูกขจัดออกไปภายใต้การบ่มเพาะนี้ มาถึงสภาวะที่บริสุทธิ์อย่างถึงที่สุด

นี่ก็ทำให้จิตวิญญาณแข็งแกร่งมากขึ้น กลายเป็นจิตวิญญาณที่ไร้เทียมทาน

“นี่มัน นี่มัน!”

หลิวหยูหลานก็รู้สึกได้ถึงความมหัศจรรย์อย่างยิ่งเช่นกัน รู้สึกว่าตนเองได้เข้ามาในอ้อมกอดของแม่ อยู่ในน้ำคร่ำก็ว่าได้ ทั่วทั้งร่างกายอบอุ่นอย่างมาก รู้สึกได้ถึงความสบายใจบางอย่าง

ร่างจิตวิญญาณแห่งสวรรค์ของเธอก็เหมือนกับว่าจะได้รับการพัฒนาก็ว่าได้ เกิดการระเหิดขึ้น พลังงานวิญญาณก็ได้เพิ่มขึ้นมาด้วยความเร็วที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รวดเร็วยิ่งกว่าการบ่มเพาะใน18ปีที่ผ่านมาของเธอก็ว่าได้

อีกทั้งในสภาวะที่จิตใจที่เชื่อมโยงกันนั้น เธอก็สามารถที่จะสัมผัสได้ถึงปริศนาของวิทยายุทธที่อยู่ในส่วนลึกของอาณาเขตจิตใต้สำนึกของเซี่ยปิงเช่นกัน นี่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่มหาศาลกับเธอ เป็นเหมือนกับสภาวะการเห็นแจ้งก็ว่าได้

ซึ่งภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ สำหรับความเข้าใจของเธอในวิทยายุทธนั้น มันก็อยู่ในจุดที่สูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ทั้งสองคนต่างก็ทำการบ่มเพาะอย่างต่อเนื่อง เพิ่มพลังงานวิญญาณของตนเอง ร่างกายของทั้งสองเปลี่ยนกลายเป็นหลุมวนขนาดใหญ่สองหลุม พลังฉีของธรรมชาติกำลังเอ่อล้นออกมาอย่างบ้าคลั่ง

พลังเวทมนตร์ของทั้งสองก็ได้เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน

ภายในพริบตา ระยะเวลาหนึ่งวันก็ได้ผ่านไป

ในช่วงเวลานี้ ณ ตำหนักสืบทอดภายในสำนักวิญญาณสาขาหลัก

เซี่ยปิงนั่งขัดสมาธิอยู่ที่พื้น หลังจากทำการบ่มเพาะเป็นระยะเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน ทำการบ่มเพาะคู่กับหลิวหยูหลานนั้น ทั้งสองฝ่ายก็ได้ทำความเข้าใจทักษะเชื่อมโยงจิตใจอย่างสมบูรณ์ มาถึงจุดที่หยินและหยางหลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์แบบ

ซึ่งนี่ก็ทำให้เซี่ยปิงได้รับผลประโยชน์ที่มหาศาล

เขานั่งอยู่ที่พื้น เป็นเหมือนกับดวงอาทิตย์ก็ว่าได้ ทั่วทั้งร่างกายมีแสงที่ส่องประกายออกมา เหมือนกับว่าจะทำให้ทั่วทั้งตำหนักสืบทอดนี้กลายเป็นสีทอง แสงสว่างเจิดจ้าอย่างมาก เหมือนกับว่าทำมาจากทองคำก็ว่าได้

หากบางคนอยู่ในตำหนักสืบทอดแห่งนี้ จะต้องรู้สึกอัศจรรย์อย่างแน่นอน เพราะว่าในช่วงเวลานี้พลังอำนาจของจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเซี่ยปิงเป็นเหมือนกับเปลวไฟก็ว่าได้ กำลังจะแผดเผาทุกสิ่งทุกอย่าง

เปลวไฟเหล่านี้เหมือนกับเป็นเตาหลอมศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีวันดับมอด จิตวิญญาณก็เกือบที่จะก่อตัวเป็นสสาร คลื่นความร้อนปัดเป่าออกไป เหมือนกับว่าสถานที่แห่งนี้กำลังจะเปลี่ยนกลายเป็นทะเลเพลิง

ระดับสมปรารถนาขั้นสูง!

หลังจากที่ได้ทำการบ่มเพาะกับหลิวหยูหลานนั้น เซี่ยปิงก็ได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาล ในที่สุดก็ก้าวผ่านระดับสมปรารถนาขั้นกลางและเลื่อนขั้นมาในระดับสมปรารถนาขั้นสูงโดยตรง

อีกทั้งเพราะว่าทักษะเชื่อมโยงจิตใจนี้ ก็ทำให้พลังอำนาจของจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์และพลังเวทมนตร์เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง พลังงานเม็ดยาในร่างกายก็ถูกกลั่นกรอง ทำการพัฒนาร่างกายอย่างต่อเนื่อง ไม่คาดคิดว่าจะพัฒนาจนมาถึงจุดสูงสุดของระดับสมปรารถนาขั้นสูงโดยตรง

นี่เหลืออีกเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้นก็จะสามารถเลื่อนขั้นขึ้นไปในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ได้

เมื่อใดที่เขาทำความเข้าใจความสามารถศักดิ์สิทธ์ได้ ก็จะสามารถก้าวขึ้นไปในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างแท้จริง

หากพัฒนาไปถึงระดับนั้น จะถือว่ามีพลังการต่อสู้ในระดับหนึ่งหากเทียบกับภาพรวมของจักรวาล สามารถที่จะกลายเป็นหน่วยกล้าตายระดับสูงได้ ไม่รู้ว่าพลังการต่อสู้นั้นจะทรงอำนาจกว่าเดิมถึงกี่เท่า

ในช่วงเวลานี้ เซลล์อีกานรกทองคำของเขาก็ได้ตื่นขึ้นมากว่าสองพันเซลล์ ละลายเข้ากับร่างกายอย่างต่อเนื่อง พลังงานของอีกานรกทองคำที่ไร้ขอบเขตเป็นเหมือนกับลาวาก็ว่าได้ โลดแล่นไปตามเส้นลมปราณในร่างกายของเขา

นี่ก็ทำให้ร่างกายของเซี่ยปิงแข็งแกร่งขึ้นมาเช่นกัน ทุกท่วงท่าทุกการเคลื่อนไหวเหมือนกับมีพลังอำนาจของอสูรศักดิ์สิทธิ์อยู่ หมัดที่ประเคนออกไปนั้น จะสร้างแรงลมออกมา ซึ่งมีแรงกดดันเพียงพอที่จะถล่มภูเขาขนาดเล็กได้

ทว่าหลิวหยูหลานนั้นได้รับผลประโยชน์ที่มากกว่าเสียอีก เธอได้เลื่อนขั้นไปในระดับสมปรารถนาขั้นสูงสุดเช่นกัน พลังงานวิญญาณของเธอก็ได้เพิ่มขึ้นมาหลายเท่า เธอนั่งอยู่ที่จุดเดิม ร่างกายมีแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องสว่างออกมา เป็นเหมือนกับเทพธิดาก็ว่าได้

ในตอนนี้ทั้งสองคนต่างก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมๆกัน ในที่สุดก็ฟื้นคืนสติกลับมาจากสภาวะการบ่มเพาะ พลังอำนาจของศิลาจารึกที่ห่อหุ้มตัวของทั้งสองก่อนหน้านี้ก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นกัน

“อ๊าก!”

หลังจากที่ลืมตาขึ้นมา ใบหน้าที่งดงามของหลิวหยูหลานก็แดงขึ้น ดวงตาที่งดงามของเธอเผยให้เห็นถึงความอับอาย เธอได้ยกมือขึ้นมาและผลักเซี่ยปิงที่ติดอยู่กับตนเองออกไป ร่างกายกำลังสั่นเทาเล็กน้อย

ขาเรียวราว เอวเพรียวบางและสัดส่วนโค้งเว้าถูกเปิดเผยจนหมด รูปลักษณ์ที่ทำให้ผู้หญิงทั้งทวีปต้องยอมจำนน มีเสน่ห์ที่ไร้ที่สิ้นสุด หากชายคนอื่นๆได้เห็น บางทีอาจจะคลุ้มคลั่งออกมาได้ ไม่มีชายคนใดจะสามารถยับยั้งอารมณ์ของตนเองอยู่

“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?!” ดวงตาที่งดงามของหลิวหยูหลานแวววาวสดใส ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย นึกได้ถึงเรื่องเมื่อคืน เธอก็รู้สึกเขินอายอย่างถึงที่สุด เหมือนกับว่าตนเองได้กลายเป็นผู้หญิงที่ไร้ยางอาย

เพราะว่าทักษะเชื่อมโยงจิตใจนั้นเป็นทักษะการบ่มเพาะที่แนบชิดจริงๆ ต่อให้จะเป็นสมาชิกของครอบครัวก็ไม่ได้แนบชิดกันเช่นนี้ นี่คือการบ่มเพาะคู่ของจิตวิญญาณ หลอมรวมกันกลายเป็นหนึ่ง สามารถที่จะแบ่งบันความลับและความรู้สึกของกันและกันได้

เรียกได้ว่าบนโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่จะแนบชิดไปกว่านี้อีกแล้ว แม้กระทั่งสามีและภรรยาก็ไม่ได้แนบชิดกันถึงขั้นนี้

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สัมผัสกันทางกายภาพ ทว่าหากต้องอธิบายความรู้สึกจริงๆ เธอรู้สึกเหมือนกับว่าตนเองได้สูญเสียความบริสุทธิ์ให้กับเจ้าคนหื่นกามนี้ก็ว่าได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังทำการบ่มเพาะเป็นระยะเวลาถึงหนึ่งวันหนึ่งคืน ไม่รู้ว่าใช้วิธีการจำนวนมากแค่ไหน

จดจำได้ว่าในการบ่มเพาะนั้นเจ้าหื่นกามนี้ มีความคล่องตัวอย่างมาก เปลี่ยนแปลงท่าทางอย่างไม่ขาดสาย หลิวหยูหลานรู้สึกละอายใจจนโมโห อันที่จริงเจ้าบัดซบนี่ได้ร่วมรักกับผู้หญิงจำนวนมากแค่ไหนกันถึงได้เข้าใจความรู้มากมายเช่นนี้ อันที่จริงข้างกายของเขามีนางสนมจำนวนมากแค่ไหนกัน?

ว่ากันว่าในจักรวาลนั้น มีดาวเคราะห์จำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งดาวเคราะห์แต่ละดวงก็มีจำนวนของปีศาจต่างถิ่นที่มากมายเหมือนกับจำนวนปลาคาร์ฟก็ว่าได้ ไม่สามารถที่จะนับได้  ซึงไม่รู้ว่าเจ้าป่าเถื่อนนี่จะมีผู้หญิงเป็นของตนเองจำนวนมากแค่ไหน

“โอ้ สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ทั้งวันเอาแต่ตีห่าน ไม่คาดคิดว่าวันหนึ่งจะถูกห่านจิกตา ไม่คาดคิดว่าข้าเซี่ยปิงจะมีวันนี้เช่นกัน ไม่คาดคิดว่าจะถูกผู้หญิงขืนใจ ช่างเป็นความอัปยศอดสูที่ยิ่งใหญ่จริงๆ”

เซี่ยปิงคำรามออกมาสู่ท้องฟ้า ขอบตาเหมือนกับว่ามีน้ำตาอยู่ ท่าทางของเขาเหมือนกับเป็นชายหนุ่มหล่อเหลาที่ถูกราชินีจับไปก็ว่าได้ ถูกราชินีปู้ยี้ปู้ยำทั้งคืน หดหู่อย่างมาก เป็นความเจ็บปวดทรมานของจิตใจ

“เจ้าว่าอย่างไรนะ?!” ดวงตาที่งดงามของหลิวหยูหลานเป็นเปลวไฟขึ้นมา จ้องมองไปที่เซี่ยปิง

การที่ได้ทำการบ่มเพาะคู่กับผู้หญิงที่งดงามอย่างเธอนั้น ไม่รู้ว่าเป็นความฝันที่ผู้ชายจำนวนมากแค่ไหนเฝ้ารอให้เกิดขึ้นกับตนเอง หากปล่อยให้โอกาสเช่นนี้หลุดมือไปนั้น จะต้องทำให้หลุมฝังศพของบรรพบุรุษเต็มไปด้วยควันที่ร้อนระอุอย่างแน่นอน

ทว่าเจ้าบัดซบนี่กลับมีความคิดที่แตกต่างออกไป อีกทั้งยังบอกว่าสี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ราวกับว่าเธอได้บีบบังคับผู้ชายคนนี้

ในฐานะที่เธอเป็นนักบุญหญิงของสำนักวิญญาณนั้น เธอได้พบเจอกับชายชราที่เจ้าเล่ห์มากมายและลูกศิษย์ที่โหดเหี้ยมเป็นจำนวนมาก ทว่าชายที่ไม่มีความละอายใจเช่นนี้ เธอเพิ่งได้พบเห็นเป็นครั้งแรก

“เจ้า…เจ้าต้องการจะทำอะไร? อย่าใช้พละกำลังบีบบังคับข้า!”

เซี่ยปิงมองหลิวหยูหลานด้วยสีหน้าที่แตกตื่น เหมือนกับมองปีศาจที่กำลังจะเข้ามาทำร้ายตนเองก็ว่าได้

“ใครต้องการจะใช้พละกำลังบีบบังคับเจ้ากัน อย่าเพ้อฝันไป!”

หลิวหยูหลานจ้องมองอย่างโมโห ปรารถนาที่จะกัดเจ้าคนป่าเถื่อนนี่จนตาย

“อย่าปิดบัง ข้าสามารถเห็นได้ว่าเจ้านั้นกำลังพยายามจะขืนใจข้า”

เซี่ยปิงเผยท่าทางที่สามารถมองอย่างทะลุปรุโปร่ง “ถึงแม้ว่าข้านั้นจะต้องการต่อต้าน ทว่าข้าก็รู้ดีว่าข้านั้นไม่ใช่คู่มือของเจ้าอย่างแน่นอน ต่อให้วันนี้เจ้าจะได้ร่างกายของข้าไป แต่เจ้าจะไม่มีวันได้หัวใจของข้า!”