ตอนที่ 855 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (75)
ไม่!!
ไม่ใช่ภาพลวงตา
ภาพสุดท้ายนั้นไม่ใช่ภาพลวงตา…ฟังจือหันมาแล้ว!
ฟังจือหันมาแล้วจริงๆ
อวี๋กานกานยิ้มออกมาเล็กน้อย เหลือบมองเสี่ยวเล่อเล่อที่ยังคงนอนหลับสนิทในถังแล้วตัวเองก็ค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ ปล่อยร่างกายให้ผ่อนคลายทุกอย่าง!
หลังจากที่เสี่ยวเล่อเล่อโดนลักพาตัวไป หลินจยาอวี่ไม่ได้พักผ่อนทั้งวัน นั่งบนโซฟา กอดข้าวของที่เสี่ยวเล่อเล่อเคยใช้ เหมือนกับว่าวิญญาณได้หลุดออกไปจากร่างกายแล้ว
เธอรู้สึกว่าเป็นความผิดของตัวเองทั้งหมด
ทุกอย่างเป็นเพราะเธอไม่ได้ดูแลเสี่ยวเล่อเล่อให้ดี และยังทำร้ายอวี๋กานกาน ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะเป็นยังไงบ้าง
ไม่ว่าจะเป็นใคร ถ้าไม่อาจกลับมาได้อย่างสมบูรณ์ เธอก็ควรใช้ความตายชดใช้ความผิด
ถึงอย่างไรก็ตามหลังจากที่เสี่ยวเล่อเล่อกับอวี๋กานกานโดนลักพาตัวไป หลินจยาอวี่ไม่ดื่มแม้แต่น้ำสักอึกคล้ายกับว่าลงโทษตัวเอง
โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะแคบดังขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว
หลินจยาอวี่เหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน พุ่งไปอย่างรวดเร็วแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ในสายตาชื่อของลู่เสวี่ยเฉินปรากฏขึ้นมากะทันหันบนหน้าจอ หลินจยาอวี่รีบรับสายแต่กลับพูดไม่ออก มีเพียงเนื้อตัวที่สั่นเทาอย่างควบคุมไว้ไม่อยู่ “…”
อยากจะถามว่าหาอวี๋กานกานกับเสี่ยวเล่อเล่อเจอไหมแต่ก็กลัวว่าหลังจากที่ถามออกไปจะได้รับคำตอบที่ไม่ต้องการ
ลู่เสวี่ยเฉินรู้ถึงความกังวลและไม่สบายใจของเธอโดยที่เธอไม่จำเป็นต้องพูด จึงรีบพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “หาเจอแล้ว พวกเขาสบายดี ลูกชายไม่เป็นไร เสี่ยวอวี๋กานก็ไม่เป็นไร พวกเขาปลอดภัยกันดี”
ไม่เป็นไร!!
ทั้งเสี่ยวเล่อเล่อกับอวี๋กานกานต่างก็ไม่เป็นไร
หลินจยาอวี่นิ่งอึ้งไปพักหนึ่งพลันร้องไห้เสียง “ฮือ” ออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ลู่เสวี่ยเฉินที่อยู่อีกด้านตกใจ “เป็นอะไรไป?”
หลินจยาอวี่ร้องไห้อย่างน่าสงสารจับใจไปด้วยพลางพูดพร้อมกับสูดหายใจไปด้วย “ไม่มีอะไร ลูกชายกับกานกานไม่เป็นไรแล้ว ฉันก็ไม่เป็นไร”
ลู่เสวี่ยเฉินรู้ในทันทีว่าเธอร้องไห้ด้วยความดีใจ เพียงแค่ร้องไห้เกินจริงไปหน่อย เขาหัวเราะออกมาอย่างทำอะไรไม่ได้ “ผมกำลังพาลูกชายกลับบ้านแล้ว”
“อืม” หลินจยาอวี่รับคำ จากนั้นก็ร้องไห้ต่อ
ลู่เสวี่ยเฉินก็ไม่ได้วางสาย ฟังอยู่อย่างนั้น
คาดว่าแม่ลูกใจสื่อถึงกัน ต่อให้มีโทรศัพท์กั้น เสี่ยวเล่อเล่อก็รับรู้ได้ถึงความเศร้ากับความดีใจของแม่ เสี่ยวเล่อเล่อตื่นแล้ว และร้องไห้ขึ้นมา
ได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกชาย สุดท้ายหลินจยาอวี่ก็ไม่ร้องไห้อีก รีบเอ่ยถาม “ลูกชายเป็นยังไงบ้าง”
“หมอนี่ตื่นแล้ว ร้องไห้แล้ว จะต้องหิวแล้วแน่เลย ผมปลอบเขา” ไม่มีอาหารอยู่ในมือ แค่ปลอบเอาไว้ ถึงแม้จะปลอบอยู่แต่เขาก็ไม่ได้วางสายไป
มีแค่โทรศัพท์กั้นก็ยังสามารถรู้สึกถึงความรักของลู่เสวี่ยเฉินที่มีต่อลูกได้ หลินจยาอวี่จู่ๆ ก็เรียก “ลู่เสวี่ยเฉิน”
ลู่เสวี่ยเฉินส่งยิ้มให้ลูกชายจากนั้นก็รับคำ “หือ”
“พรุ่งนี้…เราย้ายบ้านกันเถอะ”
“อือ” ลู่เสวี่ยเฉินหลุดปากตอบรับไป อึ้งไปครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยเสียงสูงขึ้น “อะไรนะ?”
“ไม่ได้ยินก็ช่างเถอะ”
“ได้ยินแล้วๆ ที่รัก ผมรักคุณ!”
หลินจยาอวี่ไม่ได้ตอบเขากลับวางสายไปในทันที ขณะร้องไห้ก็ยิ้มพร้อมกับพึมพำไปด้วยว่า ฉันก็รักคุณ ที่รัก!
แม้ว่าการพบเจอกันระหว่างพวกเขาจะไม่ได้สวยงาม แม้ว่าเขาจะหลอกเธอแต่ว่าเขาจริงใจ อีกทั้งรักเธอด้วยใช่ไหม ใจของเธอรู้สึกได้
และงอนนี่มันเหนื่อยมากจริงๆ!
เธอไม่อยากสูญเสียคนหนึ่งที่รักตนเองเพราะว่างอนเลยสักนิดเดียว
รักษาปัจจุบัน เธอจะต้องเก็บรักษาความสุข เก็บรักษาสิ่งที่มี
รักษาความอบอุ่นที่พระเจ้ามอบให้
รักษาคนในครอบครัวกับเพื่อนทุกคนที่สำคัญข้างกาย
ตอนที่ 856 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (76)
พระอาทิตย์ส่องสว่างอาบไล้ชั้นเมฆ ทอดลงเหนือทะเล ฟ้าสว่างแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจบลงแล้ว
ลู่เสวี่ยเฉินอุ้มลูกชาย โทรศัพท์กับหลินจยาอวี่ที่ท้ายเรือ ส่วนฟังจือหันกอดอวี๋กานกาน นั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ทะเลอยู่ตรงหัวเรือ
ฟังจือหันบอกอวี๋กานกานว่าเฉียนต้าเซิงไม่ได้หนีไป โดนตำรวจพาไปที่สถานีตำรวจแล้ว เพียงแค่เฉียนต้าเซิงให้ตายก็ไม่ยอมบอกตำแหน่งของเรือ
พวกเขาจึงกระจายออกไปตามหาจากตำแหน่งของเรือเร็วจึงใช้เวลาพักหนึ่ง โชคดีที่เธอไม่เป็นไร เสี่ยวเล่อเล่อก็ปลอดภัย
ทิวทัศน์งดงามตรงหน้า หนุ่มหล่อในอ้อมแขน อวี๋กานกานไม่อยากพูดถึงเฉียนต้าเซิง แขนสองข้างของเธอโอบรอบเอวของฟังจือหัน เชยตามองเขาพร้อมกับเอ่ย “เมื่อกี้ตอนที่แช่อยู่ในทะเล ฉันนึกเรื่องมากมายขึ้นมาได้”
มุมปากของฟังจือหันยกขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าเย็นชาเต็มไปด้วยรอยยิ้มบาง
เขาถาม “งั้นผมคือใคร?”
“พี่ เจียง” อวี๋กานกานเรียกเบาๆ ทีละคำ ทุกครั้งที่เรียกคล้ายกับปลายลิ้นนุ่มวนหลายรอบ
ฟังจือหันมองเธอ แต่ไม่ได้ตอบรับ “…”
อวี๋กานกานเรียกต่อ “พี่เจียง”
“พี่เจียง”
“พี่เจียง”
เธอเรียกติดกันสามครั้ง ทั้งหวานทั้งนุ่ม
เสียงท้ายนุ่มยิ่งลากยิ่งยาว เหมือนจะเรียกไปจนถึงก้นบึ้งหัวใจเขา
มุมปากของฟังจือหันเป็นเส้นโค้งยิ่งชัดเรื่อยๆ
จู่ๆ เขาก็โน้มตัวลงมาแนบจูบที่ริมฝีปากเธอ แฝงความเอ็นดูทั้งใจและความรักซาบซึ้งกับความรู้สึกจริงใจอย่างที่สุด
งานแต่งงานจัดขึ้นตามปกติ
ฟังจือหันอยากจะเลื่อนออกไปแต่ว่าอวี๋กานกานยืนกรานว่าไม่ยอม
ดอกไม้แห้งเหี่ยว สื่อถึงการเบ่งบานครั้งใหม่
ใบไม้ร่วงหล่น สื่อถึงความเขียวชอุ่มครั้งใหม่
จักจั่นไม่ร้อง สื่อถึงการเริ่มต้นครั้งใหม่
ส่วนงานแต่งงานสื่อถึงทำนองแห่งความสุขอันยาวนาน
งานแต่งงานของอวี๋กานกานกับฟังจือหันถูกจัดขึ้นที่โรงแรมสุดหรูในเมืองหลวง
เมื่อเพลงมาร์ชงานแต่งงานดังขึ้น เจ้าบ่าวเจ้าสาวเดินพรมแดงอย่างช้าๆ
งานแต่งวันนี้มีสิ่งหนึ่งที่พิเศษมาก ปกติตอนที่เจ้าสาวเดินพรมแดงต่างก็คล้องแขนพ่อ
แต่ว่าเจ้าสาวของวันนี้กลับคล้องแขนผู้ชายสองคน
กู้เชินกับเหอสือกุยคนหนึ่งอยู่ข้างซ้ายคนหนึ่งอยู่ข้างขวา อวี๋กานกานคล้องแขนพ่อกับอาจารย์เหม่ยเหรินของเธอ ให้ผู้ชายสองคนนี้ที่สำคัญในชีวิตพาเธอก้าวผ่านซุ้มประตูดอกไม้อลังการ ก้าวเดินไปทีละก้าวไปหาฟังจือหันซึ่งอยู่ที่อีกด้านของพรมแดง
ก่อนส่งอวี๋กานกานให้ฟังจือหัน เหอสือกุยพูดด้วยความรู้สึกหลากหลาย “วันนี้ผมยกเธอให้คุณ ถ้าคุณทำไม่ดีกับเธอเพียงนิดเดียว ผมจะพาเธอไปจากคุณ”
กู้เชินเสริมอีกหนึ่งประโยคด้วยเสียงเย็น “และเธอจะไม่ได้เห็นหน้าเขาไปตลอด”
ฟังจือหันที่สวมชุดสูทสีขาวกล่าวด้วยมุ่งมั่นและจริงจัง “พวกคุณคงไม่มีโอกาสนั้น!”
กู้เชินกับเหอสือกุยสบตากัน จากนั้นก็ส่งมือของอวี๋กานกานให้ฟังจือหันพร้อมกัน
ฟังจือหันกุมมือของอวี๋กานกานแน่น และพูดกับกู้เชินกับเหอสือกุย “ขอบคุณพวกคุณมากครับ ที่มอบโลกทั้งใบให้กับผม พวกคุณโปรดสบายใจ ผมจะเคารพ รัก เอ็นดูเธอตลอดชีวิต”
หลังจากพูดจบ สายตาทอดมองมาที่ตัวอวี๋กานกาน
อวี๋กานกานสบตาพร้อมกับส่งยิ้มทะลุผ่านผ้าคลุมหน้าสีขาว
ภาพคู่รักสบตากันอย่างมีความสุขช่างงดงามราวกับแม้แต่แสงอาทิตย์ยังไร้สีเมื่ออยู่ตรงหน้าพวกเขา
หลังจากงานแต่ง อวี๋กานกานกับฟังจือหันไม่ได้ไปฮันนีมูน หลังอวี๋กานกานพักผ่อนไม่กี่วันก็ไปทำงานต่อ และฟังจือหันก็มีงานเยอะมาก
ทั้งสองคนยังคงเหมือนที่ผ่านมา ต่างคนต่างมีงาน ตอนเช้าไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่กลางคืนกลับถึงบ้านกลับสนิทและรักใคร่กันยิ่งกว่า
ตอนที่ 857 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (จบ)
อวี๋กานกานกับฟังจือหันต่างก็ไม่ได้วางแผนที่จะมีลูกเร็วขนาดนั้น แต่ผ่านไปครึ่งปี อวี๋กานกานพบว่าตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจ ปรึกษากันหลายครั้งทั้งคู่ตัดสินใจให้เด็กเกิดมา
นี่ทำให้ปู่เจียงกับปู่ฟังชายแก่สองคนนี้มีความสุขจะแย่แล้ว
คนหนึ่งซื้อหนังสือเกี่ยวกับการตั้งครรภ์กองใหญ่มาส่งตรงหน้าอวี๋กานกาน
อีกคนหนึ่งซื้อเสื้อผ้าข้าวของเด็กทารกกองใหญ่มาส่งตรงหน้าอวี๋กานกาน
ยังหาผู้ช่วยพยาบาล คนรับใช้ นักโภชนาการมาเตรียมอาหารหลากหลายสำหรับคนท้องให้อวี๋กานกานทุกวัน และปกป้องดูแลด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก
แต่ว่าชายแก่สองคนมาปรากฏตัวพร้อมกันไม่บ่อย ถ้ามาพร้อมกันแล้วก็ต่างมองกันอย่างไม่สบอารมณ์ พวกเขาสองคนเหมือนกับตกลงกันไว้แล้วว่าหนึ่งคนมาหนึ่งวัน แต่ว่าทุกครั้งที่พวกเขามาแล้วต่างก็จะพูดให้ร้ายอีกฝ่ายต่อหน้าอวี๋กานกาน
และช่วงที่อุ้มท้อง อวี๋กานกานยังรู้เรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งเข้า
มีวันหนึ่งปู่เจียงถือโทรศัพท์เล่นอินเทอร์เน็ต อวี๋กานกานชำเลืองดูก็ตกใจเสียยกใหญ่ไปชั่วขณะแล้วพูดด้วยความตกใจสุดขีด “คุณปู่ คุณคืออวี๋กานนี่เอง”
ปู่เจียงถือโทรศัพท์พลางถลึงตามองเธอผ่านแว่นสายตายาว “ทำไม ไม่ได้เหรอ?!”
อวี๋กานกานโบกมือพร้อมกับยิ้ม “เปล่าค่ะๆ…”
สุดยอดเกินไปแล้ว
ชายแก่ที่รักในการท่องโลกอินเทอร์เน็ต ดูทันสมัย ดูเท่เล็กน้อยและยังน่ารักหน่อยๆ ด้วย
เพียงแต่ว่าทำไมเธอถึงได้คิดไม่ถึงว่าอวี๋กานจะเป็นปู่เจียง!
งานคืน อวี๋กานกานนอนในอ้อมแขนของฟังจือหันพร้อมกับเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง ฟังจือหันกลับไม่ได้แปลกใจเลยสักนิด นิ้วมือวาดไปบนผิว “ถ้าคุณว่าไม่ดี ผมจะให้คนไปแฮกบัญชีเขา จากนั้นก็เปลี่ยนรหัส”
“ไม่ต้อง ฉันแค่แปลกใจ ที่จริงนะ รู้สึกว่าคุณปู่เล่นเวยป๋อ และยังอยากเป็นเน็ตไอดอลนี่ดูน่ารักมากเลย” อวี๋กานกานกลั้นขำพลางเอ่ย “อ๋อ ใช่แล้ว วันนี้คุณปู่เอาชื่อบางส่วนมา ให้คุณเลือกมาชื่อหนึ่ง”
ฟังจือหันพูด “คุณเลือกก็ได้แล้ว”
อวี๋กานกานพูดปนยิ้ม “งั้นรอลูกเกิดมาค่อยเลือกเถอะ ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง”
“เป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรก็ไม่สำคัญเท่าคุณ” ชายหนุ่มพูดจบก็จูบลงบนกลีบปากของเธอ
ความสามารถในการพูดคำหวานของชายหนุ่มก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นแล้ว ภายในใจของอวี๋กานกานรู้สึกเพียงความรู้สึกนับพันที่พูดออกมาไม่หมด ความคิดถึงนับหมื่นที่พูดไม่จบ ทั้งกายและใจหวานหยดเสียยิ่งกว่าน้ำตาล
ความประสงค์ในชีวิตนี้ จับจูงมือแก่เฒ่าไปพร้อมกัน!
เหอสือกุยไปศึกษาการแพทย์ขั้นสูงที่ต่างประเทศหลังจากงานแต่งงานของอวี๋กานกาน ตอนที่เขารู้ว่าอวี๋กานกานตั้งท้องก็รีบซื้อตั๋วเครื่องบินกลับมา
แต่ว่าเขาไม่ได้มาเยี่ยมอวี๋กานกานที่บ้านคนเดียว ยังพาหลานชายตัวน้อยของเขา เหอจิงม่อกับทนายเฉินมาด้วย
ทนายเฉินเมื่อก่อนก็คือทนายของปู่เหอ วันนี้เขามาเพื่ออ่านพินัยกรรมของปู่เหอ
พินัยกรรม? อวี๋กานกานเกือบจะลืมเรื่องพินัยกรรมของปู่เหอไปแล้ว เรื่องที่สู้กันกับคุณลุง คุณป้า เหอหว่านซินพวกนั้นไม่หยุดเพื่อคลินิก เพื่อพินัยกรรมก็เหมือนกับเรื่องของชาติที่แล้ว
เนื้อหาพินัยกรรมของปู่เหอมีความเกี่ยวข้องกับที่อวี๋กานกานแต่งงานจริง
พินัยกรรมระบุว่าถ้าอวี๋กานกานแต่งงาน มีลูก ให้อวี๋กานกานเป็นผู้สืบทอดอวี้หมิงถาง แต่ว่านี่เป็นมรดกที่ยกให้เป็นของขวัญ ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับคู่สมรสของอวี๋กานกาน อีกฝ่ายไม่มีสิทธิ์หรืออำนาจในการสืบทอดมรดก ผู้ดูแลคือเหอสือกุยกับเหอจิงม่อ
ที่จริงนี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่ตอนปู่เหอมีชีวิตอยู่คิดมาอย่างดีเพื่ออวี๋กานกาน เพื่อให้มั่นใจว่าชีวิตนี้ของเธอจะไม่มีเรื่องใดให้กังวล
ในหัวใจของอวี๋กานกานเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ
ชาตินี้เธอได้เจอกับคุณปู่ ช่างเป็นความโชคดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตนี้แล้วจริงๆ
รอให้เมืองเก่าปรับปรุงเสร็จ เธอจะกลับเมืองไป๋หยางแน่ จะกลับไปสืบทอดปณิธานการแพทย์ของคุณปู่ ทำให้การแพทย์แผนจีนเจริญรุ่งเรืองต่อไป เพื่อพยายามสืบทอดกิจการแพทย์แผนจีนไปตลอดชีวิต
สองปีต่อมา
เมืองไป๋หยาง ถนนหนานเจิ้นเสียงกลองคึกคัก เชิดสิงโตครึกครื้น โรงพยาบาลอวี้หมิงถางเปิดให้บริการอย่างยิ่งใหญ่…
ทุกอย่างเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น!
(จบ)