“ทำไมพวกท่านยังเฝ้าดูกันอยู่” เซียวหยูมองดูผู้คนที่รวมตัวกันอยู่ด้านหลังซูเทียนจิ “เกมนี้มันดีจริงๆหรอ?”
“มันดูธรรมดา ..” เขาพูดพึมพำ “มันก็คล้ายกับการค้นหาสิ่งต่างๆ ในห้องมืด .. ไม่เห็นน่าสนใจเท่ากับ Resident Evil! เลย”
ในขณะเดียวกันอันเชงเดินมาข้างหลังเขา “อ้าวศิษย์พี่หยูท่านมาดูเขาเล่นเกมอีกแล้วหรือ?”
“ ‘อีกครั้ง?’ เจ้าหมายความว่าไง?” ใบหน้าอันหล่อเหลาของเซียวหยูกระตุก “ชั่งเถอะ .. ว่าแต่ไซเลนต์ฮิลล์นี่สนุกมั้ย? เห็นคนดูกันเต็ม”
“ท่านอยากดูหรอ เดี๋ยวข้าจะเล่นให้ดูตั้งแต่แรกเอง”
“เยี่ยม!” เซียวหยูพูดอย่างตื่นเต้น
…
ช่วงเวลาเช้าของทุกวัน .. สองผู้เล่นประจำคาเฟ่มักชอบนั่งกินอาหารบริเวณห้องนั่งเล่น ณคาเฟ่
“อืม! ข้าชอบทุกสิ่งที่อยู่ในถ้วยนี้ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารที่อร่อยที่สุด!” อันหูเว้ยสูดกลิ่นอันหอมหวล
ซงฉิงเฟิงนั่งอยู่บนโซฟาส่วยหัวไปมา “ข้ามีอายุแค่สิบหกปีเท่านั้น ข้านี่ช่างร่ำรวยมากจนไม่รู้จักวิธีใช้เงิน ในอดีตข้าเคยนำน้ำเปล่าอันบริสุทธิ์เข้าไปในคาเฟ่เพื่อจิบระหว่างวัน แต่ตอนนี้ช่างดีเป็นไหนๆ ที่ข้าสามารถเพลิดเพลินกับโค้กและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพร้อมไส้กรอกทุกวัน ข้าพบว่าตัวเองกำลังหลงไหลจนหาทางออกไม่เจอแล้ว!”
คนอื่นๆ หันไปจ้องมองซงฉิงเฟิงที่กำลังพร่ำเพ้อด้วยสายตาประหลาดใจ
ฟางฉีหันไปมองซงฉิงเฟิงที่กกำลังพร่ำเพ้อ “เจ้าบ้า ..”
“อะไรนะ” ซงฉิงเฟิงมองหน้าที่บูดบึ้งของฟางฉี “ข้าได้ยินนะ”
“หืม!” ซูเหลียวแทรกในขณะเคี้ยวบะหมี่ “ข้าก็ได้ยิน”
ซงฉิงเฟิงที่นั่งอยู่บนโซฟาพูดต่ออีกว่า “ตั้งแต่ผลสอบระดับชาติของข้าออกมาเป็นที่น่าพอใจ ข้าก็ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวมากขึ้น นี่จึงเป็นสิ่งที่ข้าภูมิใจและรู้สึกดีมากในตอนนี้”
“ข้าเห็นด้วย!” ซูฉีซินเห็นด้วยกับเขา
ทุกคนรอบๆ หมดคำพูด
“พวกเจ้าช่วยหยุดสาธยายได้มั้ย ..” ฟางฉีกลอกตา
“โอ้! ท่าน” ซงฉิงเฟิงยืนขึ้น “วันนี้ท่านจะเล่นไซเลนต์ฮิลล์มั้ย?”
“พวกเรารอดู!” เมื่อทุกคนได้ยินคำถามของซงฉิงเฟิงจึงชิงตอบด้วยความพร้อมเพียงกัน
“ท่านจะเล่นเมื่อไร พวกเรารู้ดูอยู่!”
“ใช่! เจียงเสี่ยวหยูกล่าว “เจ้าของร้านบอกว่าวันนี้เขาจะถ่ายทอดสดการเล่นที่แท้จริงให้เราดู”
“ข้าพูดเช่นนั้นหรอ?”
“ใช่ ท่านทำได้!” นาหลันหมงิสื่อเงยหน้าขึ้นจากถ้วยบะหมี่
“ข้าก็ได้ยินแบบนั้น” หลันยันสนับสนุน
“เจ้าของร้านจะเบี้ยวหรอ?” ตงชิงลี่ทำหน้ากวน
“ข้าก็แค่เกรงว่าพวกเจ้าจะกลัวหากข้าเข้าไปลึกกว่านี้”
“พวกเราแค่เฝ้าดู มันจะทำให้กลัวได้อย่างไร”
“ไม่ฟังข้ออ้าง!”
“ท่านเล่นเลย” แต่ละคนต่างตั้งหน้าตั้งตาหาคำพูดเพื่อทำให้ฟางฉียอมจำนน
“เจ้าของร้านกำลังจะเล่นไซเลนต์ฮิลล์อีกรอบใช่มั้ย?” องค์หญิงและผู้คนจากอีกสองสำนักที่เพิ่งเดินเข้ามาหันไปจ้องมองกลุ่มคนที่กำลังสนทนากันอย่างเมามัน
“ไปดูกันเถอะ!” แม้ว่าบางคนจะรู้สึกกลัว แต่มันมีแรงกระตุ้นบางอย่างที่ทำให้พวกเขารู้สึกอยากดูไม่แพ้กัน
ยิ่งพวกเขากลัวมากเท่าไรพวกเขาก็ยิ่งอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับไซเลนต์ฮิลล์และชะตากรรมของตัวละครหลักมากขึ้นเท่านั้น!
นอกจากนี้นี่ยังเป็นเวลากลางวันพร้อมทั้งผู้คนมากมายๆ มันจะน่ากลัวแค่ไหนกัน
เฟงหัวและยูซินมองหน้ากัน .. พวกเธอพบที่ที่เหมาะสมที่จะรวมตัวแล้ว “น้องเซียว! เราเป็นผู้หญิงเจ้าเป็นผู้ชายนั่นเจ้ากำลังทำอะไร?”
“ศิษย์พี่ ..ฉัน ฉัน” เซียวหยูกระซิบ “เกมนี้น่ากลัวมาก!”
“แล้วเจ้าดูทำไม?” พวกเขาทำหน้าเพลีย
“ท่านสองคนก็กำลังดูไม่ใช่หรือ”
“กลัวนักก็กลับบ้านไปเลย” พวกเขาไล่ “หรือเจ้าจะเปลี่ยนไปใส่ชุดเมื่อวานแทน”
เซียวหยูสตั้น .. สองสาวเอ่ยถึงความทรงจำเมื่อวานอันน่าอับอายของเขา!
…
ขณะนี้ฟางฉีได้กำลังทำการถ่ายทอดสด
“ตอนนี้เจ้าของอยู่ที่ไหนในเกม?” เซียวหยูถาม
“เขาเพิ่งหลบหนีจากปิราดมิดเฮด” เฟงหัวและยูซินตอบด้วยความเร่งรีบ
“มีคนบอกว่าวันนี้เจ้าของจะแสดงให้ดูว่าการฆ่าที่แท้จริงมันเป็นอย่างไร” เฟงหัวตอบเสียงต่ำ
“ใช่ ข้าก็ได้ยิน”
พวกเขาเฝ้าดูด้วยความสนใจ
“เจ้าของทำไมขี้ขลาดแบบนั้น” เซียวหยูที่ซุกตัวด้วยความกลัวอยู่ในมุมห้องพูดดูถูกเมื่อเห็นเจ้าของร้านกำลังวิ่ง
นาหลันฮงวู, ซูฉีซินพร้อมคนอื่นๆ ไม่รู้สึกกลัวเท่าวันก่อนอาจเป็นเพราะวันนี้พวกเขาได้รับชมการถ่ายทอดสดในเวลาเช้าพร้อมฝูงชน จึงไม่รู้สึกเสียวสันหลังแบบที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามหลังจากดูการถ่ายทอดสดของฟางฉีเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง
…
“อ่า!” ทุกคนรู้สึกขนลุก พวกเขาพบว่าฉากที่กำลังปรากฏขึ้นเป็นเตียงนอนที่เต็มไปด้วยผู้คน ซูฉีซินและเฉินชิงชิงกอดกันกลม
“ท่าน! ไหนรูปแบบการฆ่า!”
“ใช่!” ตงชิงลี่และคนอื่นๆ ประท้วง “เราเห็นว่าท่านปิดประตูแล้ววิ่ง ทำไมระแวงขนาดนั้น”
ฟางฉีกล่าวสั้นๆ “ดูอย่างระมัดระวัง ข้ากำลังจะเริ่มแล้ว”
“อ่ะ!” ตงชิงลี่กรีดร้องพร้อมปืดตา “มันสายไปแล้ว! ตอนนี้พวกเราเริ่มระแวงแล้ว”
ฟางฉีทิ้งปืนมืดสั้นและไม้เท้าทั้งหมดแล้วเปิดประตูออกพร้อมที่จะวิ่งออกจากอพาร์ตเม้นแห่งนี้
“เขากำลังทำอะไรอยู่?” ผู้ชมทั้งหมดทำหน้าสงสัย
“ท่านบ้าไปแล้วหรอ” เซียวหยูตะโกน
“เขาทิ้งสิ่งของทั้งหมด? เขาจะต่อสู้กับปีศาจมือเปล่า?”
ผู้ชมต่างตั้งหน้าตั้งตาเฝ้าชม ขณะเดียวกันฟางฉีีเดินลงบันไดเพื่อไปหาเจ้าปิรามิดเฮดที่กำลังทรมาณปีศาจตัวอื่นด้วยความรุนแรง เมื่อเดินเข้าไปในห้อง จู่ๆ ประตูด้านหลังเขาก็ปิดลงโดยอัตโนมัติ!
มันถูกปิดและถูกล็อคจากอีกฝั่งหนึ่ง!
ขณะนี้ฟางฉีค่อนข้างตื่นตระหนก เขาถูกขังไว้กับปิรามิดเฮดในห้องแคบใต้บันได ที่สำคัญปีศาจตัวนี้มีมีดขนาดยักษ์ในมือ
ทุกคนเริ่มสั่นด้วยความกลัว
ฟางฉีไม่สนใจสถานการณ์ภายนอก
“รูปแบบการฆ่านี้ค่อนข้างจะไม่ธรรมดา ข้าจะอธิบายว่าทำอย่างไร”
“อ๊ากกกก!” เสียงกรีดร้องในคาเฟ่ดังเพิ่มขึ้นทุกวินาที
บนหน้าจอฟางฉีกลิ่งตัวลงบนพื้นเพื่อหลบมีดยักษ์ จากนั้นเขากระโดนขึ้นและวิ่งหลอกพาไปในที่แคบๆ นี่เป็นการแข่งขันที่ต้องใช้สมอง ความรวดเร็วและความกล้าหาญ
ผู้ชมปิดบางเงียบ ไม่มีใครกล้าเอื้อนเอยแถมยังหรี่ตาเพื่อรับชม
ฟางฉีจะต้องตายแน่ หากถูกห่ำหันด้วยมีดยักษ์อันนี้!
เขาจะต่อสู้กับปิรามิดเฮดอย่างไร? ด้วยมือเปล่างั้นหรอ? ซูเทียนจิอ้าปากค้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
แม้แต่อันหูเว้ยเองก็ยังไม่เข้าใจ “เจ้าของ ..”
“อ่า! เจ้าของร้านถูกบังคับให้จนมุม” ช่างแตกต่างจากคนอื่น มันเดินไปหาพวกเขาอย่างเชี่องช้า แต่กับเจ้าของร้านมันกับวิ่งได้
เหตุการณ์ที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ เจ้าปีศาจปิรามิดเฮดกำลังพุ่งหน้ามาหาเขาและง้างมีดเพื่อตัดลง
ฉึบ!
เพียงเสี้ยววิที่ฟางฉีหลบ มีดยักษ์ฟาดเข้ากับผนังข้างหลังเขาลึกเกือบหนึ่งฟุต!
หัวใจทุกคนหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
หากการโจมตีครั้งนี้ไม่พลาด ฟางฉีคงถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนเป็นแน่!
เฉินชิงชิงและตงชิงลี่กลัวมากเธอสองคนหลบตาปี๋
เสียงไซเรนดังขึ้นฟางฉีส่ายหัวสะบัดตัว เขาลุกขึ้นยืนและต่อยเข้าที่ปีศาจอย่างต่อเนื่อง ด้วยความน่าประหลาดใจปีศาจตัวหนีกลับหันหลังและวิ่งหนีไป
มันหนีไปในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้น่ะหรอ!?
“ท่านไม่สามารถที่จะต่อสู้กับปีศาจนี้ได้เพราะมันมีหัวรูปปิรามิดที่ทำจากเหล็ก มันไม่สามารถฆ่าด้วยกระสุน เพียงแต่เราต้องทำให้มันตกใจโดยการเขย่าร่างกายที่แข็งแกร่งของเราและส่งสถานะที่ทรงพลังออกมา มันจีหนีไปด้วยความกลัว” ฟางฉีอธิบาย
นี่เขาล้อเล่นใช่มั้ย!?
ผู้ชมทุกคนรวมถึงซูเทียนจิและเฉินชิงชิงรู้สึกโกรธเคือง นี่มันเรื่องไร้สาระใช่มั้ย!?
นอกจากจะกลัวจนหัวหดแล้วต้องมาโดนหลอกอีกหรอ!!??