บทที่ 19 พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปโรงพยาบาล

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

เท้าที่กำลังก้าวหยุดอยู่กับที่ ออกัสหันมา แม้จะอยู่ห่าง แต่เขาสามารถเห็นหน้าอกของเธอที่กำลังขยับขึ้นลงได้ชัดเจน ที่ลำคอมองเห็นเส้นเลือดฝอยได้ชัดเนื่องจากความตื่นเต้นและความตึงเครียด

“เกี่ยวกับสถานการณ์ของคุณครูเชอร์รีน ผมเสียใจด้วยอย่างสุดซึ้ง แต่ มันไม่เกี่ยวอะไรกับผม”

น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขาเย็นชา ไร้ซึ่งการสั่นไหวใดๆ

“เพราะเด็กคนนี้เกี่ยวข้องกับคุณ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันออกมาพบคุณวันนี้ ฉันไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น คุณไม่ต้องเป็นห่วง สิ่งเดียวที่ฉันต้องการ แค่เด็กคนนี้คนเดียวเท่านั้น!” หน้าอกขยับขึ้นลง มือของเธอเกาะยึดขอบโต๊ะเพื่อพยุงร่างกายเอาไว้

แสงอาทิตย์ส่องผ่านหน้าต่างกระจกบานยาว ทั้งตัวของเธออยู่ท่ามกลางแสงสว่าง เหมือนถูกปกคลุมด้วยแสงรัศมีสีเหลืองอ่อน เส้นผมร่วงปรกสองข้างแก้ม เพิ่มสัมผัสแห่งความอ่อนโยนให้กับเธอ

เช่นนั้นทำให้หัวใจสัมผัสได้บางเบา มันถูกกระตุ้น ดวงตาของเขาขยับเล็กน้อย น้ำเสียงที่เย็นชาและเฉยเมยดูจะอ่อนลงนิดหน่อย “ถ้า เด็กคนนี้เป็นลูกของชายอื่นล่ะ”

คำพูดของเธอแข็งแกร่งมาก “ถึงอย่างนั้นฉันก็จะเก็บไว้! เทียบกับประธานออกัสแล้ว ฉันหวังให้เด็กเป็นลูกของชายอื่นมากกว่า!”

ชะงักไปเล็กน้อย ไม่นานออกัสก็หรี่ตาลง ลูกกระเดือกขยับบางเบา น้ำเสียงเย็นชาขึ้นหลายองศา “หืม? ผมยากฟังแบบละเอียด……”

“ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น มันง่ายที่จะบรรลุข้อตกลงระหว่างฉันกับเขา แม้ว่าจะต้องจ่ายเงินให้เขาบ้างก็ตาม ส่วนประธานออกัส ไม่มีความเป็นมนุษย์!” เชอร์รีนกัดฟัน พูดเน้นชัดทุกคำ

“คุณครูเชอร์รีนสามารถให้กำเนิดลูกของผู้ชายที่ไม่รักได้ แต่ว่า ผมไม่สามารถทนให้ผู้หญิงที่ไม่รักให้กำเนิดลูกของผมได้ เข้าใจไหม”

มองเธออยู่เป็นเวลานาน ก่อนที่ออกัสจะเอ่ยปากพูด แต่กลับเฉยเมยไม่แย่แสเลยสักนิด

ในทางตรงกันข้าม ดวงตาของเขายิ่งลึกล้ำ ดั่งหลุมลึกในน้ำวน ในความมืดมิดมีประกายหนึ่งแวบผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันให้คนได้จับสังเกต

อึ้งไปทันที คำพูดของเขาทำให้เชอร์รีนชะงักงันนิ่งอึ้งอยู่กับที่

เขาขยับก้าวเขายาว จากไปแล้ว รูปสูงตั้งตรงหายไปจากสายตาของเธอทีละน้อย ค่อยๆ พร่าเบลอ

มีเพียงเสียงที่ลอยตามลมเข้ามาในโสตประสาทของเธอ “พรุ่งนี้ผมจะรับคุณไปโรงพยาบาลเพื่อเอาเด็กออก และขอแนะนำว่า คุณอย่าพยายามยั่วความอดทนของผมอีกจะดีกว่า……”

กลับไปที่โรงเรียน จิตใจเชอร์รีนยังคงมึนงง ผลที่ออกมาแบบนี้ใจเธอคาดเดาไว้ก่อนแล้ว

ชายหนุ่มที่สมบูรณ์พร้อมแบบนั้น จะให้ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งให้กำเนิดลูกที่เกิดจากเซ็กซ์ชั่วข้ามคืนได้ยังไง

ตอนนี้เธอควรทำยังไงดี

พรุ่งนี้ผมจะรับคุณไปโรงพยาบาล และขอแนะนำว่า คุณอย่าพยายามยั่วความอดทนของผมอีกจะดีกว่า……

คำพูดของเขาวนเวียนอยู่ในหัวตอนนี้อีกครั้ง นั่นไม่ใช่คำแนะนำ แต่เป็นการเตือน เตือนเธอว่าอย่างเล่นตุกติกอะไรภายใต้จมูกของเขา

ศีรษะมีอาการปวดเล็กน้อย สองมือของเธอนวดข้างขมับเบาๆ ความคิดฟุ้งซ่านสับสนอีกครั้ง……

ตลอดทั้งคืน เชอร์รีนทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ เพราะมีเรื่องในใจ ดังนั้นจึงไม่สามารถหลับตาลงได้

แต่มันก็ไร้ประโยชน์ เธอยังคงคิดวิธีใดไม่ได้เลย

คำพูดที่ออกัสพูดไว้เมื่อวานได้เดินมาถึงจุดนั้นแล้ว โดยธรรมชาติแล้วไม่มีที่ว่างให้กลับตัวได้อีก

ปวดหัว ปวดหัว ปวดหัวเหมือนจะระเบิด……

ยังไงก็ไม่ได้ เธอจะไปหลบซ่อนก่อนสักพัก แม้ไม่ใช่วิธีที่ดีอะไร แต่เป็นวิธีเดียวที่มีประโยชน์ในเวลานี้

และพ่อกับแม่ช่วงนี้ก็เพิ่งกลับบ้านเกิดในชนบทพอดี แม้ว่าออกัสจะมาหา ก็ไม่มีตัวแปรใดที่จะเอามาข่มขู่เธอได้ในขณะนี้

คิดมาถึงตรงนี้ หัวที่ปวดจวนจะแตกในที่สุดก็ค่อยยังชั่วขึ้นบ้าง เชอร์รีนลุกจากเตียง รีบเก็บกระเป๋าเดินทาง

ไม่มีเวลาแล้ว เธอต้องรีบไปจากที่นี่โดยเร็ว ซึ่งยังต้องไปโรงเรียนก่อน เพื่ออธิบายเรื่องการสอบปลายภาค

หลังจากนั้นไม่นาน เธอลากกระเป๋าเดินทางออกไป เดินทางไปยังโรงเรียน……

เลอแปงหาวอย่างเกียจคร้าน ยืดบิดขี้เกียจ เงยหน้าขึ้นมองพี่ใหญ่ที่เพิ่งเดินออกมาจากห้อง “พี่ใหญ่จะไปบริษัทตอนนี้เหรอครับ”

มือใหญ่เรียวยาวกำลังผูกเนคไทสีเทาเข้ม ออกัสหรี่ตาเล็กน้อย “มีอะไร”

“คุณแม่กลับมาเมื่อคืน ตอนเช้าให้ผมกับพี่กลับบ้านกันก่อนครับ”

“อืม กลับบ้านก่อน แล้วค่อยให้คนขับรถไปส่งนายที่โรงเรียน…..หยิบเอาเสื้อสูทมาสวม เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้อีกครั้ง ออกัสขมวดคิ้วถามว่า “สอบปลายภาคเมื่อไร”

เมื่อได้ยิน เลอแปงก็กระแอมไอเบาๆ ตอบตามความจริง “พรุ่งนี้ครับ”

“เตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว”

“ก็โอเคครับ น่าจะไม่ใช่ที่ท้ายๆ อีก” ออกัสเขี่ยจมูก

ออกัสพยักหน้าอย่างพึงพอใจและส่งเสียงเยาะเบาๆ ก่อนจะเอ่ยเตือนอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ถ้าทำไม่ได้ นายกลับมาให้ฉันสอบได้เลย!”

พี่ใหญ่ไม่ได้ล้อเล่นสักนิด ถ้าครั้งนี้ได้ที่ท้ายๆ อีก จะต้องทุกข์ทรมานหนักหนาสาหัสแน่!

เลอแปงรีบยืนยัน “พี่ใหญ่ ครั้งนี้ผมจะพยายามหนีจากที่ท้ายๆ แล้วตรงดิ่งไปข้างหน้าเลยครับ”

ดวงตาล้ำลึกขยับเล็กน้อย ออกัสพูดเหมือนไม่ใส่ใจ “ปีนี้คุณครูเชอร์รีนอายุเท่าไร”

เลอแปงแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็ยังตอบว่า “ยี่สิบสี่ปีครับ”

มือของเขาที่กำลังหยิบเอกสารขึ้นมาหยุดนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะหยิบเสื้อโค้ต และกุญแจรถบนโต๊ะน้ำชา

ยี่สิบสี่ปี อายุยังไม่มาก เด็กกว่าเขาหกปี……

“ทำไมเหรอครับ คุณครูเชอร์รีนของพวกเราอายุน้อยแต่มีความสามารถใช่ไหมล่ะ” เลอแปงอวดด้วยความภาคภูมิใจ

แต่ออกัสไม่แม้แต่จะเหลือบมอง ขาวยาวก้าวเดินไม่กี่ก้าวออกไปยังโถงทางเดิน

เลอแปงหมุนตัวตามไปอย่างรีบร้อน “พี่ใหญ่รอผมด้วย ไปด้วย!”

เพียงช่วงเวลาสั้นๆ แลนด์โรเวอร์สีดำหยุดลงด้านนอกวิลล่าตระกูลสิริไพบูรณ์ ทั้งสองเดินตามกันเข้าไปยังห้องนั่งเล่น

“อืม คุณหมั้นเมื่อไร ทำไมไม่บอกฉันกับพี่ชายคุณสักคำ ได้ ฉันเข้าใจแล้ว งั้นพวกคุณเดินทางปลอดภัยนะ”

สุนันท์กำลังรับสายโทรศัพท์ เห็นลูกชายสองคนเดินเข้ามา จึงวางสายและยิ้มด้วยความยินดี

“คุณแม่ คุณอาหมั้นแล้วเหรอครับ เรื่องเกิดขึ้นเมื่อไร”

เลอแปงสีหน้าตกใจทันที เหลือบมองพี่ใหญ่ที่อยู่ข้างๆ อย่างระมัดระวัง เขาค่อนข้างไม่กล้ามองสีหน้าพี่ใหญ่

แต่ออกัสตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ ใบหน้าหล่อเหลาสูงส่งดูมืดมนคาดเดาไม่ได้ ริมฝีปากเหยียดตรง ในแววตาปั่นป่วนไม่นิ่งสงบ หลังมือใหญ่ที่ถือเอกสารมีเส้นเลือดสีเขียวนูนขึ้น……