กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 466
สีหน้าหมองหม่นของเยี่ยจิ่งหานค่อยๆดีขึ้นและน้ำเสียงของเขาก็อ่อนลงเล็กน้อย “มีที่ใดที่รู้สึกไม่สบายหรือไม่?”

ท่านหมอบอกว่าในร่างนางมีชี่แท้ที่ฉีกขาดนางอยู่ตลอด เป็นไปได้หรือไม่ที่พลังของแกนผลึกหิมะยังไม่ได้ถูกนางดูดซับ?

เมื่อนึกถึงหลังจากที่กู้ชูหน่วนกินแกนผลึกหิมะโดยไม่ได้ตั้งใจในวันนั้น ก็มีชี่จริงแท้จริงสองสามเส้นอาละวาดอยู่ในร่างกายของนาง เขารักษาอาการบาดเจ็บให้นาง สุดท้ายแล้วถูกนางดูดซับกำลังภายในส่วนใหญ่ไปทำให้วรยุทธ์ของเขาถดถอยไปอย่างรวดเร็ว

เยี่ยจิ่งหานอดเชื่อในคำพูดที่ท่านหมอกล่าวไม่ได้

และก็แอบตัดสินใจว่าเมื่อนางตื่นขึ้นมาในวันพรุ่งนี้จะให้หมอหลวงตรวจดูชีพจรนางให้ดีอีก

กู้ชูหน่วนบิดขี้เกียจและกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “แน่นอนว่ารู้สึกไม่สบาย ทั้งบนทั้งล่าง ทั้งภายในและภายนอกรู้สึกไม่สบายทั้งสิ้นโดยเฉพาะใจดวงนี้ก็ยิ่งรู้สึกไม่สบาย

“ข้าตำหนิเจ้าผิดไป แต่ว่าคราวหน้าเจ้าควรจะให้กินมากกว่านี้หน่อย ดูท้องอันแบนของเจ้าสิ ผู้ที่ไม่รู้จะคิดว่าข้ากระทำโหดร้ายกับเจ้า”

เยี่ยจิ่งหานมองยังท้องของนางอีกครั้ง ยังคงรู้สึกสงสัยอยู่ในใจ

กู้ชูหน่วนดึงเสื้อผ้าและปล่อยให้เขามองอย่างเปิดเผย “เขากินแต่ไม่โตแล้วข้าจะทำอย่างไรได้ มีความสามารถท่านก็เข้าไปในท้องของข้าแล้วถามเขาดูสิ”

ชิงเฟิงเช็ดเหงื่ออันเย็นนั้น

คำพูดของพระชายาน้ำเสียงช่างหนักเกินไปแล้ว

เช่นไรนายท่านก็เป็นเทพแห่งสงครามจะไม่ไว้หน้ากันบ้างเลยหรือ

“ในเมื่อลูกในท้องของเจ้าสบายดีเหตุใดถึงกลัวหมอตรวจชีพจร?”

“พูดจาไร้สาระ หมอสามสี่สิบคนนะ คนหนึ่งจับชีพจรรอบหนึ่งต้องใช้เวลานานเพียงใด? ทั้งห้องก็ใหญ่เพียงเท่านี้ท่านไม่เบื่อแต่ข้าเบื่อ”

กู้ชูหน่วนกรอกตามองเขาพร้อมผลักเขาออกโดยตรงและไปยังห้องนอนของตนเอง

โชคดีว่าในวงแหวนอวกาศของนางยังมียาอื่นอยู่ ยาหลายๆชนิดผสมเข้าด้วยกันทำให้เกิดความลวงว่าชีพจรในร่างกายยุ่งเหยิง ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถผ่านด่านนี้ไปได้เสียแล้ว

นางต้องรีบหาเวลาเอาลูกในท้องให้”แท้ง”ออกไป ไม่เช่นนั้นไม่ช้าหรือเร็วนางจะต้องตายด้วยคำโกหกนี้

เยี่ยจิ่งหานมองไปด้านหลังที่จากไปของนางและก็เกิดความรู้สึกเจ็บปวดใจต่อนางแว๊บผ่านมา

“สั่งการลงไป ปรนนิบัติพระชายาให้ดี เพียงแค่เป็นสิ่งที่นางต้องการก็ทำให้นางพึงพอใจอย่างสุดกำลัง”

“เพคะ”

ในเรือนอุสุม

กู้ชูหน่วนอาบน้ำโดยแช่ในน้ำดอกไม้

ชิวเอ๋อร์พูดบ่นเสียมากมายก่ายกอง

“คุณหนูท่านรู้ไหมว่าท่านอ๋องดีต่อท่านจริงๆนะ ช่วงเวลาที่ท่านไม่อยู่ท่านอ๋องส่งคนมากมายไปตามหาท่านจนเกือบจะร้อนใจตาย”

“เรือนอุสุมที่ท่านอยู่วันหนึ่งท่านอ๋องก็มาหลายรอบด้วย ท่านอ๋องยังถามชิวเอ๋อร์หลายครั้งเกี่ยวกับเรื่องน่าสนุกในวัยเด็กของคุณหนูด้วย”

“เมื่อก่อนชิวเอ๋อร์รู้สึกว่าเจ๋ออ๋องดี แต่ตอนนี้ชิวเอ๋อร์รู้สึกว่าหานอ๋องดีกว่าเจ๋ออ๋อง หานอ๋องภายนอกเย็นชาดูดุนักแต่แท้จริงแล้วหานอ๋องจิตใจดียิ่งนัก”

“คุณหนู ท่านฟังชิวเอ๋อร์อยู่หรือเปล่า?”

กู้ชูหน่วนตกใจและตอบสนองกลับมา

“เจ้าว่าอะไรนะ?”

“คุณหนู ท่านเป็นอะไรเหตุใดชิวเอ๋อร์ถึงรู้สึกว่าหลังจากที่ท่านกลับมาครานี้รู้สึกวิตกกังวลและหดหู่ใจยิ่งนัก คุณหนูท่านมีเรื่องกังวลในใจใช่หรือไม่?”

“ชิวเอ๋อร์ เจ้ารู้ไหมว่าปกติท่านอ๋องจะเก็บของล้ำค่าที่สุดไว้ที่ใด?”

“คือว่า……ชิวเอ๋อร์ก็ไม่ชัดเจนนัก แต่ชิวเอ๋อร์ได้ยินมาว่าของมีค่าในจวนหานอ๋องไม่ได้อยู่ในหอเก็บสมบัติก็อยู่ที่ห้องตำรา หรือไม่ก็อยู่ในตำหนักหานสุ่ยที่ท่านอ๋องอยู่ คุณหนูท่านถามเรื่องนี้ไปทำไม? หรือว่าสนใจของล้ำค่าใดของท่านอ๋องแล้ว? ตอนนี้ท่านอ๋องโปรดปรานท่านเช่นนั้นเพียงแค่ท่านเอ่ยปาก ไม่แน่ว่าท่านอ๋องก็จะมอบให้กับท่านแล้ว”

ดวงตาสีดำขาวแบ่งแยกชัดเจนของกู้ชูหน่วนมองไปทางตำหนักหานสุ่ย

เพียงแค่นางเอ่ยปากก็ให้หรือ?

ในตอนแรกที่นางอยู่ที่หอประมูลเฟิงเซียงก็เคยขอม้วนหนังแกะโบราณกับเยี่ยจิ่งหาน แต่เยี่ยจิ่งหานก็ได้ปฏิเสธทันที

ในเวลานั้นนางต้องการม้วนหนังแกะโบราณก็เพียงแค่อยากรู้พิกัดภาษาอังกฤษในม้วนหนังแกะโบราณ

ไม่ว่าเยี่ยจิ่งหานจะมอบให้นางหรือไม่นางก็ไม่มีอะไรเสียหาย

แต่ว่าตอนนี้……

ม้วนหนังแกะโบราณอาจเกี่ยวข้องกับไข่มุกมังกรและผู้คนเป็นพันเป็นหมื่นคนของเผ่าหยกยังคงรอให้นางรวบรวมไข่มุกมังกรทั้งเจ็ดเม็ดให้ครบ

ไปขอเยี่ยจิ่งหานเลยโดยตรงหากว่าเยี่ยจิ่งหานปฏิเสธอีกครั้งหรือว่าซ่อนม้วนหนังแกะโบราณไว้โดยตรงเลยหล่ะ?

นางไม่สามารถเดิมพันได้

สำหรับเผ่าหยกความรับผิดชอบบนบ่าของนางหนักกว่านัก

โศกนาฏกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่เผ่าหยกในวันขึ้นสิบห้า ทุกฉากเป็นเสมือนตราประทับที่ตราตรึงอยู่ในใจของนางอย่างลึกซึ้ง

ทุกครั้งที่นึกถึงที่นั่น ในใจของนางก็หยุดความเจ็บปวดเอาไว้ไม่อยู่

“คุณหนู ท่านเป็นอะไรไปเหตุใดสีหน้าถึงดูไม่ได้เช่นนั้น”

กู้ชูหน่วนหลับตาพร้อมหายใจเข้าลึกๆและลืมตาขึ้นอีกครั้ง ความรู้สึกสูญเสียทั้งหลายเหล่านั้นก็มลายหายไป

“ช่วยข้าแต่งตัวเถอะ”

“ค่ะ”

“ใส่ชุดนั้น”

“คุณหนูดึกดื่นแล้วท่านไม่พักผ่อนหรอกหรือ?”

“นอนไม่หลับอยากออกไปเดินเล่น”

“ท่านเหน็ดเหนื่อยเมื่อยหล้าอยู่ด้านนอกมานานเช่นนั้นพักผ่อนไวหน่อยจะเป็นการดีกว่า แม้ว่าท่านจะไม่ถนอมตนเองก็ควรคิดถึงเด็กในท้องของท่านด้วย”

“……”

“ข้าว่าปากของเจ้านี่นะ ทุกๆวันพูดจาจ้อแจ้ไม่รํ้จบเจ้าไม่เหนื่อยบ้างหรือ?”

“คุณหนู เพราะท่านอ๋องไม่มาพักผ่อนที่เรือนอุสุมท่านจึงอารทณ์ไม่ดีใช่หรือไม่? ไม่เช่นนั้นชิวเอ๋อร์ไปเชิญท่านอ๋องมา”

“คุณหนู……”

“หุบปาก ห้ามพูดและก็ห้ามตามมา”

กู้ชูหน่วนจ้องมองชิวเอ๋อร์และเดินไปยังหอเก็บสมบัติตามความทรงจำ

ชิวเอ๋อร์สับสนงุนงงไม่ชัดเจนราวพระตัวเตี้ยที่ลูบไม่ถึงศีรษะ คราวนี้คุณหนูกลับมากินยามาผิดหรือเปล่า? เหตุใดจู่ๆถึงได้ดุกับนางเช่นนี้?

แม้ว่ากู้ชูหน่วนจะไม่ยอมให้นางตามแต่ชิวเอ๋อร์ก็ยังคงเดินตามไป เนื่องจากเกรงว่าเด็กในท้องของนางจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น

ด้านนอกหอเก็บสมบัติชิวเอ๋อร์ดึงแขนเสื้อของนางแล้วกล่าวอย่างกังวลว่า “คุณหนูท่านคงไม่ได้ต้องการเข้าไปในหอเก็บสมบัติใช่ไหม? แม้ว่าท่านจะเป็นพระชายาหากปราศจากคำสั่งของท่านอ๋องท่านก็ไม่สามารถโดยตรง……เช่นไรนี่ก็เป็นสมบัติล้ำค่าของจวนอ๋อง”

“ข้าเป็นพระชายาหานสมบัติครึ่งหนึ่งของจวนหานอ๋องก็เป็นของข้า อย่าว่าแต่หอเก็บสมบัติอันเล็กๆนี้ เปิดประตูออก”

คนรับใช้เฝ้าประตูสองสามคนมองดูยังพ่อบ้านด้วยความลำบากใจจากนั้นพ่อบ้านก็กล่าวขึ้นทันทีว่า “พระชายาบอกให้พวกเจ้าเปิดพวกเจ้ายังไม่รีบเปิดเร็วเข้า”

“ขอรับ”

“พระชายาท่านต้องการสิ่งใดบอกบ่าวได้ แล้วบ่าวจะส่งถึงยังตรงหน้าท่านเอง”

“ไม่จำเป็นหรอกข้าจะไปหาเอง พวกเจ้าผู้ใดก็ไม่ต้องตามมา ชิวเอ๋อร์ก็ไม่ต้องตามมา”

“ขอรับๆๆ …… ” พ่อบ้านรีบตกปากรับคำ

ชิวเอ๋อร์สัมผัสด้านหลังศีรษะ

พ่อบ้านสุภาพกับคุณหนูเช่นนั้น? ยังตามแต่ใจคุณหนูเลือก?

คุณหนูช่างโลภมากยิ่งนัก พวกเขาก็ไม่กลัวว่าคุณหนูโยกย้ายหอเก็บสมบัติจนโล่งหรือ?

เวลาผ่านไปแต่ละนาทีแต่ละวินาทีทว่าคนในหอเก็บสมบัติกลับไม่ออกมาสักที ชิวเอ๋อร์ก็ยิ่งมั่นใจนักว่าสิ่งของด้านในถูกคุณหนูครอบครองหมดเสียแล้ว

ในที่สุดกู้ชูหน่วนก็ออกมา

มือทั้งคู่ของนางว่างเปล่าพร้อมสีหน้าที่ทั้งหมองหม่นและผิดหวัง

พ่อบ้านกล่าวประจบสอพลอว่า “พระชายา ไม่รู้ว่าด้านในมีสิ่งของที่ท่านชื่นชอบหรือไม่ หากว่ามีบ่าวจะให้คนส่งไปยังเรือนอุสุมทันที”

“ไม่มี นำทางไป ข้าจะไปห้องตำรา”

“ห้องตำรา……”

“เหตุใด? ข้าไปไม่ได้?”

“พระชายาล้อเล่นแล้ว ท่านเป็นนายหญิงของจวนหานอ๋องพระชายาแห่งหานอ๋อง เพียงแค่ท่านต้องการไปที่ใดในจวนหานอ๋องท่านก็สามารถไปได้ บ่าวจะพาท่านไปในทันที”

ที่ด้านข้างคนรับใช้สองสามคนกระซิบกันว่า “เรือนอุสุมถูกค้นจนยุ่งเหยิงแต่ไม่มีอะไรหายไปเลย ไม่รู้ว่าพระชายาไม่ได้เห็นสิ่งใดเข้าตาหรือเปล่า”

คำพูดนี้ชิวเอ๋อร์ได้ยินเข้าแล้ว

นางขมวดคิ้ว