66 ปรากฏว่าเขาเป็นสามีของเล้งเซี่ย

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

ตอนที่ 66 : ปรากฏว่าเขาเป็นสามีของเล้งเซี่ย?!

ที่บริเวณประตูหน้าและประตูหลังของบาร์

 

กลุ่มคนสองกลุ่มกรูกันเข้ามาในเวลาเดียวกัน ด้วยปริมาณที่เยอะมากจนเกือบร้อยคน

 

แน่นอนว่าผู้มาเยือนเหล่านี้ไม่ได้มาดีแน่ๆ เพราะถ้ามาดีคงไม่พากันมาเยอะขนาดนี้หรอก!

 

เห็นได้ชัดว่ามีคนพยายามมาสร้างปัญหาที่นี่!

 

เพลงหยุด! ทั้งบาร์มีแต่ความเงียบ บรรดาแขกทั้งหมดต่างหยุดการกระทําของพวกเขาและพยายามทําใจให้เย็นไว้

 

ชายหญิงคู่หนึ่งที่กําลังทําเรื่องสนุกสนานกันก็รีบสวมกางเกงกลับอย่างร้อนรน!

 

กลุ่มทั้งสองกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเดียวกันโดยที่กลุ่มแรกนั้นนํามาโดยหญิงอ้วนคนหนึ่งที่รู้จักกันในเชื่อ หลงเส้า!

 

ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งนั้นมีผู้นําที่มีรอยแผลเป็นเหมือนตะขาบบนหน้าของเขา ผู้คนตามท้องถนนต่างเรียกเขาว่า มนุษย์ตะขาบ!

 

เล้งเซี่ยเริ่มแนะนําเจียงเฉินก่อนจะ ก่อนจะแนะนําเจียงเฉินให้กับพี่น้องของเธอแล้วลุกออกไป

 

หลงเส้าเห็นเล้งเซี่ยนในตอนนี้ที่กําลังแต่งตัวตามแฟชั่นของผู้หญิง ตอนแรกเธอนั้นจําเล้งเซี่ยไม่ได้ในทันที

 

“โอ้ นี่ไม่ใช่เล้งเซี่ยหรอกหรอ? วันนี้คิดอะไรถึงได้เปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวละเนี่ย? แล้วน้องชายที่พิการของเธอเป็นยังไงบ้าง?”

 

เล้งเซี่ยเยาะเย้ยกลับไป “ขอบคุณมาก การรักษาสําเร็จไปได้ด้วยดีแล้วเรื่องสามีเธอล่ะ โอ๊ะพอดีมันพูดยากนี่นะ!” 

 

กลุ่มคนต่างเยาะเย้ยออกมา

 

หลงเส้าโดนตบหน้า อารมณ์ของเธอค่อยๆดึงจนเย็นยะเยือก “เล้งเซี่ย แกอี*หรี่ จะเจอที่ไหนก็ต้องหาเรื่องฉันทุกที่ ได้วันนี้ฉันจะให้มันเป็นวันตายของแก!”

 

เล้งเซี่ยยังดูวงบมากเธอหันไปข้างๆดูพี่น้องเกือบสองโหลที่ยืนอยู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและเยาะเย้ยออกมา

 

“จะทําอะไรงั้นหรอ? คิดว่าทําได้ง่ายๆหรอ? พี่น้องของฉันไม่ใช่ผักหรอกนะ”

 

มนุษย์ตะขาบเขากําลังถือท่อเหล็กไว้อยู่ในมือและพูดออกมา “เล้งเซี่ยฉันบอกแล้ว มาเป็นผู้หญิงของฉันซะดีๆ คืนนี้เป็นโอกาศสุดท้ายแล้ว! หลังจากคืนนี้ไปบาร์แห่งนี้ก็จะไม่มีอยู่อีกต่อไปเข้าใจแล้วรึยังล่ะ?”

 

เล้งเซี่ยหยิบไม้เบสบอลหนัก 15 กิโลมาจากมือของเสี่ยวหูและถามมนุษย์ตะขาบกลับ “เป็นผู้หญิงของแก? คิดว่าแกมีค่าพอให้ฉันลดตัวไปหรอ?”

 

“ดูเหมือนเหล้าดีมีให้กินไม่กินอยากจะโดนบังคับกินสินะ งั้นหลังจากนี้ก็อย่าเสียใจทีหลังก็แล้วกัน!”

มนุษย์ตะขาบคํารามออกมาด้วยความโกรธจากความอับอาย “เส้าหลง จัดการเธอได้เลย ไม่ต้องไว้หน้าฉัน”

 

บรรยากาศในบาร์เปลี่ยนไปในชั่วพริบตา บรรดาแขกต่างพากันวิ่งหนีแต่ว่าทางออกล้วนถูกลูกน้องของทั้งสองปิดไปหมดแล้ว

 

เห็นได้ชัดว่าวันนี้พวกเขาไม่ตั้งใจจะปล่อยใครไป!

 

วันนี้จะเป็นวันตัดสินว่าบาร์เทียนฉู่จะได้ไปต่อหรือสิ้นสุดอยู่ตรงนี้!

 

คนของเล้งเซี่ย 20 คนปะทะกับฝ่ายตรงข้ามที่มี 50 คนที่พามาโดยหลงเส้าทั้งสองฝ่ายต่างจ้องหน้ากันยังไม่มีฝ่ายไหนเปิดก่อน

 

ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดัง “เพล้ง!” เสียแก้วที่ตกลงมาบนพื้น

 

ทั้งสองกลุ่มต่างวิ่งเข้าใส่กัน

 

เล้งเซี่ยนั้นมีความคล่องแคล่วที่สูงมากดังนั้นด้วยไม้เบสบอลเหล็กในมือของเธอทําให้เธอแทบจะจัดการอีกฝ่ายได้ด้วยการตีเพียงไม้เดียว

 

สามนาทีผ่านไป การต่อสู้ก็สิ้นสุด!

 

คนนับโหลต่างนอนกองกันอยู่บนพื้น!

 

ทุกคนต่างร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

 

กลุ่มของหลงเส้านั้นได้เปรียบเรื่องของจํานวนคนจึงทําให้พวกนั้นเขาสามารถจัดการเสี่ยวหูและคนที่เหลืออีกสองโหลลงได้

 

แม้หลงเส้าจะเหลือคนแค่สิบแต่คนอึด 50 คนของมนุษย์ตะขาบนั้นยังไม่ได้ขยับด้วยซ้ำ!

 

ในบาร์ตอนนี้เรีกได้ว่ามีแต่ความยุ่งเหยิงเต็มไปหมด! 

 

เหล่าบรรดาแขกก็ไปนั่งขดตัวสั่น!

 

บริเวณตรงกลางมีเพียงเล้งเสี่ยวหยานเท่านั้นที่เหลืออยู่

 

เธอจะต่อสู้เพียงลําพัง แต่อีกฝ่ายที่มีมากขนาดนั้นเธอจะไป สู้ด้วยได้ยังไง!

 

หลงเส้าเยาะเย้ยออกมาก่อนจะเดินจากแนวหลังออกมาข้างหน้า “ยัยเด็กน้อยเล้งเซี่ย ตอนนี้เธอก็เหลือตัวคนเดียวแล้วใช่ไหม? ฉันอยากจะเห็นจริงๆว่าเธอจะเอาอะไรมาสู้กับหญิงชราคนนี้อีก! ไหนใครมีมีดบ้าง ฉันจะเอามากรีดหน้าสวยๆของมัน!”

 

ลูกน้องของเธอก็รีบนมีดออกมาส่งให้เธอทันที!

 

มนุษย์ตะขาบกําลังวางแผน และตอนนี้ก็ถึงเวลาเขาโชว์ความสามารถแล้ว

 

“เส้าหลง มีเมตตากันหน่อยสิ ปล่อยเธอไปก่อนเพราะเดี๋ยวเธอยังต้องมาเป็นเมียในอนาคตของฉัน!”

 

เส้าหลง “โอ้? เมียแกงั้นหรอ? คิดว่ายัยนี่จะยอมรึไง?”

 

มนุษย์ตะขายที่ได้ยินก็เปลี่ยนสีหน้าทันทีจากความความอับอาย “เล้งเซี่ย รู้ไหมว่าควรทํายังไง ยอมรับซะ ฉันสัญญาว่าหลงเส้าจะไม่ทําร้ายเธอ!”

 

แต่ใครจะคิด เล้งเสี่ยวหยานไม่ได้ยินดีกับข้อเสนอแม้แต่น้อย! “ถุย! ไสหัวออกไป! ฉันเล้งเซี่ยคนนี้จําเป็นต้องอ้อนวอนใครด้วยหรอ? คิดว่าแกเป็นอะไรกัน?”

 

แม้ว่าตอนนี้จะเหลือเธอเพียงแค่นเดียวแต่เธอก็ไม่ได้ร้องขอความเมตตาจากอีกฝ่าย ทําเพียงแค่ยืนตระหง่านิย่างไม่ยอมแพ้!

 

“ไปลากเธอมาเดี๋ยวนี้ จะรออะไรอีกหะ?”

 

“แกรนหาที่ตายเองนะ”

 

ในเวลานี้เองเจียงเฉินก็เดินออกมาจากฝูงชนเดินตรงไปหาเล้งเซี่ยก่อนจะหยุดอยู่ข้างๆ คอยระวังภัยให้เธอจากด้านหลัง ตาของเขาหรี่ลงและยิ้มออกมาอย่างเย็นชา

 

“กลุ่มผู้ชายแท้ๆ แต่กลับมารังแกผู้หญิง ไม่อายกันรึไง?”

 

ทุกคนช็อค!

 

ทุกคนพูดไม่ออกเพราะกลิ่นอายที่เขาปล่อยออกมา!

 

เส้าหลงจําเจียงเฉินได้ทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น “นั่นแก! เจียงเฉิน! แกส่งคนมาฆ่าสามีของฉัน! แต่ฉันส่งหมีใหญ่ไปจัดหักขาแกแล้วไม่ใช่รึไง?”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า”

 

เจียงเฉินยิ้มออกมาบางๆ “เธอหมายถึงเจ้าตัวนั้นงั้นหรอ? พวกมันจัดการฉันตัวคนเดียวไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้วจะมาหักขาของฉันได้ยังไง?”

 

คนนับโหลหันมองหน้ากันและกัน เป็นไปได้ไหมว่าความแข็งแกร่งของเจียงเฉินนั้นมีมากกว่าเล้งเซี่ย?

 

เล้งเซี่ยที่ได้ยินเธอก็เกือบจะหลุดขําออกมา วันนั้นเจียงเฉินส่งข้อความจํานวนมากมาให้เธอ บอกเธอว่าเขาเปลี่ยนใจแล้วและเขาต้องการให้เธอมาเป็นบอดี้การ์ดของเขา!

 

แต่ยังไงก็ตาม ในฐานะที่เธอเป็นบอดี้การ์ดของเขา วันนี้เธอจะต้องปกป้องเขาให้ได้

 

แต่ยังไงก็ตาม การที่เขาออกมาเพื่อเธอขนาดนี้มันก็ทําให้เธอรู้สึกอบอุ่นไม่น้อยเลยจริงๆ

 

กลายเป็นว่าตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นฝ่ายถูกปกป้องแทน

 

“สามี…”

 

ใบหน้าของเล้งเซี่ยร้อนผ่าว “มีคุณอยู่ด้วย เราก็คงไม่มีปัญหาในการจัดการกับพวกเขาแล้ว”

 

ตอนแรกเธอตั้งใจจะเรียกเขาว่าบอส มันคงไม่เป็นการเปิดเผยเรื่องทั้งหมดหรอกหรอ?

 

ดังนั้นจากความกังวลของเธอและด้วยความฉลาดเธอจึงเปลี่ยนการเรียกของเขา!

 

ใช่แล้ว! เธอมันโคตรฉลาด!

 

“เดี๋ยวนะสามี!?!?”

 

ดันเรียกผิดไปซะได้!

 

ทันใดนั้นพี่น้องนับโหลที่กําลังนอนเจ็บอยู่อาการเจ็บก็หายไปทันทีจากความตกใจ!

 

“เล้งเซี่ยมีสามีแล้วหรอ งั้นไม่ได้หมายความว่าสามีของเธอจะต้องเก่งกว่าเธอใช่ไหม?”

 

“ฉันงงไปหมดแล้ว คาดไม่ถึงว่ามนุษย์ตะขาบจะทํายังไงก็ไม่มีทางเอาชนะความชอบของเล้งเซี่ยได้ เพราะตอนนี้เธอมีครอบครัวและสามีแล้ว!”

 

“เขาหล่อมากเลย! หล่อมากจริงๆ! หล่อเป็นสามีต้นแบบเลย!”

 

“ไม่แปลกเลยที่พี่ตะขาบจะแพ้คนแบบนี้”

 

มนุษย์ตะขาบคํารามออกมาด้วยความโกรธ “ไอ้หมอนี่ มันเป็นใครกัน? ไปเอาตัวมันมาให้ฉันเร็วๆและทรมานมันจนกว่าจะตายด้วย!”

 

หลงเส้าขมวดคิ้วและเริ่มเรียบเรียงความคิดใหม่

 

ตอนแรกเธอนั้นก็คิดว่าสามีของเธอกับเขาก็ไม่ได้มีความคับข้องใจกัน แต่ถ้าเขาเป็นสามีของเล้งเซี่ยจริงๆนั่นก็สมเหตสมผลแล้ว!

 

สามีไม่ต้องห่วงฉันจะล้างแค้นให้คุณเอง!

 

ตอนนี้แผนเปลี่ยนแล้ว

 

หลงเส้าไม่รีบร้อนให้ลูกน้องของเธอลงมือ แต่กลับไปคุยกับมนุษย์ตะขาบแทน “นายส่งคนไปสิบคนส่วนฉันก็จะส่งไปสิบ คนรวมยี่สิบคนก็พอแล้ว!”

 

มนุษย์ตะขาบขบฟันของเขา หลงเส้านั้นเป็นหนึ่งในชู้ของเขา ทําให้เขาไม่สามรถทําอะไรได้นอกจากกรีดร้องในใจและส่งคนไปสิบคน!

 

“ พวกมันมีค่าสอง อย่าทําให้ตัวเองดูโง่ล่ะ ตีพวกมันจนกว่าจะตายไปเลย!”

 

“เยี่ยม!”

 

ทันใดนั้นก็มีเสียงคนบอกให้หยุดดังมาจากด้านนอกของประตู!

 

“โอเค หยุดกันได้แล้ว!”

 

ชายอายุประมาณ 30 ในชุดสูทและเน็คไท เขาดูไม่เหมือนคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบรรดากลุ่มนักเลงแม้แต่น้อย

 

เล่าสงพูดอย่างเคารพว่า “บอสเจิ้งฮัวหยินคุณมาทําอะไรหรอคะ?”

 

จากบาร์ทั้งหมดในเหลียงเฉิงนั้น มีเพียงแค่บาร์เทียนฉู่ที่เป็นบาร์ระดับ 4 ดาว ส่วนบาร์กาแล็กซี่เป็นบาร์ระดับ 3 ดาวส่วนบาร์ที่เหลือก็มีระดับสูงสุดอยู่ที่ 3 ดาวเท่านั้น! 

 

และแผนการในวันนี้ก็ถูกวางไว้โดยเจิ้งฮัวหยิน ผู้เป็นคนควบคุมบาร์แห่งนี้จากเบื้องหลัง!

 

เขามองดูรอบๆด้วยความพึงพอใจ ความเละเทะและคนนับโหลที่นอนกองกันอยู่บนพื้น

 

มันเละมากพอแล้ว!

เจิ้งฮัวหยินยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ “เกือบจะจบแล้วสินะ ผู้จัดการบาร์เทียนฉู่อยู่ที่ไหนไปเรียกเขาออกมาหาฉัน!”