เมืองท่า ณ ย่านการค้า
ที่นี่คือจุดติดต่อสื่อสารที่มีไว้สำหรับผู้โดยสารขาเข้าและขาออกของเมืองนี้ มันก็คล้ายๆกับขนส่งรถบัสในโลกเดิมของวู่หยาน ไม่ก็พวกสนามบินอะไรพวกนี้ แต่มันจะต่างกันก็ตรงที่ที่นี่มันไม่มีรถบัสไม่มีเครื่องบิน มีแค่เรือเหาะอย่างเดียว
เป็นเพราะเมืองท่าเป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับป่าสัตว์อสูรที่สุดของจักรวรรดิไอย์ลู ดังนั้นที่นี่จึงแทบจะมีเรือเหาะทุกแบบทุกประเภทให้เห็นกันอย่างละลานตา
และในเมื่อที่นี่มีเรือเหาะที่มาจากทุกที่ภายในจักรวรรดิไอย์ลู ดังนั้นกลับกันมันก็มีเรือเหาะมากมายที่ออกเดินทางจากที่นี่ไปจุดต่างๆภายในจักรวรรดิ
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ที่นี่…..คนโครตเยอะ! ทำเอานึกถึงสถานีรถไฟที่ญี่ปุ่นเลยแฮะ และจากที่ข้อมูลที่ได้มาดูเหมือนที่นี่จะเป็นที่ที่มีคนมากระจุกตัวอยู่เยอะที่สุดด้วย!
วันนี้เองก็มีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น ถ้าจะพูดให้เจาะจงมากกว่านี้ ก็คงมีแต่ผู้ชายที่ได้รับผลกระทบ ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นนักเดินทางหรือพ่อค้าคนไหนตราบใดที่ยังเป็นผู้ชาย พวกเขาเหล่านั้นต่างก็จ้องมองไปในทิศทางเดียวกันหมด……
จะมีอะไรที่ทำให้เหล่าสุภาพบุรุษมองค้างได้บ้างนะ? ของมันแน่อยู่แล้ว มันก็ต้องเป็น สาวงาม ไงล่ะ!
ผมยาวสีชมพูปลิวไสวหยอกล้อกับสายลม เธอสวมชุดเดรสยาวสีเหลืองอ่อนกับเสื้อโค้ทตัวเล็กๆสีขาว ฮินางิคุที่กำลังยกมือป้องสายลมตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ
สวยงาม! และมีเสนห์!
ส่วนอีกคนก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเด็กสาวผมสีชมพูเลย เธอคนนี้ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำกับกางเกงยีนส์ขาสั้น และผมสั้นยาวประบ่าสีชาที่สั่นน้อยๆยามลมพัด ถึงแม้จะไม่ดูงดงามเหมือนคนแรกแต่ก็ยังคงดูดีแบบสาวเท่ บวกกับขาอ่อนที่เผยให้เห็นอย่างเต็มตาและยังสีหน้าที่ดูเร่าร้อนนั่นอีก
วีรสตรี! กล้าหาญ! และเป็นอิสระ!
ผมยาวประบ่าสีชมพูมัดทรงทวินเทลที่ยาวถึงต้นขาเธอโดยมีริบบิ้นสีแดงมัดไว้รอบๆ ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นกับกระโปรงมีจีบทำให้เธอดูเหมือนภรรยาสาว ทว่าเธอกลับมีใบหน้าที่ไร้อารมณ์ทำให้ผู้พบเห็นเกิดความรู้สึกอยากปกป้องขึ้น
งดงาม! ราวกับคนชั้นสูง!
ผมยาวสีทองที่ส่ายไปมาตามการเคลื่อนไหวของเธอ ร่างกายเล็กๆที่อยู่ในชุดเดรสสีขาวบริสุทธิ์ กับใบหน้าที่มีรอยยิ้มตลอดเวลา
สดใส! และน่ารักมาก!
สาวงามถึงสี่คนมาอยู่ด้วยกัน ทำให้ผู้ชายที่อยู่รอบๆต้องหันมามองกันทุกคน
ด้านหลังพวกเธอมีผู้ชายที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำกางเกงขายาวสีดำเสื้อโค้ทสีดำ และผมกับดวงตาสีดำ เทียบกับสาวๆทั้งสี่คนแล้วเขาดูธรรมดาที่สุดเลย
แน่นอนว่าวู่หยานตระหนักถึงเรื่องนี้ดี เพราะต่อให้เป็นตัวเองเขาก็จะหันหน้าไปดูสาวน่ารักแทนที่จะดูตัวผู้
ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาอิจฉาจากตัวผู้ทั้งหลาย วู่หยานจึงเลือกไปเดินข้างหลังแทนทำตัวเป็นบอดี้การ์ด
แต่นี่ก็ไม่ได้หมายคว่าพวกเธอจำเป็นต้องเขาให้ช่วย ยกเว้นแต่ลิลิน สาวๆคนอื่นก็แรงค์7ขึ้นทั้งนั้น ใครมาหาเรื่องพวกเธอก็ทำหาเรื่องตายแล้ว
ก่อนหน้านี้ก็มีไอ้หน้าหล่อที่คิดว่าตัวเองสามารถตกสาวๆไดเดินเข้ามา วู่หยานก็จัดให้มันสองสามดอกก็ไล่มันไปได้แล้ว
ด้วยเหตุนี้ผู้คนรอบๆถึงไม่เข้ามายุ่งอีกแต่ทว่าก็ยังยืนดูเอาอาหารตาแทน เพราะเมื่อกี้พวกเห็นถึงพลังของบอดี้การ์ดหนุ่มคนนี้แล้ว ว่าเป็นถึงแรงค์7 ทำให้พวกเขาคิดว่าสาวๆกลุ่มนี้คงจะเป็นลูกคุณจากตระกูลชั้นสูงที่ขนาดออกมาเดินเล่นยังมีแรงค์7ออกมาเดินคุ้มครอง
จึงไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าเดินเข้ามาขายขนมจีบอีก ทำได้แค่ยืนดูเท่านั้น
ถ้าให้พวกเขารู้ว่า ทั้งสี่คนไม่ใช้ลูกคุณหนูไม่ได้มาจากตระกูลชั้นสูง และวู่หยานก็ไม่ใช่บอดี้การ์ด พวกเขาแห่กันเข้ามาฆ่าเขาก่อนจากนั้นก็กลืนกินสาวๆด้วยความหื่นกระหาย
แน่นอนว่าถ้าถึงตอนนั้นจริงๆ พวกมันก็เท่ากับขุดหลุมฝังศพตัวเองอ่ะนะ…….
หลังจากที่วู่หยานได้กินท่านประธานกับพี่สาวเรลกัน เวลาก็ได้ผ่านมาสามวันแล้ว
ช่วงสามวันนี้ วู่หยายหดหู่มาก หดหู่สุดๆ หดหู่จนถึงขั้นอยากเงยหน้าตะโกนขึ้นฟ้าว่า ‘ทำไมถึงต้องทำแบบนี้ตูด้วย!’
เขาล่ะอุตส่าห์เสี่ยงตายจนได้กินเนื้อพวกเธอแล้ว และคิดว่าหลังจากนี้ก็จะมีแต่ความสุข แต่ใครจะไปล่ะว่ามันไม่แม้แต่จะแฮปปี้ กลับกันสามวันมานี้เขาระทมทุกข์มาก
วู่หยานเชื่อมาตลอดว่าตัวเองมีความอดทนและฝีปากที่ดี แต่ไอ้ที่ว่ามามันไม่ช่วยให้เขาได้ทำอย่างว่ารอบสองเลย!
มันก็ปกติใช่ป่ะที่พอได้ครั้งหนึ่งแล้วก็อยากทำอีกรอบอ่ะ? ถ้าไม่งั้นเขาก็คงใช้มือซ้ายไปแล้ว
แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าหลังจากเช้าวันนั้น ท่านประธานกับพี่สาวฮินางิคุจะบอยคอตเขา!
นี่…พวกเธอยังมีมนุษยธรรมอยู่ไหม?
ตลอดทั้งสามวัน เขาจึงต้องใช้ชีวิตที่ได้แต่ดูแต่จับต้องไม่ได้ ตอนกลางคืนก็ต้องนอนเหงาๆคนเดียว นี่ทำให้น้ำหนักเขาลดไปเยอะเลยล่ะ
แล้วทุกๆเช้าพอเขาลืมตาขึ้นมาก็ต้องเจอใบหน้าอิคารอสตลอด เธอแอบมาห้องเขาแล้วคร่อมตัวเขาไว้ขณะที่มองดูหน้าเขาตอนหลับ ลองคิดดูตื่นมาก็ต้องเจอกับก้อนภูเขาไฟที่มันส่ายไปมาตรงหน้ายังมีหุ่นดินระเบิดนี่อีก แล้ววู่หยานจะไปทนไหวได้ยังไงล่ะ?
ทว่าทุกครั้งที่วู่หยานทนไม่ไหวจะกินอิคารอส ฮินางิคุกับมิโคโตะก็จะโผล่มาบดทำลายความหวังเขา
ดังนั้นสามวันมานี่ วู่หยานได้แต่นอนร้องไห้…….
วู่หยานรู้ดีว่านี่เป็นบทลงโทษที่เขาไปฝืนใจฮินางิคุกับมิโคโตะ ดังนั้นเขาจึงยอมโดนแต่โดยดี ทว่าเขาก็ยังคงเฝ้าหาโอกาสแก้แค้นอยู่ โดยใช้บทลงโทษพิเศษอ่ะนะ………
แต่โชคดีที่สามวันมานี้ ฮินางิคุกับมิโคโตะได้หายโกรธแล้ว พวกเธอไม่ได้เกลียดกันเพราะมีเสียครั้งแรกให้ผู้ชายคนเดียวกัน กลับกันความสัมพันธ์ของพวกเธอดีขึ้นอย่างมาก บางที่ทั้งสองคนอาจจะแอบจับมือกันอย่างๆลับที่ว่าให้ทำเป็นมองไม่เห็นพฤติกรรมหื่นๆของเขา…….
เพราะยังไงซะ ชีวิตของพวกเขาก็ได้หลอมรวมกันแล้ว มีชะตากรรมที่ต้องอยู่ด้วยกันตราบชั่วนิรันดร์ถ้าเขาไม่ตายไปซะก่อนอ่ะนะ เพราะงั้นการที่จะมาแก่งแย่งผู้ชายกันให้เสียความรู้สึก ไม่สู้ปล่อยๆไปจะได้อยู่ด้วยกันอย่างสบายใจต่อทุกฝ่ายด้วย
นอกจากนี้ ที่วู่หยานพูดก่อนหน้านี้ก็เป็นค่อนข้างจริงด้วย ถ้าเขาเลือกหนึ่งในพวกเธอ งั้นอีกคนก็ต้องทนอยู่ต่อไปด้วยหัวใจที่แตกสลาย ทั้งสองคนไม่อยากเจอแบบนั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ถึงพวกเธอจะไม่ชอบนิสัยหื่นกามของเขา แต่พวกเธอก็รู้สึกได้ถึงความจริงใจที่เขามีให้ ดังนั้นสองสาวจึงยอมรับความสัมพันธ์แบบนี้อย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่
แต่แน่นอนว่า พวกเธอก็ยังโมโหที่เขาทำแบบนี้……
ดังนั้นด้วยเหตุนี้ วู่หยานจึงร้องไห้………
สามวันมานี้ วู่หยานคิดอยากตะโกนไปหลายครั้งมากว่า ‘พี่ชายคนนี้เป็นสามีพวกเธอนะเฮ้ย!’ แต่มันก็เป็นแค่จินตนาการ เพราะยังไงซะเขาก็เป็นฝ่ายที่ทำเรื่องเห็นแก่ตัวกับพวกเธอก่อน การที่เขาไม่สามารถให้ความรักกับใครคนหนึ่งได้อย่างหมดหัวใจ นี่ทำให้วู่หยานแอบรู้สึกผิด ดังนั้นเขาจึงคิดจะทำตัวเป็นคนรักที่ดีให้แทน
ในเวลาเดียวกัน วู่หยานก็ได้ก่นด่าสาปแช่งไอ้พวกที่สามารถสร้างฮาเร็มได้อย่างง่ายๆ ‘พวกเอ็งมันจะเทพไปไหนวะ! ดูฮาเร็มของตูสิ มันยังเป็นแค่ตัวอ่อนอยู่เลยนะ……’
แล้วทำไมพวกตนถึงมาโผล่ที่ย่านการค้านี้นะเหรอ?
เหตุผลง่ายๆเลย ก็คือพวกเขาจะออกไปจากเมืองนี้ไงล่ะ!
พวกเขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิตได้หรอกใช่มั้ยล่ะ? ไม่ไปฟาร์มที่ป่าสัตว์อสูรเหรอ? ไร้สาระ ตอนนี้พวกเขาเลเวลสูงกันหมดทุกคน แล้วคิดว่ามันจะเวลอัพกันง่ายๆรึไง?
ถ้าไม่ใช่เพราะได้ไปหาสมบัติ แล้วคิดว่าพวกเขาต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงเลเวลอัพได้ถึงขนาดนี้? ไม่ต้องพูดถึงฮินางิคุเลยตอนนั้นเธอยังแค่แรงค์4เอง
แล้วจะไปเนี่ย จะไปไหนล่ะ?
โลกซิลวาเรีย ทั้งห้าคนต่างก็ไม่มีคนรู้จักหรือที่ๆอยากไป แม้แต่ลิลินเองก็ไม่ได้ออกไปข้างนอกบ่อยนัก…..
ดังนั้นสุดท้ายแล้ว พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะไปส่งลิลินกลับบ้าน!
ถ้าจะให้เจาะจงมากกว่านี้ ก็ไปบ้านเกิดลิลินที่บาฮาลล่ะ!
แต่บาฮาลมันห่างไกลจากเมืองท่ามาก ต้องข้ามภูเขาหลายต่อหลายลูก ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงทำได้แค่หันไปนั่งเรือเหาะ