บทที่ 326 คนอกตัญญู

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 326 คนอกตัญญู
เมื่อได้ฟังคำของเคราใหญ่ ฉินเทียนก็รู้ ว่าที่ตัวเองไว้ชีวิตเขาในครั้งนั้น นับว่าทำถูกต้องแล้ว

ดูท่าต่อไป คงต้องผูกมิตรให้มาก แล้วสร้างศัตรูให้น้อย

“เคราใหญ่ แผลถูกยิงที่ขาเป็นยังไงบ้าง ? ติดเชื้อหรือเปล่า?”เขาถามด้วยรอยยิ้ม

เคราใหญ่ตอบกลับอย่างจริงจัง“แค่แผลเล็กน้อยภายนอก ไม่มีผลกับการรับใช้คุณเลยครับ ”

“ได้รับใช้คุณ เป็นเกียรติของผม เชิญสั่งการมาได้เลยครับ”

ฉินเทียนพูดด้วยรอยยิ้ม“ฉันมีเพื่อนคนหนึ่ง อยากจะไปตั้งรกรากที่เกาะมลายู”

“รบกวนนายช่วยดูแลด้วย ”

ขณะที่พูด เขาก็หันกล้อง ไปที่หวางเฉียง

“โอ้พระเจ้า !”

ในตอนแรก หวางเฉียงยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไร แต่เมื่อเห็นภาพของเคราใหญ่ที่ตรงหน้าจอ เขาก็ถึงกับตกใจ

ครั้งก่อนเขาพาภรรยากับลูกสาวไปที่เกาะมลายูก็รู้สึกประทับใจในสภาพแวดล้อมและการดำเนินชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ของที่นั่นอย่างมาก

ภรรยาและลูกสาวก็ชื่นชอบมันมากเช่นกัน

ดังนั้นเขาก็จึงซื้อวิลล่าหลังเล็กหลังหนึ่งที่นั่น ตั้งใจจะไปตั้งถิ่นฐานถาวรอยู่

หลังจากนั้น ก็ไปช้อปปิ้งกับภรรยา และถูกแก๊งมอเตอร์ไซค์ปล้นกระเป๋า

เขากรุ่นโกรธอย่างมาก จากข้อมูลของเพื่อนฝูงในพื้นที่ ที่สุดแล้วก็หาร้านเหล้าของเคราใหญ่เจอ

เคราใหญ่จ่อปืนพกลูกโม่มาที่กลางหน้าผากของเขา และกล่าว“จะเอากระเป๋าคืนก็ได้ แต่จะแถมลูกกระสุนให้ด้วยอีกนัดหนึ่ง”

หวางเฉียงกลัวจนฉี่ราดในทันที

เก็บข้าวของเป็นอันดับแรก ลนลานรีบกลับประเทศในทันที จากนั้นก็ไม่กล้าไปเหยียบที่เกาะมลายูอีกเลย

แต่ที่นั่นเขายังมีบ้านพักอยู่ ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้ง ราคาหรือสิ่งปลูกสร้าง เขาก็ชอบมันมากๆ

อยากจะขายทิ้งก็ยังเสียดายอยู่

ดังนั้นก็จึงยังคิดไม่ตกกับสิ่งนี้

มาตอนนี้ เมื่อเห็นเคราใหญ่ที่ราวกับปีศาจร้าย มีท่าทีที่พินอบพิเทากับฉินเทียน เขาก็แทบไม่เชื่อสายตาของตัวเอง

ก่อนหน้านั้น เขารู้สึกแค่ว่า ฉินเทียนก็คงจะเป็นแค่พวกปลายแถวเท่านั้น

เป็นพวกนักฆ่า หรือนายหน้าประมาณนั้น ที่อาศัยเป็นคนกลางของคนใหญ่คนโต แล้วเรียกรับผลประโยชน์บางอย่าง

ตอนนี้ เขาต้องประเมินฉินเทียนในมุมมองใหม่ซะแล้ว

“เอ่อคือ——”เขากลืนน้ำลาย แล้วพูด“เคราใหญ่ คุณยังจำผมได้ไหม?”

“คุณเต็มใจจะช่วยผมจริงๆเหรอ?”

เคราใหญ่พูดเสียงเข้ม“ เพื่อนคุณฉิน ก็ถือเป็นแขกของผม ”

“คุณมาตั้งรกรากที่นี่ได้ตลอดเวลา ทุกอย่างผมจะดูแลให้เอง เกาะมลายู จะเป็นบ้านหลังที่สองของคุณ”

หวางเฉียงถอนหายใจ เรื่องมาถึงตรงนี้ เขาก็ไม่มีความกังวลใดๆอีก

“คุณฉิน ผมจะทำตามที่คุณบอก !”

“หุ้นเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของซิงถู ผมจะขายมันให้คุณ!”

ฉินเทียนพูดด้วยรอยยิ้ม“ประธานหวาง ผู้เข้าใจสถานการณ์คือผู้มีสติปัญญาเป็นเลิศ”

“พูดตามตรง หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่ที่คุณยังดีกับภรรยาและลูกอยู่บ้าง เรื่องวันนี้ผมไม่ให้มันจบลงง่ายๆแบบนี้แน่ ”

“เซ็นชื่อตรงนี้”

ดอลลาร์ ปอนด์หรือเงินหยวนก็ได้ทั้งนั้น ภายในสองวัน

ฉินเทียนหยิบเอาเอกสารสัญญาที่ตระเตรียมมาไว้อยู่ก่อนแล้วออกมา

หวางเฉียงรู้สึกขอบคุณอย่างมาก รีบเซ็นชื่อในสัญญานั้นทันที

เมื่อเห็นว่าผู้รับเป็นชื่อของหลิวหรูยู่ เขาก็ตกตะลึง พูดเสียงแผ่ว“ผมเข้าใจแล้ว ”

“คุณฉิน คุณมาจากเมืองหนานเจียงในตระกูลอานใช่ไหม มีแค่ตระกูลอานเท่านั้น ที่จะมีอำนาจขนาดนี้”

“เพียงแต่ว่า——”

เขาพูดเสียงเข้ม“คุณฉิน มีคำพูดหนึ่งไม่รู้ว่าควรพูดมันดีไหม”

ฉินเทียนยิ้มเยาะและกล่าว“คุณจะบอกว่าตระกูลจ้าวจะใช้เหตุผลนี้ เพื่อโจมตีเมืองหนานเจียงใช่ไหม?”

หวางเฉียงพูดเสียงเบา“ ผมเคยได้ยินจ้าวซวู่เผลอพูดในตอนเมา ว่าเป้าหมายสูงสุดของเขา คือการครอบครองเมืองหนานเจียง โดยผ่านทางหลิวหรูยู่ ”

“ตระกูลจ้าวของพวกเขาเป็นตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเมืองหยุนชวน กับเมืองหนานเจียงที่อยู่ติดกัน จึงอยากจะควบรวมมานานแล้ว”

ฉินเทียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม“ขอบคุณกับเรื่องที่บอกให้รู้ ”

“แต่ว่า กะอีแค่ตระกูลจ้าว ไม่อยู่ในสายตาผมหรอก”

หวางเฉียงตระหนักรู้และไม่ได้พูดอะไรอีก เพราะเขารู้ การต่อสู้กันระหว่างผู้มีอำนาจและอิทธิพลนี้ เขาเข้าไปยุ่งด้วยน้อยเท่าไรก็ยิ่งจะเป็นการดีที่สุด

หลังจากที่เซ็นเอกสารสัญญาแล้วเสร็จ ฉินเทียนนึกอะไรขึ้นมาได้ อดไม่ได้ที่จะถาม“คุณยังมีข้อมูลที่จะทำลายชื่อเสียงของผู้จัดการหลิวหรูยู่อีกด้วยใช่ไหม?”

หวางเฉียงเหยียดยิ้มและกล่าว“คุณหมายถึงพี่หรงเหรอ?”

“พูดตามตรง พี่หรงเป็นผู้จัดการที่เยี่ยมคนหนึ่ง และเป็นคนที่จิตใจดีอีกด้วย ”

“เว้นเสียแต่เรื่องส่วนตัวของเขา อืม ในสายตาของคนทั่วไป ก็ถือว่าเปิดกว้างละมั้ง”

“แต่สำหรับวงการนี้ของเรา ก็ถือเป็นเรื่องปกติ”

ฉินเทียนพูดอย่างโกรธเคือง“ คุณนี่มันช่างใจดำอำมหิตจริงๆ!”

“ในเมื่อมันเป็นชีวิตส่วนตัวปกติของเขา แล้วทำไมคุณถึงต้องพยายามไปแอบถ่ายมันด้วย?”

“ถ้าผมเดาไม่ผิด คุณต้องการจะใช้เธอ เพื่อควบคุมหลิวหรูยู่ใช่ไหม?”

หวางเฉียงรีบตบหน้าตัวเองอย่างแรงไปสองที แล้วกล่าว“ผมผิดไปแล้ว!”

“ต่อไปผมไม่กล้าอีกแล้ว”

“อย่าพูดมาก ข้อมูลพวกนั้นนายเก็บซ่อนมันไว้ที่ไหน ”

หวางเฉียงรีบหยิบกุญแจดอกหนึ่งออกมา แล้วกล่าว“นี่คือกุญแจของตู้เซฟในสำนักงานของผม”

“นอกจากหยางหรง ตั้งแต่ที่ผมทำงานในวงการนี้มา ข้อมูลและเอกสารทุกอย่างของทุกคนในวงการนี้ ล้วนอยู่ในนี้ทั้งหมด”

“คุณฉิน ผมยกมันให้คุณหมดเลย มีข้อมูลสำคัญของอีกหลายคน ไม่แน่อาจจะเป็นประโยชน์กับคุณ”

ฉินเทียนสบถด่า “นี่แกคิดว่าฉันเป็นเหมือนแกหรือไง ต้องใช้ข่าวฉาวๆของคนอื่นเพื่อข่มขู่ใคร !”

“ที่ช่วยได้ ฉันก็ช่วยไปหมดแล้ว ที่เหลือก็ดูเอาเองละกัน ”

“ถือโอกาสที่ในตอนนี้ตระกูลจ้าวยังไม่รู้เรื่อง นายรีบไปซะ !”

หวางเฉียงสั่นเทิ้มไปชั่วขณะ รีบพูด“ครับๆ ขอบคุณคุณฉินมากๆครับ!”

“คุณฉิน คฤหาสน์หลังนี้ตอนซื้อก็ซื้อมันในราคาสิบกว่าล้าน ตอนนี้น่าจะมีราคายี่สิบกว่าล้านได้ ผมยกมันให้คุณ !”

“ต่อไปจะได้สะดวกกับการทำงานของคุณด้วย ”

อันที่จริง หุ้นเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของเขา ราคาไม่ถึงสามร้อยล้านหรอก

ที่จ้าวซวู่เสนอราคามาสามร้อยล้านนั้น เป็นราคาของหุ้นทั้งหมด เงินที่เขาควรจะได้รับ ต้องแบ่งให้หุ้นส่วนอย่างฟู่เจียงอีกสามสิบล้าน

ฉินเทียนเสนอให้เขามาสามร้อยล้าน ก็เท่ากับเขากำไรเสียด้วยซ้ำ

ยกคฤหาสน์หลังหนึ่งให้ ก็ยังกำไรอยู่

อีกทั้ง จากประสบการณ์ที่ทำงานในแวดวงนี้มานานหลายปี ทำให้เขารู้สึกว่า คนแบบฉินเทียน คุ้มค่าแก่การลงทุน!

ยกคฤหาสน์หลังหนึ่งให้ ผูกมิตรไมตรีต่อกัน อนาคต ต้องนำพาผลประโยชน์ให้เขาอีกมากอย่างคาดไม่ถึงแน่นอน

ไม่ต้องพูดถึงในวันข้างหน้า แต่แค่ในตอนนี้ เขากับครอบครัวไปที่เกาะมลายู ก็จะได้รับการดูแลจากเคราใหญ่ด้วย

ทุกอย่างเป็นเพราะไมตรีจิตของฉินเทียน

ในเมืองหลวงแห่งนี้ฉินเทียนก็ต้องการที่พักอาศัยเช่นกัน รู้สึกว่าคฤหาสน์หลังนี้ก็ค่อนข้างที่จะเงียบเชียบเช่นกัน จึงรับมันไว้

หวางเฉียงจากไปอย่างเร่งรีบ ที่นี่ ก็จึงกลายเป็นบ้านของฉินเทียน

ฉินเทียนเดินดูไปทั่วบริเวณ รู้สึกพึงพอใจไม่น้อย เขานอนลงที่เตียง แล้ววิดีโอคอลหาซูซู

เมื่อรับสาย แล้วเห็นซูซู ฉินเทียนอดไม่ได้ที่จะมีความสุข

เห็นเธอนั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียง กำลังทำงาน ใบหน้ามีแผ่นมาสก์หน้าแปะอยู่ ดูๆไปแล้ว ทำไมถึงได้เหมือนแม่มดจัง

“ขำอะไร?”

“จัดการปัญหาทั้งหมดเรียบร้อยหรือยัง?”ซูซูเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง พูดขึ้นเสียงเรียบ

เพราะกลัวจะไปดึงที่มาสก์หน้าเข้า ดังนั้นเธอก็จึงไม่กล้าขยับปากมาก น้ำเสียงก็แปลกไปด้วยเล็กน้อย

ฉินเทียนหัวเราะและกล่าว “ก็ใกล้แล้ว รออีกสามวัน”

“ที่รัก ที่บริษัทเป็นยังไงบ้าง?”

“ตัวแทนธุรกิจพวกนั้น ยังมาหาเรื่องอะไรอีกไหม?”

ซูซูพูดอย่างโกรธเคือง“ไอ้พวกอกตัญญู!”

“ในตอนที่ครีมซูยู่เฟื่องฟู พวกเขาต่างก็แย่งกันจะเซ็นสัญญา ตอนนี้มีความปั่นป่วนนิดหน่อย ก็พากันเรียกร้องจะคืนสินค้า !”

“พวกเขากำหนดเส้นตายมา ฉันกำลังปรึกษาหารือกับหลิวชิงอยู่ ยังไม่ได้ตอบตกลงกับพวกเขา”