แขกทั้งหมดตกตะลึง ชูเยว่และไป่หลิง ที่อยู่ไกลออกไปก็ตกตะลึงด้วยเช่นกัน
ห๊า! ลูกคิวสีชมพูกลิ้งลงไปในหลุมจริงๆ!!!
มันยากที่ที่จะทำให้ลูกคิวสีขาวเด้งไปเด้งมาหลายครั้งและโดนลูกคิวสีชมชู แต่นี่ไม่ใช่แค่โดนเพียงธรรมดาแต่มันยังทำให้ลูกคิวสีชมพูกลิ้งลงไปในหลุมอีก!
มันเป็นไปได้อย่างไร?
ตอนนี้ไม่มีใครอยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง มันมีโอกาสเพียงหนึ่งในล้านที่ลูกจะลงหลุม เหลือเชื่อ รับไม่ได้ พวกเขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าเหตุการณ์อะไรแบบนี้จะเกิดขึ้น
เสี่ยวหลัวยืดตัวตรงและเดินไปที่ ฝู เจียเว่ย และตบไหล่ของเขา“เจียเหว่ยขอบคุณสำหรับคำอวยพรของนาย ฉันแทงลูกคิวลงหลุมได้เพราะนายเลย!”
ฝู เจียเว่ย ยืนนี่งงันไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อไป เขายิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่น่าอึดอัดใจ
เย่ หยิงหยิง,ฝาง ชูหลาน และคนอื่นๆ ในแก๊งอ้าปากค้าง การแสดงออกของพวกเขามันตกตะลึงจนไม่สามารถที่จะตกตะลึงไปได้มากกว่านี้แล้ว
“โชค มันต้องเป็นเพราะโชคแน่ๆ ฉันจะกินขี้ให้ดูเลย ถ้าลูกนี้ไม่ใช่ลูกที่เกิดจากโชค!” ผู้ชายคนหนึ่งที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ เย่ หยิงหยิง กล่าวอย่างไม่พอใจ
คนอื่นๆ ก็พยักหน้ารับตามจิตใต้สำนึกของพวกเขา ลูกคิวสีขาวกระดอนเด้งสี่ครั้งก่อนที่มันจะไปกระทบลูกคิวสีชมพู หากนี่ไม่ใช่ลูกที่เกิดจากการโชคดี มันก็ไม่มีใครเชื่อเรื่องนี้อยู่ดี มันเป็นไปไม่ได้ที่เสี่ยวหลัวจะเก่งในเรื่องการควบคุมวิถีของลูกคิวสีขาวขนาดนั้น ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เสี่ยวหลัวคงจะเก่งกว่าพวกมือโปรที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติแล้ว? ‘มันเป็นไปได้ด้วยเหรอ?”
เสี่ยวหลัวรู้สึกประทับใจกับสมมติฐานของผู้ชายคนนั้น “ถ้าคุณบอกว่ามันเป็นลูกโชค ถ้าฉันบอกว่ามันไม่ใช่ลูกโชค คุณจะกินขี้จริงๆใช่ไหม?”
“คุณ…”
หมอนั่นกัดฟันและกำหมัดของเขาแน่น ถ้า ฝู เจียเว่ย ไม่ได้หยุดเขาด้วยสายตาเขาคงจะวิ่งไปสั่งสอนเสี่ยวหลัวที่ทำตัวหยิ่งยะโสแล้ว
ในตอนนั้น เย่ หยิงหยิง ก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า“คุณอย่าภูมิใจไปเลย ตอนนี้คุณมีเพียงแค่6คะแนน ถ้าคุณมีความสามารถก็แทงลูกคิวสีดำให้ลงสิ มิฉะนั้นคุณก็จะแพ้!”
“ใช่แล้ว! ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคุณจะมีโชคในครั้งต่อไป” มันยังคงเป็นผู้ชายคนนั้น เขาอยากจะเห็นเสี่ยวหลัวล้มเหลว
“ก่อนหน้านี้เขาแค่โชคดี ถ้าเขาแทงลูกคิวสีดำคราวนี้ลง ฉันจะคุกเข่าให้เขาเลย!”
“แค่คุกเข่า? ฉันจะเรียกเขาว่าพ่อ!”
“ใช่. ปาฏิหาริย์แบบนั้น มันคงจะไม่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง”
คนไม่กี่คนที่สนิทสนมกับ เย่ หยิงหยิง เริ่มเย้ยหยันเขา
เสี่ยวหลัวยังคงสงบ เขากำลังเล็งลูกคิวของเขา ลูกคิวสีขาวและลูกคิวสีดำอยู่ในแนวเส้นตรง ดวงตาของเขาคมกริบและร่างของเขาเปล่งรัศมีที่เป็นเอกลักษณ์ออกมา ลมกระโชกแรงพัดผ่านจนผมที่ปรกหน้าผากสะบัดไปมาเบาๆ
อากาศเหมือนเกิดควบแน่นในขณะที่เขามุ่งความสนใจ
รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและชั่วร้าย แต่มันก็มีเสน่ห์ในความเคร่งขรึมของเขา ร่างกายของเขาปลดปล่อยบรรยากาศที่ลึกลับแห่งความเป็นราชาออกมา
ชูเยว่ที่อยู่ในระยะไกลราวกับถูกครอบงำไปชั่วขณะหนึ่ง เธอพึมพำออกมาโดยไม่รู้ตัว“ท่าทางที่เขาทำ ทำไมมันช่างดูหล่อเหลาจัง!”
ในตอนนั้นเสี่ยวหลัวก็ได้แทงลูกคิวออกไปแล้ว
ปั๊ก!
มันยังคงเป็นการแทงที่รุนแรง ลูกคิวสีขาวกลิ้งไปทางลูกบอลสีดำเหมือนลำแสงสีขาวและพุ่งกระแทกลูกคิวสีดำจนลูกคิวสีขาวหมุนด้วยความเร็วสูง ลูกคิวสีดำที่ถูกกระแทกกลิ้งออกไปราวกับเสือชีตาห์ พุ่งตรงไปทิศทางของหลุมจนลงไปในหลุมในที่สุด
ผู้คนจ้องมองที่ลูกคิวสีขาวที่กำลังหมุนอย่างรวดเร็วอยู่ในตำแหน่งเดิม พวกเขาราวกับเป็นคนโง่ มีคำว่า “เป็นไปไม่ได้” ที่พิมพ์แปะติดอยู่บนใบหน้าของพวกเขา โดยเฉพาะผู้ชายที่กล่าวกับเสี่ยวหลัวว่าเขานั้นโชคดี ตอนนี้เขารู้สึกว่าใบหน้าของเขากำลังเผาไหม้ราวกับว่าเขาถูกตบอย่างแรงโดยใครบางคน
“ฉันได้ 13 คะแนน ตามข้อตกลงของเราในก่อนหน้านี้ ฉันชนะแล้ว”
เสี่ยวหลัววางไม้คิวลงและเดินไปที่ เย่ หยิงหยิง และยื่นมือของเขาออกมา ความหมายของเขานั้นชัดเจนมากนาฬิกาและบัตรเครดิตของธนาคารอยู่ที่ไหน
เมื่อมีผู้คนมากมายอยู่รอบตัว เย่ หยิงหยิง จึงไม่สามารถแปรเปลี่ยนสัญญาของเธอได้ ได้แต่ยื่นบัตรที่มีเงิน 50,000 หยวนที่เป็นเงินค่าขนมหนึ่งเดือนของเธอและนาฬิกาสวิสเป็นสมบัติล้ำค่าของเธอออกไป เธอมอบให้กับเขาอย่างไม่เต็มใจ
“ฉันอยากเล่นอีกตา!”
เย่ หยิงหยิง กัดฟันยิ้มพูดในขณะที่เธอถอดนาฬิกาและวางมันไว้บนมือของเสี่ยวหลัวพร้อมกับบัตรธนาคารของเธอ
“อีกตางั้นเหรอ” เสี่ยวหลัว ขมวดคิ้ว
“ใช่แล้ว อีกตา!”
เย่ หยิงหยิง ดวงตาของเธอราวกับกำลังจะพ่นไฟออกมาได้ ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าผู้ชายคนนี้นั้นแกล้งทำมาตลอด จากช่วงเวลาที่เธอท้าให้เขาเล่นสนุกเกอร์ เธอราวกับเป็นคนงี่เง่าที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย“ถ้าคุณชนะ ฉันจะให้คุณอีกหนึ่งแสนหยวน แต่ถ้าหากคุณแพ้ ก็ส่งบัตรธนาคารของฉันคืนมาและเลียรองเท้าของฉันให้สะอาด!”
เธอโกรธมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกหักหน้าอย่างรุนแรงเช่นนี้ เธอภูมิใจในความสามารถของเธอในการเล่นสนุกเกอร์ สำหรับเธอความพ่ายแพ้นี้เป็นความอัปยศลึกล้ำและน่าขายหน้ามาก
ทำไมเสี่ยวหลัวถึงจะต้องปฏิเสธในเมื่อมีคนมาให้เงินฟรีถึงที่ขนาดนี้
เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ดีพวกเรามาเล่นกันอีกตาก็ได้ แต่ฉันไม่ชอบสัญญาปากเปล่า!”
สิ่งที่เขาหมายถึงก็คือเธอจะต้องแสดงความจริงใจของเธอ เธอไม่สามารถพูดด้วยปากของเธอเพียงอย่างเดียว
“เงิน 50,000 หยวน อยู่นี่!”
ฝาง ชูหลาน หยิบบัตรธนาคารออกมาจากกระเป๋าของเธอและวางไว้บนโต๊ะสนุกเกอร์ เธอจะสนับสนุน เย่ หยิงหยิง จนถึงที่สุด
ฝู เจียเว่ย ไม่เสแสร้งทำเป็นเป็นพี่น้องที่ดีกับเสี่ยวหลัวอีกต่อไป เขาหยิบบัตรธนาคารออกมาและพูดว่า“เงินอีก 50,000 หยวน อยู่นี่เช่นกัน”
“เท่านี้ก็มีครบ 100,000 หยวนแล้ว โอเค ฉันจะเล่นอีกตากับคุณเอง”
แม้ว่าเสี่ยวหลัวจะไม่ใช่คนที่ตาโตเมื่อเห็นเงิน แต่เขาก็ไม่เคยหันหลังให้กับเงิน “โอ้! ใช่ตานี้ ฉันได้สิบคะแนนแล้วฉันจะชนะอีกไหม?”
เมื่อได้ยินคำพูดที่ออกมาจากปากของเขา เย่ หยิงหยิง,ฝาง ชูหลาน และ ฝู เจียเว่ย เกือบจะอาเจียนเป็นเลือด
ฝู เจียเว่ย อดทนต่อแรงกระตุ้นที่จะพูดหยาบคายออกมาเขาฝืนยิ้มอยู่บนใบหน้า เขาพูดว่า“เสี่ยวหลัว คุณรู้วิธีเล่นสนุกเกอร์อยู่แล้ว ถ้าเรานับสิบคะแนนเหมือนก่อนหน้านี้ มันจะไม่ยุติธรรมกับ หยิงหยิง”
“เจียเว่ย นายหมายถึงว่าเราจะทำตามกฎปกติ ใช่ไหม?” เสี่ยวหลัว ถาม
“โอ๊ย! ทำไมเธอจะต้องให้แต้มต่อกับคุณหลังจากที่เรารู้ว่าคุณรู้วิธีเล่นสนุกเกอร์เป็นอยู่แล้ว?”
“ช่างเป็นคนที่ไร้ยางอาย! คุณไม่กลัวที่จะถูกฟ้าผ่าหรือไง”
“อยากจะได้ผลประโยชน์ โดยที่ไม่ต้องออกแรงอะไร ทำไมคุณไม่ไปตายซะเลยหละ”
ชายหญิงที่มีคำสัมพันธ์ดีกับ เย่ หยิงหยิง เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและอยากที่จะไปสั่งสอนเสี่ยวหลัวด้วยกัน
“เสี่ยวหลัวหยุดแสดงได้แล้ว เราจะไม่หลงกลนายแล้ว” ฝาง ชูหลาน กล่าวอย่างขุ่นเคือง
“รีแล็กซ์เข้าไว้ ฉันเพียงแค่พูดเฉยๆ ฉันได้รับผลประโยชน์จากการแข่งขันแรกไปแล้ว มันคงจะไม่ดีถ้าฉันได้รับแต้มต่ออีก มาเล่นเกมกันเถอะ ใครก็ตามที่ได้คะแนนสูงกว่าจะได้รับชัยชนะไป” ใบหน้าของเสี่ยวหลัวยังคงยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอตั้งแต่ต้นจนจบ
เย่ หยิงหยิง ก้าวไปข้างหน้าแล้วหยิบไม้คิวขึ้นมาและกระแทกมันลงบนพื้นขณะที่เธอพูดอย่างดุเดือดว่า“ไม่ต้องพูดเรื่องไร้สาระอะไรแล้ว!”
เสี่ยวหลัวหยุดพูด แต่ยังคงรอยยิ้มเอาไว้และแสดงสีหน้าเคร่งขรึม เขาหยิบไม้คิวขึ้นมาอีกครั้งและเดินไปที่โต๊ะสนุกและเริ่มเกมด้วยการแทงเบาๆ
มันเป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างมืออาชีพตอนนี้บรรยากาศกำลังตึงเครียด
ทุกคนมองที่โต๊ะโดยไม่กระพริบตา พวกเขาไม่รู้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะในตอนสุดท้าย
ด้วยการแทงอย่างนุ่มนวลของเสี่ยวหลัว ลูกคิวสีขาวก็กลิ้งเข้าไปชนกับขอบของลูกคิวสีแดงที่จับกันเป็นกลุ่มและกระดอนกลับไปที่บริเวณแยกครึ่งวงกลมเล็กๆ
คนส่วนใหญ่คิดว่ามันเป็นการแทงแบบป้องกัน แต่จากมุมมองของ เย่ หยิงหยิง เสี่ยวหลัวนั้นได้เปิดเผยข้อบกพร่องในการแทงครั้งแรกของเขาออกมาแล้ว เพราะลูกคิวสีแดงหนึ่งลูกได้หลุดออกจากกลุ่มก้อนเมื่อลูกคิวขาวกระทบกับมัน และลูกคิวสีแดงนี้ก็สามารถแทงให้ลงหลุมได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่ทำเช่นนั้นเธอสามารถคว้าโอกาสที่จะกระจายลูกคิวสีแดงซึ่งมันจะเป็นประโยชน์สำหรับเธอและเธอก็มีโอกาสที่จะได้รับคะแนนมากขึ้น