ตอนที่ 754

Elixir Supplier

754 ได้กลิ่นแล้วรู้สึกสดชื่น

 

หมอหวู่ไม่ใช่คนที่ชอบเสแสร้ง เขาไม่เหมือนบางคนที่ต้องการเงิน แต่กลับแกล้งทำเป็นไม่สนใจ คนแบบนั้นควรละอายใจมากกว่าจะเป็นเขา

 

“คนไข้อยู่ไหนครับ?” หมอหวู่ถาม

 

“เขาอยู่ข้างในค่ะ” คุณหลี่พูด

 

ภายในห้องคนไข้วีไอพี ลูกศิษย์ของราชายาได้พบกับคนไข้ที่นอนอยู่บนเตียง คนไข้ดูซีดเซียว แก้มของเขาตอบและร่างกายผอมแห้ง ร่างกายของเขากระตุกเล็กน้อย ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเพียงสิ่งเดียวที่แสดงให้เห็นว่าเขายังมีชีวิตอยู่

 

“เขามีอาการยังไงบ้างครับ?” หมอหลี่ถาม

 

“ปวดหัว แล้วก็เจ็บที่หน้าอกกับท้องค่ะ” คุณหลี่พูด “ยาแก้ปวดใช้ไม่ได้ผลกับเขา”

 

“แล้วบรรเทาอาการด้วยวิธีไหนเหรอครับ?” หมอหวู่ถาม

 

“เราให้มอร์ฟีนเขาไปหลายโดสแล้ว” คุณหลี่พูด

 

หมอหวู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ตัวยาที่ใช้ระงับความเจ็บปวดนั้นถือว่าดี แต่ก็มีปัญหาตามมาคือผลข้างเคียงของมัน เช่น การเสพติด ซึ่งจะส่งผลเสียต่อร่างกายของผู้ป่วยเอง

 

“ฉันทนเห็นเขาทรมานไม่ได้หรอก” คุณหลี่พูด

 

จากการที่ต้องคอยเฝ้าดูแลลูกชาย ทำให้เธอดูซีดเซียวลงไปมากเช่นกัน แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากกังวลเรื่องลูกชายของเธอเอง เธอทั้งกังวลและโมโห และนั่นก็คือสาเหตุที่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายขึ้นมา

 

“ผมขอตรวจดูอาการของเขาก่อนนะครับ” หมอหวู่เดินเข้าไปจับดูชีพจรของโฮ่วชื่อต๋า ที่นอนอยู่บนเตียงในสภาพอ่อนแรงและผิดปกติ

 

เกิดรอยย่นขึ้นที่หว่างคิ้วของหมอหวู่ เขาตรวจดูบริเวณท้องและศีรษะ แล้วพูดเสียงกระซิบขึ้นมาว่า “เป็นไปไม่ได้”

 

เขาจับชีพจรของคนไข้อีกครั้ง แล้วตรวจสอบช่วงอกและหน้าท้องอีกรอบ

 

“ผมคงต้องรอจนกว่าอาการของเขาจะกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง” หมอหวู่พูดในขณะที่เขายืดตัวตรง

 

คุณหลี่ดูนาฬิกา “ได้สิ”

 

พวกเขารอคอยอยู่ภายในห้องเกือบหนึ่งชั่วโมง โฮ่วชื่อต๋าที่กำลังหลับใหลอยู่ๆก็มีปฏิกิริยาและกรีดร้องออกมา

 

หมอหวู่รีบเข้าไปหา จากนั้นก็จับข้อมือของเขาและสั่งให้คนอื่นๆช่วยกันยึดตัวเขาเอาไว้ เขาฟังเสียงภายในหน้าอกและท้องของชายหนุ่ม

 

“จับเขาเอาไว้” เขาพูดกับผู้หญิงที่อยู่ด้านข้าง

 

คุณหลี่สั่งการ มีคนเดินเข้ามาจากด้านนอกและจับตัวโฮ่วชื่อต๋ากดไว้กับเตียง มันดูราวกับว่า เขาเป็นหมูที่กำลังรอการถูกเชือดยังไงยังงั้น

 

หมอหวู่หยิบเข็มเงินออกมา แล้วฝังมันลงไปที่หน้าท้องของชายหนุ่มด้วยความเร็วสูงสุด

 

อยู่ๆร่างกายของโฮ่วชื่อต๋าก็แข็งทื่อ

 

“เขาเป็นอะไรไปน่ะ?” คุณหลี่ตกใจ

 

“ไม่ต้องวิตกไปครับ” หมอหวู่หยิบเข็มเงินของมาหลายเล่ม จากนั้นเขาก็ฝังมันลงไปตามจุดต่างๆบนร่างกายของชายหนุ่ม

 

โฮ่วชื่อต๋าส่งเสียงกรีดร้องขึ้นมาอีกครั้ง

 

สีหน้าของหมอหวู่เคร่งเครียดอย่างมาก เขาพูดด้วยเหงื่อเต็มใบหน้าว่า “คุณให้มอร์ฟีนกับเขาได้เลยครับ”

 

มอร์ฟีนในปริมาณมากถูกฉีดเข้าไป โฮ่วชื่อต๋าร้องโหยหวญอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะหลับไป

 

“หมอหวู่ อาการลูกชายของฉันเป็นยังไงบ้าง?” คุณหลี่ถาม

 

หลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตอบกลับไปว่า “ผมขอโทษด้วยครับ คุณผู้หญิง ผมรักษาเขาไม่ได้ คงต้องทำให้คุณผิดหวังแล้ว”

 

ถ้าเขามีความมั่นใจกว่านี้อีกสักหน่อย เขาอาจจะลองดูสักตั้ง โชคร้ายที่แม้แต่โรคเขาก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ

 

“อะไรนะ?” สีหน้าของคุณหลี่เปลี่ยนไปในทันที

 

“ผมรักษาโรคนี้ไม่ได้ครับ” หมอหวู่พูด

 

“แล้วคุณรู้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของฉัน?” คุณหลี่ถาม

 

“ครับ” หมอหวู่พูด

 

“มันคือะไร?” คุณหลี่ถาม

 

“มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ภายในร่างกายของเขา ทำให้เส้นเลือดไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ” หมอหวู่พูด “อวัยวะภายในทำหน้าที่ได้มาสมบูรณ์ และสร้างความเจ็บปวดแก่ร่างกาย ที่ศีรษะของเขาก็มีอาการเดียวกันครับ”

 

“หมอเฉินกับหมอหลี่บอกว่า พวกเขากำจัดมันออกไปไม่ได้” คุณหลี่พูด

 

หมอหวู่รู้สึกไร้หนทาง เขาไม่คิดว่าจะต้องมาเจอกับคนไข้ที่มีอาการแบบนี้

 

“คุณพอจะรู้ไหม ว่าใครที่สามารถรักษาโรคนี้ได้?” คุณหลี่ถาม

 

หมอหวู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบออกไปว่า “อาจารย์ของผมน่าจะทำได้ แต่เขามีกฎเยอะมาก”

 

“หมอหวู่ คุณถือเป็นลูกศิษย์คนหนึ่งของเขา คุณพอจะให้สิทธิพิเศษอะไรได้บ้างล่ะ?” คุณหลี่ถาม

 

“ไม่ครับ เรื่องนี้เราพูดกันชัดเจนแล้ว” หมอหวู่ส่ายหน้า ลูกศิษย์แต่ละคนล้วนมีสิทธิพิเศษบางอย่างอยู่ แต่เขาไม่มีทางใช้โอกาสสุดพิเศษนี้กับคนพวกนี้แน่

 

คุณหลี่ได้แต่ถอนหายใจออกมาหลังจากที่ได้รับคำตอบ

 

“เสี่ยวโฮ่ว จ่ายเงินค่ารักษาให้หมอหวู่ที”

 

“ครับ คุณผู้หญิง”

 

“โอ้ คุณไม่ต้องจ่ายหรอกครับ ในเมื่อผมรักษาให้ไม่ได้”

 

“คุณพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว” คุณหลี่พูด

 

สุดท้าย ลูกศิษย์ของราชายาก็ไม่รับค่ารักษา เขารับเพียงการเดินทางที่พวกเขาจัดหาให้เท่านั้น

 

“คุณผู้หญิงครับ?”

 

“ไปหาราชายา และทำตามกฎของเขา” เธอสูดลมหายเข้าลึก

 

“ผมเข้าใจแล้วครับ ผมจะจัดการเรื่องนี้ในทันที”

 

นี่เป็นทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่ของพวกเขา

 

บนเนินเขาหนานชาน…

 

หวังเย้ากำลังทดลองสูตรยาตัวหนึ่งอยู่ มันเป็นยาสูตรพิเศษที่เขาคิดขึ้นมา

 

สมุนไพรรากได้รับการทำความสะอาดเป็นอย่างดี ถูกนำมาบดรวมเข้ากับดอกของต้นเซียงชิวหลัว และสมุนไพรตัวอื่นๆ

 

เขากำลังทำยาสูตรใหม่ออกมา

 

อืม รสชาติของมันใช้ได้ แต่ไม่รู้ว่ามันจะได้ผลอะไรบ้าง เขาคิด เขามองดูขวดกระเบื้องสีขาวที่บรรจุตัวยาเอาไว้ จากนั้นก็ดึงจุกที่ปิดขวดกระเบื้องออก กลิ่นหอมของตัวยาลอยออกมาจากปากขวดในทันที

 

อืมม สูดลมหายใจเข้าลึกและรู้สึกได้ถึงความสดชื่น

 

ฉันจะลงไปข้างล่าง แล้วลองมันกับใครสักคนดีกว่า

 

หวังเย้าหยิบยาติดมือไปด้วยและลงไปจากเขา เขาไม่ได้เดินไปที่คลินิก แต่เลือกจะไปที่บ้านของหลิวจงชวนแทน

 

“หมอหวัง”

 

“สวัสดีค่ะ”

 

“สวัสดี อันซิน วันนี้วันหยุดเหรอ?”

 

“ใช่ค่ะ วันนี้เป็นวันเสาร์”

 

“อันซินกลับเข้าไปทำการบ้านข้างในเถอะ พี่มีเรื่องต้องคุยกับหมอหวัง” จงหลิวชวนพูด

 

“ได้ค่ะ” จงอันซินกลับไปที่ห้องของเขาด้วยท่าทีมีความสุข

 

“คุณไปถึงไหนแล้วล่ะ?” หวังเย้ารู้สึกได้ว่า หลายวันที่ไม่ได้พบเขา การหายใจของจงหลิวชวนเปลี่ยนไปอย่างมาก นี่คือผลลัพธ์ที่ได้จากการฝึกฝนวิธีการหายใจ

 

“เวลาที่ไม่มีอะไรทำ ผมก็มักจะเข้าไปในเงียบๆอยู่ในห้องคนเดียวครับ”

 

“ดีครับ เราไปดูคนที่อยู่บ้านหลังนั้นกันดีกว่านะ”

 

“ครับ”

 

ทั้งสองเดินไปที่บ้านอีกหลังหนึ่ง

 

ประตูเปิดออก

 

มีคนกำลังมา? ดวงตาเจี๋ยจื้อจายที่นอนอยู่บนเตียงเป็นประกายขึ้นมา หลังจากที่ต้องทนอยู่ในสภาพนี้มาได้หลายวัน เขาก็แทบไม่เหลือเรี่ยวแรงใดๆ แม้แต่เนื้อหรือของมึนเมาก็ไม่มีให้ได้กิน ที่มากไปกว่านั้นก็คือ เขาไม่ได้พบเจอผู้คนตลอดทั้งวัน ทำได้แค่นอนทรมานอย่างเดียวดายในเตียง

 

โอ้ วันนี้มีคนมาตั้งสองคนแน่ะ

 

“นายนี่เอง!” ทันทีที่เขาเห็นหน้าของหวังเย้า เขาก็รู้สึกโมโหขึ้นมา ราวกับว่า มีไฟกำลังแผดเผาอยู่ในหน้าอกของเขา แต่เขาก็ทำอะไรกับมันไม่ได้

 

“อืม สภาพของคุณไม่เลวเลยนะ!” หวังเย้ามองเขาและยิ้มออกมา

 

“เชี่ยเอ้ย!”

 

“ผมมีของมาให้คุณลองน่ะ มันจะช่วยคุณได้มากเลยล่ะ”

 

“สำหรับแพทย์ปรุงยาแล้ว คุณถือว่าน่าสนใจมากเลยล่ะ”

 

“ผมจะช่วยคลายจุดให้คุณขยับได้แล้วกัน” หวังเย้ายิ้ม

 

“อะไรนะ?” เจี๋ยจื้อจายตกตะลึง เขาจะปล่อยฉันไปงั้นเหรอ หรือว่าเขากำลังจะฆ่าฉันกันแน่?

 

หวังเย้าตบมือในอากาศสองสามครั้ง ความร้อนแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของเจี๋ยจื้อจาย จากนั้นก็จางหายไป เขาค้นพบว่า ตัวเองสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระแล้ว กำลังกายที่หายไปก็กลับคืนมาเหมือนเดิม

 

“เยส!” เขาร้องออกมา มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก

 

แล้วเขาก็ลุกขึ้นยืน

 

อ่า! เขารู้สึกหน้ามืดขึ้นมาทันที

 

เขาคงจะลุกเร็วเกินไป จนทำให้หัวหมุน

 

“หลิวชวน คุณออกไปข้างนอกก่อนนะ”

 

“ครับ” จงหลิวชวนเดินออกไปด้านนอกทันที

 

“อะไร? นายอยากจะคุยกับฉันตามลำพังอย่างนั้นเหรอ?” เจี๋ยจื้อจายไม่รู้ว่าหวังเย้าคิดจะทำอะไร

 

“มาครับ ดมมันดู” หวังเย้าหยิบขวดกระเบื้องสีขาวออกมาและเปิดฝาขวดออก

 

“หืม?” เจี๋ยจื้อจายตกใจ

 

“ดมงั้นเหรอ? นายหมายความว่ายังไงกันแน่?”

 

“ไม่มีอะไรหรอกครับ”

 

อ้า! เขามึนหัว

 

เขาล้มลงไปกองกับพื้น กำลังกายและพละกำลังที่เพิ่งได้คืนมาหายไปราวกับว่าวที่ลอยไปตามลม

 

“เชี่ย! มันเกิดอะไรขึ้นอีกแล้ว?”

 

มันต่างไปจากครั้งก่อนที่เขาไร้เรี่ยวแรง แต่ครั้งนี้เขารู้สึกร้อน ภายในหน้าอกของเขารู้สึกได้ถึงความอึดอัด การหายใจของเขาเกิดการติดขัด แล้วเขายังปวดหัวมากด้วย

 

“หืม ทำไมถึงมีนกบินเข้ามาในบ้านได้ล่ะ? นั่นมันอะไรน่ะ?”

 

เขาขยี้ตาและรับรู้ได้ว่า ตนเองกำลังเห็นภาพหลอน