ตอนที่ 218 ท่านไม่รังเกียจสตรีหรือ (2)

ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษ

ไป๋หลี่ชูนึกดูแล้วตอบเนือยๆ ว่า “รังเกียจ”

 

 

ชิวเยี่ยไป๋ยิ่งสงสัย กำลังจะพูดอะไรกลับได้ยินเสียงเขาพูดต่อกลั้วหัวร่อ “เจ้าคิดว่าบนตัวเจ้าทั้งบนและล่าง ตรงไหนเหมือนสตรีหรือ”

 

 

พริบตานั้นชิวเยี่ยไป๋หน้าเครียด ทำให้เขารู้ว่าคนในอ้อมกอดสุดจะทนแล้ว และยื่นมือผลักเขาออกอย่างมินำพาสิ่งใด พลางตอบโต้ว่า “ข้าเหมือนสตรีเสียที่ไหนกัน ต่อให้ข้าไม่เหมือนสตรี ก็ยังมีอีกคนที่ไม่เหมือนบุรุษแม้แต่น้อยนิด แต่ยังอุตส่าห์หน้าด้านเยาะเย้ยคนอื่นด้วย”

 

 

ไป๋หลี่ชูเห็นเสือดาวตัวน้อยในอ้อมกอดมีโทสะ ดิ้นรนจะให้พ้นอ้อมแขน ก็ยิ้มอย่างได้ใจว่า “เสี่ยวไป๋ เจ้าโมโหหรือ”

 

 

ชิวเยี่ยไป๋ขี้เกียจสนใจ จึงยันมือกับขอบเตียงจะลุกขึ้นนั่ง

 

 

ไป๋หลี่ชูจะให้นางหนีไปได้อย่างไร ทั้งสองหนึ่งดันหนึ่งกด ตอนชิวเยี่ยไป๋ชันกายขึ้นใช้แรงมากเกินไป มือของไป๋หลี่ชูอยู่ตรงท้องน้อยของนางจึงไถลลงทำเอานางตัวแข็งทันที

 

 

ไป๋หลี่ชูรู้สึกถึงคนในอ้อมแขนที่ดิ้นรนตลอดเวลาจู่ๆ ก็ตัวแข็งเป็นหิน สัมผัสที่มือทำเอาดวงตาเขามีแววสับสน จากนั้นกล่าวอย่างเกียจคร้านว่า “อืม ทีนี้ข้ารู้สึกแล้วว่าเสี่ยวไป๋มีบางจุดที่เหมือนสตรี”

 

 

“…” ชิวเยี่ยไป๋หน้าแดงขาวสลับกัน

 

 

ไป๋หลี่ชูแลดูนางพลางกล่าวยิ้มๆ ว่า “เสี่ยวไป๋เพิ่งตื่น วันเบาๆ ของสตรียังคงต้องนอนพักเอาแรงนะ”

 

 

ชิวเยี่ยไป๋รู้สึกกรงเล็บอสูรในร่มผ้าขยุกขยิก สุดท้ายนางก็กัดฟันล้มลงนอน

 

 

ที่เรียกว่าทำบาปเองต้องไปตายคงเป็นเช่นนี้นี่เอง

 

 

ไป๋หลี่ชูพอใจที่ชิวเยี่ยไป๋ว่านอนสอนง่าย ปลายนิ้วสอดผ่านผมดกดำของนาง “วางใจเถิด อะไรที่ข้ารับปากเจ้าแล้วย่อมต้องทำให้ได้”

 

 

เสียงที่ริมหูนุ่มนวลแหบพร่า ทำเอานางรู้สึกสบายใจอย่างน่าประหลาด

 

 

แม้ไป๋หลี่ชูจะมีพฤติกรรมพิลึก นิสัยชั่วร้าย แต่คนเช่นนี้ถ้าไม่ตกปากรับคำก็แล้วไป ถ้ารับปากแล้วจะไม่มีวันผิดคำพูด เพราะนี่เป็นความทระนงของผู้สูงศักดิ์และทรงอำนาจ

 

 

อย่าว่าแต่ตามนิสัยกลัวความสกปรกของเขาแล้ว ขณะที่นางยังเป็นประโยชน์ต่อเขา ย่อมไม่ต้องกังวลวว่าเขาจะขายนาง

 

 

แต่การเชื่อใจราชนิกุลที่ตนเคยระแวดระวังและชิงชังเช่นไป๋หลี่ชู ทำเอาชิวเยี่ยไป๋เองก็บอกไม่ถูกว่าในใจมีรสชาติอย่างไร

 

 

นางมองดูเมฆบนท้องฟ้าลอยผ่านหน้าต่าง พลันถามเรียบๆ ว่า “หยวนเจ๋อกับโจวอวี่เล่า พวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง”

 

 

การเคลื่อนไหวที่มือของไป๋หลี่ชูชะงักลง น้ำเสียงทุ้มต่ำนุ่มนวลจนฟังอารมณ์ไม่ออก “เจ้ากังวลพวกเขาหรือ”

 

 

ชิวเยี่ยไป๋ถอนใจเบาๆ “พวกเขาพัวพันเพราะข้าจึงเป็นเช่นนี้ ข้าจะไม่วิตกได้อย่างไร”

 

 

แม้ชิวเยี่ยไป๋จะไม่ทันสังเกตว่าตนเองใช้น้ำเสียงแทบจะเหมือนคำอธิบาย แต่ไป๋หลี่ชูสังเกตเห็นและไม่ได้ทำให้นางลำบากใจ เพียงกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเขามีที่พักรักษาตัว เจ้าเองพักผ่อนให้ดีก็แล้วกัน”

 

 

ชิวเยี่ยไป๋ฟังแล้วแม้จะกังวลอยู่บ้างแต่ก็ไม่ถามอีก ไป๋หลี่ชูไม่มีความจำเป็นต้องโกหกนาง

 

 

นางพยักหน้าแล้วเงียบไป พักใหญ่จึงกล่าวเสียงเบาว่า “ข้าดีขึ้นมากแล้ว ฝ่าบาทไม่ต้องลำบากเช่นนี้แล้ว”

 

 

ร่างกายของไป๋หลี่ชูอุณหภูมิต่ำ แต่มือที่กุมท้องน้อยของนางกลับอบอุ่นอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่าเขาเดินพลังที่ฝ่ามือช่วยนางอบอุ่นมดลูก แม้จะยังไม่รู้ว่าเขาทำไปเพื่ออะไร แต่ในเมื่อนางตื่นแล้ว ท่าทางลามกเช่นนี้ทำเอานางรู้สึกตะครั่นตะครอ

 

 

ไป๋หลี่ชูเลิกคิ้วอย่างสนใจถามว่า “ท่านหมอเคยบอกว่ามดลูกของสตรีเลือดคั่งเพราะความเย็น ต้องให้ความอบอุ่นเพื่อไล่ลมเย็น ยามปกติเสี่ยวไป๋ชอบใช้สิ่งใด”

 

 

ชิวเยี่ยไป๋เงียบไปครู่หนึ่ง ยังคงฝืนใจตอบว่า “ถ้าต้องใช้จริงๆ ปกติจะใช้กระเป๋าน้ำร้อน”

 

 

ไป๋หลี่ชูครุ่นคิดครู่หนึ่ง “ยามมดลูกเย็นกำเริบ ทุกครั้งมักเสียเลือดมากจนหมดสติหรือ”

 

 

ชิวเยี่ยไป๋สู้อดทนและตอบสั้นๆ ว่า “ไม่”

 

 

ไป๋หลี่ชูนึกดูคล้ายยังจะถามต่อ ในที่สุดชิวเยี่ยไป๋ก็ทนไม่ไหวกัดฟันบอกว่า “ฝ่าบาท ข้าหิวแล้ว!”

 

 

ทำไมนางจะต้องมัวแต่ถกปัญหาบ้าบอนี้กับสตรีปลอมคนหนึ่ง!

 

 

ไป๋หลี่ชูแลดูใบหูของคนในอ้อมกอดที่แดงฉาน แล้วหัวร่อคราหนึ่ง ค่อยๆ ชักมือออกจากอกของนาง

 

 

จะบีบคั้นเกินไปมิได้ ต้องให้นางค่อยๆ ยอมรับตนจึงจะดี เช่นเดียวกับตนเองที่ต้องการเวลาบ้างในการ…ยอมรับสภาพเช่นนี้

 

 

เขามองดูจุดแดงที่ปลายนิ้ว สีแดงฉานบนปลายนิ้วขาวราวหิมะตัดกันจนสะดุดตา เหมือนกับตอนเขาเก็บ ‘ยาขจัดพิษ’ จากข้อมือและลำคอขาวผ่องของนาง ทว่า…

 

 

เดิมทีชิวเยี่ยไป๋หน้าแดงฉานเพราะขณะชักมือออกจากอกตนเขาสะกิดโน่นนี่อย่างจงใจ พลันเห็นอากัปกริยาของเขาพลันนึกอะไรขึ้นได้ ใบหน้าที่แดงฉานกลายเป็นเขียวคล้ำในพริบตา ไอ้หมอนี่จะ…จะเอานี่เป็น ‘ยาขจัดพิษ’ ด้วยชนิดไม่ยอมให้สูญเปล่าเลยหรือไม่

 

 

แต่ไป๋หลี่ชูจู่ๆ ก็หลับตาลง พลันส่งเสียงแหบเล็ก “ซวงไป๋!”

 

 

นอกประตูมีเสียงบุรุษขานรับเสียงสดใส “ฝ่าบาท น้ำสรงผสมกลิ่นดอกไม้ของท่านเตรียมเสร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

 

 

ไป๋หลี่ชูผุดลุกขึ้นอย่างฉับไวงดงาม โยนคำพูด “พักเถอะนะ” ไว้ แล้วก็ออกจากประตูโดยไม่เหลียวมองอีกเลย

 

 

จะไปจะมาเหมือนลมพัด พักใหญ่ชิวเยี่ยไป๋จึงตั้งสติได้ว่า ไอ้หมอนั่นรังเกียจว่ามือเปื้อนแล้วจึงไปอาบน้ำ

 

 

ใบหน้านางเขียวคล้ำราวต้นหอมฤดูร้อนทันที เขม้นตามองตามแล้ว ‘ถุย’ ใส่อย่างดุดัน

 

 

เจ้าคิดหรือว่าถ้าข้าฆ่าเจ้าได้ จะยอมให้เจ้าล่วงเกินเช่นนี้หรือ!

 

 

 

 

ตะวันขึ้นเดือนตก สองวันผ่านไปอีก

 

 

ชิวเยี่ยไป๋วางชามยาที่ดื่มหมดแล้วบนโต๊ะ ผลักบานหน้าต่างไม้อยากมองดูความจอแจข้างนอกเงียบๆ บนถนนคนไปมาขวักไขว่

 

 

โลกที่ปกติ มีทั้งคึกคักและเงียบสงบ

 

 

นี่เป็นหนานอั้นหรือฝั่งใต้ มิได้ทำกิจการขนถ่ายสินค้าเช่นตงอั้นหรือฝั่งตะวันออก แต่นางออกจะแปลกใจอยู่บ้างที่เหมยซูรู้แล้วว่านางต้องหนีไปทางฝั่งใต้ แต่หลายวันนี้นางไม่พบว่าฝั่งใต้จะตึงเครียดหรือมีการตรวจค้นป้องกันเหมือนกับตงอั้นเลย

 

 

ถึงอย่างไรหนานอั้นก็เป็นถิ่นของเหมยซู หรือว่านางฟาดไปครานั้นเหมยซูถูกฟาดตายไปแล้ว

 

 

แต่ถ้าเป็น ‘ข่าวใหญ่ข่าวดี’ เช่นนี้ คิดว่าป่านนี้ฝั่งใต้ยิ่งต้องมีแต่ทหารเต็มไปหมดและค้นไปทั่วถึงจะถูก

 

 

นางถอนใจเบาๆ มิรู้ว่าวันเวลาสงบสุขเช่นนี้ของนางจะเหลืออีกกี่วัน