บทที่ 265 เทพสงครามมาหาถึงที่

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

บทที่ 265 เทพสงครามมาหาถึงที่
กู้ชูหน่วนเอาใจร้อยแปดถึงทำให้จอมมารกลับไปได้ ก่อนจากไป ยังสาบานไม่หยุด ว่าต้องไปเผ่าปีศาจหาเขาแน่ นี่ถึงส่งจอมมารพระปฏิมาองค์นี้ไปได้

เซียวหยู่เซวียนเอ่ย “ยัยขี้เหร่ เช่นนั้นตอนนี้เราไปร้านจุ้ยชุนเฟิงหรือว่าราชวิทยาลัย?”

กู้ชูหน่วนจ้องตรงเบื้องหน้า ถอนหายใจ “ข้ารู้สึกไม่ว่าไปที่ใด จุดจบข้าก็อนาถเช่นกัน”

ไม่รอให้เซียวหยู่เซวียนคิดได้ ประตูใหญ่ปังเสียงหนึ่งถูกคนถีบออก ลูกน้องเย่จิ่งหานกลุ่มหนึ่งทะลักเข้ามา แบ่งเป็นแถวสองข้าง ล้อมพวกเขาแน่นหนา

ถัดจากนั้น ชิงเฟิงและเจี่ยงเสวียก็เข็นเย่จิ่งหานที่หน้าขมึงตึงเข้ามา

รอบตัวเย่จิ่งหานมีอายสังหารอบอวล สีหน้าเขียวปัด เนื้อตัวเย็นเยียบจนแช่แข็งคนตายได้

ภายใต้หน้ากากผี ดวงตาของเขาม่วงดำข้างหนึ่ง จมูกเบี้ยวไปอีกทาง เพียงแต่ดวงตาข้างที่ถูกต่อยจนม่วงดำเป็นคนละข้างกับจอมมารพอดี

กู้ชูหน่วนประคองหน้าผาก

แทบไม่กล้ามองแววตาดุจปลิดชีพของเย่จิ่งหาน และไม่กล้าคิดว่าถัดจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น

เซียวหยู่เซวียนบังอยู่ด้านหน้ากู้ชูหน่วน เอ่ยด้วยโทสะ “เจ้าคิดจะทำอะไร?”

“ปัง…”

เย่จิ่งหานโบกพักแขนเสื้อ เซียวหยู่เซวียนลอยละลิ่วออกไปทันที องครักษ์กลุ่มหนึ่งกุมตัวเขาไปพลัน

“ปล่อยข้า! เย่จิ่งหาน เจ้าคิดจะทำอะไร? เป็นข้าใช้กำลังพานางออกมา ไม่เกี่ยวกับนาง เจ้าแน่จริงก็อย่าทำให้อิสตรีลำบากใจ ปล่อยข้า!”

องครักษ์อุดปากเขากุมตัวไปทันที

ในลานซอมซ่อที่ทิ้งร้างกว้างขวางนี้ นอกจากเสียงสายลมเย็นหวีดหวิดแล้ว ก็มีเพียงเสียงใบไม้ร่วงซาบๆ

หนาว

หนาวกว่าอากาศเดือนสิบสอง (*ช่วงที่หนาวที่สุดของปี)

เหล่าลูกน้องของเย่จิ่งหานเชิดอกหยัดตัวตรง ยืนนิ่งไม่ขยับดุจรูปสลัก

นัยน์ตาเฉียบคมราวคมมีดคู่หนึ่งจ้องนางอย่างเย็นชา เขาไม่เอื้อนเอ่ยสักคำ และเพราะเช่นนี้ ถึงทำให้เขย่าขวัญยิ่งกว่าเดิม นั่นเป็นความสงบก่อนพายุโหม

กู้ชูหน่วนหัวเราะเจื่อน “เออ…ข้ากลัวการแต่งงาน ก็เลยอยากออกมาสูดอากาศแล้วค่อยกลับไป”

“…”

เงียบ ยังคงเป็นความเงียบแบบพิลึก

กู้ชูหน่วนอ้างอีกเหตุผล “ร่ำลือว่าเจ้าโหดเหี้ยมกระหายเลือด สังหารคนเยี่ยงมด ข้ากลัวว่าจู่ๆ เจ้าจะฆ่าข้า ฆ่าข้ามิเป็นไร สาเหตุหลักคือ ลูกในท้องข้าจะทำเช่นไรเล่า?”

เงียบ เงียบจนได้ยินกระทั่งเสียงลมหายใจ

ชิงเฟิงและเจี่ยงเสวียต่างพูดไม่ออก

พระชายากลัว?

ล้อเล่นอะไร?

หากนางกลัว ยังกล้าหนีการแต่งงานกับเซียวหยู่เซวียนในวันมงคลหรือ?

พวกเขาไม่เคยเห็นท่านอ๋องวาวโรจน์เช่นนี้มาก่อน

แม้เป็นครั้งนี้ที่ถูกพระชายาขืนใจ ก็ยังไม่เห็นท่านอ๋องเดือดดาลเช่นนี้

ครั้งนี้ เกรงว่าพระชายาจะโดนถูกตอแล้ว

กู้ชูหน่วนเห็นไม่ได้ผล จึงกุมท้องแน่นทันที ใบหน้าน้อยยู่ยี่เป็นปม เอ่ยอย่างทรมาน “โอ๊ย ท้องข้าเจ็บจังเลย เจ็บจะตายอยู่แล้ว เมื่อครู่จอมมารให้ข้ากินยาเม็ดหนึ่ง ก็ไม่รู้เป็นยาอะไร”

กู้ชูหน่วนหางตาค้นพบ มือที่เย่จิ่งหานกุมขลุ่ยหยกขาวอยู่สั่นนิดๆ เพียงแต่เขายังจ้องนางอย่างเย็นชา ในดวงตาคู่นั่นเต็มไปด้วยพายุคลั่ง

เหอ…

พ่อคนปากไม่ตรงกับใจ

ปกติก็ได้ผล วันนี้กลับนิ่งเช่นนี้

นางก็อยากรู้ ว่าใครจะนิ่งกว่ากัน!

กู้ชูหน่วนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้น กุมท้องแน่น ร้องโอดครวญ “ท้องข้า ลูกข้า เจ็บจะตายอยู่แล้ว ลูกข้าจะแท้งไปไหมเนี่ย เย่จิ่งหาน เจ้ารีบตามหมอมาดูข้าเร็ว นี่ลูกเจ้านะ!”

ความโกรธาในดวงตาเย่จิ่งหานลดทอนบางส่วน

เขาไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนจงใจแกล้งทำหรือไม่

หนีการแต่งงานในวันมงคล แล้วยังคลุมเครือกับผู้ชายหลายคนอีก ทำเช่นไรกับนางดี?

“ท่านอ๋อง! สีหน้าพระชายาไม่สู้ดีแล้ว คงมิใช่…”

“เด็กๆ! เชิญหมอเดี๋ยวนี้ เร็วหน่อย!”