บทที่ 999 “เซอร์ไพรส์” จากรุ่นพี่

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

เหตุผลง่ายแค่นี้เองหรอ? เฮยน่าอดอึ้งงันไม่ได้…

“ฟังจากเสียงไม่เหมือนเลยนี่…หรือว่า ร่างกายของพวกมันก็มีการกลายพันธุ์บางอย่างเหมือนกัน?” เธอครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วถามขึ้น

เสียงที่เฮยน่าพูดถึง หมายถึงเสียงฝีเท้าตอนวิ่งผ่านของ “มนุษย์หน้าอืด” พวกนั้น ถ้าหากเป็นร่างกายมนุษย์ เสียงก็ไม่น่าจะเบาขนาดนั้น…

“จะว่าไป พวกเธอไม่รู้สึกว่าของเหลวหนืดนี่เหมือนกับที่เห็นได้ตามตัวของสิ่งมีชีวิตใต้น้ำหรอ?” หลี่ย่าหลินกลับพูดแทรกขึ้นในเวลานี้ เธอเดินมาอยู่หน้ารั้วกั้น จากนั้นก็ใช้ปลายนิ้วแตะเบาๆ

ถึงแม้เธอจะพูดกำกวมไม่ชัดเจน แต่น่าน่ากลับชะงัก แล้วพูดอย่างฉุกคิดขึ้นได้ว่า “รุ่นพี่หมายถึง…พวกมันกำลังวิวัฒนาการเป็นสัตว์น้ำงั้นหรอ? อย่างเช่นร่างกายส่วนใหญ่ยังคงรูปร่างเหมือนมนุษย์อยู่ แต่ความจริงทั้งมือและเท้าได้กลายเป็นครีบปลาไปแล้วอะไรทำนองนั้น…ความจริงมันก็ถูก เพราะที่นี่ก็มีแต่น้ำจริงๆ หากเติบโตเป็นคนคงยากจะอยู่ในน้ำได้นาน แต่ว่านะ ตอนนี้พวกเราไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากหรอก สิ่งสำคัญในตอนนี้คือการสำรวจ เอาเป็นว่า พวกเรารีบหน่อยดีกว่า”

น่าน่าเร่ง

ความจริงในขณะที่เธอพูด เฮยน่าได้ควบคุมร่างกายให้เดินลงน้ำ และมุดรูรั้วนำไปก่อนแล้ว…

สภาพน้ำขุ่นมัว สิ่งของบางอย่างที่จมอยู่ใต้น้ำพากันลอยขึ้นเพราะพวกเธอเดินผ่าน ดังนั้นหลังจากที่ซย่าน่าซึ่งรวมร่างกันแล้วกับหลี่ย่าหลินปรากฏอยู่ข้างบ่อน้ำขนาดใหญ่ สิ่งที่พวกเธอเห็นจึงเป็นภาพที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

น้ำในบบ่ออันดำทะมึน ไอหมอกมืดที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าชั้นหนึ่ง ป่วนพล่านและพรั่งพรูไปทั่วทุกทิศ…

และเมื่อพวกเธอปรากฏตัว บ่อน้ำแห่งนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นเล็กน้อย…หลายจุดมีฟองอากาศและระลอกคลื่นปรากฏขึ้น ใต้ผิวน้ำดำสนิทนั้น ราวกับมีสิ่งมีชีวิตมากมายกำลังดำขึ้นมา

เห็นอย่างนั้น ซย่าน่ากลับเพียงยกเคียวดาบขึ้น แล้วหัวเราะแปลกๆ “เอาล่ะ มาดูกันว่าพี่หลิงเหลือกิจกรรมน่าสนใจอะไรไว้ให้พวกเราบ้าง สัตว์ประหลาดตัวใหญ่ถูกพี่หลิงล่อออกไปหมดแล้ว สัตว์ประหลาดตัวน้อยเหล่านี้ก็ต้องเป็นหน้าที่พวกเราจัดการแล้วล่ะ พอสัตว์ประหลาดพวกนั้นกลับมา จะต้องพอใจกับบ้านใหม่ของพวกมันแน่ๆ คิกคิก…”

ขณะที่พูดคำพูดพวกนั้นรังสีอำมหิตแผ่ซ่านทั่วตัว สิ่งที่อยู่ใต้บ่อน้ำเองก็ราวกับกำลังตอบสนอง พลันมีเสียง “จ๋อม” ดังขึ้นทันใด

“จุ๊ๆ สัมผัสได้ถึงพวกฉันแล้วหรอ?” ซย่าน่าพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน

ซย่าน่าในเวลานี้ถึงแม้ยังดูเป็นเด็กสาวอยู่ แต่ออร่าที่ประกายออกมากลับต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้มีดวงหน้างามละเอียด แต่ก็ไม่อาจปกปิดกลิ่นอายสัตว์ร้ายอันน่าสะพรึงกลัวที่แผ่อยู่รอบตัวเธอได้ และสิ่งที่ต่างจากสัตว์ร้ายทั่วไปก็คือ สายตาของซย่าน่าแสดงให้เห็นแววหยอกเย้าระคนตื่นเต้น แต่ขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เห็นถึงความใจเย็นมากอย่างหนึ่งด้วย…เมื่อสองอารมณ์ที่แตกต่างมารวมกันอยู่บนตัวซย่าน่า จึงยิ่งทำให้เธอดูประหลาดมากขึ้น…

การระเบิดรังสีอำมหิตอย่างกะทันหัน ทำให้บรรยากาศรอบบ่อน้ำเปลี่ยนไปในพริบตา…และรังสีคุกคามที่เกิดจากสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่ง กลับเป็นสิ่งที่สัตว์ประหลาดใต้ดินเหล่านี้ไม่มี เพียงแต่ข้อแตกต่างนี้ แม้แต่ซย่าน่าก็ยังไม่รู้ตัว…

“อื้ม!” เทียบกับซย่าน่าแล้ว การตอบสนองของรุ่นพี่ตรงไปตรงมากว่ามาก…เธอสะบัดผม วงกลมสีเหลืองอำพันพลันขยายออกจากม่านตา ขณะเดียวกันก็แลบลิ้นนุ่มนวลออกมาเลียมุมปาก “จะได้เล่นสนุกแล้ว…”

“รุ่นพี่ คำพูดนั้นมันแปลกๆ นะ…”

“งั้นหรอ? งั้น…พวกเรามาสนุกกันเถอะ?”

“คำพูดทะลึ่งตึงตังอย่างนี้ฉันไม่ได้เป็นคนสอนพี่แน่ๆ…แต่ว่ารุ่นพี่เอาไปใช้พูดกับพี่หลิงได้นะ เขาจะต้องเซอร์ไพรส์แน่นอน…”

…………

“พวกเธอไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอกใช่ไหม…”

หลิงม่อควบคุมหุ่นซอมบี้อย่างระมัดระวัง ในใจกลับเป็นห่วงสองสาวซอมบี้

ทว่าไม่นาน ความสนใจของเขาก็ถูกร่องรอยที่ปรากฏอยู่ตรงทางเลี้ยวหนึ่งดึงดูไปจนหมด ร่องรอยนั้นไม่สะดุดตา แต่สำหรับหลิงม่อที่เอาแต่จ้องผนังกับพื้นใต้เท้า กลับเป็นเบาะแสสำคัญ…

“นี่มัน…”

หลิงม่อจ้องมองผนังส่วนที่ตะไคร่น้ำหลุดหายไป จากนั้นก็ยื่นมือไปกดดู

เป็นรอยถู และยังเป็นรอยใหม่อีกด้วย…แต่ถูแรงขนาดนี้ คิดว่าคงเป็นเพราะพลังกัดกร่อนของ “มนุษย์หน้าอืด” พวกนั้นแน่…

“ทำไมถึงรู้สึกว่าพลังของพวกมันแกร่งขึ้นล่ะ?” หลิงม่อขมวดคิ้วหันกลับไปมองช่องทางเดินเส้นนั้น พลางคิด

ก่อนหน้านี้เขาเห็นร่องรอยแบบนี้มาหลายรอยแล้ว แต่ที่เหมือนรอยนี้ แม้แต่ชั้นโคลนบนผนังก็ยังถูก “ถู” หายไป กระทั่งปูนซีเมนต์ก็ยังถูกขูดเสียดจนร่วงลงมา กลับเพิ่งปรากฏเป็นรอยแรก…

“เหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไป…หรือเป็นเพราะขึ้นมาบนฝั่ง?”

ในช่องทางเดินเส้นนี้ถึงแม้เต็มไปด้วยโคลนตม แต่เทียบกับน้ำจริงๆ ยังถือว่ามีความต่างมาก…ถ้าหากว่าพวกมันมีความเปลี่ยนแปลงเพราะขึ้นบก งั้นอย่างน้อยก็บ่งบอกเรื่องหนึ่งได้ชัดเจน—ความจริงแล้วข้อสันนิษฐานของหลิงม่อก่อนหน้านี้มีจุดผิดพลาด สัตว์ประหลาดเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่อยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ พูดให้ถูกต้องก็คือ พวกมันกำลังอยู่ในระหว่างพยายามต่างหาก…และการบุกรุกเข้ามาของพวกหลิงม่อก็ได้เร่งขั้นตอนพวกนั้นให้เร็วขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ เพียงแต่ผลลัพธ์จากการวิวัฒนาการกะทันหัน อาจไม่ใช่ผลดีเสมอไป…

“ถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆ อย่างนั้นระหว่างที่พวกมันเดินหน้าไปเรื่อยๆ ก็เท่ากับกำลังทำให้ตัวเองอ่อนลงอย่างมากน่ะสิ…” หลิงม่อคิด

เขาหันไปมองทิศทางที่สัตว์ประหลาดเหล่านั้นหายตัวไป พลางคิดว่า “ถ้าหากพวกมันตอบสนองเร็วกว่านี้อีกนิดล่ะก็ คงรู้ตัวว่าเราไม่ได้อยู่ข้างหน้าพวกมันนานแล้ว…แต่พวกมันก็ยังไล่ตามไปอย่างไม่สงสัยอะไรอยู่ได้ตั้งนาน…เดี๋ยวก่อน! ดูจากท่าทางของพวกมันเมื่อกี้ พวกมันมีสติปัญญาระดับหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด…ซึ่งก็หมายความว่า พวกมันอาจไม่ใช่ไม่รู้ตัว แต่เป็นเพราะเหตุผลบางอย่างเลยไม่ย้อนกลับมา…แต่เป็นเพราะอะไรล่ะ?”

“หรือว่า…มีช่องทางเดินเส้นอื่นที่ทะลุถึงบ่อน้ำได้?” หลิงม่อนึกถึงความเป็นไปได้นี้ขึ้นมาทันที

เดิมทีท่อน้ำทิ้งแห่งนี้ตัดผ่านกันให้วุ่นวายอยู่แล้ว ซ้ำระหว่างการก่อสร้างยังทำให้เกิดการผสมผสานท่อเก่าท่อใหม่ขึ้นอีก……

“จะพิสูจน์เรื่องนี้ได้ไม่ใช่เรื่องยาก ขอเพียงร่างจริง…”

หลิงม่อกำลังครุ่นคิด อยู่ๆ เสียงพูดของสวี่ซูหานที่ตั้งใจกดเสียงให้เบาลงก็ดังขึ้นข้างหูเขา

“ระวัง ใกล้ถึงแล้ว” เธอพูดเสียงเบาจนเกือบไม่ได้ยิน

แต่ภายใต้สถานการณ์ที่ต้องเพ่งสมาธิสูงอย่างนี้ อย่าว่าแต่เสียงพูดเลย แม้แต่เสียงหายใจแผ่วเบา เขากับอวี่เหวินซวนก็ยังได้ยินชัดเจน โดยเฉพาะหลิงม่อ…ยิ่งเข้าใกล้ข้างหน้า หนวดสัมผัสของเขาก็ยิ่งเตรียมพร้อม สิ่งที่ปรากฏตัวอยู่ในสถานที่อย่างนี้ ใครจะรู้ว่าเป็นสัตว์ประหลาดแบบใด…

เวลานี้ได้ยินสวี่ซูหานพูดเตือน เขากับอวี่เหวินซวนอดอึ้งงันเล็กน้อยไม่ได้…

—————————————–